wipawan khampuwiang เมื่อ 10 November, 2025 เวลา 12.52 pm
Prop score™: 4.1
คะแนนรีวิว: 0.0
0 รีวิว
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ
Nirvana @WORK กรุงเทพกรีฑา
บริษัทผู้สร้าง
บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
สถานที่
-
สถานีรถไฟ BTS
-
สถานีรถไฟใต้ดิน
-
Airport Rail Link
-
สถานี BRT
-
พื้นที่
ประมาณ 5 – 1 – 69.2 ไร่
ชั้น
3.5 ชั้น 6 ระดับ
ยูนิต
39 ยูนิต
ที่จอดรถ
SOLO LOFT 2 ที่จอดรถ, DUO LOFT 4 ที่จอดรถ
ลิฟท์
DUO LOFT ลิฟต์โดยสาร 1 ตัว
สิ่งอำนวยความสดวก
อาคาร Clubhouse 2 ชั้นพร้อมห้องประชุม
ประเภทยูนิต
ประเภท
Home Office
studio
-
1 bedroom
-
2 bedroom
-
3 bedroom
-
Duplex
-
Penthouse
-
ประเภทอื่นๆ
SOLO LOFT 281 ตารางเมตร* 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ, DUO LOFT 562 ตารางเมตร* 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
ความสูงจากพื้นถึงเพดาน
N/A
ราคาเริ่มต้น / ตรม.
54,092
ราคาเริ่มต้น / ยูนิต
15.2 ล้านบาท
ค่าส่วนกลาง
N/A
Sinking Fund fee
N/A
สร้างเสร็จ
2025 (บางส่วน)
เว็บไซต์
https://www.nirvanadevelopment.co.th/th/project/work-krungthep-kreetha
1787
หมายเหตุ
1. ข้อมูลรายละเอียด และข้อความต่างๆในบทความนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
2. เงื่อนไขการขาย โปรโมชั่นราคา และอัตราค่าส่วนกลาง เป็นไปตามที่บริษัทผู้พัฒนาโครงการแต่ละแห่งกำหนด
บริษัท พร็อพฮอลิค จำกัด
ใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในการเก็บรวบรวมข้อมูลให้ล่าสุด ถูกต้อง อยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม บริษัท พร็อพฮอลิค จำกัด ไม่รับประกัน หรือรับรองความเที่ยงตรงของข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัท พร็อพฮอลิค จำกัด จะไม่ยอมรับ หรือรับผิดชอบต่อ ข้อผิดพลาดใดๆ หรือการละเลยเนื้อหาในเว็บไซต์นี้
ลงตัวกับทุกสไตล์การใช้ชีวิตที่ Nirvana @WORK กรุงเทพกรีฑา โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น 6 ระดับ โครงการใหม่ ติดมอลล์ บนทำเลที่ดีที่สุดติดถนนใหญ่กรุงเทพกรีฑา 15-16 พ.ย.นี้ พร้อมเปิดชม SPACE จริง พร้อมรับดีลสุดพิเศษ
โฮมออฟฟิศคือรูปแบบการอยู่อาศัยที่ค่อนข้างตอบโจทย์รูปแบบการทำงาน และทำธุรกิจของกลุ่มคนเจนใหม่ในยุคปัจจุบัน ที่มักจะมองหาความสมดุลในรูปแบบของ Work-life balance ที่ช่วยมอบความ Well-Being ทั้งในส่วนของสุขภาพกายและสุขภาพจิต โดยที่ไม่ต้องมีความกังวลในเรื่องของการจัดสรรเวลาเพื่อการเดินทางไปทำงานวันละหลายๆ ชั่วโมง ทำให้สามารถเอาเวลาในการเดินทาง มาดูแลตัวเองและครอบครัว รวมถึงการทำกิจกรรมที่ชอบและมีความสุขได้อย่างเต็มที่ จึงส่งผลให้ในปัจจุบันเทรนด์การพัฒนาอสังหาฯในรูปแบบของโฮมออฟฟิศได้รับความนิยมและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงหลังที่รูปแบบการทำงานแบบยืดหยุ่นและการทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid Work) เข้ามามีบทบาทมากขึ้น
เทรนด์ของการพัฒนาโฮมออฟฟิศที่สำคัญในปัจจุบัน ได้แก่
ดีไซน์ที่ผสมผสานฟังก์ชันอย่างลงตัว: สำหรับใครหลายๆ คน “บ้าน” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ “ที่พักอาศัย” แต่คือพื้นที่สามารถทำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเป็นพื้นที่ทำงาน ที่สามารถจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ เป็นพื้นที่สร้างรายได้ของผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ใช้ Platform Digital, E-Commerce และ Social Media เป็นกุญแจสำคัญในการทำธุรกิจ ตลอดจนเป็น Working Playground