Hudson River แม่น้ำสายสำคัญที่โอบล้อมเขต Manhattan,New York ศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นทั้งที่ตั้งของหน่วยงานสำคัญๆ มากมาย อย่าง ตลาดหุ้นวอล์สตรีท องค์การสหประชาชาติ รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของแหล่งช้อปปิ้ง ที่มีชื่อเสียงอย่าง 5th Avenue รายล้อมด้วยอพาร์ตเมนต์หรู ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร ระดับ High End

ถ้าหันกลับมามองกรุงเทพฯ ย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญก็คงหนีไม่พ้น สาทร ที่เป็นที่ตั้งของย่านธุรกิจ ที่มีความสำคัญ สถานทูต หรือแม้แต่ย่านที่พักอาศัยชั้นดีของผู้ดีเก่า ก็ล้วนตั้งอยู่บนถนนสาทรสายนี้ ที่เชื่อมโยงการเดินทางสู่พื้นที่อื่นๆของกรุงเทพฯได้อย่างสะดวก B.P. Property จึงเลือกพื้นที่ศูนย์กลางเมืองแห่งนี้ให้เป็นที่ตั้งของ The Hudson Sathorn 7 ที่เปรียบเสมือนแม่น้ำ Hudson สายสำคัญใจกลางเมือง Manhattan ที่เชื่อมโยงคุณภาพแห่งการอยู่อาศัยและคุณค่าแห่งทำเลศักยภาพไว้ในที่แห่งเดียว ให้ผู้อยู่อาศัยมีคุณภาพชีวิตที่เหนือระดับจากเอกสิทธิ์รอบด้านในการใช้ชีวิตแบบ High Quality

The Hudson Sathorn 7 ตั้งอยู่ในซอย สาทร 7 แยก 3 (หลังสถานทูตสิงคโปร์ และโครงการ The Met) ที่ตั้งของบ้านผู้ดีเก่าหลากหลายตระกูล ที่มีความสงบเงียบ private สูง ไร้ความวุ่นวายบนถนนสาทร

The Hudson Sathorn 7 เป็นโครงการ Renovate อาคารเก่า ที่เป็นอพาร์ทเมนต์ให้เช่า ด้วยconcept การออกแบบ style New York & Metropolitan urban living คือ เรียบหรู ดูดี จึงเรียกได้ว่าเปลี่ยนโฉมและสร้างชีวิตใหม่ให้กับย่านที่พักอาศัยชั้นดีในย่านนี้อีกแห่งหนึ่ง และที่สำคัญเป็นโครงการพร้อมอยู่อาศัย

ภาพอาคารอพาร์ทเมนท์เก่าก่อนการ Renovate

จริงๆแล้ว The Hudson Sathorn 7 เปิดขายมาตั้งแต่ต้นปี 2558 และเป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนเปิดขาย เป็นโครงการ Mid Rise กลางซอยสาทร 7 ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก ด้วยจำนวนห้องเพียงแค่ 49 ยูนิต อาคารสูง 12 ชั้น บนที่ดิน 1 ไร่ มาพร้อมที่จอดรถ 150% หรือ 94 คันแบบรวมซ้อนคัน แถมส่วนใหญ่โถงทางเดินเป็น Single Corridor เกือบทุกยูนิตเลย เรียกว่าใครชอบอยู่กลางเมือง แต่ต้องการชีวิต private เพื่อนบ้านน้อย ที่นี่น่าจะตอบโจทย์ เพราะดูจากการขายที่ส่วนใหญ่ขายไปแล้ว (โอนครบ) ปัจจุบันเหลือเพียง 7 ยูนิต แบ่งเป็นห้องแต่งครบขายเฟอร์ฯยกห้อง 2 ยูนิต และห้องเปล่า อีก 5 ยูนิต เป็นห้อง 1Bedroom 1 ห้อง และ 3 Bedroom 4 ห้อง

ตัวโครงการตั้งอยู่บนซอยสาทร 7 แยก 3 หันหน้าอาคารที่ทิศใต้ เป็นวิวที่พักอาศัยในซอย ด้านหลังเป็นทิศเหนือ ติดวิวบล็อคของคอนโด The Met ส่วนทิศตะวันออกก็เป็นวิวที่พักอาศัยในซอยด้านในเช่นกัน ส่วนด้านทิศตะวันตก จะเป็นวิวด้านแยกช่องนนทรี ซึ่งก็จะโดน ตึก Asia Centre และ สาทรซิตี้ บนถนนสาทรบล็อกวิวระยะไกล

วิวทิศใต้ประมาณชั้น 6 สามารถมองเห็นได้ไกลถึงถนนพระราม 3

เรามาดูห้องแรกที่ลากกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย เพราะทุกอย่างที่เห็น ทางโครงการให้ทั้งหมด
ห้องนี้เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 200 Sq.m. ที่ชั้น 2 ชั้นเดียวกับ Lobby และทั้งชั้นมีห้องนี้เพียงห้องเดียว

มีที่จอดรถ Fix parking ให้ 1 คัน

จากโถงลิฟท์ต้องผ่านประตูส่วนกลางระบบ Key card ก่อนถึงโถงทางเดินเข้าสู่ตัวห้อง

เนื่องจากเป็นการ Renovate อาคารอพาร์ทเม้นท์เก่า โดยใช้โครงสร้างเดิมบางส่วน ทำให้โถงทางเดินจึงกว้างถึง 2 เมตร ตามรูปแบบ โถงทางเดินของอพาร์ทเม้นต์เก่า ทำให้กว้างและไม่ดูอึดอัด และถึงแม้จะเป็นอาคารเก่า แต่งานระบบ ก็เดินและจัดทำใหม่ทั้งหมด โดยใช้วิธีฝังผนังแทน เพื่อไม่ให้เสียความสูงของเพดาน

หน้าทางเข้าห้อง มีพื้นที่หลบเข้าไปจากผนังทางเดิน เพื่อสร้างความ privacy ให้กับตัวห้อง แต่พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ไม่ได้นับรวมในพื้นที่ขายในยูนิต (ผมเห็นบางห้องก็ทำชั้นวางรองเท้าบริเวณนี้ครับ)

