ต้องบอกว่าในระยะเวลา 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ทำเลส่วนต่อขยาย BTS สายสีลม ข้ามไปฝั่งธนบุรีนั้น เป็นที่นิยมสำหรับเหล่า developer เหลือเกินครับ หลังจากที่ supply ในช่วงสถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่ ทยอยขาย ทยอยโอนไปเกือบหมดแล้ว (ยกเว้น Nye นะครับ) และที่ดินในบริเวณนั้นก็หายากขึ้นเรื่อยๆ ทำเลรองลงมาอย่างสถานีโพธิ์นิมิตร (S9) สถานีตลาดพลู จนถึงสถานีวุฒากาศก็กลายเป็น destination ต่อไปสำหรับทั้ง developer และผู้ซื้อครับ…ในบรรดาสามสถานีที่กล่าวมานี้ สถานีโพธิ์นิมิตร ดูจะได้เปรียบมากที่สุดในแง่ของระยะทาง (รวมถึงระยะเวลาด้วย) ในการเดินทางเข้าสู่เขต CBD อย่าง สาทร และสีลม ครับ

โครงการไอดีโอ สาทร ท่าพระ เป็นโครงการที่ผมมองว่าหากเดินทางด้วย BTS ก็สามารถที่จะเลือกลงได้ ทั้งสถานีโพธิ์นิมิตร หรือสถานีตลาดพลูครับ (ราคาค่าโดยสารก็ไม่แตกต่างกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะมีการปรับหรือไม่นะครับ)

โดยหากลงที่สถานีโพธิ์นิมิตร ก็จะมีระยะเดินเท้าที่ประมาณ 320 เมตร

หรือหากเลือกลงที่สถานีตลาดพลูก็จะมีระยะที่เดินไกลจากบันได Skywalk ประมาณ 442 เมตร

อยู่ที่คนชอบน่ะครับว่าจะเลือกลงที่สถานีไหน ถ้าใครชอบแบบใกล้ก็ลงโพธิ์นิมิตร แต่ถ้าชอบแบบเดินแล้วมีร้านข้างทางให้แวะ มีร่มเงาจากตึกคอนโดใกล้เคียงอย่าง Parkland/ Parkland Grand หรือในอนาคตก็จะมี Aspire สาทร ท่าพระ เพิ่มเข้ามา อยากแวะร้านอาหาร หรือซื้อของที่ 7 Eleven ก่อนเข้าตึกก็มาทางตลาดพลูครับ….แต่ในอนาคตที่ตึกก็จะมี Max Valu และ True Coffee เวอร์ชั่น hybrid เข้ามาเปิดในโครงการอยู่แล้ว ผมว่าเดินมาจากโพธิ์นิมิตรน่ะแหละดีแล้วครับ

หลายคนบอกว่าเดินจากโพธิ์นิมิตรมันค่อนข้างแห้งแล้ง และเปลี่ยวพอสมควรนะ ไม่เชื่อก็ลองเดินดูสิ….ใช่ครับ แต่ทางอนันดาฯ รู้ถึงจุดด้อยในข้อนี้ ก็เลยได้เริ่มดำเนินการแก้ไขจุดบอดโดย การเพิ่มไฟส่องสว่าง และร่มเงาให้กับแนวทางเดินตั้งแต่ตีนบันไดสถานีโพธิ์นิมิตร ครับ

แนวปรับปรุงบาทวิถียาวตั้งแต่สถานีจนถึงทางเข้าโครงการครับ (อ้อ รู้มาว่ากำลังจะทำสะพานลอยคนข้ามไปอีกฝั่งด้วยครับ)

นอกจากนี้ทางโครงการก็มีอีก Option สำหรับที่ค่อนข้างจะสะดวกสบายมากนั้นก็คือ มีรถตู้รับส่งจาก BTS โพธิ์นิมิตร – โครงการ – BRT และ เดอะ มอลล์ ท่าพระครับ โดยรถจะออกทุกๆ 15 นาที ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับลูกบ้านครับ (ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากนิติบุคคลฯนะครับ)

Credit ภาพ: Facebook Group Ideo Sathorn Thaphra 

สำหรับบริเวณพื้นที่โครงการนั้น หากใครได้แวะเข้าไปในช่วงนี้ก็จะพบว่า บริเวณ retail shop ที่ชั้น Ground ของโครงการนั้นอยู่ในระหว่างการปิดปรับปรุงครับ…สอบถามได้ความว่า พื้นที่ของ True Coffee จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และมี function สำหรับส่วนนั่งทำงาน โต๊ะ เก้าอี้ ที่เพิ่มมากขึ้น (เดิม True Coffee อยู่บริเวณ Shop 2 และ Sale Gallery อยู๋ที่ shop 1 ครับ) และ Max Valu รวมถึงร้านอื่นๆก็น่าจะเปิดทำการในไม่ช้านี้แล้วครับ…นอกจากนี้ก็ยังแอบกระซิบเลยว่าทาง อนันดาฯ กำลังจะจัดสรรพื้นที่บริเวณโครงการให้มีความเป็น Lifestyle Community คล้ายๆกับงาน Artbox ขนาดย่อมๆ เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องความแห้งแล้ง ไร้สีสัน ของพื้นที่รอบๆโครงการด้วยครับ

ตึก ไอดีโอ สาทร ท่าพระ นั้นเป็นตึกที่ค่อนข้างมี exposure เด่นกระแทกเบ้าตามาแต่ไกลมากครับ เนื่องจากว่าตึกออกแบบเป็นรูปตัว T มีความสูงถึง 31 ชั้น อาคารเดียว มียูนิตทั้งหมด 1,339 ยูนิต (ถ้ารวม retail shop ก็จะเป็น 1,344 ยูนิต) บนพื้นที่โครงการขนาด 5-3-19 ไร่… เรียกได้ว่าถ้าคุณยืนอยู่บริเวณดาดฟ้าของตึกไหนในฝั่งธนฯก็ต้องเห็นตึกสีเทาเข้ม ตั้งโดดเด่นเป็นกำแพงเมืองจีนมาแต่ไกลแน่นอนครับ… อ้อ โครงการนี้เป็นโครงการแรกของอนันดาฯที่ก่อสร้างด้วยระบบพรีแคสเสร็จเป็นตึกแรกครับ ทางอนันดาฯเค้าเรียกว่า Fulfill Wall ครับ ดูรายละเอียดได้ตามคลิปนี้เลย Ananda Fulfil Wall

มองไปทางห้องฝั่งทิศตะวันตก

ฝั่งทิศเหนือ

ตัว Floor Plan ของตึกนั้นแบ่งออกเป็น 3 โซนครับ มีชั้น 2-6/ ชั้น 7/ และชั้น 8-31 มีลิฟท์ทั้งหมด 4 ตัว ไม่รวม service lift อีก 2 ตัว

โซนชั้น 2-6 จะเป็นเป็นห้องที่อยู่ทางด้านปีกฝั่งตะวันออกครับ ความพิเศษก็คือห้องที่อยู่ในโซนนี้จะต้องขึ้นลิฟท์ทาง Lobby B เท่านั้นครับ และจำนวนยูนิตต่อชั้นของโซนนี้ก็จะน้อยเพียงแค่ 14 ยูนิตต่อชั้นครับ ในขณะที่ชั้น Typical Floor จะมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 53 ยูนิตต่อชั้นครับ

จุด Drop Off เป็นจุดเดียวกันครับเลือกได้ว่าจะหันไปเข้า Lobby ไหน

ไปล้อบบี้ B ก่อนแล้วกันนะ

พื้นที่ Mailbox ก็จะมีขนาดเล็กตามจำนวนยูนิตครับ

เดินวกไปขึ้นทางด้านล้อบบี้ A กันครับ

ไอดีโอ สาทร ท่าพระ เป็นโครงการที่มีขนาดพื้นที่ล้อบบี้ใหญ่ที่สุดในบรรดาทุกโครงการของ อนันดาฯ ครับ สิ่งที่ผมสัมผัสได้จากล้อบบี้และพื้นที่บริเวณชั้น Ground Floor นั้น คือความโปร่ง โล่ง แลดูไม่แออัด ในแบบ Modern Minimalist ครับ ต่างกับหลายๆโครงการที่มักจะเน้น Interior design ที่จัดเต็มด้วยเฟอร์นิเจอร์อันหรูหรา แวววับ ตระการตา เพื่อสร้าง Value added และ First impression ให้กับตัวโครงการครับ….ซึ่งผมว่าการที่อนันดาฯเลือกที่จะตกแต่งล้อบบี้ในสไตล์นี้ ก็แลดูเหมาะสมตรง target นะครับ เพราะว่าด้วยตัว positioning ของโครงการเอง ก็ไม่ได้ถูกวางให้เป็นเกรดพรีเมียม – ไฮเอนด์ แต่ไปเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็น Baby Gen C – Bachelor Gen C ที่รักสันโดด ต้องการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ แต่เรียบง่ายในขณะเดียวกันครับ

