ราชพฤกษ์นับว่าเป็นย่านที่พักอาศัยแนวราบ ที่เป็นที่นิยม อันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นย่านที่ไม่แออัด สามารถใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติสะดวกสบายเรื่องการเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง ได้ง่ายและออกจากเมืองได้หลากหลายเส้นทาง เชื่อมต่อสู่ต่างจังหวัดด้วยถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันตกไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เดินทางได้แบบสบาย ด้วยขนาดของถนนที่กว้างและแบ่งช่องจราจรอย่างชัดเจน อีกทั้งในขณะนี้ถนนราชพฤกษ์กำลังขยายช่องทางจราจร จะทำให้เดินเข้าสู่สาทรมีความคล่องตัวมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นภายในกลางปี 2559 ทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกจะเปิดใช้บริการทำให้ศักยภาพทำเลที่อยู่อาศัยย่านนี้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขี้นไปอีก ใช้ระยะเวลาขับถึงทางขึ้น-ลง ประมาณ 12 นาที เท่านั้น

ทาง Q House เองเล็งเห็นศักยภาพของทำเลของราชพฤกษ์ จากโครงการของ Q House เองตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้เกือบ 20 โครงการมากกว่าแบรนด์อื่นหลายเท่าตัว

ถือว่าเป็นเจ้าตลาดครอบคลุมทุก Segment ตั้งแต่ บ้านแฝดอย่าง The Trust บ้านเดี่ยวเริ่มต้น Casa Ville เรื่อยไปจนถึงบ้านเดี่ยวระดับบนคือ ลัดดารมย์ พฤกษภิรมย์ จนถึงโครงการระดับร้อยล้านอย่าง Q TWELVE

โครงการ Q House Avenue ราชพฤกษ์ – พระราม 5 เองก็เช่นเดียวกัน ตั้งอยู่บนถนนนครอินทร์เชื่อมถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันกับสะพานพระราม 5 ข้ามไปยังถนนติวานนท์ ถนนงามวงศ์วาน เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองและศูนย์กลางการคมนาคมย่านบางซื่อ หรืออาศัยเส้นทางถนนราชพฤกษ์เข้าสู่ CBD ย่านสาทร สีลม ได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

เพื่อเป็นต้นแบบแห่งการพักอาศัยและบ่งบอกรสนิยม สุนทรียภาพแห่งการใช้ชีวิตที่เหนือระดับ โครงการ Q House Avenue ได้รับอิทธิพลภายใต้แนวคิด “The Majestic Empire” อาณาจักรหรู ทีให้อลังการความสุข บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ด้วยทางเข้าโครงการที่ใหญ่โตบ่งบอกได้ความเป็นที่สุดของที่อยู่อาศัยในย่านนี้อย่างชัดเจน พร้อมประติมากรรมฝูงม้าบิน (Pegasus) และหอนาฬิกาขนาดสูงใหญ่ เชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security แยกส่วน Guest Area และ Residential Area

ส่วนกลางของโครงการมี 2 จุดใหญ่ คือ สวนพักผ่อน 4 แห่ง รอบโครงการ พื้นที่มากถึง 7 ไร่และคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่กว่า 2,500 ตร.ม. สระว่ายน้ำในร่มและกลางแจ้ง

Jacuzzi ฟิตเนส ซาวน่า และสนามเทนนิส 2 คอร์ทมาตรฐาน 

โดยพื้นที่ของโครงการแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่ง North และ South สไตล์บ้านส่วนใหญ่เป็นแบบ Neo-Spanish, Tudor และใหม่ล่าสุดคือ Colonial ที่นำเสนอรูปแบบบ้านโทนขาวครีม สไตล์เรียบหรูและอยู่ได้นาน

ภายในตัวโครงการแบบบ้านก็จะคละกันไปในแต่ละเฟส เพราะตัวโครงการเปิดขายตั้งแต่ปี 2010 มาแล้ว แบบบ้านที่เปิดขายใหม่จะอยู่ฝั่ง South แต่ฝั่ง North ก็ยังเปิดขายอยู่แต่แบบบ้านจะเป็นบ้านในช่วงก่อนหน้านั้น ทำให้แบบบ้านในโครงการนี้ค่อนข้างจะหลากหลายและแตกต่างกันอยู่พอสมควร ฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลมากกว่า ในวันนี้แบบบ้านที่จะพาไปดูแบบเจาะลึกรายละเอียด มีทั้งหมด 4 แบบ คือ Capricornus Manor, Achilles, Aquila Manor และ Arcturus Manor