ที่มอบสมดุลในการทำงานให้กับพนักงานทุกคนได้ โฮมออฟฟิศในปัจจุบันถูกออกแบบให้เป็นอาคารที่อยู่อาศัยที่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่สำหรับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แยกส่วนพักอาศัยและส่วนทำงานออกจากกันอย่างชัดเจน หรือมีพื้นที่ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย (Multi-functional Space) เช่น ชั้นล่างเป็นออฟฟิศ ชั้นบนเป็นที่พัก มีพื้นที่ Common Area แบบเปิดโล่ง เพื่อใช้เป็นส่วน Recreation Area ของพนักงานและแขกผู้มาเยือนได้ โครงการใหม่ๆหลายแห่งมักมาพร้อมดีไซน์ที่ให้ความสำคัญกับออกแบบพื้นที่ให้มีความโล่งโปร่ง เปิดรับแสงธรรมชาติ และถ่ายเทอากาศได้ดี รวมถึงการออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน ทำให้รู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เพื่อการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน
ทำเลที่เข้าถึงได้ง่าย,มีศักยภาพและทำเลน่าลงทุน: โครงการโฮมออฟฟิศมักตั้งอยู่ในทำเลที่มีการเดินทางสะดวก ใกล้แหล่งชุมชน หรืออยู่ในโซนที่กำลังเติบโต เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อธุรกิจและเป็นทางเลือกสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลางที่ต้องการหลีกเลี่ยงความแออัดและค่าเช่าสูงในย่านศูนย์กลางธุรกิจ โดยหากเป็นทำเลที่ซื้อแล้วคุ้มค่าในระยะยาวและมีมูลค่าที่ดินสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตสามารถขายต่อทำกำไรได้ ดีกว่าไปเช่าพื้นที่อาคารสำนักงาน
ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพ สะท้อนภาพลักษณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมรองรับการต่อเติมในอนาคต: ในขณะที่ตลาดอาคารสำนักงานให้เช่าขนาดใหญ่อาจเผชิญภาวะอุปทานล้นตลาด โฮมออฟฟิศกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับบริษัทขนาดเล็ก ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และสตาร์ทอัพที่ต้องการพื้นที่ทำงานที่เป็นกันเอง ยืดหยุ่น และไม่ต้องแบกรับต้นทุนค่าเช่าสูง สามารถตกแต่งต่อเติมได้ง่ายตามความต้องการ และประเภทธุรกิจ เพื่อสะท้อนตัวตนที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ พร้อมขยับขยายได้ในอนาคต
เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน: มีการติดตั้งระบบสาธารณูปโภคที่รองรับการทำงานอย่างเต็มที่ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง, ระบบรักษาความปลอดภัย, และพื้นที่จอดรถที่เพียงพอต่อความต้องการของเจ้าของและพนักงาน
นอกจากความได้เปรียบในแง่ของการดีไซน์ที่ตอบโจทย์รูปแบบการทำงาน และทำธุรกิจ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมโยงพื้นที่อาศัยและพื้นที่ทำงานให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุลมากที่สุดดังกล่าวแล้ว การเป็นเจ้าของโฮมออฟฟิศ ยังช่วยทลายข้อจำกัดในเรื่องของความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในตัวอาคาร และความไม่แน่นอนของอัตราค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานสมัยใหม่ที่อาจจะปรับขึ้นในทุกวงรอบสัญญา ดังนั้นการซื้อโฮมออฟฟิศ เป็นของตัวเองเลยจึงเป็นคำตอบที่เหมาะสมมากที่สุด อีกทั้งยังตอบโจทย์ในเรื่องของการลงทุนขายต่อ หรือปล่อยเช่าในระยะยาวได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทำเลศักยภาพที่มีมูลค่าที่ดินสูงขึ้นเรื่อยๆ
โดยการเป็นเจ้าของโฮมออฟฟิศมีข้อได้เปรียบที่สำคัญเมื่อเทียบกับการเช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงาน ดังนี้
