ช่วงนี้ถือเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวที่ยังมีมรสุมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดฝนตกหนักเกือบทุกวัน ถึงแม้ฝนจะมาพร้อมกับความเย็นชุ่มฉ่ำ แต่อาจสร้างปัญหาชวนปวดหัวให้กับเจ้าของบ้านหลาย ๆ คนได้ โดยบางคนอาจรู้สาเหตุ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และบางคนแก้ไขเฉพาะหน้าแบบไม่รู้สาเหตุ แน่นอนว่าปัญหาต้องยังคงอยู่ แต่เรื่องชวนปวดหัวจะหมดไป หากเราทราบปัญหาและแนวทางในการแก้ไข

ปัญหาที่ “บ้าน” มักประสบในช่วงหน้าฝนนั้น จะมาจากส่วนภายนอกบ้านเป็นหลัก เช่น บริเวณหลังคา รางน้ำ ผนัง และพื้นรอบ ๆ บ้าน โดยวันนี้เรามีวิธีสังเกตปัญหาและแนวทางแก้ไขมาแนะนำกัน

1. ปัญหาที่เกิดกับหลังคา หลังคามักเป็นโครงสร้างของบ้านที่เกิดปัญหาบ่อยในช่วงหน้าฝน ซึ่งอาจมาจากการเสื่อมสภาพของวัสดุ การติดตั้งที่ผิดวิธีและไม่ได้มาตรฐาน หรือเกิดความเสียหายจากการวัสดุต่าง ๆ ตกใส่หลังคา ปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบสร้างความเสียหายลุกลามไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของบ้าน เช่น งานไฟฟ้า งานฝ้าเพดาน และงานเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ฯลฯ ซึ่งหากหลังคามีปัญหา แนะนำว่าควรเลือกใช้มืออาชีพโดยตรง เพราะจะมีความเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาได้เฉพาะและตรงจุด โดยการตรวจสอบหลังคาควรขึ้นตรวจสอบทางด้านบนหลังคา ปัจจุบันเริ่มมีการใช้เครื่องมือประเภทโดรนเข้ามาเป็นตัวช่วย เพื่อให้ทราบสาเหตุที่แท้จริงและแก้ปัญหาได้ตรงจุดอย่างรวดเร็ว

รายละเอียดบริการปรับปรุง ซ่อมแซมหลังคาบ้าน https://bit.ly/304Rcl4

2. ปัญหาที่เกี่ยวกับรางน้ำ ปัญหารางน้ำส่วนใหญ่จะเกิดจากมีสัตว์เข้ามาทำรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะพบรังของนกอยู่บ่อย ๆ หรืออาจจะมีเศษใบไม้ตกลงมาบริเวณรางระบายน้ำฝน ส่งผลให้รางหรือท่อระบายน้ำอุดตัน ซึ่งหากเป็นบ้านที่มีความสูงไม่มากนัก เจ้าของสามารถขึ้นไปล้างทำความสะอาดได้เอง แต่หากเป็นบ้านที่มีความสูงค่อนข้างมาก แนะนำให้ใช้ช่างขึ้นไปเก็บสิ่งที่อุดตันอยู่ ฉีดล้างทำความสะอาดและติดตั้งรางครอบสำหรับรางน้ำเพิ่มเติม เพื่อเป็นการป้องกันใบไม้และเศษวัสดุต่าง ๆ ตกลงไปในรางน้ำ

รายละเอียดบริการติดตั้งรางน้ำฝน https://bit.ly/3iOwbSl

3. ปัญหาที่เกิดจากผนัง ผนังบ้านหรือวัสดุทั้งหมดในงานก่อสร้างนั้น ล้วนมีการขยาย หรือ หดตัวอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเป็นผนังที่อยู่ทางทิศใต้และตะวันตกด้วยแล้ว การหดหรือขยายตัวอาจมีโอกาสแตกร้าวได้มากกว่าผนังด้านอื่น แม้รอยแตกร้าวจะมีขนาดเพียงแค่เท่าเส้นผมก็ทำให้น้ำสามารถซึมเข้ามายังภายในตัวบ้านได้และอาจก่อให้เกิดปัญหา เช่น ผนังเกิดเป็นรา สีหรือวอลเปเปอร์เกิดการพองและลอกออก ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ จะต้องทำการซ่อมแซมส่วนที่มีการแตกร้าวก่อน โดยอาจใช้เคมีภัณฑ์ประเภทกันซึมเข้ามาช่วยแก้ไข หรือถ้ารอยร้าวมีขนาดใหญ่อาจต้องทำการกรีดผนังแล้วซ่อมแซมเสียก่อน