ห้อง 2 ห้องนอนนี้ แบ่งเป็น ห้องนอนใหญ่ที่ปีกด้านซ้าย ห้องนอนเล็กที่ปีกด้านขวา ทั้งสองห้องมีห้องน้ำในตัว เชื่อมกันด้วยพื้นที่กลาง อย่าง Living area มีห้อง maid ที่แยกทางเข้าออกเฉพาะ เป็นสัดส่วน

วิวของห้องนี้สามารถเห็นได้จากทั้งห้องนั่งเล่น และทั้ง 2 ห้องนอน คือวิวด้าน The Met เป็นด้านหลังโครงการ

ประตูทางเข้าเป็นระบบ digital door lock แบบ Key Card ของ KABA

เมื่อเข้ามา จะพบพื้นที่ Living ที่กว้างขวาง ไล่ความสูงด้วย Step เพดานเล่นระดับ ที่บริเวณทางเข้า drop ฝ้าเพื่อเป็นช่องแอร์

ภายในห้อง ตกแต่งด้วยโทนสี Earth tone ทั้ง wallpaper และ furniture พื้นที่ Living เชื่อมกับประตูระเบียงที่ให้มากว้างและสูง จากเสาถึงเสา และจากพื้นจรดเพดาน พื้นที่ living มาพร้อม set sofa 5 ที่นั่ง โต๊ะกลางเป็นไม้สีน้ำตาลเข้ม เข้าชุดกับชั้นวางทีวี และโต๊ะเล็กๆไว้วางของเวลานั่งให้หยิบจับได้อย่างถนัดมือ

พื้นห้องทั้งหมด ปูด้วย Engineer wood หน้าไม้สัก 12 มิล ที่บานประตูมีมู่ลี่และผ้าม่านที่เก็บเข้าร่องระหว่างชั้นเพดาน

ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับ pantry ครัว ที่มีเคาท์เตอร์และ set ครัวเข้ามุมเป็นตัว L

เคาท์เตอร์กลางเป็นทั้งตู้เก็บของ2ด้าน ที่ปู Top ด้วยหินสังเคราะห์แบบพิเศษ ที่ใช้หั่น สับ ทำกับข้าวบน Topของ เคาท์เตอร์ได้เลย ด้านหลังเคาท์เตอร์เป็น Furniture Build in เจาะช่องให้ตู้เย็นบานเปิดแบบ 2 ประตู พร้อมไมโครเวฟ และเตาอบแบบฝังลง furniture

ถัดไปเป็นเคาท์เตอร์เข้ามุม มีเตาไฟฟ้า 4 หัวฝังเสมอ Top หิน พร้อมที่ดูดควันด้านบน และอ่างล้างจานแบบ 2 ช่อง เล็ก ใหญ่ เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดที่โครงการคัดสรรให้เป็นของ Electrolux ทั้งหมด

ห้องนั่งเล่นมีกระจกบานใหญ่เต็มผนัง เป็นประตูบานเลื่อน สามารถเปิดสู่ระเบียงกว้าง กว้างมากจริงๆ เกือบ 2 เมตร ที่เชื่อมยาวจากห้องนั่งเล่นสู่ห้องอาหาร ด้านล่างเป็น ทางเข้าออกที่จอดรถของโครงการ

ด้านขวาของห้องนั่งเล่น เป็นส่วนของห้องอาหารสำหรับ 6 คน ตกแต่งด้วยเก้าอี้สีส้ม เพิ่มความสดใส สีสันให้กับห้องอาหาร พร้อมโคมไฟประดับทรงยาวลดพื้นที่สูงของเพดานให้เป็นโต๊ะอาหารสำหรับครอบครัวที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น

มีประตูบานเลื่อนเปิดสู่ระเบียงที่เชื่อมยาวสู่ห้องนั่งเล่น และประตูสำหรับระเบียง service เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และ compressor แอร์ที่แบ่งเป็นสัดส่วนแยกจากระเบียงห้อง

ด้านขวาของห้องนั่งเล่นมีห้องน้ำสำหรับพื้นที่ Living area ที่ด้านซ้ายหลังผนังประตูทางเข้า มีโถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างมือ พร้อมกระจกติดผนัง ให้setสุขภัณฑ์ Kohler ทั้งหมด ติดกันมีการจัดแบ่งพื้นที่ห้องเก็บของไว้ให้

ถัดจากห้องทานอาหารเป็นทางเข้าห้องนอนเล็ก ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล เทา มาพร้อมหน้าต่างกระจกเต็มผนัง

หัวเตียงมีตู้เก็บของสไตล์โมเดิร์นตั้งอยู่สำหรับวางของทั้ง2ด้าน

ปลายเตียงมีโต๊ะตัวยาว เป็นที่วางของ ตั้งกรอบรูป หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นมุมทำงานในบางเวลาก็ได้ แต่อาจต้องใช้เก้าอี้ไม่มีพนักพิง เพื่อให้พอกับ space ปลายเตียง

ด้านขวาของเตียง เป็นตู้เสื้อผ้า Build in สูงจรดเพดาน 2 ตู้ ให้พร้อมไฟเมื่อเปิดปิดตู้ ด้านข้างมีกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานเป็นมุมแต่งตัวเชื่อมกับทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำปูด้วยแกรนิตโตนำเข้า แบ่งส่วนเปียกแห้ง ด้วย shower box พร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower

เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นเคาท์เตอร์ยาว ตกแต่งพร้อมกับกระจกบานยาวจากผนังถึงผนัง นอกจากเหมาะสำหรับผู้ใช้งานแล้ว ยังเป็นการตกแต่งให้ห้องน้ำดูโปร่งและกว้างขึ้น

ถัดมาที่ปีกซ้าย เป็นพื้นที่ห้องนอนใหญ่ ตกแต่งด้วยโทนสี earth tone เช่นเดียวกับห้องนั่งเล่น แต่เพิ่มสีสันด้วยโทนส้ม น้ำตาล โครงการตกแต่งด้วย เตียง King Size และโซฟาปลายเตียง สำหรับนั่งพัก ดูทีวี

ห้องนอนโดยเฉลี่ยทั่วห้องสูง 2.8 m แต่มีส่วนบริเวณทางเข้าที่เป็นเพดาน drop แอร์ลงมา สูงอยู่ที่ 2.6 m หัวเตียงมีโต๊ะลิ้นชักเตี้ยวางให้ทั้ง2ฝั่ง และตกแต่งมุมหัวเตียงด้วยกระจกทำให้พื้นที่มุมอับ ดูสว่างและทำให้ห้องดูกว้างเพิ่มขึ้น