ทำงานก็ใกล้ อยู่อาศัยก็อุ่นใจ! หมดปัญหาเรื่อง Work-Life Balance ที่ Nirvana @WORK กรุงเทพกรีฑา โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น 6 ระดับ ติดมอลล์ Nirvana PORCH ติดถนนใหญ่กรุงเทพกรีฑา
โครงการ Nirvana@Work Krungthep-Kreetha เป็นโฮมออฟฟิศสไตล์โมเดิร์นที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งการทำธุรกิจและการอยู่อาศัย ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพติดถนนใหญ่กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ โครงการมีที่ดินทั้งหมดประมาณ 5 – 1 – 69.2 ไร่ จำนวน 39 ยูนิต และติดกับ Nirvana PORCH คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่บนถนนกรุงเทพกรีฑา โดยโครงการ Nirvana@Work Krungthep-Kreetha ถูกพัฒนาโดย บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงการในรูปแบบ Township ของ Nirvana Development ในย่านกรุงเทพกรีฑา ซึ่งมีทั้งโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่และคอมมูนิตี้มอลล์อยู่ในบริเวณเดียวกัน โดย Nirvana@Work Krungthep-Kreetha ไม่ใช่โครงการแรกภายใต้แบรนด์ @WORK แต่เป็นการต่อยอดมาจากความสำเร็จของโครงการก่อนหน้าคือ “Nirvana@Work ลาดพร้าว-เกษตร นวมินทร์” และเป็นการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ประสบความสำเร็จที่ต้องการพื้นที่ทำงานและที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพใหม่ๆ
Nirvana@Work ลาดพร้าว-เกษตร นวมินทร์
โครงการที่กรุงเทพกรีฑาได้มีการออกแบบโมเดลโฮมออฟฟิศใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับทำเล และเทรนด์การทำงานหรืออยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป โดยมีแบบบ้านใหม่ 2 แบบด้วยกัน คือ บ้านแบบ SOLO LOFT มีพื้นที่ใช้สอย 281 ตารางเมตร เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง หรือผู้ประกอบการที่ต้องการพื้นที่ทำงานส่วนตัวพร้อมส่วนอยู่อาศัยที่ไม่ใหญ่จนเกินไป และบ้านแบบ DUO LOFT มีพื้นที่ใช้สอย 562 ตารางเมตร มีพื้นที่ใช้สอยเป็นสองเท่าของแบบ SOLO LOFT เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่ ที่ต้องการพื้นที่สำนักงานกว้างขวางเป็นพิเศษ เพื่อรองรับพนักงานจำนวนมาก หรือฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เช่น โชว์รูม, สตูดิโอ, หรือการรวมพื้นที่สำนักงานเข้ากับที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่
ความโดดเด่นของทำเลกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่
ย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ได้กลายเป็นทำเลทองที่สุดสำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกรายที่ต้องการแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มโครงการแนวราบระดับไฮเอนด์ขึ้นไป เนื่องจากศักยภาพของทำเลที่ส่งผลดีต่อบริบทโดยรอบอย่างก้าวกระโดด เพราะการที่โครงการที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ดึงดูดดีมานด์การอยู่อาศัยคุณภาพสูงเข้ามาในพื้นที่ และเมื่อมีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น ก็ส่งผลให้เกิดการพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ตามมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ Lifestyle Mall, ร้านอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต และสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งเกิดขึ้นอย่างคึกคักเต็มสองฝั่งถนน จนผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงความสะดวกสบายได้อย่างง่ายดายตั้งแต่ก้าวออกจากโครงการ ทำให้ทั้งย่านกลายเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่คึกคักสำหรับคนในพื้นที่และย่านใกล้เคียง
ขณะเดียวกันจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ทำเลนี้ได้รับความนิยมสูงสุดคือ การเดินทางที่สะดวกสบายอย่างยิ่ง ด้วยโครงข่ายถนนที่สมบูรณ์แบบ ทั้งการใช้ ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก และ ถนนมอเตอร์เวย์ ที่ช่วยเชื่อมต่อการเดินทางข้ามฝั่ง ตะวันออก-ตะวันตก และเดินทางออกต่างจังหวัดได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกผ่านถนน รามคำแหง และถนน ศรีนครินทร์-ร่มเกล้าตัดใหม่ ที่สามารถลัดเลาะสู่ พระรามเก้า – พัฒนาการ – เพชรบุรีตัดใหม่ ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเป็นทำเลที่รองรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างครอบคลุม เพราะตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ได้แก่ สายสีเหลือง, สายสีส้ม และแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ ถ้าพูดถึงในเรื่องของคุณภาพชีวิตในย่านนี้ยังถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยการถูกแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำ ทั้ง โรงเรียนนานาชาติขนาดใหญ่ และ โรงพยาบาลชื่อดัง รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์ที่เกิดขึ้นใหม่ ทำให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างครบวงจร
ซึ่งจากลักษณะของที่อยู่อาศัยที่เป็นบ้านขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยและที่จอดรถมาก ทำให้เกิดดีมานด์เช่าจากบุคลากรต่างชาติของโรงเรียนนานาชาติโดยรอบ ในอัตราที่สูงและเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุน ส่งผลให้ย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่กลายเป็นทำเลทองคำที่ราคาที่ดินมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี เช่นเดียวกับโครงการ Nirvana@Work Krungthep-Kreetha ที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ในบริเวณ Nirvana Township และอยู่ติดกับ Nirvana PORCH Krungthep Kreetha ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ในอาณาจักรของ Nirvana ทำให้มีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจครบวงจร
ทำไม Nirvana @WORK กรุงเทพกรีฑา ถึงเป็นโครงการโฮมออฟฟิศที่น่าสนใจที่สุดในย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่
1. ติดมอลล์ Nirvana PORCH ติดถนนใหญ่กรุงเทพกรีฑา
องค์ประกอบสำคัญที่สุดที่ช่วยบ่งชี้ว่าทำเลนั้นเหมาะกับการอยู่อาศัย หรือทำธุรกิจหรือไม่ ก็คือสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่โดยรอบในระยะเดินถึง ยิ่งมีไลฟ์สไตล์มอลล์ขนาดใหญ่ ในแบบ Pet Friendly ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณและพนักงานด้วย ซุปเปอร์มาร์เก็ต, คาเฟ่, ร้านอาหาร, คลีนิค, ฟิตเนส, ร้านทำฟัน ไปจนถึงฟู้ดคอร์ท แบบที่ Nirvana PORCH ก็ยิ่งเหมาะมาก! โดย Nirvana@Work กรุงเทพกรีฑา คือโครงการ โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น 6 ระดับ ที่มีทำเลที่ดีที่สุดในย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เพราะรั้วโครงการอยู่ติดกับลานจอดรถ Nirvana PORCH ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ที่มีคนมาเดินเล่น ทานอาหาร แฮงค์เอาท์ เยอะมากที่สุดในย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่เลย ที่ชอบมากๆ ก็คือนอกจากจะมีร้านอาหารดังๆ เยอะแล้ว ก็ยังมีโซนที่เอาใจคนทำงานในย่านนี้ และคนรักสัตว์ด้วยพื้นที่ฟู้ดคอร์ทแบบ Semi-Outdoor ที่มีไวบ์ดีมากๆ นอกจากนี้ยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Little Walk และปั๊ม ปตท. ขนาดใหญ่ทั้งสองฝั่ง พร้อมทั้งยังใกล้กับถนนมอเตอร์เวย์ที่เชื่อมต่อกับสนามบินสุวรรณภูมิและภาคตะวันออกได้ง่าย