นอกจากนี้ ยังมีอีกปัญหาที่เกิดบริเวณผนังและอาจทำให้ข้าวของพังเสียหาย นั่นก็คือ ความชื้นบริเวณผนัง สาเหตุมักเกิดจากปริมาณน้ำในดินมากเนื่องจากฝนตกต่อเนื่อง จนความชื้นถูกดันขึ้นมายังผนัง ซึ่งหากสีของผนังบริเวณไหนเกิดความอ่อนแอก็จะเกิดการพองและลอกออกมา โดยแนวทางการแก้ไขเมื่อเกิดปัญหาคือ ต้องขัดลอกสีในบริเวณที่มีการพองออกและเพิ่มบริเวณสูงขึ้นไปบริเวณที่ผนังพองอีกประมาณ 40-50 ซม. จากนั้นทาด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อราและตะไคร่น้ำ พร้อมทาทับด้วยกันซึม

4. ปัญหาน้ำซึมรั่วจากบริเวณช่องเปิด ปัญหานี้ส่วนใหญ่เกิดจากการเสื่อมสภาพของวัสดุที่อุดรอยต่อของหน้าต่าง เช่น PU ซิลิโคน หรือการเสื่อมสภาพรอบ ๆ ของกรอบประตูหรือกรอบหน้าต่าง ทำให้น้ำรั่วซึมเข้ามาภายในอาคารได้ ซึ่งวิธีการแก้ไขทำได้ด้วยการขูดเปลี่ยนวัสดุเดิมและยาแนวเข้าไปใหม่อีกครั้ง โดยทั่วไปแล้วอายุของเคมีภัณฑ์จะอยู่ประมาณ 3 – 5 ปี แต่หากปัญหามาจากขอบยางเสื่อมสภาพ แนะนำให้แจ้งช่างเข้าไปวัดขนาดและเปลี่ยนใหม่

รายละเอียดบริการติดตั้งประตู หน้าต่าง https://bit.ly/308Bg1b

5. ปัญหาที่เกิดจากพื้นภายนอกบ้าน อีกปัญหาที่มักจะพบในช่วงหน้าฝนคือ พื้นดินบริเวณรอบ บ้านเกิดการทรุดตัว สืบเนื่องจากมีแรงจากน้ำฝนที่ตกจากหลังคามาเป็นตัวเร่งทำให้ดินกระเด็น ซึ่งหากบ้านเกิดปัญหาเป็นโพรงใต้บ้านอาจทำให้ดินบางส่วนไหลเข้าสู่ใต้บ้านได้ โดยวิธีการแก้ไขแนะนำให้ติดตั้งรางน้ำ เพื่อลดปริมาณน้ำที่ตกกระทบและแก้ไขโพรงใต้บ้านที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การปิดโพรงสามารถพิจารณาจากขนาดของโพรงใต้บ้านก่อน หากขนาดโพรงไม่ใหญ่มากอาจใช้การแก้ไขโดยการใช้ขอบคันหินเข้ามาช่วย แต่หากโพรงมีขนาดใหญ่อาจใช้วิธีปิดแบบแผ่นพื้นสำเร็จ แผ่นซีเมนต์บอร์ด หรือการใช้บริการเติมเต็ม ปิดโพรงใต้บ้าน ซึ่งเป็นบริการจาก SCG HOME (บริการเติมเต็ม ปิดโพรงใต้บ้านด้วยวัสดุมวลเบาสูตรพิเศษ ไม่เพิ่มน้ำหนักโครงสร้าง ลดปัญหาการทรุดตัวของดินใต้บ้านในระยะยาว)

รายละเอียดบริการเติมเต็ม ปิดโพรงใต้บ้าน https://bit.ly/3oTXoH1

เมื่อทราบสาเหตุและวิธีการแก้ไขปรับปรุงบ้านให้พร้อมสำหรับรับหน้าฝนกันแล้ว เจ้าของบ้านจึงไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะปัญหาเล็ก ๆ ที่เห็นเหล่านั้น อาจลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ทำให้ปวดหัวได้ ดังนั้น จึงควรหมั่นตรวจสอบสภาพของบ้านอยู่เสมอ เพื่อเป็นการดูแลรักษาบ้านให้แข็งแรงและปลอดภัยอยู่กับเราไปนาน ๆ

สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาเรื่องบ้านรั่ว ร้อน ร้าว ทรุด หรือต้องการคำแนะนำเรื่องสร้าง ซ่อมแซม ปรับปรุง ตกแต่งบ้าน สามารถลงทะเบียนปรึกษาเรื่องบ้านออนไลน์กับหมอบ้านของ SCG HOME ได้ที่ https://bit.ly/2Yzww4x หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCG HOME Contact Center 02-586-2222

โปรโมชั่นดีๆ สำหรับคนรักบ้าน https://bit.ly/3iRS17p

ขอขอบคุณข้อมูลจาก SCG HOME Experience