ข้างโซฟาปลายเตียง ตกแต่งเป็นมุมทำงาน อ่านหนังสือ ที่มีแสงสว่างจากกระจกบานใหญ่ทั้งสองบานส่องถึงทั้งโต๊ะทำงานและเตียงนอน
รวมทั้งพื้นที่แต่งตัว

ที่ Build in เป็นชั้นและผนังกั้นส่วนห้องนอนและห้องแต่งตัว ด้านขวาส่วนกั้นห้องนอน เป็นตู้เสื้อผ้า 3 ตู้ พร้อมไฟเมื่อเปิดประตูตู้เสื้อผ้า

ส่วนด้านซ้ายเป็นลิ้นชักและตู้เก็บผ้า รวมทั้งเคาท์เตอร์เครื่องแป้ง ที่ตั้งให้ใกล้บานหน้าต่าง ได้รับทั้งแสงธรรมชาติ และแสงไฟ เหมาะกับการใช้งานสำหรับคนรักการแต่งตัว

พื้นที่แต่งตัวเชื่อมต่อกับประตูห้องน้ำ ที่ให้ห้องน้ำมากว้างขวาง พอๆกับห้องนอน ตกแต่งด้วยแกรนิตโต้นำเข้า แบ่งสัดส่วนเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ที่มีอ่างอาบน้ำแบบ Spa และ Shower Box กระจกบานสวิง พร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower พร้อมช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำในผนัง ด้านขวาติดผนังเป็นอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกติดผนัง

ด้านซ้ายเป็นพื้นที่สุขภัณฑ์เข้ามุม ดูแคบและอึดอัดไปหน่อย แต่ก็เป็นสัดส่วนใช้ได้ สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ Kohler

อย่างที่ตอนต้นได้บอกไปว่ามีการจัดพื้นที่ห้อง Maid ให้แยกเฉพาะ อยู่บริเวณห้องทานอาหาร ที่มีประตูเปิดจากภายนอกสู่ห้อง Maid และมีห้องน้ำในตัว แบ่งพื้นที่เข้าออกและพื้นที่ใช้งานออกจากกัน

ราคาห้องนี้รวมตกแต่งก็อยู่ที่ตารางเมตรละ 129,000 บาท รวมๆก็อยู่ที่ 26 ล้าน

ห้องที่สองที่ตกแต่งพร้อมขาย อยู่ที่ชั้น 4

เป็นห้อง 3 Bedroom ขนาด 162 Sq.m. ห้องนี้เป็นห้องสุดทางเดินด้านทิศตะวันออก

ห้องนี้เป็นห้อง 3 ห้องนอน แต่ทางโครงการตกแต่งให้เป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องทำงาน จึงทำให้เป็นการแบ่งโซนพักผ่อนอย่างห้องนอนอยู่โซนด้านซ้ายของห้อง และพื้นที่กิจกรรม พื้นที่กลางอยู่ทางด้านขวาของห้อง

สไตล์การตกแต่งห้องนี้เป็นแบบ Grey Vintage ออกหรูนิดๆ

จากทางเข้าเปิดเข้ามาจะเป็นโต๊ะอาหารสำหรับ 6 คน แต่งผนังด้านข้างด้วยกระจกบานใหญ่ ทำให้มุมอาหารดูโล่ง กว้าง เป็นโต๊ะอาหารที่มีทั้งเก้าอี้นั่ง และเก้าอี้บุนวมตัวยาว นั่งได้ 2-3 ที่

พื้นที่โต๊ะอาหารเชื่อมต่อกับ Living area ที่สามารถใช้แชร์ร่วมกันได้ และมีมุมมองเชื่อมต่อไปยังระเบียงด้านนอก

พื้นที่ Living area ที่ตกแต่งด้วยชุดโซฟาโทนขาว เทา เข้ากับ Wallpaper สีเทา ตัดกับพื้นไม้ Engineering wood หน้าไม้สัก 12 มิล

มีโซฟาวางติดผนังห้อง สำหรับ 4 คน ล้อมโต๊ะรับแขกTopขาว ขาโปร่งตัดด้วยสีทอง โอบล้อมSpaceพักผ่อน หันเข้าหาชั้นวางทีวีตัวสูง ที่สามารถใช้เป็นชั้นเก็บของได้

ตกแต่งห้องด้วยโคมไฟห้อยติดเพดาน และโคมไฟตั้งพื้น สีขาว และฉากหลังโซฟาแบบบานพับสีขาวเหลือบเงิน ตัดโทนสีเทาของห้อง แต่ก็ยังคงตีมเดียวกันอยู่

ปลายห้อง Living area เป็นประตูกระจก 3 ตอนเชื่อมต่อกับระเบียง กั้นพื้นที่ด้วยผ้าม่าน 2 ชั้น ที่เก็บเข้าฝ้า แต่เสียดายที่น่าจะทำประตูเปิดให้เต็มผนัง น่าจะได้ความโปร่งมากกว่านี้

ห้อง Living ฝ้าดรอป เก็บแอร์รวมสำหรับห้องนั่งเล่น

ด้านขวาของห้องเป็นห้องทำงาน จุดขายคือ Bay window ที่สามารถชมวิวได้มุมกว้าง ทั้งวิวด้านซอยสาทร7 และวิวสระว่ายน้ำของโครงการ ตกแต่งด้วยมู่ลี่และผ้าม่านที่เก็บเหนือฝ้า

กลางห้องตั้งโต๊ะทำงานและเก้าอี้นวมสุดหรู หันหน้าสู่วิวสระน้ำ

อีกมุมห้องเป็นโซฟาตัวกว้างไว้เอนหลัง ยามพักจากการทำงาน ที่ยังคงตีมสี เทา น้ำตาลอ่อนไว้อยู่

ติดทางเข้าห้องทำงาน มีประตูบานเลื่อนไม้เป็นทางเข้า pantry ที่เป็นระบบครัวปิด แยกสัดส่วน

ภายในเป็นพื้นที่ใช้งาน เป็น Furniture Build in รูปตัว U มีหน้าต่างชมวิวด้านสระว่ายน้ำ ด้านขวาเว้นพื้นที่เป็นที่ตั้งตู้เย็นบานเปิดแบบ2ประตู