2. ใกล้ทุกความสะดวก เดินทางเข้าถึงได้หลากหลายเส้นทาง
โดยโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่มอบความสะดวกสบายสูงสุดและสามารถ เดินทางเข้าถึงได้หลากหลายเส้นทาง ทั้งการเข้าถึงย่านธุรกิจหลักได้อย่างรวดเร็วด้วยการอยู่ ใกล้ทางด่วนพระราม 9 และยังครอบคลุมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ครบวงจร เพราะตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง, รถไฟฟ้าสายสีส้ม และ Airport Link ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ขณะเดียวกันทำเลนี้ยังยกระดับคุณภาพชีวิตของครอบครัวด้วยการรายล้อมไปด้วย โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ เช่น Wellington International และ Brighton International และยังให้ความอุ่นใจในด้านสุขภาพและการแพทย์ เนื่องจากอยู่ ใกล้โรงพยาบาล ชั้นนำหลายแห่ง อาทิ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลเวชธานี, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง, และโรงพยาบาลวิภาราม ทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการนี้เป็นจุดเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัว
3. เป็นโฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น ดีไซน์ทันสมัย
โครงการ Nirvana@Work Krungthep-Kreetha มีหัวใจหลักของการออกแบบคือการจัดวางพื้นที่แบบ เล่นระดับ 6 ระดับ ซึ่งสร้างมิติและแบ่งสัดส่วนการใช้งานระหว่างพื้นที่ทำงานกับพื้นที่พักผ่อนได้อย่างชัดเจน พร้อมเสริมความโปร่งโล่งด้วยพื้นที่ Double Volume ถึง 2 จุด เพื่อเพิ่มความรู้สึกโอ่โถงและรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นที่ MOFF Floor ที่มอบความยืดหยุ่นให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้อย่างอิสระตามความต้องการของธุรกิจ ทำให้โฮมออฟฟิศนี้เป็นตัวเลือกที่หายากและตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่ต้องการทั้งพื้นที่สำนักงานที่มีสไตล์และพื้นที่อยู่อาศัยที่ลงตัวในทำเลศักยภาพ
4. สังคมส่วนตัวเพียง 39 ยูนิตเท่านั้น
จึงทำให้โครงการมีความเป็นส่วนตัวภายใต้สังคมขนาดเล็กและมีความเอ็กซ์คลูซีฟสูง อย่างไรก็ตามแม้จำนวนยูนิตจะน้อย แต่ผู้อยู่อาศัยยังได้รับความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ จากอาคารคลับเฮ้าส์พร้อมสวนหย่อมบริเวณหน้าโครงการ นอกจากนี้โครงการ Nirvana PORCH ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่อยู่ติดกันก็ทำหน้าที่เสมือน Clubhouse ขนาดใหญ่ของโครงการ โดยผู้อยู่อาศัยสามารถเดินไปใช้บริการ ฟิตเนส, จับจ่ายซื้อสินค้า, และเดินเล่นแฮงค์เอาท์ ในร้านอาหารและคาเฟ่ชั้นนำต่างๆ ได้อย่างครบวงจร ทำให้ได้รับทั้งความเป็นส่วนตัวจากการอยู่อาศัยและเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือกว่าโครงการอื่นๆ
5. จอดรถง่ายกว่า และจัดวางพื้นที่ภายในบ้านได้ง่ายกว่าด้วยหน้ากว้างตั้งแต่ 5.65 – 11.3 เมตร
ซึ่งทำให้การจัดวางพื้นที่ภายในบ้านเป็นไปได้ง่ายกว่า และมีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง ขณะเดียวกันก็แก้ปัญหาเรื่องที่จอดรถได้อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบให้แต่ละยูนิตสามารถจอดรถส่วนตัวได้ตั้งแต่ 2 ถึง 4 คัน ในตัวบ้านและยังเสริมด้วยพื้นที่จอดรถส่วนกลางสำหรับผู้มาติดต่อมากถึง 15 คัน อีกด้วย นอกจากนี้หากมีการนัดหมายทางธุรกิจที่ร้านอาหารหรือคาเฟ่ก็ยังสามารถนำรถไปจอดที่ Nirvana PORCH เพื่อใช้บริการได้ทันที จึงมั่นใจได้ว่าโครงการนี้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานส่วนตัวและการรองรับการติดต่อทางธุรกิจได้อย่างสะดวกสบาย