Capricornus (46 ล้านบาท/ เนื้อที่ 265.9 ตร.วา/ พื้นที่ใช้สอย 646 ตร.ม.) – 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องคนรับใช้, 4 ที่จอดรถ

ชั้นล่างประกอบด้วย 8 ฟังก์ชั่นการใช้งาน ประกอบด้วย ทีจอดรถ 4 คัน, โถงต้อนรับ, ห้องรับแขกและ Glass House, ส่วนรับประทานอาหาร มุมอาหารเช้า และเตรียมอาหาร, ห้องนอน 1 ห้อง, ห้องน้ำ 2 ห้อง, ห้องเก็บรองเท้า, ครัวไทย, ส่วนคนรับใช้

ชั้นบนประกอบด้วย 3 ฟังก์ชั่นการใช้งาน คือ

ห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง: ห้องนอน, นั่งเล่นและพักผ่อน, ห้องแต่งตัว, ห้องน้ำและระเบียงห้องน้ำกลางแจ้ง และระเบียงจัดสวน
ห้องนอน 3 ห้อง พร้อมห้องน้ำ, โถงและระเบียง

แบบบ้านไตล์ Colonial โดยแปลงนี้จะอยู่ฝั่ง South ซึ่งเป็นโซนบ้านเปิดใหม่ จุดเด่นอยู่ที่ Glass House กระจกใสตัดแสงรอบด้าน และโครงการจะสร้างสระว่ายน้ำให้ ขึ้นอยู่กับรูปร่างที่ดินว่าสร้างได้ไหม ถ้าไม่ได้อาจจะเป็นอ่าง Jacuzzi ในสวนแทน ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกบ้านว่าต้องการรูปแบบไหนสามารถเลือกได้

ซึ่งบ้านหลังนี้ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ให้มา จะมีเคาน์เตอร์ครัว อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ห้องเก็บรองเท้าและเครื่องปรับอากาศทุกห้อง

ภายในเมื่อเข้ามาจะรับรู้อย่างแรกเลยคือแสงธรรมชาติที่เข้ามาเพราะกระจกค่อนข้างเยอะ ทำให้เปิดรับวิวจากสวนหน้าบ้านและแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ Entry hall, Living area และ Dining Area จะเชื่อมต่อกันเป็น Open plan อีกทั้งเชื่อมต่อไปยังครัวเป็นแบบ Hybrid kitchen ที่เป็นเพียงกระจกกั้น มองจากห้องครัวก็จะทะลุไปยัง Glass House เราจึงรู้สีกว่าทุก

พื้นที่สามารถสัมผัสเชื่อมต่อกันได้เป็นอย่างดี ส่วนของครัวไทยและ Maid แยกออกไปต่อจากห้องครัว อีกส่วนหนึ่งคือห้องนอนชั้นล่างซึ่งเหมาะกับผู้สูงอายุที่ไม่ต้องขึ้นไปห้องนอนชั้นบน

พอขึ้นมาชั้นบนจะเป็นส่วน Private Zone คือ ส่วนห้องนอนทั้งหมด 5 ห้อง ถือว่าจัดมาครบ เผื่ออนาคตหากขยับขยายก็มีห้องนอนพอต่อคนในบ้านที่เพิ่มขึ้น พื้นไม้

เป็นไม้ปาร์เกต์จริงทั้งหมด บันไดเป็นไม้มะค่า เริ่มที่ห้องนอนใหญ่ พื้นที่ใช้สอยห้องนอนใหญ่ที่กว้างขวาง เช่น มุมทำงาน มุมพักผ่อนตรง Glass House และ Walking Closet จัดเต็มราวกับห้องเสื้อชั้นนำ กระจกเยอะพอสมควรเพื่อจะได้ดึงแสงธรรมชาติเข้ามาใช้ ระเบียงกว้างขวางสามารถจัดสวนหย่อมได้

มาดูส่วนห้องน้ำของห้องนอนใหญ่มีสองส่วน โดยส่วนข้างในจะเป็นอ่าง Jacuzzi แยกกับส่วน Shower และส่วนสุขภัณฑ์ การแบ่งสัดส่วนแบบนี้ทำให้แยกการใช้งานได้ มีความคล่องตัวมากขึ้น เมื่อเข้าห้องน้ำพร้อมกันแถมยังแยกอ่างล้างหน้าแบบ His and Her ให้ด้วย ส่วนด้านนอกจะเป็นแค่ Outdoor Shower เผื่ออยากเปลี่ยนบรรยากาศการอาบน้ำ แต่ต้องแลกกับการอาบน้ำเย็นเพราะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้

