ย้อนไทม์ไลน์ วิบากกรรม แอชตัน อโศก เคยขายหมด แต่ก็ไม่จบง่ายๆ
ปี 2014 นับว่าเป็นยุครุ่งเรืองของตลาดคอนโดติดรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ใบจองคอนโดเปิดใหม่แทบจะทุกโครงการที่อยู่ติดรถไฟฟ้า ถูกซื้อขายเปลี่ยนมือ ทำกำไรกันได้ง่ายๆในแบบไม่ทันข้ามวัน กระแสการซื้อคอนโดเพื่อลงทุนในแบบจริงจังถูกโหมกระพือให้มากยิ่งขึ้นจากกำลังซื้อต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนที่จากเดิมมีความต้องการเพียงแค่ซื้อเพื่ออยู่เองเป็นบ้านหลังที่สอง และต้องมาบินมาเสียเงินซื้อรีเซลในราคาบวกต่อมากๆจากคนไทย แปรเปลี่ยนมาเป็นการซื้อผ่านเอเจนท์ทั้งชาวไทย และชาวจีน ที่มองเห็นโอกาสจากการลงทุนซื้อ Bulk Buy ครั้งละมากๆเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลง จนสามารถนำไปขายต่อคนชาติเดียวกันได้ แน่นอนว่าในความทรงจำของใครหลายๆคน แอชตัน อโศก (Ashton Asoke) คือหนึ่งในโครงการสุดร้อนแรงของปีนั้น โครงการขายหมด Sold Out ตั้งแต่ช่วงแรกที่เปิดตัว โดยมีห้องไปเหลือขายที่พารากอนนิดหน่อย จนต้องแย่งกันไปต่อคิวจับสลากซื้อกัน เริ่มต้นดูดีมากทั้งในสายตาอนันดาฯ และคนซื้อ แต่ใครเล่าจะไปคิดว่าแม้เวลาจะผ่านเลยไปถึง 7 ปีแล้ว โครงการก็ยังต้องเผชิญกับวิบากกรรมที่ถาโถมเข้ามาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ในแบบที่ยากจะคาดเดาตอนจบครับ เราไปไล่เลียงย้อนไทม์ไลน์ของโครงการแห่งทศวรรษนี้กันเลยครับ
กันยายน 2014: หลังสถานการณ์การเมืองเริ่มสงบ ไม่มีการนั่งประท้วงกลางสี่แยกอโศก เพราะคสช.เข้ายึดอำนาจมาตั้งแต่ช่วงกลางปี อนันดาฯ ประกาศเปิดตัวโครงการแอชตัน อโศก คอนโดมิเนียมระดับลักส์ชัวรี่ เพียง 20 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท และเพียง 230 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อโศก สูง 50 ชั้น จำนวน 783 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,690 ล้านบาท ขายในราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท พร้อมกันกับอีก 3 โครงการได้แก่ ไอดีโอ คิว สยาม – ราชเทวี โครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสท์เกต และ ไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ โดยทั้งแอชตัน อโศก และไอดีโอ คิว สยาม – ราชเทวี เป็นความร่วมมือภายใต้การร่วมทุนกับบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง เรสซิเด้นท์เชียล จำกัด ต่อจากโครงการ ไอดีโอ คิว จุฬา-สามย่าน
– ไฮไลท์สำคัญของโครงการคือ ในช่วงแรกเป็นโครงการที่ไม่มีใครเดาได้ว่าตั้งอยู่ตรงไหนกันแน่ เพราะหากเดินดูสภาพโดยรอบจะเห็นเพียงแค่ลานจอดรถของสถานี MRT สุขุมวิท และด้านหลังลานจอดรถมีรั้วกำแพงกั้นที่ดินเปล่า โดยการเคลมว่าห่างเพียง 20 เมตรจากสถานี จึงทำให้หลายๆคนสงสัยว่าทางเข้าออกของโครงการอยู่ตรงไหน