Detail บ้านตัวอย่าง
โดยบ้านทุกแบบในโครงการจะเป็นบ้านเปล่าทั้งหมด และกำลังอยู่ในระหว่างทำบ้านตัวอย่างพร้อมตกแต่ง เราจะพาชมแปลนบ้านและด้านในของบ้านจริงที่ได้กัน
แบบบ้าน DUO LOFT พื้นที่ใช้สอย 562 ตารางเมตร
แบบ 3 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ตัวบ้านเน้นการแยกพื้นที่ทำงานและพื้นที่อยู่อาศัยออกจากกันอย่างชัดเจน โดยใช้แนวคิดโฮมออฟฟิศที่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และมีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ขึ้น ที่ต้องการพื้นที่สำนักงานกว้างขวาง
บริเวณชั้น 1 สามารถตกแต่งเป็นพื้นที่ธุรกิจและต้อนรับแขก บ้านหน้ากว้าง 11.3 เมตร จอดรถยนต์ได้ 4 คัน ภายในบ้านประกอบด้วย LOBBY หรือโถงต้อนรับลูกค้า ถัดเข้าไปคือพื้นที่ OFFICE FUNCTION แบบเปิด และมี MEETING ROOM แยกส่วน พร้อมด้วยห้องน้ำส่วน Powder เหมาะสำหรับใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับลูกค้าและสำนักงานส่วนหน้า พร้อมพื้นที่ Double Volume สูง 5 เมตร โดยแบบบ้านนี้โครงการจะติดตั้งลิฟท์โดยสารส่วนตัวมาให้ด้วย
ชั้นลอยบริเวณชั้น 1 หรือชั้น MOFF พื้นที่ทำงานเสริม เป็นพื้นที่ชั้นลอยที่มักอยู่ด้านบนของส่วนสำนักงานชั้น 1 ออกแบบเป็นพื้นที่ทำงานแบบเปิด หรือห้องประชุมเพิ่มเติมขนาดเล็ก มักใช้เป็นพื้นที่สำหรับทีมงานเฉพาะกิจ หรือพื้นที่ทำงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวจากชั้น 1 เล็กน้อย หรือหากใครที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายเฟอร์นิเจอร์ ตลอดจนสินค้าแฟชั่น ก็สามารถจัดเป็นพื้นที่ Display ของต่อเนื่องจากชั้นล่าง ที่สามารถมองเห็นได้สะดุดตาจากภายนอกได้
ชั้น 2 เป็นพื้นที่ชั้นหลักที่ค้อนข้างมีสเปซที่กว้างขวาง มีพื้นที่ OFFICE FUNCTION ขนาดใหญ่กว่าชั้น 1 เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่ปฏิบัติงานของพนักงาน หรือสำนักงานตามแผนก มี MEETING ROOM และ ห้องน้ำเฉพาะส่วน Powder ในตัว
ชั้นลอยบริเวณชั้น 2 พื้นที่ทำงาน/ประชุมเพิ่มเติม เป็นชั้นลอยที่แทรกอยู่ระหว่างชั้น 2 และชั้น 3 มอบพื้นที่ทำงานหรือห้องประชุมเพิ่มเติม สามารถปรับเป็นพื้นที่สำหรับผู้บริหาร ห้องเก็บเอกสาร หรือเป็นพื้นที่พักผ่อนเล็กๆ สำหรับพนักงาน เพื่อแยกการทำงานออกจากชั้นล่างได้อย่างชัดเจน
ชั้น 3 พื้นที่เปลี่ยนถ่ายสู่ที่พักอาศัย ชั้นนี้เป็นจุดที่เริ่มมีฟังก์ชันสำหรับการอยู่อาศัย โดยมี MASTER BEDROOM ที่มีห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมฟังก์ชันครบครัน อาบน้ำได้ หากเจ้าของกิจการคนไหนอยากปรับชั้นนี้ให้เป็น Penthouse ส่วนตัวขนาดใหญ่ ไว้เพื่ออยู่อาศัยก็ดูจะลงตัวที่สุด หรือหากใครที่มองว่าต้องการพื้นที่ทำงานเพิ่มในชั้นนี้ ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานส่วนตัว ห้องรับรองแขก หรือโถง Living Area ขนาดใหญ่ได้
ชั้นลอยบริเวณชั้น 3 เป็นระดับที่อยู่บนสุดและมีความเป็นส่วนตัวสูงสุด มี LIVING AREA สำหรับการพักผ่อนของครอบครัว และพื้นที่ OFFICE FUNCTION/MEETING ROOM ที่เหลืออยู่ สามารถใช้เป็นห้องทำงานส่วนตัวของเจ้าของบ้าน/ธุรกิจ, ห้องอ่านหนังสือ, หรือสตูดิโอส่วนตัวได้
แบบบ้าน SOLO LOFT พื้นที่ใช้สอย 281 ตารางเมตร
มอบฟังก์ชันแบบ 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ จะเน้นไปที่การจัดวางพื้นที่ที่มีขนาดกะทัดรัดกว่า และฟังก์ชันการใช้งานที่กระชับขึ้น เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลางที่ต้องการความกะทัดรัดและฟังก์ชันครบถ้วน และคนที่มองในเรื่องของการอยู่อาศัยในรูปแบบทาวน์โฮม ที่มีพื้นที่ไว้ใช้ทำงาน หรือถ่ายรายการได้ หากสนใจที่จะซื้อไปเพื่อทำโฮมออฟฟิศเราคิดว่าน่าจะเหมาะกับกลุ่มธุรกิจ Content Creator หรือ Live Commerce ตลอดจนธุรกิจสตูดิโอถ่ายภาพ ที่ต้องการความ Flexible ในเรื่องของ Space และการทำงานสูง พร้อมที่จะทำงานได้ในแบบ 24/7