ห้องนอนอีก 3 ห้อง Layout ก็จะคล้ายคลึงกันรวมทั้งพื้นที่ของแต่ละห้องด้วย มีห้องน้ำในตัวทุกห้องนอน ส่วนอาบน้ำจะเป็น Shower ไม่มีอ่างอาบน้ำให้

Archilles (78 ล้านบาท/ เนื้อที่ 389.4 ตร.วา/ พื้นที่ใช้สอย 748 ตร.ม.) – 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องคนรับใช้, 4 ที่จอดรถ

ชั้นล่างประกอบด้วยฟังก์ชั่น อาทิ ที่จอดรถ 4 คัน, โถงต้อนรับ ห้องรับแขกและ Glass House, ห้องเก็บของ, ส่วนรับประทานอาหาร, มุมอาหารเช้า และเตรียมอาหาร, ห้องชมภาพยนตร์ม ห้องนอนห้องน้ำ 2 ห้อง

ชั้นบนประกอบด้วย ห้องนอนใหญ่ (ห้องนอน, นั่งเล่นและพักผ่อน, ห้องแต่งตัว, ห้องน้ำและระเบียงห้องน้ำกลางแจ้ง, ระเบียงจัดสวน) ห้องนอน 3 ห้อง พร้อมห้องน้ำและห้องแต่งตัว, ห้องพักผ่อน และโถงกลาง

บ้านสไตล์  Colonial อีกเช่นกันแต่อยู่ฝั่ง North บ้านหลังนี้มาพร้อมของตกแต่งภายในบ้าน เข้าอยู่ได้เลย ยกเว้นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่โครงการไม่ได้มีให้ จากภายนอกตัวบ้านดูใหญ่โต พร้อมสวนด้านหน้าบ้านมีทั้งไม้ยืนต้นและไม้ประดับ จุดเด่นภายนอกคือมีสระว่ายน้ำเชื่อมกับชานไม้สักจริงแล้วเข้าสู่ Glass House เนื่องจากบ้านหลังนี้มีเนื้อที่ค่อนข้างกว้างพอให้สามารถสร้างสระว่ายน้ำได้

โดยชั้นล่างก็จะคล้ายกับแบบบ้านแบบแรก การออกแบบโดยใช้เฟอร์ฯ Quattro Design ผสมผสานระหว่างวัสดุที่ใช้สำหรับการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็กหนัง หินอ่อน ฯลฯ แฝงด้วยรายละเอียดในการออกแบบเฉพาะตัว สิ่งที่แตกต่างจากบ้านแบบแรกคือจะมีห้องทำงานเพิ่มเข้ามาเพื่อเพิ่มความส่วนตัว แบ่งแยกการใช้งานออกไปให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ส่วนรับประทานอาหารโต๊ะยาวไปถึงส่วนเตรียมอาหาร ขนาบข้างด้วยตู้โชว์ขวดไวน์สูงจรดฝ้าเพดาน

ส่วนครัวเป็นแบบ Hybrid Kitchen มีกระจกกั้นเช่นกัน เพื่อไม่ให้กลิ่นอาหารเข้ามาภายในส่วนรับแขก คล้ายกับครัวฝรั่งทำอาหารเบาๆ ข้อดีของการออกแบบ

ลักษณะนี้คือฟังก์ชั่นห้องครัวและส่วนอื่นๆของบ้านดูไม่แบ่งแยกกันทางความรู้สึกและสายตา แต่แบ่งโดย Material มากกว่า

ขึ้นมาชั้นบน ก็จะเป็นส่วน Private ทั้งหมด ที่เพิ่มเข้ามาจะเป็นส่วนพักผ่อนไว้ชั้นบน แต่ทางโครงการทำเป็นห้องพระแทนซึ่งเปิดบานสไลด์และเป็นผนังทึบสามด้าน ทำให้ห้องนี้เหมาะที่จะเป็นฟังก์ชั่นห้องพระหรือจะเป็น Home Theater ก็ยังได้

ห้องนอนชั้นบนมีทั้งหมด 4 ห้องนอน ส่วนอีกห้องอยู่ชั้นล่าง ห้องนอนใหญ่ฟังก์ชั่นครบครันทั้งส่วนนั่งเล่น ทำงาน Walk-in closet และ Outdoor Shower