ห้อง Mail Box นี่ผมนึกว่าอยู่ไปรษณีย์ไทยครับ ฮา…

โถงลิฟท์

ชั้น 7 เป็นส่วนของ Facility ของโครงการครับ ซึ่งผมต้องบอกว่าชั้น 7 นี้คือจุดขายของโครงการเลยครับ มียูนิตพักอาศัยอยู่ที่ชั้นนี้ 39 ยูนิตครับ…ผมได้ยินคำเล่าลือเกี่ยวกับโครงการไอดีโอ สาทร ท่าพระ มาสักพักแล้วครับว่า ที่นี่มีส่วนกลางที่เน้นความใหญ่โต รวมถึงมีวิวที่สบายตามาก ซึ่งวันนี้ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆครับ

เริ่มกันที่สระว่ายน้ำ มองไปทางทิศเหนือ

มองกลับหลังมา… ห้องสองปีกนี้ดูแล้วจะขายดีที่สุดครับ ตั้งแต่ชั้น 7 ไปจนถึง 10 กว่าๆก็จะเห็นวิวสระกำลังสวยครับ

กว้างใช้ได้เลยครับ

มีสวนเล่นระดับเล็กๆไว้ให้นั่งเล่นตรงมุมสระ…ต้นไม้ลงเยอะเหมือนกันครับ รออีกสักสองปีต้นคงใหญ่มากกว่านี้เยอะ

แวะเข้า Social Club กันดีกว่าครับ…ในนี้มีหลาย Function มากๆครับ รวมทั้ง Fitness, ห้องซักผ้า, ครัวพร้อม Counter bar, สวนส่วนกลาง และพื้นที่ห้องสมุดที่มี Co-working space area ใหญ่มากๆด้วยครับ

พื้นที่จัด Private Party มีครัวพร้อม counter bar อุปกรณ์ครบ

มีโต๊ะพูลให้เล่นด้วยครับ

Pool table.

ซ้ายมือเป็นห้อง Fitness ครับ อาจจะดูเล็กไปหน่อยสำหรับ 1,339 ยูนิตครับ

มาถึงพระเอกของชั้นนี้ครับ Library และ Co-working Space

โซนด้านนี้จะเป็น Hot Desk และห้องประชุมส่วนตัวครับ…เหมาะมากสำหรับ Bachelor Gen C ที่ต้องการพื้นที่ทำงาน ในระหว่างวันครับ…แหม่ ทำงานได้โดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศแบบนี้ใครๆก็ชอบครับ

ห้องนี้ถ้าเปิดม่านจะสว่างมากครับ เพราะเป็นกระจก Floor to Ceiling หมดทั้ง 3 ด้าน

มาถึง Typical Floor Plan ชั้น 8 – 31 บ้างครับ….จะเห็นได้ว่าถ้ามีห้องอยู่ปีกฝั่งตะวันออก เดินทางลิฟท์ฝั่งล้อบบี้ B จะเข้าห้องได้ใกล้กว่าครับ เพราะถ้าใครอยู่ห้องเบอร์ 15 – 16 ที่อยู่ริมสุดแล้วไปขึ้นลิฟท์จากล้อบบี้ A นี่ผมว่ามีเดินประมาณ 60 เมตรได้ครับ..ส่งเข้าประกวดคอนโดที่มีโถงทางเดินยาวที่สุดในกทม.ได้โครงการหนึ่งเลยครับ

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เซลล์พบว่าห้องทางด้านทิศตะวันตกจะขายยาก เนื่องจากวิวจะไปติดบล็อคของคอนโด The Park Land และฝั่งนี้ก็ไม่ได้มีวิว Magnet ที่มาจากตัวโครงการเองครับ มีข้อดีคือเดินใกล้ลิฟท์มาก และชั้นเตี้ยๆก็ยังมีวิวของ Sky Garden อยู่ครับ….ถ้าเป็นโครงการอื่นๆ developer ก็มักจะเลือกทิศตะวันตกเป็นที่วาง Facility ประเภทสระว่ายน้ำเอาไว้เพื่อให้ทิศนี้มันขายได้ครับ (ไม่รู้ทำไมคนไทยไม่ค่อยชอบทิศตะวันตก) แต่ไอดีโอ สาทร ท่าพระ เองก็มีข้อจำกัดในเรื่องของหน้าแปลงที่ดินที่ได้มา ก็เลยต้องเอาสระไปอยู่ทิศตะวันออกครับ ผลก็คือทิศตะวันออกและทิศเหนือก็ขายดีเป็นที่ถูกใจคนไทยไปหลายๆคนครับ…แต่ถ้าเอาห้องทิศนี้มาทำราคาให้ถูกลง แล้วทำการันตีค่าเช่าให้สูงกว่าตลาดสัก 2,000 บาทต่อเดือน ผมว่าก็น่าจะขายได้หมดนะครับ