ถัดมาเป็นเคาท์เตอร์ปูTopด้วยหินสังเคราะห์แบบพิเศษ ที่ใช้หั่น สับ ทำกับข้าวบน Top ของเคาท์เตอร์ได้เลย เจาะเป็นอ่างล้างจานแบบ 2 ช่อง เล็ก ใหญ่ เชื่อมเข้ามุมยาว ด้านล่างเจาะช่องพอดีสำหรับเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า

เชื่อมเข้ามุมกลับมาอีกด้านของห้อง มีเตาไฟฟ้า 4 หัวฝังเสมอ Top หิน พร้อมที่ดูดควันด้านบนที่เก็บเข้ากับชั้นติดผนัง ด้านซ้ายเจาะช่องสำหรับไมโครเวฟ และเตาอบแบบฝังลง furniture ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดที่โครงการให้เป็นของ Electrolux ทั้งหมด

มาถึงโซนด้านซ้ายของห้องที่เป็นส่วนของห้องนอน ห้องซ้ายมือห้องแรกเป็นห้องน้ำ ที่เชื่อมพื้นที่Living area และตรงข้ามเป็นห้องนอนเล็ก ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยแกรนิตโต้นำเข้า แบ่งพื้นที่ส่วนแห้ง เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าที่มาพร้อมกระจกบานยาว จากผนังถึงผนัง แบบฝังไฟส่องสว่าง แยกส่วนเปียก ที่มาพร้อม Shower box พร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower ให้ set สุขภัณฑ์ Kohler ทั้งหมด

ตรงข้ามเป็นห้องนอนเล็ก ตกแต่งด้วยโทนสีม่วง ชมพู มาพร้อมหน้าต่างกระจกเต็มผนัง

เตียงที่ให้มาเป็นเตียงKing size แบบหัวเตียงสูง สไตล์ผู้หญิงๆ ปลายเตียงเป็นโต๊ะยาว ใช้ตั้งทีวี หรือใช้เป็นมุมคิดงานบางเวลาก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพราะมาพร้อมเก้าอี้นั่งสบายๆ ด้านข้างเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า พร้อมไฟเปิดปิดเมื่อมีการใช้งาน Build in 2 ตู้ สูงจากพื้นจรดเพดาน ภายในห้องนอนเป็นแอร์ติดผนัง

ถัดมาเป็นพื้นที่ห้องนอนใหญ่ ตกแต่งด้วยโทนสีเทา เช่นเดียวกับห้องนั่งเล่นและห้องทำงาน

เข้ามาสู่ห้องนอนใหญ่จะเจอส่วนพื้นที่แต่งตัวที่Build in ตู้เสื้อผ้าไว้ทั้ง2ด้านของทางเดิน เป็นตู้สูงจรดเพดาน จำนวน 4 ตู้

บวกกับอีก 1 ตู้ ที่ปากทางเข้าห้องน้ำ สุดทางเดิน ตู้เสื้อผ้ามาพร้อมไฟเมื่อเปิดประตูตู้เสื้อผ้า

ถัดมาเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ที่เป็นลิ้นชักวางบนโครงขาสีทอง พร้อมเก้าอี้นวมไม่มีพนักพิง ด้านหน้าเป็นกระจกบานยาว มีกรอบกระจกแบบวินเทจ เรียบๆ เพิ่มแสงด้วยไฟโคม2ด้าน ไว้ใช้งานเวลาแต่งตัว

พื้นที่แต่งตัวเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ที่ให้ห้องน้ำมากว้างขวาง ตกแต่งด้วยแกรนิตโต้นำเข้า

แบ่งสัดส่วนเป็นพื้นที่อ่างอาบน้ำ ไว้ที่ด้านขวาของห้องน้ำ

ด้านซ้ายเป็น Shower Box กระจกบานสวิง พร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower ติดกันเป็นอ่างล้างหน้า2ชุดพร้อมกระจกติดผนังยาวจากShower box มาจรดฝาผนัง

ด้านหลังเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นพื้นที่ห้องน้ำ พร้อมประตูกระจกเปิดปิด ทั้งหมดในห้องน้ำสุขภัณฑ์เป็นของ Kohler

มาถึงห้องนอนใหญ่ เป็นพื้นที่เข้ามุม Private ตั้งเตียง King size สีเทาเข้ม พร้อมลิ้นชักหัวเตียงทั้ง2ด้าน ปลายเตียงมีโซฟาเล็กไว้นั่งชมวิวริมระเบียง

ประตูกระจกปลายเตียงเป็นกระจกยาวต่อเนื่องเข้ามุม และสุดระเบียงตัวL กว้าง 1.2 m ที่ด้านมุมระเบียงเป็นที่เก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ ของทั้ง 3 ห้อง

แต่น่าเสียดายที่เปิดมุมกระจกแต่น่าจะเปิดผ้าม่านได้รอบแบบไม่ติดขัด น่าจะเห็นวิว ดีขึ้นไม่มากก็ไม่น้อย

ด้านซ้ายของเตียงมีมุมห้องที่วางแอร์ติดผนัง และชั้นโชว์ของไว้ จริงๆ ถ้าใครจะปรับเป็นพื้นที่ มุมทำงานเล็กๆ พื้นที่นี้ก็กว้างพอที่จะใช้งานได้

ราคาห้องนี้รวมตกแต่งก็อยู่ที่ตารางเมตรละ 170,000 บาท รวมๆก็อยู่ที่ 27.55 ล้านบาท

ห้องแบบ Partly Furnished

ถัดไปจะเป็นห้องที่ไม่ได้ตกแต่งพร้อมอยู่ แต่ Build in และให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเข้า Set มา และก็ถือว่าอยู่ในมุมที่ดี มีข้อดีแตกต่างกันไป

Type แรกคือ ห้อง 1 ห้องนอน ซึ่งโครงการนี้มีห้องแบบ 1 ห้องนอนแค่ 7 ยูนิต เท่านั้น เหลือห้องนี้ห้องเดียว ที่ชั้น 5

ขนาดห้อง 55.34 sq.m. แบ่งครึ่งห้องเป็น Living & pantry และอีกครึ่งห้องเป็น ห้องนอนและห้องน้ำ