พร้อมระเบียงกว้างเปิดรับลมชมวิวได้อย่างเต็มตา ภายในห้องนอนตกแต่งอย่างเรียบหรู ห้องน้ำและ Walk-in closet จะไม่มีประตูกั้นเป็นพื้นที่เดียวกันเพียงลดระดับพื้นห้องน้ำลงมา

ห้องน้ำยังคง Full Function เช่นกัน

ส่วนห้องนอนเล็ก ทั้งชั้นบนและล่างก็จะคล้ายกัน มีห้องน้ำให้ทุกห้อง ตกแต่งแต่ละห้องแตกต่างกันออกไป จุดเด่นจะแบ่งส่วนนอนกับห้องน้ำไม่ให้เชื่อมต่อกัน เพื่อเวลาใช้งานจะไม่รบกวนซึ่งกันและกัน โดยส่วนแต่งตัวจะเชื่อมกับห้องน้ำและแบ่งออกไปชัดเจน อารมณ์ประมาณ Pocket closet เล็กๆ

ห้องนอนชั้นบน

ห้องนอนชั้นล่าง

Aquila Manor (88 ล้านบาท/ เนื้อที่ 475.8 ตร.วา/ พื้นที่ใช้สอย 712 ตร.ม.) – 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 2 ห้องคนรับใช้, 7 ที่จอดรถ

ชั้นล่างประกอบด้วย ทีจอดรถ 7 คัน, โถงต้อนรับ ห้องรับแขก, ส่วนรับประทานอาหาร มุมอาหารเช้า และเตรียมอาหาร

ชั้นบนมี  4 ส่วน ห้องนอนใหญ่ (ห้องนอน,นั่งเล่นและพักผ่อน,ห้องแต่งตัว,ห้องน้ำและระเบียงห้องน้ำกลางแจ้ง,ระเบียงจัดสวน), ห้องนอน 3 ห้อง พร้อมห้องน้ำและห้องแต่งตัว และห้องพระ

แบบบ้านนี้อยู่ฝั่ง North เป็นฝั่งแบบบ้านในยุคก่อนหน้า แต่คงไว้ในความคลาสสิคในแบบฉบับ Neo-Spanish ใช้สีครีมอ่อนตัดผสมกับสีน้ำตาลอ่อนค่อนเทา มีทั้งสวนหย่อม น้ำตกและสระว่ายน้ำ จุดเด่นของบ้านนี้มีเรือนรับรองแยกออกจากตัวบ้านโดยเชื่อมด้วยชานไม้จากส่วนรับแขก เรือนรับรองมีห้องน้ำในตัว จะทำไว้เป็นห้องนอนรับแขก ฟิตเนส หรือห้องเอนกประสงค์ต่างๆได้ เพราะแยกออกจากตัวบ้านไม่รบกวนซึ่งกันและกัน

เรือนรับรองที่แยกออกจากตัวบ้านนั้น ทางโครงการได้ทำเป็นเรือนรับรองแขก มีห้องนอนและห้องน้ำภายในตัว ซึ่งจะตอบโจทย์ในเรื่องของเจ้าบ้านที่มีแขกมาพักที่บ้านหรือญาติพี่น้องมาเยี่ยม จะมีความส่วนตัวมากเหมือน Villa หลังหนึ่งในรีสอร์ทหรู เพราะได้วิวสระว่ายน้ำ สวนหย่อมและน้ำตกไปพร้อมกัน ซึ่งหากจะมาใช้ส่วนรับแขกก็ง่ายเช่นกันเพราะทางเชื่อมระหว่างเรือนรับรองอยู่ที่ส่วนรับแขก เชื่อมด้วยชานไม้สักทอดยาวมาถึงทางเข้าของเรือนรับรอง

กลับเข้าสู่ตัวบ้านหลังใหญ่กันบ้าง ภายในบ้านฟังก์ชันเช่นเดียวกับแบบบ้านก่อนหน้านี้ ส่วนรับแขกใหญ่โต มีหลายส่วนทั้งด้านหน้าบ้าน ด้านข้างบ้านที่เชื่อม กับเรือนรับรองเรียกได้ว่ารับแขกได้หลายกลุ่มเลยทีเดียว ส่วนรับประทานอาหารมีตู้โชว์ขวดไวน์สูงจรดฝ้าเพดานเช่นกัน และเชื่อมกับสวนหย่อมชานไม้เล็กๆหลังบ้านได้อีกด้วย สามารถมานำมาใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่ปาร์ตี้นอกบ้านแบบย่อมๆ ได้อย่างสบาย