มีวิว Sky Garden แอบอยู่ด้านนี้ด้วยนา

เรามาดูที่ห้องจริง วิวจริงกันดีว่าครับ…อย่างที่บอกไว้ที่ชื่อบทความว่าคือ Exclusive Floor ดังนั้น ผมจะพาคุณผู้อ่านขึ้นไปดูชั้นพิเศษที่ชั้น 24 – 25 ครับ สองชั้นนี้ทางโครงการจัดให้พิเศษกว่าชั้นอื่นๆเพราะว่าถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เกรดพรีเมียมแบรนด์ Quattro Design ตั้งแต่หน้าลิฟท์ โถงทางเดิน จนไปถึงข้างในห้องครับ…เป็นห้อง Fully Furnished ที่แตกต่างจากชั้นอื่นๆ ที่ตอนนี้มีโปรโมชั่น Fully Furnished โดย SB Furniture ครับ

สังเกตได้ว่าโถงลิฟท์ถูกอัพเกรดขึ้นมาด้วย Prop จาก Quattro Design ครับ มีกระจกเยอะขึ้น และติด wallpaper ตลอดทางเดินครับ

อันนี้คือแบบเฟอร์นิเจอร์ Quattro Design ครับ มีทุกขนาด 21, 30 และ 45 ตรม.ครับ

ส่วนอันนี้คือเฟอร์นิเจอร์ของ SB Furniture ครับ ชอบแบบไหนก็แล้วแต่รสนิยมนะครับ

ห้องตัวอย่างมี 3 ห้อง 3 Type นะครับ

มาดูห้องขนาด 21 ตรม. (ที่นี่มีแต่ที่เป็น Type หน้ากว้างทั้งหมดนะครับ)

แปลนห้องที่เราคุ้นตากันดีครับ

เปิดมาก็เจอ แนวโซฟา โต๊ะทำงาน ยาวต่อเนื่องจนถึงเตียงเลยครับ…แต่งได้มีสีสันแนวแคริบเบียนมาก

ตรงปลายเตียงมีตู้เสือผ้า และ night table แถมผ้าม่านให้ทั้งสองชิ้นด้วยนะครับ

Coffee Table ดูมี detail ดีครับ…พื้นเป็นลามิเนต ลายนี้สีสวยดีครับ

ครัวก็ Function ตามมาตรฐานครับ เสียตรงไม่ได้ติดกระเบื้องกันเปื้อนตรงผนังให้ และเตาไฟฟ้าก็ยังคงเป็น Hot Plate ซิงค์และ Hood เป็นยี่ห้อ Mex

ห้องน้ำมี upgrade จากห้องธรรมดานิดนึง คือมีตู้เก็บของใต้ซิงค์ และกระจกก็ใหญ่กว่าเดิมครับ

เครื่องทำน้ำอุ่นธรรมดาสามัญ

ห้อง 2 นอน 1 น้ำ ขนาด 45 ตรม. ครับ…layout ห้องนี้ผมว่าพื้นที่ใช้สอยบริเวณห้องนั่งเล่นไม่ค่อยจะโอเท่าไหร่ ได้พื้นที่ระยะห่างจากทีวีค่อนข้างเยอะแต่ก็ต้องเว้นระยะไว้ทำครัวและเปิดตู้เย็นครับ และผมว่า Quattro design ขาดความต่อเนื่องในการ design โซนพื้นที่ทานอาหารและหน้าประตูไปครับ มันเลยดูโล่งแบบแปลกๆ คนซื้อน่าจะ build ตู้เก็บของเพิ่มได้เยอะเลยนะครับ