เข้ามาจากประตูเป็นส่วนของ Living area และ pantry รูปตัวL ติดมุมด้านขวา มาพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ และเตาไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เป็นโต๊ะทานเข้าสำหรับ 4 คน และโซฟาเล็กๆตรงประตูออกระเบียง

ห้องนอนด้านขวาเป็นชุดเตียงสีน้ำตาลพร้อมหัวเตียงและชั้นวาง ปลายเตียงเป็นโต๊ะทำงานและชั้นวางทีวีโทนสีเทาน้ำตาล

อีกด้านของห้องเป็นส่วนพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำ ที่ Build in ตู้เสื้อผ้าให้แบบเต็มผนัง

ห้องน้ำเป็นแบบกระจกเข้ามุมครึ่งบนแบ่งส่วนเปียกแห้งให้ พร้อม shower box ระบบแอร์ห้องนี้ เป็นแอร์ฝังฝ้าทั้งห้อง Living และห้องนอน

ราคาห้อง1Bedroom ห้องสุดท้ายอยู่ 7.7 ล้าน หรือตารางเมตรละ 139,000 บาท

ห้องแบบ 3 ห้องนอน

ถัดมาเป็นตระกูล 3 ห้องนอน ไม่ที่ตกแต่ง ที่เหลืออีก 4 ห้อง ห้องแรกอยู่ที่ชั้น 5 สุดทางเดินด้านทิศตะวันออกเช่นกันเป็นห้อง 3 Bedroom ขนาด 196 Sq.m.

ห้องนี้เป็นห้อง3ห้องนอน คือ 2 ห้องนอนเล็ก และ 1 ห้องนอนใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว และมี 1 ห้องน้ำแยก แบ่งพื้นที่ใช้งานส่วนกลางของครอบครัวเป็นโซนทางเข้าชัดเจน ทั้งครัว ห้อง Living และระเบียง ส่วนห้องนอนทั้ง3ห้อง ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ก็อยู่ในโซนด้านในสุดทางเดินของห้อง

ข้อดีของห้องนี้ คือเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบพื้นที่ส่วนกลางอย่างห้อง Pantry เชื่อมกับ Living เป็นพื้นที่มุมห้อง ที่สามารถชมวิวด้านซอยสาทรและพื้นที่สระว่ายน้ำของโครงการได้เป็นมุมกว้าง เพราะมาพร้อมกระจกเต็มบานตลอดแนวผนังทั้ง2ด้าน เชื่อมไปที่ระเบียงห้องกว้าง 1.2 m แถมพื้นที่ครัวก็มีกระจกเพิ่มบรรยากาศในการทำครัวขึ้นไปอีก แต่เป็นครัวแบบเปิด หรือจริงๆใครชอบครัวปิดน่าจะ Build in เพิ่มทีหลังได้อยู่ เพราะมีพื้นที่รอยต่อที่สามารถเก็บรางประตูต่างๆได้ พื้นห้องทั้งหมดเป็นพื้นไม้ Engineering wood หน้าไม้สัก 12 มิล ปูยาวตั้งแต่ห้อง Living ยาวต่อทางเดิน เข้าสู่ห้องนอน

เหนือประตูทางเข้าฝ้าดรอปลงมาเป็นส่วนของแอร์รวมในพื้นที่กลางห้อง

โซนด้านซ้ายของห้องที่เป็นส่วนของห้องนอน แปลนจะคล้ายกับห้องตกแต่งพร้อมอยู่ที่ชั้น 4 คือ

ห้องซ้ายมือแรกเป็นห้องน้ำ ที่เชื่อมพื้นที่ Living area และตรงข้ามเป็นห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยแกรนิตโต้นำเข้า แบ่งพื้นที่ส่วนแห้ง เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าที่มาพร้อมกระจกบานยาวฝังไฟส่องสว่าง แยกส่วนเปียก ที่มาพร้อม Shower box พร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower ให้ set สุขภัณฑ์ Kohler ทั้งหมด

ตรงข้ามเป็นห้องนอนเล็กห้องแรก มาพร้อมหน้าต่างกระจกเต็มผนัง และ wallpaper โทนสีเทา งานระบบของตำแหน่งสายทีวี โครงการวางเต้ารับมาให้ที่ด้านซ้ายของห้อง ฉะนั้นด้านขวาน่าจะเหมาะกับพื้นที่วางเตียง หรือส่วนแต่งตัว และวางชั้น หรืออุปกรณ์อื่นๆที่ด้านซ้ายแทน

เช่นเดียวกับห้องนอนที่สอง ขนาดพอๆกับห้องนอนแรก พร้อมหน้าต่างกระจกเต็มผนัง และ wallpaper โทนสีเทาเช่นกัน แต่ตำแหน่งงานระบบที่วางมาให้กลับกับห้องนอนแรก คือวางงานระบบทีวี โทรศัพท์ ไว้ที่ด้านขวาของห้อง และมุมผนังกระจกมีแนวมุมเสาเล็กน้อย ถ้าตกแต่งให้เรียบเนียนก็น่าจะไม่เสียพื้นที่ใช้งานมากนัก เพราะจริงๆแล้วห้องนอนเล็กของที่นี่ ก็น่าจะเทียบกับห้องนอนขนาดมาตรฐานของคอนโดทั่วไป วางเตียงKing size ได้สบายๆ แล้วยังมีที่เหลือพอสำหรับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆอีก

ถัดมาเป็นพื้นที่ห้องนอนใหญ่ เข้ามาสู่ห้องนอนใหญ่จะเจอส่วนพื้นที่ทางเข้าที่ลึกและกว้าง สามารถ Build in ตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง2ด้านของทางเดิน

ด้านซ้ายเป็นส่วนห้องน้ำ ที่ให้ห้องน้ำมากว้างขวาง ตกแต่งด้วยแกรนิตโต้นำเข้า แบ่งสัดส่วนเป็นพื้นที่อ่างอาบน้ำ ไว้ที่ด้านขวาของห้องน้ำ ด้านซ้ายเป็น Shower Box กระจกบานสวิง พร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower ติดกันเป็นอ่างล้างหน้า2ชุดพร้อมกระจกติดผนัง ด้านหลังเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นพื้นที่ห้องน้ำ พร้อมประตูกระจกเปิดปิด ทั้งหมดในห้องน้ำสุขภัณฑ์เป็นของ Kohler