ส่วนครัวแบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนเตรียมอาหารและครัวไทย ส่วนเตรียมอาหารหรือที่เราเรียกว่าครัวฝรั่งนั่น จะเป็นแบบ Island Kitchen คือมีเค้าน์เตอร์ เตรียมอาหารตรงกลางและรอบล้อมด้วยเค้าน์เตอร์ครัวในรูปตัว L ไปตามผนัง ข้อดีของการทำครัวแบบนี้การมีปฎิสัมพันธ์กันระหว่างการทำอาหาร ทำให้มีพื้นที่การเข้าถึงตัวครัวได้หลายทิศทาง แต่ข้อเสียคือเป็นครัวแบบเปิดมากเกินไป อาจส่งกลิ่นแก่ส่วนพักผ่อนได้ เนื่องจากไม่มีกระจกแบ่งแบบ Hybrid Kitchen เหมือนแบบบ้านสองหลังก่อนหน้านี้

ชั้นบนจะพบกับห้องนอนใหญ่และห้องนอนอีก 3 ห้อง ห้องนอนใหญ่แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ ส่วนพักผ่อน มุมนั่งเล่น และส่วนแต่งตัว ที่เชื่อม กับตัวห้องน้ำที่มี Outdoor Shower และอ่าง Jacuzzi เช่นกัน ซึ่งพื้นที่ให้มาเต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่มีอั้น พร้อมเฟอร์นิเจอร์ทั้งลอยตัวและ Built-in ที่ไม่ว่าจะเก็บของและแขวนเสื้อผ้าก็ตอบโจทย์ได้ทุกรูปแบบการใช้งาน

ส่วนฝั่งห้องนอนอีก 3 ห้อง จะมีห้องทำงานและพักผ่อนอยู่ตรงกลางเป็นบานสไลด์เลื่อนทำให้แสงธรรมชาติเข้าได้จาก 2 ทิศทางคือทางบานเลื่อนและทางหน้าต่างซึ่งเหมาะแก่การทำงาน ภายในห้องนอนแยกส่วนแต่งตัวไปไว้ก่อนเข้าห้องน้ำเสมือนเป็นพื้นที่เดียวกัน แต่แบ่งพื้นที่ด้วยวัสดุปูพื้นและลดระดับพื้นลง

Arcturus Manor (96 ล้านบาท/ เนื้อที่ 555.8 ตร.วา/ พื้นที่ใช้สอย 850.7 ตร.ม.) – 7 ห้องนอน, 9 ห้องน้ำ, 2 ห้องคนรับใช้, 6 ที่จอดรถ

บ้านหลังสุดท้ายนี้ไม่มี Floor Plan มาให้ครับ แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานก็จัดเต็มมากครับ

ชั้นล่างแบ่งออกเป็น 11 ส่วน ที่จอดรถ 6 คัน, โถงต้อนรับ ห้องรับแขก, ส่วนรับประทานอาหาร มุมอาหารเช้า และเตรียมอาหาร, ห้องนอน 2 ห้อง, ห้องน้ำ 3 ห้อง, Glass House Connecting, ครัวไทย, ห้องเก็บรองเท้า, ห้องทำงาน, ห้องชมภาพยนตร์, ส่วนคนรับใช้ (ห้องนอน 2 ห้อง และห้องน้ำ)

ชั้นบนแบ่งเป็น ห้องนอนใหญ่ (ห้องนอน,ห้องนอนเล็ก พร้อมห้องน้ำ,นั่งเล่นและพักผ่อน,ห้องแต่งตัว,ห้องน้ำ ห้องสตรีม และระเบียงห้องน้ำกลางแจ้ง,ระเบียงจัดสวน) ห้องนอน 4 ห้อง พร้อมห้องน้ำและห้องแต่งตัว

แบบบ้านตัวท็อปสุดของโครงการนี้ สไตล์ Neo-Spanish จัดเต็มทั้งภายในและภายนอก จุดเด่นคือมี Drop off ตรงทางเข้าบ้านหลักและ Glass House Connecting เชื่อมระหว่างตัวบ้านสู่เรือนรับรองอีกหลังโดยที่ไม่ต้องออกไปข้างนอกเหมือนบ้านก่อนหน้านี้ ซึ่งโซนนี้มีสระว่ายน้ำอยู่ด้านนอก สระว่ายน้ำขนาดใหญ่สามารถจัด Pool Party ได้อย่างสบาย พร้อมศาลาเรือนไทยภายในสวน ทำให้กิจกรรมนอกบ้านของครอบครัวเป็นส่วนเดียวกัน ด้วยพื้นที่ที่ตอบรับกับทุกวัย