ถ้าถอยโซฟาไปอีกนิดก็จะเปิดตู้เย็นยากแล้วครับ

ซูมให้ดูชุดครัว Top เป็นไม้ลามิเนต นอกนั้นดูเบสิคทั่วไป

Master Bedroom ครับ วิวสวยเชียว

เปลี่ยนชุดผ้าปูเตียงเอาตามใจชอบนะครับ ทางโครงการให้แค่เตียงขนาด 5 ฟุตอย่างเดียว

ห้องนอนเล็กครับ

โต๊ะทำงานมีหลายช่องดีครับ

ระเบียงห้อง 2 นอนเป็นแบบ double window ครับ…แบบนี้ต้องจัด…สวนครับ

มาดูห้อง 1 นอนขนาด 30 ตรม. บ้างครับ

ห้องนี้เปิดประตูมาเจอครัวอยู่ด้านขวา ตู้เย็นอยู่ด้านซ้ายครับ ทาง Quattro เลือกใช้โต๊ะทานข้าวแนวยาว ก็เลยต้องหันห้าเข้ากำแพงเวลาทานข้าวครับ

สะดุดกับหัวกวางนี้มากครับผม

ห้องนอนเสียพื้นที่ให้กับห้องวางคอมพ์แอร์ไปครึ่งห้องครับ…ช่องแสงเลยน้อยไปหน่อย

ไปดูวิวกันบ้างดีกว่า

ทิศเหนือมุมก้มเจอรถไฟฟ้า มุมระดับสายตาก็โล่งยาวไปแยกท่าพระครับ เห็น Supalai City Home และ The Park Land เพชรเกษม ท่าพระ ที่กำลังสร้างอยู่ลิบๆ

ทิศใต้ก็โล่งนะครับ ยาวไปเห็นแม่น้ำและสะพานกรุงเทพ… ตึกแถวด้านนี้น่าจะสร้างตึกสูงยากอยู่ครับ หาทางออกแทบไม่เจอ เห็นคอนโด LPN และ Bangkok Horizon อยู่ทางขวามือ

ทิศตะวันออกครับมุมนี้จากห้อง 2 นอนเบอร์ 15

ห้องเดียวกันจากอีกมุมครับ

มาดูห้องนี้กันบ้าง 2 นอนเบอร์ 16…อันนี้ถ่ายจากหน้าต่างโถงทางเดิน ได้ City View เลยนะครับเนี่ย

ถ้าเข้าไปในห้องจะได้วิวประมาณนี้ครับ……..

แล้วโครงการนี้เหมาะกับใครล่ะ?

ไอดีโอ สาทร ท่าพระ เป็นโครงการที่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ใครๆก็บอกว่าแพงครับ เนื่องจากขายแบบ Fully Fitted และราคาต่อตารางเมตรอยู่ใน range ตั้งแต่ 98K – 120K ต่อตรม….แถมวัสดุที่โครงการจัดให้ก็แลดูไม่ค่อยเหมาะสมกับราคา ณ ขณะนั้นมาก ไม่ว่าจะเป็นชุดครัวที่ดูจะเป็นสเปคเดียวกันกับแบรนด์ระดับล่างของหลายๆ developer ห้องน้ำที่มีชุดสุขภัณฑ์ที่ค่อนข้างเล็กชนิดที่ฝรั่งใช้งานลำบาก ลูกบิดประตูที่เป็นลูกฟักธรรมดาทั้งในห้องน้ำและห้องนอน หรือพื้นลามิเนต (แต่ประตูทางเข้าเป็นแบบมือจับก้านโยกนะ)…แต่เวลาผ่านไปจนถึงยุคที่คอนโดแถบสาทร และส่วนต่อขยายแถวสถานีกรุงธนบุรี และวงเวียนใหญ่ ทยอยกันขายหมดไปแล้ว และโครงการใหม่ก็เปิดขายกันในราคาต่อตรม.ที่พอๆกับไอดีโอ สาทร ท่าพระ ณ ขณะนี้…ก็กลายเป็นว่าโครงการนี้เป็นตัวเลือกเพียงแค่ 1 ใน 2 ตัวครับ (มี Nye อีกโครงการ) สำหรับใครก็ตามที่หาคอนโดพร้อมอยู่ที่เพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆในบริเวณตั้งแต่สถานีกรงธนบุรี จนถึงสถานีตลาดพลูครับ และด้วยการที่ไอดีโอ สาทร ท่าพระ มีการกำหนดแพคเกจราคาให้สามารถซื้อได้ในราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้าน ย่อมทำให้เป็นตัวเลือกเดียวในย่านนั้นที่มีราคาถูกที่สุดครับ

ด้วยอานิสงส์ของโครงการไอดีโอ โมบิ Collection แรก ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่มาสองปีแล้ว มันได้ส่งผลดีอันใหญ่หลวงให้กับ ไอดีโอ สาทร ท่าพระ ครับ กล่าวคือ กลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในห้องขนาด 21 ตรม.ในไอดีโอ โมบิ ได้มีส่วนในการสร้างความรับรู้ในตลาดว่า แค่ห้องขนาดนี้ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้แล้วครับ…ยิ่งโครงการอยู่ในสมรภูมิที่หา supply คอนโดที่ราคาต่ำสองล้านไม่ได้แล้ว ก็ยิ่งสร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เจาะจงมองหาคอนโดแถวนี้ภายใต้งบประมาณที่จำกัดมากเหลือเกินครับ!!

ส่วนตัวแล้วผมมองว่าทางอนันดาฯ คิดถูกแล้วครับ ที่ไม่ได้ตามกระแสของความเว่อร์วัง อลังการ สีทองอร่าม ของ Nye และบ้าจี้ไป upgrade สินค้า + ราคา ของตัวเองตาม Nye ครับ…เพราะถ้าทำอย่างนั้น ยังไงก็สู้ Nye ไม่ได้ครับ มันคนละกลุ่มเป้าหมายกันแน่นอนครับ ฟันธง!!! หากนึกภาพถึงกลุ่มคนที่ต้องการจะอยู่ที่ไอดีโอ สาทร ท่าพระ ก็ต้องนึกถึง กลุ่มคนรุ่นใหม่ ยังโสด มีงบประมาณจำกัด ไม่ได้ยึดติดกับความหรูหรา และที่สำคัญคือมีพฤติกรรมในการซื้อคอนโดที่นี่เป็นที่แรก และค่อยขยับขยายต่อไปในอนาคตครับ

นึกยังไงคนกลุ่มนี้ก็ไม่น่าจะชอบสไตล์ของ Nye เท่าไหร่ และคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของ Nye ก็คงไม่มีวันที่จะมาชอบไอดีโอ สาทร ท่าพระครับ….

อนันดาฯ ประสบความสำเร็จในการมองหา customer pain ต่างๆที่เกิดขึ้นกับลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นในด้านความลำบากในการเดินจาก BTS ความเป็น Baby – Bachelor Gen C ที่ต้องการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายอยู่ใน Community ที่มีทุกอย่างที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตโดยที่สามารถทำงานที่บ้านได้ หรือถ้าไปทำงานก็มีออฟฟิศอยู่ย่านสาทร สีลม ตลอดจนการสร้าง value added เพิ่มขึ้นมาโดยการทำแพคเกจ Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เลือกถึง 2 สไตล์แล้วแต่ชอบ (แต่ราคาก็ต่างกันเยอะนะครับ)

ราคามีตามนี้นะครับ

ชั้น 2-10 (SB Furniture) เป็นโปรโมชั่น One Price 1.99 ล้าน สำหรับห้องขนาด 21 ตรม./ 2.99 ล้าน สำหรับห้อง 30 ตรม. และ 4.5 ล้าน สำหรับห้อง 45 ตรม. เฉลี่ยตรม.ละ 9 หมื่นปลายๆ

ชั้น 24 – 25 (Quattro Design) ห้องขนาด 21 ตรม. ราคาเริ่มต้น 2.85 ล้าน/ ขนาด 30 ตรม. ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้าน และ 45 ตรม. ราคาเริ่มต้น 5.85 ล้าน เฉลี่ยตรม.ละ 130K 

ผลของการปรับกลยุทธ์และให้โปรโมชั่นที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่อยู่จริง ก็ทำให้โครงการนี้ทำยอดขายแตะ 70% จากเดิมที่เงียบกันมานานข้ามปีได้แล้วครับ (อันนี้เซลล์แจ้งมานะครับ) โครงการนี้เหมาะมากครับ สำหรับคนที่มี Lifestyle แบบที่ผมบอกด้านบน และกำลังมองหาคอนโดพร้อมอยู่ที่แรก ในงบประมาณที่ไม่เกิน 2 ล้านครับ…เพราะ ณ ตอนนี้มันหาคอนโดราคานี้ บริเวณนี้ ไม่ได้จริงๆครับ

Due to a change in strategy and campaigns matching the right target real buyers, sales at this project was 70%, compared with a silence over a year (sales staff told). This project perfectly suits to those whose lifestyle is like what explained above and those who look for a first unit at a budget of not higher than 2 Million Baht as it is very hard to find a unit at this price.