ราคาดีที่สุดในย่าน เริ่ม 5 ลบ.* นัดหมายเยี่ยมชมโครงการ พร้อมดูห้องจริง และส่วนกลางระดับ Top Class ได้ที่นี่ https://nobleurl.com/3ijenld

ถ้าถามว่าตลาดอสังหาฯในช่วงต้นปีนี้มีประเด็นอะไรที่ฮอตที่สุด คำตอบหนึ่งเดียวก็คือ Effects จากการที่จีนประกาศเปิดประเทศ ซึ่งจะส่งปฏิกิริยาต่อธุรกิจท่องเที่ยว และอสังหาฯโดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนโดที่อยู่บนทำเลอันคุ้นเคยของบรรดานักท่องเที่ยวชาวจีน ที่สำคัญมากๆก็คือแม้ในช่วงที่ผ่านมาชาวจีนจะมีข้อจำกัดในการเดินทางเข้า-ออกต่างประเทศมากว่า 3 ปี แต่จากสถิติโดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พบว่าในช่วง 9 เดือนแรกของ ปี 2565 (ม.ค.-ก.ย.) ชาวจีนเป็นสัญชาติที่มีการโอนห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศ จำนวน 3,562 หน่วย สัดส่วนสูงถึง 48.9% ของหน่วยทั้งหมด มีมูลค่าโอน 17,943 ล้านบาท สูงถึง 48.5% ของมูลค่าทั้งหมด และหากพิจารณาจากช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าต่างชาติมาซื้อคอนโดฯ ในไทยไปแล้วรวม 50,000 หน่วย มูลค่ากว่า 230,329 ล้านบาท โดยลูกค้าชาวจีนมีมูลค่าการโอนสูงกว่า 124,000 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 50% ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าการที่จีนเปิดประเทศย่อมส่งผลบวกต่อยอดขายคอนโดในย่าน Super Prime Area ของกรุงเทพฯแน่นอน จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งระยะสั้นที่ต้องการที่พักในย่านช้อปปิ้ง และ Business Traveller ที่ต้องการคอนโดไว้พักเป็นบ้านหลังที่สอง

ถ้านึกถึงย่านพร้อมพงษ์ สิ่งหนึ่งที่เป็น Top of Mind ของคนทั่วไปและอาจจะเป็น Generic name อีกชื่อของย่านนี้ก็คือ The Em District ซึ่งก็แน่นอนว่ามาจากการที่ย่านนี้ได้ถูกเติมเต็มศักยภาพให้เป็นย่าน Lifestyle ระดับโลกครบวงจรตลอด 24 ชั่วโมงไม่ว่าจะเป็น โครงการ The Em District อันประกอบด้วย Emporium, Emquartier และในอนาคตกับ Emsphere รวมทั้งเป็นที่ตั้งของแหล่งธุรกิจ โรงเรียน โรงพยาบาลชั้นนำ โรงแรมชั้นนำระดับ 5 ดาว อาทิ Carlton Hotel Bangkok Sukhumvit โรงแรมสัญชาติสิงคโปร์, HOTEL FORZA Sukhumvit Bangkok, Compass Sky View Hotel Sukhumvit 24 รวมทั้งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่แห่งใหม่หลายแห่ง ทั้งภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ , S-Metro, New Head Office UOB ที่ล้วนแต่เลือกมาตั้งอยู่ในย่านนี้ และยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างอุทยานเบญจสิริ ที่ทำให้ย่านนี้มีความแตกต่างที่ชัดเจนจากทองหล่อ นอกจากนี้ยังเป็นย่านท่องเที่ยวกลางคืน ร้านอาหารหลากหลายสัญชาติที่ให้ได้ใช้ชีวิตยามค่ำคืนที่ไม่เคยหลับใหล จนกลายเป็นย่านที่คราคร่ำไปด้วย traffic ของผู้คนที่หมุนเวียนอยู่ในพื้นที่นี้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งทำงาน พักผ่อน shopping และพักอาศัย จนทำให้ราคาที่ดิน และราคาเฉลี่ยของคอนโดบนทำเลนี้ติดอันดับราคาสูงแห่งหนึ่งของประเทศ โดยราคาเฉลี่ยของคอนโดใหม่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์มีราคาขายอยู่ที่ 300,000 บาทต่อตารางเมตร ถ้าเป็นโครงการที่ไกลออกไปก็ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร จึงถือว่าย่านพร้อมพงษ์เป็นหนึ่งใน Super Prime Area ที่ได้รับความนิยมจากคนไทยและชาวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง

Noble State 39 คือโครงการคอนโด High Rise แห่งใหม่เพียงหนึ่งเดียวในชั่วโมงนี้ ที่ตั้งอยู่บนจุดศูนย์กลางของพร้อมพงษ์อย่างซอยสุขุมวิท 39 ห่างจากห้าง The Emquartier และ BTS พร้อมพงษ์เพียง 450 เมตร นอกจากเหตุผลในเรื่องของทำเลที่ตั้งแล้ว ที่นี่ยังมีข้อดีอีกหลายๆอย่างที่เพียงพอจะทำให้เป็นหนึ่งในโครงการที่น่าโอนที่สุดของปี 2023 นี้ อาทิ