ตัดเข้ามาจุดเด่นของบ้านหลังนี้กันบ้าง คือ Glass House connecting นั่นเอง ภายในตัวกลาสเฮ้าส์มีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ แลดูเหมือนบาร์ชั้นหรูในโรงแรมชั้นนำ มีเปียโนหลังใหญ่ไว้คอยบรรเลงเพลง เคาน์เตอร์หินอ่อนที่สามารถส่องสว่างได้โดยมีบาร์อยู่ปลายสุด ทำให้วันธรรมดาของครอบครัว เป็นวันพิเศษได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องออกจากบ้านแม้แต่ก้าวเดียว

ถัดมาเป็นเรือนรับรองที่ต่อเนื่องมาจากส่วน Connecting Glass House ซึ่งมีห้องน้ำในตัว ห้องนอนเปิดรับวิวสระว่ายน้ำและสวนได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ เหมือนมี Pool Villa อยู่ภายในบ้าน

พื้นที่ส่วนรับแขกอยู่บริเวณตรงกลางบ้าน ต่อเนื่องมาจาก Drop Off มีพื้นที่นั่งเล่นตามมุมต่างๆ เพื่อเปิดรับวิวสระว่ายน้ำด้วยเช่นกัน หากเดินเข้ามาจากทางเข้าหลักของบ้านก็จะพบกับโถงต้อนรับ ขนาดสูงโปร่งอยู่คู่กับบันไดไม้จริงคล้ายห้อง Duplex  และสามารถเข้ามาส่วนรับประทานอาหารได้เลย โดยไม่ต้องผ่านส่วนรับแขก ประดับด้วย Chandelier บนเพดานยาวขนานไปทั้งโต๊ะรับประทานอาหาร ฝั่งตรงข้ามส่วนรับประทานอาหาร จะเป็นส่วนเตรียมอาหาร เป็นแบบครัวเปิดแต่มีกระจกกั้น เพื่อไม่ให้กลิ่นอาหารเล็ดลอดออกไป เน้นให้คนในครอบครัวมีกิจกรรมทำอาหารร่วมกัน และยังมีมุม Breakfast เล็กๆไว้ หากเมื่อใดที่ทานข้าวคนเดียวหรือจำนวนคนไม่มากก็ไม่จำเป็นต้องใช้โต๊ะใหญ่กลางบ้าน เปิดรับวิวสวนและแสงธรรมชาติในยามเช้าได้เป็นอย่างดี

พื้นที่ความสุขของบ้านหลังนี้ยังไม่หมด ซึ่งต้องบอกว่าตัวบ้านยาวมากถ้าจากตัว Glass House มาส่วนครัวก็เหนื่อยเอาการอยู่เหมือนกัน แต่ละส่วนก็จะมีมุมนั่งเล่นไว้ให้ผ่อนคลายให้หายเหนื่อยได้ มาถึงส่วนนี้จะเป็นส่วนทำงานที่อยู่ลึกเข้าไปแต่ ไม่มีบานประตูหรือบานเลื่อนปิด เพื่อทำให้ห้องไม่ดูอึดอัดจนเกินไป

เยื้องๆ ห้องทำงานจะเป็นสวรรค์ของคุณผู้หญิงเลยก็ว่าได้คือห้องเก็บรองเท้าห้องใหญ่ ที่จริงแบบบ้านก่อนหน้านี้ทุกหลังมีห้องเก็บรองเท้า แต่ห้องเก็บรองเท้าบ้านหลังนี้ บ่งบอกถึงความเป็นที่สุดของห้องเก็บรองเท้าได้มากกว่า ด้วยพื้นที่เก็บรองเท้าเต็มผนังทั้งสองฝั่ง และมีที่นั่งให้ใส่รองเท้าก่อนออกจากบ้านได้เลย

อีกส่วนสำคัญที่ทุกคนชื่นชอบคือ ห้องโฮมเธียเตอร์ ทางโครงการได้วางเฟอร์นิเจอร์ไว้ให้หมดแล้ว เหลือเพียงนำจอทีวีอันโปรดมาตั้งวาง ก็ไม่ต้องออกไปให้รถติด เพื่อไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ มีความสุขง่ายๆ ได้ที่บ้านหลังนี้ทีเดียวจบ