ห้องนอนให้แอร์ติดผนังมา 2 เครื่อง ที่บริเวณทางเดินเข้าที่สามารถปรับเป็นพื้นที่แต่งตัว และอีก1ตัวที่บริเวณส่วนห้องนอน

ในส่วนห้องนอนใหญ่ เป็นพื้นที่เข้ามุมเป็นสัดส่วน สามารถตั้งเตียง King size ได้สบายๆมีพื้นที่เหลือเฟือ

แถมยังเพิ่มความกว้างและบรรยากาศการนอนด้วยประตูกระจก ยาวต่อเนื่องเข้ามุมเป็นตัว L ล้อไปกับ ระเบียงห้อง ตัวL กว้าง 1.2 m ที่ด้านมุมระเบียงเป็นที่เก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ ที่ไม่รบกวนมุมการมองหากต้องการตั้งเตียงให้สามารถนอนชมวิวนอกหน้าต่างได้

ราคาห้องนี้ก็อยู่ที่ตารางเมตรละ 130,000 บาท รวมๆก็อยู่ที่ 25.6 ล้านบาท

มาถึงห้องสามห้องนอนที่ไม่ได้ตกแต่งพร้อมขายห้องที่สอง อยู่ที่ชั้น 6 ขนาด 171 sq.m. เป็นห้องสุดปลายทางเดินเช่นกัน

ข้อดีของห้องนี้คือเป็นห้องสุดทางเดินที่ได้วิวทั้งด้านหน้าและด้านหลังโครงการ

เข้ามาในห้องจะเป็นพื้นที่Living แนวยาว มีครัวเปิดอยู่ด้านขวามือ เชื่อมกับระเบียงมุมห้องขนาดใหญ่ที่ออกไปนั่งกินลมชมวิว ด้านซอยสาทรและวิวสระว่ายน้ำได้ ซึ่งสามารถเข้าออกได้ทั้งจากห้องLiving และจากครัว

ครัวเป็นครัว Build in เข้ามุมมาพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น 2 ฝา ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า เข้าล็อคกับเคาท์เตอร์ครัว

ห้องนั่งเล่นมาพร้อมกระจกบานใหญ่เชื่อมแนวระเบียงโครงการที่ปูหญ้าเทียมตกแต่งไว้ให้ แต่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ไม่สามารถออกไปใช้งานแบบจริงจังได้

พื้นที่ Living กว้างพอที่จะวางโต๊ะทานอาหาร และชุดโซฟา ที่สามารถ Take วิวด้านถนนสาทร-นราธิวาส

ถัดจาก Living area เป็นโซนห้องนอน ขวามือแรก เป็นห้องนอนเล็ก มีวิวด้านซอยสาทร 7 ให้ชม สามารถแบ่งพื้นที่ซ้ายมือของห้องเป็นพื้นที่แต่งตัวได้ เนื่องจากเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับประตูห้องน้ำ

จริงๆถ้าใครเป็นครอบครัวเล็ก ใช้ห้องนอนเพียง 2 ห้อง ห้องนี้อาจปรับเป็นห้องทำงาน ก็สามารถเชื่อมต่อกับส่วน Living area และเป็นโซนสัดส่วนอยู่ไม่น้อย

ในส่วนของห้องน้ำที่สามารถเข้าออกได้จากห้องนอนแรก มีทางเข้าออก2ทาง คือจากห้องนอน และจากทางเดินในห้อง

ในห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ส่วนแห้ง เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าที่มาพร้อมกระจกบานยาวฝังไฟส่องสว่าง แยกส่วนเปียก ที่มาพร้อม Shower box พร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower ให้setสุขภัณฑ์ Kohler ทั้งหมด

ถัดเข้ามาเป็นทางเข้าห้องนอนเล็กอีกห้องและทางเข้าห้องนอนใหญ่

ห้องนอนเล็กวางตัวอยู่ด้านซ้ายมือ เป็นห้องที่จัดวางเป็นแนวลึก เข้ามาจะเป็นพื้นที่ห้องน้ำ และพื้นที่โล่งที่สามารถจัดวางตู้เสื้อผ้า มุมแต่งตัว

ห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ส่วนแห้ง เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าที่มาพร้อมกระจกบานยาวฝังไฟส่องสว่าง แยกส่วนเปียก ที่มาพร้อม Shower box พร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower ให้setสุขภัณฑ์ Kohler ทั้งหมด

และจัดวางเตียงไว้มุมห้องติดหน้าต่างได้ ซึ่งโครงการวางงานระบบทีวี โทรศัพท์ ไว้ให้ที่ผนังด้านซ้ายมือ
วิวของห้องนอนเล็กนี้ เป็นวิวมุมเดียวกับห้องนอนใหญ่ คือวิวด้านหลัง The Met โซนที่จอดรถ ที่มี Vertical garden เป็น Façade ทำให้ดูไม่อึดอัด

ในส่วนของห้องนอนใหญ่ ขวามือเป็นส่วนพื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำ ที่ออกแบบให้หลบมุมเข้าไป

ห้องน้ำตกแต่งด้วยแกรนิตโต้นำเข้า แบ่งสัดส่วนเป็นพื้นที่อ่างอาบน้ำ ไว้ที่ด้านขวาของห้องน้ำ ด้านซ้ายเป็น Shower Box กระจกบานสวิง พร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower ติดกันเป็นอ่างล้างหน้า2ชุดพร้อมกระจกติดผนัง ด้านหลังเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นพื้นที่ห้องน้ำ พร้อมประตูกระจกเปิดปิดทั้งหมดในห้องน้ำสุขภัณฑ์เป็นของKohler

ในส่วนของห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียง King size ได้สบายๆ มีพื้นที่ระเบียงห้อง ผ่านประตูกระจกให้ได้ใช้งานอีกมุมหนึ่ง

ราคาห้องนี้ อยู่ที่ ตารางเมตรละ 153,000 บาท ก็ราวๆ 26.23 ล้านบาท

3 ห้องนอน ไม่ที่ตกแต่ง ห้องที่สาม จะอยู่ที่ชั้น 9 ขนาด 142 sq.m.

