AREN Series “เพื่อสไตล์ทิ้งได้ทุกเหตุผล”
“เพื่อสไตล์ทิ้งได้ทุกเหตุผล” ผมสะดุดตากับประโยคเด็ดนี้ ที่ถูกใช้เป็นคำโฆษณาอันสุดทรงพลังของโครงการภายใต้ AREN Series ของอารียาฯทั้ง AREN X ที่เป็นบ้านเดี่ยว และ AREN ที่เป็นทาวน์โฮม…เนื่องจากผมก็เป็นคนที่เคยไปเยี่ยมชมโครงการนี้มาก่อน โดยในจังหวะนั้นมันก็มีทั้งความรู้สึกที่ชอบในสไตล์ของบ้านมากๆ เช่นเดียวกับความรู้สึกที่เอ๊ะ! ในหลายๆจุดผสมปนเปกันจนตัดสินใจไม่ถูก ว่าที่นี่มันคือโครงการที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตในแบบไหนกันแน่
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดแนวราบนับว่าเป็นตลาดที่ดีเวลลอปเปอร์ทุกรายหมายปองที่จะส่งโครงการมาลงสนามช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดให้มากที่สุด เนื่องจากเป็นตลาดที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีบทบาทสำคัญที่จะสร้างรายได้แบบยั่งยืนให้กับทุกดีเวลลอปเปอร์ โดยเป็นที่สังเกตว่าผู้นำตลาดในหลายปีที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีสต็อคโครงการแนวราบพร้อมขายที่ครอบคลุมในทุกระดับราคาทั้งนั้น และด้วยการที่ตลาดมีการแข่งขันที่สูง แนวทางการพัฒนาโครงการในรูปแบบ Premium Niche ซึ่งจับกลุ่มลูกค้าที่มีรสนิยมที่แตกต่างเฉพาะตัว เป็นชนกลุ่มน้อยมี Persona ที่ชัดเจน แต่มีงบประมาณที่ค่อนข้าง Flexible ไปทางปานกลาง – สูง จึงถูกใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการพัฒนาโครงการและทำการตลาด ซึ่งความท้าทายในการพัฒนาโครงการรูปแบบนี้จึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่การแข่งกันทำราคาให้ได้ถูกที่สุด หรือเพิ่ม Space ให้ได้มากที่สุด เพราะนั่นจะเท่ากับเป็นการจับกลุ่มลูกค้าเดิมๆ ที่มีอยู่แล้วในตลาด แต่กลับเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มที่จับต้องได้ให้เกิดขึ้นกับตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดีไซน์อันโดดเด่นที่นอกจากจะสะท้อนตัวตนของผู้เป็นเจ้าของได้มากที่สุดแล้ว ยังต้องมีการจัดวาง Space ที่ผสานฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์กิจกรรมที่ทางผู้พัฒนาโครงการมองแล้วว่า Persona นี้มีอยู่จริงในตลาด และหากสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มคนเหล่านั้นได้ตรงจุดก็สามารถปิดการขายได้โดยง่าย
แบรนด์ AREN เป็นแบรนด์สร้างชื่อที่ทำให้ผู้บริโภคคิดถึงอารียา พรอพเพอร์ตี้ เมื่อนึกถึง “บ้านมินิมอล” ที่บริษัทฯ ได้เปิดตัวไปเมื่อปี 2564 ในรูปแบบทาวน์โฮมด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น มีความโมเดิร์นมินิมอล โทนขาวแบบสุดทาง มีพื้นที่ Courtyard หรือสระว่ายน้ำกลางบ้าน ทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดี จนนำมาซึ่งอีกหนึ่งโครงการที่อัพเกรดขึ้นมาเป็นบ้านเดี่ยวอย่าง AREN X ที่ชู Concept “MORE MADLY MINIMAL” สุดขีดชีวิตมินิมอล ที่มีการอัพเกรดในเรื่องของมิติการอยู่อาศัยด้วย Space และ Function ที่มากกว่า ทั้งในส่วนของพื้นที่ Double Volume บริเวณส่วนทานอาหาร, การแยกความทึบตันของตัวบ้านออกเป็น 2 ปีกด้วยพื้นที่ Courtyard หรือสระว่ายน้ำที่ทำหน้าที่เป็นทั้ง Buffer และ Connetion Area ที่เชื่อมต่อการในงานแบบ Indoor – Outdoor – Public – Private ได้อย่างไม่มีสะดุด และด้วยการที่โครงการมองภาพ Persona ของกลุ่มคนซื้อว่าเป็นกลุ่มลูกค้าคู่รัก Gen Y ที่ไม่มีลูก (Double Income No Kids) ที่มีความต้องการบ้านที่สะท้อนตัวตนได้อย่างชัดเจน มีพื้นที่กว้างพอที่ทั้งคู่จะมีอิสระในการจัดมุมบ้านที่เป็นตัวเองรวมไปถึงกลุ่ม Mr. and Ms. Independents ที่รักอิสระและความเป็นส่วนตัว อยู่ตัวคนเดียว แต่โหยหาเพื่อนมาปาร์ตี้เป็นบางเวลา ต้องการ Extra Space ที่มากกว่าการเป็นห้องนอน เพื่อตอบโจทย์ Passion ในการทำงานในสาขาต่างๆ ซึ่งไม่สามารถหาได้จากคอนโดห้องใหญ่ในเมือง และบ้านเดี่ยวชานเมืองที่อาจจะไม่ตอบโจทย์ในเรื่องรสนิยม และ Space ที่ Over Function มากจนเกินไป…พูดง่ายๆก็คืออยุ่แค่ 1 – 2 คนอ่ะ แต่ไม่ได้อยากได้บ้านที่มีพื้นที่ใหญ่มากๆ ซอยห้องเยอะๆ ทำความสะอาดลำบาก เดินขึ้นแค่ 2 ชั้นพอ ขอพื้นที่แค่ราวๆ 200 กว่าตรม. แต่มีพื้นที่ Double Volume ที่เชื่อมต่อโซน Outdoor ได้ และมีห้องนอนแค่ 1 ห้อง ก็พอที่เหลืออาจจะไปแต่งเป็น Passion Room แบบไหนก็แล้วแต่เรา ไม่ต้องพื้นที่ส่วนกลางอะไรเลยก้ได้ เพราะทำกิจกรรมทุกอย่างในบ้านได้จบครบทุกอย่าง