ห้องนอนชั้นล่าง

ขึ้นมาชั้นบนก็จะพบกับระเบียงเข้าสู่ห้องนอนทั้งหมด และที่เพิ่มเข้ามาคือห้องอเนกประสงค์ จะทำเป็นห้องพระหรือมุมนั่งเล่นก็ยังได้ โดยห้องนอนใหญ่แบ่ง ออกเป็น 4 ส่วน คือ ห้องนอน พื้นที่นั่งเล่น ห้องอเนกประสงค์ และ Walk-in closet โดยใช้บานเลื่อนเป็นตัวแบ่งโซนห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ ห้องอนกประสงค์ที่ว่านี้ อาจจะใช้เป็นห้องนอนสำหรับเจ้าตัวเล็ก หากคุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงอยากดูแลแบบใกล้ชิดก็สะดวกสบายดี เพราะมีห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วนไปเลย ส่วนห้องนอนใหญ่ก็จะมีบานกระจกใหญ่รับแสงตอนเช้าได้อย่างดี

ตัดมาดูภายในห้องน้ำประกอบไปด้วยส่วนอาบน้ำ ทั้ง Shower และ Jacuzzi ส่วน Outdoor shower และไฮไลท์ก็คือห้อง Stream เรียกได้ว่าครบครันเลยทีเดียว อีกทั้งห้องน้ำมีกระจกเกือบรอบด้าน รับแสงแดดเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้ห้องน้ำไม่อับชื้น ระบายอากาศได้ดีอีกด้วย

ห้องนอนชั้นบนอีก 4 ห้องฟังก์ชันก็คล้ายกัน แต่ละห้องจะแฝงด้วยรายละเอียดของการออกแบบไว้เฉพาะตัว อย่างเช่นห้องนอนนี้จะมี Glass House เล็กๆยื่นออกมา เพื่อเปิดรับวิวและแสงให้ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น อีกห้องหนึ่งถือว่าเป็นห้องนอนใหญ่อีกห้องเลยก็ว่าได้ รองรับได้อีก 1 ครอบครัวในบ้านหลังเดียวกัน หากครอบครัวของขยับขยายขึ้นมาก็ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว เพราะพื้นที่กว้างขวาง สามารถจัดฟังก์ชั่นเพิ่มเติมได้สบายมาก

ทางโครงการได้ใส่ใจด้านความปลอดภัยจึงติดตั้งระบบ Shock Sensor & Magnetic เป็นระบบสัญญาณกันขโมยทุกประตูและหน้าต่างทั่วทั้งหลัง พร้อม Control Panel แสดงจุดผิดสังเกตในบ้าน ไว้ที่ห้องนอนใหญ่ของทุกหลัง และสามารถสั่งการด้วยระบบ Intercom ระหว่างบ้านและศูนย์รักษาความปลอดภัยส่วนกลาง หากมีเหตุฉุกเฉินก็สามารถเรียก รปภ. ได้ตลอดเวลา 24 ชม.

เหตุที่ราคาขายโครงการบ้านเดี่ยวในย่านราชพฤกษ์มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากถนนราชพฤกษ์เป็นถนนตัดใหม่ผ่านพื้นที่สวนดั้งเดิม ทำให้ที่ดินที่ถนนนี้ตัดผ่านกลายเป็นทำเลทองอีกแห่งของกรุงเทพมหานคร มีนายหน้า นักลงทุน นักการเมืองเข้ามากว้านซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไรกันต่อเนื่องทำให้ราคาที่ดิน พุ่งขึ้นไม่หยุดจากที่ในช่วงแรกๆ ที่ยังมีผู้ประกอบการเปิดขายโครงการทาวน์โฮมหรือบ้านเดี่ยวราคาไม่แพงหลายโครงการ แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีแต่โครงการที่อยู่อาศัยราคาแพงทั้งนั้นที่สามารถพัฒนาเพื่อขาย เนื่องจากราคาที่ดินริมถนนใหญ่ราชพฤกษ์นั้นปรับตัวสูงขึ้นหลายเท่าตัว