ชั้นนี้เป็น Single Corridor ห้องพักอาศัยจะอยู่ทางด้านทิศเหนือทั้งหมด

ห้องนี้เป็นแนวยาว จากประตูทางเข้าเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อไปที่ระเบียง ด้านขวาของประตูเป็นครัวเข้ามุม ที่ให้มาครบพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า

ด้านซ้ายของห้องเป็นส่วนของห้องนอนเล็ก มีห้องน้ำอยู่ด้านซ้ายมือ มีมุมพื้นที่ด้านข้างห้องน้ำ ที่น่าจะตกแต่งเป็นพื้นที่แต่งตัวได้ จะดูเป็นสัดส่วนดี
ห้องนอน มีมุมระเบียงกว้างอยู่ด้านมุมห้อง เป็นระเบียงเข้ามุม พร้อมกับผนังกระจกเข้ามุม

โครงการวางงานระบบมาให้ที่ผนังข้างระเบียง หันปลายเตียงไปที่ด้านระเบียงก็น่าจะนอนดูทีวี พักตาไปชมวิวได้ไม่น้อย

ในส่วนของด้านขวาของห้องเป็นส่วนห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่

ซ้ายมือติดระเบียงกลางห้องเป็นห้องนอนเล็ก ที่น่าจะจัดวางพื้นที่แต่งตัวไว้ที่มุมด้านซ้าย และจัดวางพื้นที่เตียงพักผ่อนไว้ที่ด้านขวาของห้อง เพื่อเหมาะกับสัดส่วนพื้นที่ที่โครงการทำไว้

ปลายสุดเป็นส่วนของห้องนอนใหญ่ เห็นวิวตึก The Met  โซนที่จอดรถ ที่มี Vertical garden เป็น Facade ต่อเนื่องกับแนวพื้นที่ส่วนกลาง

ด้านขวาเป็นห้องน้ำ แบ่งสัดส่วนเป็นพื้นที่อ่างอาบน้ำ ไว้ที่ด้านซ้ายของห้องน้ำ ด้านขวาเป็น Shower Box กระจกบานสวิง พร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower ติดกันเป็นอ่างล้างหน้า2ชุดพร้อมกระจกติดผนัง ทั้งหมดในห้องน้ำสุขภัณฑ์เป็นของKohler

ห้องนี้ 142 sq.m. ราคาอยู่ที่ 157,000 บาท/ตร.ม. หรือประมาณ 22.29 ล้านบาท

3 ห้องนอน ห้องสุดท้าย เป็นห้อง 3 ห้องนอน บวก 1 ที่สามารถประยุกต์เป็นห้องทำงานหรือห้องนอน ห้องอาหารได้ พร้อมห้อง Maid และประตูเข้าออกแยก อยู่ที่ชั้น 10

ห้องนี้เป็นแนวยาว ด้านปีกซ้ายมี 1 ห้องนอน และด้านปีกขวามีอีก 3 ห้อง

จากประตูทางเข้าเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อไปที่ระเบียง เห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางของ The Met

ด้านขวาของประตูเป็นห้องครัวเข้ามุม ที่ให้มาครบ และมีทางเข้าออกMaid ที่สามารถเข้าสู่ห้องMaidได้โดยไม่ต้องผ่านห้องกลาง

ด้านปีกซ้ายของห้องเป็นส่วนของห้องนอนเล็ก

มีห้องน้ำอยู่ด้านซ้ายมือ มีมุมพื้นที่ด้านข้างห้องน้ำ ที่น่าจะตกแต่งเป็นพื้นที่แต่งตัวได้ จะดูเป็นสัดส่วนดี

ในส่วนของปีกด้านขวาของห้อง เป็นส่วนของห้องเปล่า1ห้อง ห้องนอนเล็ก1ห้องและห้องนอนใหญ่

โดยห้องขวามือแรกติดครัวเป็นห้องMaidที่มีทางเข้าออกจากครัว

ถัดเข้าไปเป็นห้องน้ำแบบมีshower boxและอุปกรณ์สุขภัณฑ์ครบ

ตรงกันข้ามซ้ายมือห้องแรกเป็นห้องห้อง+1ที่โครงการเผื่อมาให้ หากเป็นครอบครัวใหญ่อาจใช้เป็นห้องนอน หรืออาจดัดแปลงเป็นห้องทำงาน ห้องหนังสือ หรือห้องอาหารก็น่าจะได้เพราะใกล้ครัวและยังอยู่ในโซนพื้นที่Livingส่วนกลางห้องอีกทั้งยังมีระเบียงเชื่อมไปยังด้านนอก

ถัดไปเป็นห้องนอนเล็กอีกห้อง ที่น่าจะจัดวางพื้นที่แต่งตัวไว้ที่มุมด้านขวา และจัดวางพื้นที่เตียงพักผ่อนไว้ที่ด้านขวาของห้อง ตั้งทีวีที่ผนังด้านซ้าย เพื่อเหมาะกับสัดส่วนพื้นที่ที่โครงการทำไว้

ปลายสุดเป็นส่วนของห้องนอนใหญ่ เข้ามาเป็นห้องแต่งตัวและด้านขวาเป็นห้องน้ำที่เชื่อมถึงกัน ด้านซ้ายเป็นห้องนอน พร้อมกระจกบานใหญ่วิวด้าน The Met

ราคารวมที่ 27 ล้าน หรือตารางเมตรละ 119,480 บาท

มาดูพื้นที่ส่วนกลางกันบ้าง ต้องบอกว่าส่วนกลางของที่นี่ใหญ่มาก ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตทั้งหมด ใหญ่ชนิดที่ ต่อให้เอาลูกบ้านมารวมกันทั้งหมดใต้ล้อบบี้ก็ยังมีที่ว่างเหลืออยู่อื้อเลยครับ
ไล่มาตั้งแต่พื้นที่หน้าโครงการเป็นบันไดจากลานจอดรถเดินขึ้นสู่ล้อบบี้

เป็นทางเดิน ขึ้น-ลง Lobby ตกแต่งด้วยสวนหินและรั้วต้นไม้ทรงสูง กั้น private & public จากในและนอกโครงการ

ทางเข้า Lobby ออกแบบเป็นชานพักขนาดใหญ่บังฝน และโปร่งด้วยหลังคากระจก และประติมากรรมที่สุดทางเดิน

ในเป็นส่วน Lobby ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เน้นเพดานสูง Double Volume เพื่อความโปร่งโล่งและดูโอ่อ่า กลางLobbyเป็นโซฟาตัวยาวเชื่อมต่อกันสร้างมุมพักผ่อนตามแนวพื้นที่

