A5 กำไรสุทธิ Q2/65 พุ่งแรงที่ 30 ล้านบาท เติบโตแรง 450% เตรียมขายหุ้นกู้ครั้งแรก จ่ายดอกเบี้ยคงที่ 7% ต่อปี จองซื้อ 18 – 19 และ 22 -23 ส.ค.นี้ ครึ่งปีหลังทยอยเปิด 3 โครงการใหม่ตามแผน มั่นใจทำยอดขายได้ตามเป้า 1,000 ล้านบาท
“A5” ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจอสังหาฯ ทำกำไรสุทธิไตรมาส 2/2565 ที่ 30 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 450% และมียอดรับรู้รายได้ 229 ล้านบาท เติบโต 9% จากที่ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการบริหารต้นทุนในการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หนุนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับ 33% เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรกอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7% ต่อปี แก่นักลงทุนสถาบันและรายใหญ่ผ่านผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ 6 ราย เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเสริมความแข็งแกร่ง วางแผนเปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการในช่วงที่เหลือของปีนี้
นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 มีอัตราเติบโตเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะกำไรสุทธิที่ทำได้ 30 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 450% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนในการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผนวกกับความต้องการด้านที่อยู่อาศัยที่ยังมีอัตราเพิ่มขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 33% ใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา ขณะที่ยอดรับรู้รายได้ (รายได้รวม) อยู่ที่ 229 ล้านบาท เติบโต 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านในโครงการวนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ และโครงการบ้านรชยา วงแหวน-นาดี จังหวัดอุดรธานี ที่ปิดการขายได้แล้วทุกยูนิต
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เติบโตสอดคล้องกัน หากไม่นับรวมกำไรพิเศษจากการขายที่ดินที่เกิดขึ้นในไตรมาส 1/2564 จำนวน 105 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิรวม 82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 401% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไม่รวมกำไรสุทธิจากการขายที่ดินในไตรมาส 1/2564) และมียอดรับรู้รายได้ (รายได้รวม) อยู่ที่ 551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไม่รวมรายได้จากการขายที่ดินในไตรมาส 1/2564)
“A5 ถือว่าเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงต้นปี แต่เราต้องการเป็นหุ้นอสังหาฯ ที่มีพื้นฐานดี มีความมุ่งมั่นสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยผลประกอบการล่าสุดแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของบริษัทฯ และการพัฒนาโครงการที่สามารถตอบสนองความต้องการอยู่อาศัยของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์นิชมาร์เก็ตต่อไป” นายศุภโชค กล่าว