บ้านหน้ากว้าง 5.65 เมตร จอดรถได้ 2 คัน ภายในบ้านบริเวณชั้น 1 เป็นส่วนต้อนรับที่กระชับ เนื่องจากมีพื้นที่จอดรถเพียง 2 คัน ทำให้พื้นที่ Lobby และ Office Function ด้านในถูกออกแบบให้พอดีกับการใช้งานแบบเบาๆเป็นการจัดวางในส่วนของ LOBBY, OFFICE FUNCTION, MEETING ROOM ในแบบ Open Plan โดยส่วนของห้องน้ำจะเป็นแบบ Powder Room บริเวณส่วนหน้าบ้าน
บ้าน Type นี้ทางโครงการไม่ได้แถมลิฟท์มาให้ แต่หากใครต้องการก็สามารถติดตั้งได้จากบริเวณหลังบ้าน โดยประตูลิฟท์จะถูกติดตั้งไว้ที่บริเวณชานพักบันไดแต่ละชั้น
ชั้นลอยที่ชั้น 1 ถูกสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ทำงาน โดยไม่กินพื้นที่ใช้สอยในชั้นหลัก เป็นพื้นที่สำนักงานแบบเปิด หรือห้องประชุม ที่มักจะมองเห็นพื้นที่ชั้น 1 ช่วยให้เกิดความเชื่อมโยงทางสายตา อยู่แล้วไม่อึดอัด แต่ยังคงความเป็นอิสระในการใช้งาน
ชั้น 2 พื้นที่ทำงานหลัก พร้อมห้องน้ำที่มีแต่ส่วน Powder ในตัว มีส่วนของ OFFICE FUNCTION และ MEETING ROOM ถูกออกแบบให้อยู่ในพื้นที่จำกัดกว่าแบบ DUO LOFT ทำให้ต้องบริหารพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ อาจเหมาะสำหรับการจัดวางโต๊ะทำงานแบบกลุ่มย่อย หรือแบ่งเป็นพื้นที่เฉพาะของแต่ละทีม
ชั้นลอยที่ 2 การเชื่อมต่อพื้นที่ทำงาน ชั้นลอยนี้เป็นตัวเชื่อมระหว่างส่วนทำงานของชั้น 2 กับพื้นที่ส่วนตัวของชั้น 3 สามารถใช้เป็นพื้นที่ทำงานของผู้บริหารที่ไม่ต้องการความวุ่นวายจากชั้น 2 เป็นห้องเก็บเอกสาร หรือเป็นพื้นที่พักผ่อนขนาดเล็กสำหรับพนักงานได้
ชั้น 3 สามารถตกแต่งเป็นโซนพักอาศัยได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยเป็น MASTER BEDROOM ขนาดใหญ่กินพื้นที่ทั้งชั้น 3 และชั้น 3.5 ในรูปแบบ Duplex Penthouse ได้ มีห้องน้ำพร้อมส่วนอาบน้ำในตัว
ชั้นลอยที่ชั้น 3 ห้องนั่งเล่นส่วนตัวบนสุด ชั้นนี้มีความเป็นส่วนตัวสูงสุด และมี LIVING AREA ห้องนั่งเล่นถูกจัดวางในชั้นนี้เพื่อแยกจากส่วนสำนักงานอย่างชัดเจน อาจเหมาะสำหรับเป็นห้องดูทีวี ห้องออกกำลังกาย ห้องจัดวางของสะสม ห้องสมุด ห้องดูหนัง ฟังเพลง เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับเจ้าของบ้านอย่างแท้จริง
คอนเซปท์งานดีไซน์ของบ้านตัวอย่างที่กำลังอยู่ระหว่างการตกแต่ง
บริเวณชั้น 1 เป็นพื้นที่รับรองลูกค้า และเคาน์เตอร์ด้านหน้าสำหรับประชาสัมพันธ์และรับแขก
ชั้น 1 M กั้นเป็นห้องกระจกแล้ววางโต๊ะสำหรับประชุมได้
ชั้น 2 พื้นที่ทำงานหลักที่สามารถแยกเป็นหลายโซน หลายแผนกได้
ชั้น 2 M จัดเป็นห้องมีตติ้ง ห้องนั่งพักผ่อนสำหรับพนักงานได้
ชั้น 3 ใช้เป็นห้องทำงานที่สามารถมีห้องประชุมแยกออกมาได้ เหมาะกับบริษัทที่มีพนักงานเยอะ
ชั้น 3 M เป็นห้องประชุมส่วนตัว หรือห้องที่ใช้คุยงานกับลูกค้าได้
สรุปจุดเด่นโครงการ Nirvana@Work Krungthep-Kreetha
โครงการอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ติดทั้งถนนใหญ่ และไลฟ์สไตล์มอลล์ Nirvana PORCH เป็นอาคารสูง 3.5 ชั้น ออกแบบในสไตล์ Modern เล่นระดับพื้นที่การใช้งานถึง 6 ระดับ พร้อมพื้นที่ Void เปิดโล่ง มีแบบบ้าน 2 แบบ ให้สเปซใหญ่ ฟังก์ชัน ยืดหยุ่นลงตัวทั้งอยู่อาศัยและทำธุรกิจ สังคมส่วนตัวเพียง 39 ยูนิต เท่านั้น สะดวกสบาย ตอบโจทย์พนักงาน และสะท้อนภาพลักษณ์อันโดดเด่นของธุรกิจด้วยการอยู่ติดไลฟ์สไตล์มอลล์ ใกล้โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ อาทิ Wellington International และ Brighton International เดินทางสะดวกด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย ใกล้ทางด่วนพระราม 9 รถไฟฟ้าสายสีเหลือง รถไฟฟ้าสายสีส้ม และ Airport Link แบบบ้านหน้ากว้างตั้งแต่ 5.65 – 11.3 เมตร มอบที่จอดรถภายในบ้านตั้งแต่ 2-4 คัน พร้อมที่จอดรถส่วนกลางอีก 15 คัน เป็นโฮมออฟฟิศแห่งใหม่เพียงแค่ไม่กี่โครงการในย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ อุ่นใจเพราะใกล้โรงพยาบาล อาทิ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ , โรงพยาบาลเวชธานี ,โรงพยาลรามคำแหง ,โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง มาพร้อมส่วนกลางที่ครบครัน อาทิ Co-Working Space, Garden, Working Pod และ 24 Hrs. Security
15-16 NOV
Pre-Sales เปิดชม HOME OFFICE ติดมอลล์ครั้งแรก
Nirvana @Work กรุงเทพกรีฑา
พบบ้านที่เข้ากับชีวิตและโฮมออฟฟิศที่เหมาะกับธุรกิจ
ชม Space จริงครั้งแรก โฮมออฟฟิศบนสุดยอดทำเลถนนกรุงเทพกรีฑา ติด Lifestyle Community Mall : Nirvana PORCH
ราคาเริ่ม 15.2 ลบ.*
โมเดิร์น โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น 6 ระดับ
บนทำเลที่ดีที่สุด “กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่”
สังคมส่วนตัวเพียง 39 ยูนิตเท่านั้น
ใช้ชีวิตและทำงานได้ในที่เดียว
เน้นตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการทำธุรกิจไปพร้อมกัน โดยออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยที่ยืดหยุ่น รองรับการปรับเปลี่ยนตามธุรกิจและไลฟ์สไตล์
แผนที่โครงการ : bit.ly/Map-At-WORK-KK
call center : 1787
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
จบทางด้านภาษาไทยและชอบงานเขียน ชอบอ่านและดูรูปภาพรีวิวบ้าน คอนโดต่างๆ เบื่อกับการอยู่ห้องทั้งวันแบบไม่มีอะไรทำ ฉะนั้นงานอดิเรกก็เลยชอบหาที่เที่ยวและถ่ายภาพ
โครงการ Nirvana@Work Krungthep-Kreetha มีหัวใจหลักของการออกแบบคือการจัดวางพื้นที่แบบ เล่นระดับ 6 ระดับ ซึ่งสร้างมิติและแบ่งสัดส่วนการใช้งานระหว่างพื้นที่ทำงานกับพื้นที่พักผ่อนได้อย่างชัดเจน พร้อมเสริมความโปร่งโล่งด้วยพื้นที่ Double Volume ถึง 2 จุด
PROPSCORE™
4.1
0
0 รีวิว
รูป
จบทางด้านภาษาไทยและชอบงานเขียน ชอบอ่านและดูรูปภาพรีวิวบ้าน คอนโดต่างๆ เบื่อกับการอยู่ห้องทั้งวันแบบไม่มีอะไรทำ ฉะนั้นงานอดิเรกก็เลยชอบหาที่เที่ยวและถ่ายภาพ
สะสม “ความเป็นคุณ” ในทุกตารางนิ้ว ได้ที่ SCOPE ทั้ง 3 โครงการ
คอนโดภายใต้แบรนด์ SCOPE แต่ละแห่งล้วนมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่แตกต่างกันไปในแบบเฉพาะตัว ด้วยจุดดึงดูดอันเป็นเอกลักษณ์ เรียบง่าย แต่ยากที่จะเลียนแบบ จากความเข้าใจในรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยที... อ่านต่อ
23 December, 2025
SCOPE กับการตั้งมาตรฐานใหม่ของการอยู่อาศัยระดับ Ultra Luxury ด้วย “บริการ” ที่แตกต่างอย่างมีรสนิยมโดย ACQUA
รู้จักกับ SCOPE ผู้สร้างนิยามใหม่ของคอนโด Luxury บนความเรียบง่าย พร้อมบริการที่เข้าใจรสนิยมอันเปี่ยมเอกลักษณ์ ด้วยปรัชญา Think sharp, Live distinct
Cloud 11 รวมพลังพาร์ทเนอร์กว่า 50% ของพื้นที่ ตอกย้ำความพร้อมสู่ Creative Capital แห่งใหม่ของเอเชีย บนทำเล South Sukhumvit
จำกัดเน็ต 100GB “Fair Usage Policy (FUP)” นโยบายร้ายเงียบที่ขืนใจผู้คนให้มาแออัดอยู่ใจกลางเมือง
จากสถานการณ์ อุทกภัยที่เกิดขึ้นพร้อมกันในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อบ้านเรือน ชุมชน และโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อย