ด้านในเป็นส่วนของ Library และมุมทำงาน หรือ จัดประชุมเล็ก ๆ

ถัดจากมุมพื้นที่ใช้สอยเป็นส่วนของ เคาน์เตอร์ต้อนรับและนิติบุคคล

และห้อง Mail box สำหรับ 49 ยูนิต ที่ตกแต่งแบบโมเดิร์น

พื้นที่ส่วนกลางสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่า และ game room ของ The Hudson อยู่ที่ชั้น 3

ออกจากโถงลิฟท์ จะเจอพื้นที่สระว่ายน้ำ ทอดตัวยาว สู่ห้องฟิตเนส

รอบๆเป็นส่วนของที่พักอาศัยติดพื้นที่ส่วนกลาง ที่แบ่งสัดส่วนชัดเจน ห้องพักอาศัยบนชั้นนี้ขายหมดตั้งแต่ช่วงแรกๆครับ

มาในส่วนของห้องฟิตเนส มีอุปกรณ์ต่างๆครบ ทั้งลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน เครื่องออกกำลังกาย และที่ยกเวท ล้อมด้วยกระจกบานใหญ่ วิวด้านซอยสาทร 7 และสระว่ายน้ำ

ติดกันเป็นห้อง Game room แยกเป็นห้อง private ออกมา

เดินทางบันไดมาชั้นล่างเป็นซาวน่า แยกหญิงชาย ถ้าเทียบสัดส่วนพื้นที่ส่วนกลางกับพื้นที่ห้อง ถือว่ายังไงก็เพียงพอสำหรับลูกบ้านทุกคน

ภาพรวมของ The Hudson อย่างที่ได้กล่าวมา จะเห็นได้ว่าแปลนของแต่ละห้อง และแต่ละชั้น มีความเป็นUnique สุดๆ ที่นี่เราจะได้เห็นชั้นที่มีเพียงแค่ 1 ยูนิตในชั้นเดียว, ชั้นที่เป็น Single Corridor, ชั้นที่มีประตูทางเข้าออกห้องติดพื้นที่ส่วนกลาง, ห้องที่มี Unit Plan เป็นตัว U มองเห็นวิวได้ถึง 2 ทิศ หรือแม้กระทั่งห้องที่มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นสวนขนาดใหญ่อยู่ที่ระเบียงห้อง

เพราะการ renovate อาคารเก่าจึงทำให้มีข้อจำกัดในด้านการก่อสร้าง ยูนิตแปลนจึงต้องอิงกับรูปแบบและขนาดดั้งเดิมของอาคาร ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นยูนิตที่มีขนาดใหญ่ สวนทางกับเทรนด์การออกแบบคอนโดในยุคปัจจุบัน
แต่ The Hudson ก็สามารถเปลี่ยนโฉมใหม่ได้อย่างน่าสนใจพอสมควร จนเชื่อว่า หากไม่บอกว่านี่คือการนำเอาอาคารเก่ามา Renovate หลายๆคนก็คงจะเชื่อว่านี่คืออาคารใหม่สไตล์โมเดิร์นอีกหนึ่งอาคารใจกลางถนนสาทร
การอยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ ศูนย์กลางการคมนาคมที่สะดวกสบาย ชนิดที่ว่าถูกรายล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่และคอนโดถึง 3 ทิศ แต่เมื่อก้าวเข้ามอยู่ในโครงการกลับพบกับความสงบ เป็นส่วนตัว อย่างเหลือเชื่อ แถมโครงการมีจำนวนยูนิตที่ไม่เยอะ จึงเหมาะกับคนที่อยากอยู่ในทำเลดี กลางเมือง การอยู่เป็นครอบครัวจึงน่าจะเหมาะกับโครงการนี้

ด้วยการที่ Supply คอนโดใหม่ในปัจจุบัน มักจะไม่ค่อยทำห้องขนาดใหญ่ The Hudson จึงเป็นหนึ่งในไม่กี่โครงการคอนโดที่น่าจะตอบโจทย์กลุ่มคนที่มองหาคอนโดขนาดใหญ่ อารมณ์บ้านเดี่ยว ใจกลางถนนสาทร

และราคาต่อตารางเมตร ก็อยู่ที่ประมาณ 120,000 – 145,000 บาท/ตร.ม. นับว่าราคาไม่สูงเกินหน้าโครงการอื่นๆในทำเลนี้แต่อย่างใด แต่ก็ติดตรงที่ว่าห้องที่เหลือนั้นมีขนาดตั้งแต่ 55 – 225 ตารางเมตร คนซื้ออาจจะต้องเป็นกลุ่มเฉพาะจริงๆที่ต้องการอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่

หรือใครที่สนใจซื้อปล่อยเช่า ราคาเช่าห้อง 1 Bed room อยู่ที่ 40,000 บาท (55 Sq.m.) ถ้าเป็น 2 Bed room ขนาด 74-75 Sq.m. ราคาเช่าอยู่ที่ 62,000-65,000 บาท แต่ถ้าขนาด 88-90 Sq.m. ราคาจะอยู่ที่ 75,000 บาท

หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 730 – 800 บาท ค่อนข้างสูงทีเดียว และได้ Rental Yield ประมาณ 6%

ราคาใกล้เคียงกับ Apartment ใหม่ฝั่งสาทร-นราธิวาส อย่าง The Willows ที่ราคาเช่า 1 Bed room อยู่ที่ 45,000 บาท 2 Bed room อยู่ที่ 65,000 บาท

ผมว่า The Hudson Sathorn 7 เป็นคอนโดที่ให้ความสะดวกสบายหลายอย่าง มีที่จอดรถ 150% อยู่ห่างประมาณ 650 เมตรจากสถานี BTS ช่องนนทรี มี Facility ที่ครบครัน มากที่สุดแห่งหนึ่งบนถนนสาทร และมีความ Privacy สูง ในแบบที่หาไม่ได้ในถนนสาทรอีกแล้วครับ ใครที่มีงบประมาณ 22 ล้านขึ้นไป และตั้งธงว่าอยากได้คอนโดห้องขนาดใหญ่ใจกลาง CBD ที่นี่คือคำตอบของคุณครับ

ผู้สนใจโครงการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงส่วนลด และโปรโมชั่นในแบบ exclusive สุดๆ ได้ที่เบอร์ 092-275-5509 ครับ