– โครงการได้รับการออกแบบโดยบริษัทออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับประเทศอย่าง A49, PIA Interior, และ Trop ที่มาร่วมสร้างสรรค์จุดเด่นสำคัญทั้งในเรื่องการออกแบบห้องกระจกโค้ง พื้นที่ส่วนกลางสไตล์ Social Club ลอยฟ้า และอาคารรูปทรงเพรียวบางเป็น Iconic Building ในย่านอโศก และยังนับว่าเป็นโครงการใหม่เพียงโครงการเดียวที่อยู่ติด Terminal 21 มากที่สุด
– ช่วงปลายเดือนกันยายน อนันดาฯเริ่มมีการขายโครงการในรอบ Super VVIP เพียงไม่กี่ห้อง ซึ่งเป็นรูปแบบการขายที่มีเงินเพียงอย่างเดียวก็ซื้อไม่ได้ เพราะทางอนันดาฯตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อคัดเลือกลูกค้า Shortlist Candidates ที่มีสิทธิ์ในการเลือกซื้อห้องในรอบนี้ก่อน โดยที่ทางทีมงานเป็นผู้เลือกห้องให้ ตามลำดับความสำคัญ แน่นอนว่าห้องที่มีขายถูกจองหมด 100% โดยที่คนซื้อก็ไม่รู้ราคามาก่อนล่วงหน้า
5 ตุลาคม 2014: เปิดขายรอบ AMC Presale โดยการตัดล๊อตเกือบทั้งโครงการมาขายในรอบนี้ เนื่องจากมีความสนใจจองซื้อมากกว่าจำนวนห้องที่มีถึง 3 เท่า ส่งผลให้ห้องรีเซลที่เพิ่งรับฝากมาจากรอบ Super VVIP ขายต่อได้ในทันที ในราคาบวกตั้งแต่ 2 แสน ไปจนถึง 6 แสน สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 64 ตรม.กระจกโค้ง โดยที่ห้องรีเซลทุกห้อง ทุกไทป์ในสต็อคของดิ เอเจนท์ ขายได้หมด บางห้องสามารถเปลี่ยนมือได้ถึง 2 รอบ โดยที่เจ้าของห้องรอบ 1 และ 2 ยังไม่ได้ทำสัญญา
16 – 19 ตุลาคม 2014: เปิดขายรอบ Mass Sale งาน Ideo Urban Pulse ที่ชั้น 1 สยามพารากอน โดยมีห้องมาขายในงานเพียงไม่กี่ชั้น และมีผู้เข้าคิวมาต่อแถวจองตั้งแต่คืนก่อนหน้า โดยผู้รับจองคิวคิดค่านั่งจองสูงตั้งแต่ 5,000 – 30,000 บาท แต่ทันทีที่ห้างเปิดกลับกลายเป็นว่ามีปัญหาเรื่องคิว มีผู้มาต่อคิวหลักหลายร้อยคน ไม่สามารถ Manage ได้ว่าใครมาก่อนหลัง ทางอนันดาฯจึงปรับจากการเข้าคิวให้เป็นการจับสลากแทน จึงทำให้มีผู้คนทั่วไปให้ความสนใจมากขึ้น เนื่องจากคนที่อยากได้ก็จ้างคนทั่วไปให้ไปหย่อนบัตรเพื่อจับสลาก โดยหากจับได้สิทธิ์ก็จะได้รับค่าตอบแทน ทั้งนี้ผู้ที่จับสลากได้คิวส่วนใหญ่จะเลือกห้อง 2 ห้องนอนก่อน เพราะมี Order รับซื้ออยู่ที่หน้างานเลยว่าบวก 5 – 6 แสนบาท ส่วน 1 ห้องนอนกระจกโค้ง 250,000 บาท รวยฟ้าผ่า!
– จากความสนใจที่มากในแบบที่ไม่มีใครคาดคิด ทางอนันดาจึงบริหารห้องที่เหลือทั้งหมดเพียงไม่กี่ชั้น ด้วยการเรียกห้องจากโควต้า Intersale และอื่นๆมาเพื่อนำมาขายในรูปแบบขายพ่วงกับโครงการไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ และขายห้องชั้นสูงในแบบยกฟลอร์ แต่แพงเป็นพิเศษ จนทำให้มีห้องจำนวนมากถูกนำมาขายรีเซลในตลาดในราคาที่แพงกว่าห้องล๊อตแรก แต่ก็ทำให้ห้องโครงการขายหมด Sold Out 100%