เป็นคอนโดหรูระดับ Prestige หนึ่งเดียวในย่านที่ทำราคาขายออกมาได้ Competitive มากที่สุด: เนื่องจากคอนโดเกือบทั้งหมดในรัศมี 1 กม.จาก The Emquartier เป็นคอนโดในเซกเมนท์ Ultra Luxury ที่มีราคาขายที่เกินกว่าตรม.ละสามแสนหมดแล้ว โดยความแตกต่างของ Noble State 39 กับโครงการอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบก็คือขนาดห้องและแพคเกจราคาที่คนไทยที่ทำงานในย่านพร้อมพงษ์สามารถซื้อได้ง่าย โครงการน่าจะประสบความสำเร็จจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนไทยในวัยทำงานที่ชอบคอนโดใกล้กับโครงการรถไฟฟ้าเพื่อการเดินทางที่สะดวก และชาวต่างชาติในสไตล์ Business Traveller ที่แวะเวียนเข้ามาทำงานกึ่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เพราะสามารถตอบโจทย์ความสะดวกในทุกๆ ด้านของการใช้ชีวิตในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมาสุขุมวิท 39 ยังขาด supply ที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้

โดย Noble State เป็นโครงการพร้อมอยู่หนึ่งเดียวที่มาพร้อมราคาขายสุดเร้าใจ 1 ห้องนอน S ขนาด 29 ตรม. ราคาดีมาก ขายแบบ Fully Fitted ให้ตู้เสื้อผ้า กับตู้เก็บรองเท้าสูงจรดเพดาน เริ่มแค่ 5 ลบ.* (เฉลี่ย 180,000 – 190,000/ตร.ม.) และห้องใหญ่ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน ขนาด 59 ตรม. เริ่ม 12.9 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณตรม.ละสองแสนต้นๆเท่านั้น

เหมาะกับการซื้อลงทุนปล่อยเช่า เพราะมีราคาขายดีกว่าโครงการอื่นๆโดยรอบ จึงมี Gap ในด้านการตั้งราคาค่าเช่ามากกว่า ซึ่งทางโนเบิลคาดว่าจะทำราคาค่าเช่าได้เริ่มประมาณ 650 – 750 บาทต่อตรม. สำหรับห้อง 1 ห้องนอนขนาดเล็ก ซึ่งเป็นราคาที่ปล่อยได้ง่ายกว่าเร็วกว่า โดยที่ยังได้ rental yield ประมาณ 5.4% (คิดจากราคาห้อง 5 ล้านบาท) พอๆกับรุ่นพี่อย่าง Noble Around 33 แต่ได้ทำเลดีกว่า ในขณะที่โครงการ Ultra Luxury อื่นๆจะปล่อยเช่ากันที่ราวตรม.ละ 1,000 – 1,500 บาท แต่ได้ rental yield น้อยกว่า และมีกลุ่มผู้เช่าที่จำกัด

ความโดดเด่นในการออกแบบ Facade: โดยโครงการได้ตีโจทย์ของงานดีไซน์ตั้งแต่ภายนอกจรดภายใน ผ่านแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรม ในสไตล์ Art Deco ที่แฝงกลิ่นอายความคลาสสิค และคงความร่วมสมัยได้อย่างมีเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยรูปทรงเรขาคณิตอันคมชัด และรายละเอียดที่มีเอกลักษณ์ ออกมาเป็นจังหวะลวดลาย “Vertical Facade” สะท้อนถึงอุดมการณ์ทางความคิดสมัยใหม่ บนพื้นฐานของเสน่ห์แบบดั้งเดิมโดยเฉพาะ Facade ที่ชั้น Facility มีการดีไซน์ให้เป็นรูปตัว V เพื่อเปิดมุมมองวิวทิวทัศน์ได้ชัดเจนมากขึ้นและเน้นเอกลักษณ์อาคารให้ดูน่าสนใจมากขึ้น การันตีด้วย BCI Asia Top 10 developers Award 2021 รางวัลที่โดดเด่นด้านแนวคิดและการออกแบบที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความน่าสนใจเท่านั้น…ติดตามบทความรีวิวโครงการ Noble State 39 ได้ในครั้งต่อไปนะครับ วันที่ผมเข้าไปรีวิวเห็นคนเข้ามาเยี่ยมชมโครงการเรื่อยๆทุก 15 นาทีเลยครับ ตึกนี้ฮอตจริงๆ เห็นว่าจะมีห้อง FULLY FURNISHED ขายด้วย ใครสนใจก็ลองแวะเข้าไปดูกันก่อนได้เลย

#Noblestate39 #AwakeningPhromphong