พื้นที่ตามแนวถนนราชพฤกษ์ยังเหมาะที่จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครชั้นใน เมื่อเทียบกับพื้นที่ชานเมืองอื่นๆ เพราะว่าสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ในระยะเวลาไม่นาน ซึ่งเป็นเพราะว่าถนนราชพฤกษ์ตัดผ่านหรือเชื่อมต่อถนนสายหลักหลายสายที่ เชื่อมต่อเขตกรุงเทพมหานครชั้นในและชั้นกลางกับถนนวงแหวนรอบนอก (กาญจนาภิเษก) เช่น ถนนเพชรเกษม รัตนาธิเบศร์ ถนนบรมราชชนนี ถนนนครอินทร์ และทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก เป็นต้น และในอนาคตจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากสถานีบางหว้า รถไฟสายสีส้ม ตลิ่งชัน-มีนบุรี และรถไฟสายสีแดง ตลิ่งชัน – บางซื่อที่น่าจะช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้น

การที่ราคาที่ดินบนถนนราชพฤกษ์สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีแต่โครงการบ้านเดี่ยวที่มีราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 5 ล้านบาทขึ้นไปถึงประมาณ 120 ล้านบาทต่อหลังเท่านั้น ที่สามารถเปิดขายโครงการบนถนนราชพฤกษ์ได้ โครงการขนาดเล็กหรือว่าโครงการทาวน์เฮ้าส์ที่มีราคาไม่สูงเกินไปจะขยับออกไป จากถนนราชพฤกษ์โดยการเลือกซื้อที่ดินในซอย หรือถนนสายรองที่แยกจากถนนราชพฤกษ์อีกที ซึ่งที่ดินยังมีราคาถูกกว่าและสามารถพัฒนาโครงการราคาไม่สูงได้

ทาง QH เล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลราชพฤกษ์จึงตัดสินใจเปิดโครงการทุก Segment บนถนนเส้นนี้โดยเฉพาะ เนื่องถนนราชพฤกษ์มีเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกรุงเทพมหานครชั้นนอกและปริมณฑลสู่ย่านสาทร สีลม และทางด่วน ซึ่งเอื้อเฟื้อสำหรับการเดินทาง

สังเกตได้ว่าหากโครงการไหนระยะทางยิ่งห่างจากสาทรน้อยเท่าไหร่ ราคาขายก็จะสูงตามไปด้วย จะมีแค่ 2 โครงการของ Q House เท่านั่น คือ Q TWEVLE ราคาร้อยกว่าล้านและ Q House Avenue ที่มีระยะทางไม่ไกลมาก ทำให้ราคาที่ดินแพงที่สุด และกลุ่มคนที่มีกำลังพอที่จะซื้อนั้นเป็นกลุ่มครอบครัวใหญ่ ที่ยังคงมีสมาชิกในครอบครัวเป็นเจ้าของกิจการที่ต้องดูแลในเมืองหรือพื้นที่โดยรอบ ดังนั้นความสะดวกสบายในการเดินทางจึงต้องมาควบคู่กับสถานะทางสังคม

โดยรวมของโครงการถือว่าเป็นบ้านหลังใหญ่ที่เหมาะกับครอบครัวใหญ่หรือครอบครัวที่มองหาบ้านสำหรับการขยับขยายในอนาคต พื้นที่ที่ให้มากกว่า ทั้งพื้นที่ภายในและภายนอก พื้นที่กิจกรรม สระว่ายน้ำ สวน น้ำตก ให้เราได้เพลิดเพลินมีความสุขกับบ้านอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องออกไปไหน ใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ก็ยังสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกสบายหลากหลายเส้นทาง

โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะมีกิจการอยู่ในเมือง เช่น ย่านเยาวราช สำเพ็ง ระดับผู้บริหารทำงานย่านสาทร สีลม มีหรือมีกิจการในจังหวัดนนทบุรีต้องดูแลโรงงานเพราะโครงการอยู่ใกล้กับเส้นทาง Logistic ที่สำคัญของกรุงเทพฯ คือ ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก หากคุณกำลังมองหาโครงการที่ไม่เพียงตอบโจทย์เพียงแค่รูปแบบบ้าน ความสะดวกสบายอย่างครบครัน และการเดินทางที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคุณ และยังมอบสถานะทางสังคมที่เหนือกว่าให้แก่คุณด้วย ที่ Q House Avenue ราชพฤกษ์ – พระราม 5 บ้านสไตล์เรียบหรู มีระดับ ราคาเริ่มต้น 20-90 ล้านบาท ก็น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจของคุณครับ