ในขณะที่ทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้านภายใต้คำสั่งของทางการเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 น้ำที่่นอนนิ่งอยู่ในท่อของอาคารโรงยิม โรงเรียน ห้างสรรพสินค้าและตึกสำนักงานที่ร้างผู้คนเริ่มมีคุณภาพเก่าลงเรื่อยๆ และอาจก่อให้เกิดอันตราย เมื่อไม่มีการไหลของน้ำ จุลินทรีย์และสารเคมีบางอย่างสามารถก่อตัวขึ้นได้จนถึงระดับอันตรายหากมีน้ำขังอยู่ในท่อภายในไม่กี่วัน และจะเกิดอะไรขึ้นหากน้ำยังคงแน่นิ่งเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน

ขณะนี้ยังไม่มีการศึกษาระยะยาวเกี่ยวกับความเสี่ยงเหล่านี้และมีข้อแนะนำเพียงเล็กน้อยสำหรับผู้ดูแลตึกถึงการเตรียมน้ำให้พร้อมต่อการใช้งานอีกครั้งหลังหมดช่วงล็อคดาวน์

น้ำค้างท่อสร้างความเสียหายอย่างไร?

เช่นเดียวกับอาหารที่ถูกแช่ในตู้เย็นนานจนเกินไป น้ำที่นอนนิ่งอยู่ในท่อภายในอาคารเป็นเวลานานย่อมทำให้ผู้คนเจ็บป่วยได้ สิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตราย เช่น แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบที่เกิดจากแบคทีเรีย Legionnaire หากไม่มีการบำรุงรักษาระบบน้ำให้ดี ทั้งเครื่องกรองน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น แทงค์น้ำ และที่กรองน้ำกระด้าง นี่อาจเป็นแหล่งฟักตัวชั้นดีของแบคทีเรีย ภายในท่อจะมีการสะสมตัวของตะกั่วและทองแดงในน้ำจนถึงระดับอันตรายซึ่งนำไปสู่อาการท้องร่วง คลื่นไส้ กระทบต่อหัวใจและหลอดเลือด รวมไปถึงความสามารถในการเรียนรู้

หากเป็นน้ำดื่มยิ่งเป็นอันตราย และไม่เฉพาะเพียงการติดเชื้อที่เกิดจากการดื่มกินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสูดหายใจเอาน้ำที่กลายร่างเป็นอนุภาคละอองขนาดเล็กเข้าไป ซึ่งเกิดได้จากทั้งการอาบน้ำ แช่อ่างอาบน้ำ ตอนกดชักโครก หรือกระทั่งตอนล้างมือ สิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นเหล่านี้สามารถเป็นเหตุของการเกิดโรค โดยเฉพาะกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง

ทางแก้ปัญหา

หน่วยงานด้านสุขภาพทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ และบางเมืองในยุโรปได้ออกมาให้ข้อแนะนำการทำให้น้ำมีคุณภาพใหม่อยู่เสมอภายใต้สถานการณ์โควิด 19 แม้ว่าจะยังมีข้อถกเถียงถึงวิธีการจัดการที่ดีที่สุดแต่ใจความสำคัญที่ทุกฝ่ายเห็นร่วมกัน คือ อย่าปล่อยให้มีน้ำนอนนิ่งในตึกเฉยๆ หากไม่การใช้น้ำในตึกก็ให้เปิดน้ำใหม่เพื่อไล่น้ำเก่าออกให้หมด และทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ วิธีนี้ยังช่วยขจัดตะกอนที่สะสมอยู่ภายในท่อออกไปด้วย

ก๊อกน้ำ เครื่องกรองน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น ชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำทั้งตู้เย็น ห้องน้ำ หอหล่อเย็นที่ใช้น้ำระบายความร้อนจากเครื่องจักร และระบบอื่นๆ จำเป็นต้องมีน้ำใหม่ไหลเวียนทั้งหมด

ระยะเวลาที่ใช้ในการเปลี่ยนน้ำใหม่อาจใช้ตั้งแต่ 80 นาทีขึ้นไปในตึกขนาด 900 ตารางเมตร หรืออาจใช้เวลาเป็นวันๆ ในตึกใหญ่ๆ

กันไว้ดีกว่าแก้

หาทางหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนในน้ำไว้จะดีกว่าการมาตามเช็ดล้างทีหลัง แต่หากมีการปล่อยน้ำค้างอยู่ในท่อไว้นานแล้วจริงๆ ขอให้แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่พนักงานทุกคนที่เข้าไปทำความสะอาดได้สวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันแบคทีเรียขณะปฏิบัติหน้าที่ เพิ่มน้ำยาฆ่าเชื้อลงไปในระบบให้มากกว่าปกติเพื่อฆ่าสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นที่อาจตกค้างอยู่ จากนั้นหาซื้อชุดทดสอบคุณภาพน้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีแบคทีเรียที่เป็นอันตรายใดๆ หลงเหลือ ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาหลายวันและจำเป็นต้องมีผู้ช่วยชาญมาช่วยอ่านผลทดสอบ และสุดท้ายหน่วยงานสาธารณะสุข สามารถช่วยให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงเป็นรายกรณีได้หากต้องการความช่วยเหลือ

น้ำที่ค้างอยู่ในท่อสามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพในระดับสูงได้ ฉะนั้นผู้ประกอบการและผู้ดูแลที่เกี่ยวข้องไม่ควรละเลยความสำคัญตรงจุดนี้และหาทางรับมือหรือวางแผนป้องกันเพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตในระยะยาว

แหล่งข้อมูลและภาพ

https://www.businessinsider.com/disuse-because-of-the-coronavirus-could-make-buildings-sick-too-2020-4

https://unsplash.com/photos/AupdOjoxsdM

https://unsplash.com/photos/vDQ-e3RtaoE

https://unsplash.com/photos/QgxHQamnkrk