55 ปีแห่งการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของบริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบรนด์ไทยที่ได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจมาโดยตลอด กับ 27 รางวัลแห่งความสำเร็จจากเวทีในประเทศและระดับโลก ภายใต้แคมเปญ “สัมมากร…ไม่ใช่สรรพากร” ที่สร้างความน่าจดจำและชวนให้นึกถึงแบรนด์ในแง่มุมสนุกกว่าที่เคย เผยถึงทิศทางธุรกิจปี 2568 ฝ่ามรสุมช่วงตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว ปักธง 3 ทำเลศักยภาพ เกษตร-นวมินทร์ และ ลาซาล จากแบรนด์ “Providence Lane” และโครงการใหม่ในซอยลาดพร้าว 91 กับโครงการ  “91 KINTON” พร้อมตั้งเป้าสร้างรายได้เติบโตขึ้น 60% จากปี 2567

ความสำเร็จของสัมมากร ปี 2567

นายณพน เจนธรรมนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ปี 2567 ที่ผ่านมาด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจกำลังซื้อที่ถดถอย หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยที่ไม่จูงใจ ตลอดจนความเข้มงวดจากนโยบายการให้สินเชื่อ ส่งผลด้านลบต่อภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้รายได้เฉลี่ยปรับลดลงตามภาวะตลาดชะลอตัว ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เรายังคงเดินหน้าพร้อมส่งมอบบ้านแก่ลูกค้าและเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ปีที่ผ่านมาเป็นอีกปีแห่งความภูมิใจที่สามารถคว้ารางวัลมากมายจากเวทีในประเทศและระดับโลกถึง 27 รางวัลภายใต้แคมเปญ “สัมมากร…ไม่ใช่สรรพากร” อาทิ รางวัล Gold จาก Cannes Lions 2024 สาขา Film ในหมวด Use of Humour และรางวัล Gold จาก New York Festivals Advertising Awards สาขา Film ในหมวด Product & Services

“แคมเปญ “สัมมากร…ไม่ใช่สรรพากร” ตอกย้ำถึงความสำเร็จของแบรนด์ สร้างสถิติการรับรู้และเข้าถึงแบรนด์ (Brand Awareness) จากผู้บริโภคทุกกลุ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด เห็นได้ชัดจากยอดการเข้าชมแคมเปญดังกล่าวผ่าน Official Account ในทุกแพลตฟอร์มสูงถึง 7.6 ล้านวิว และได้รับ Engagement กว่า 4 ล้านครั้ง และถึงแม้ว่ายอดขายปี 2567 จะปรับตัวลดลงตามกลไกการตลาด แต่เราไม่หยุดนิ่งพัฒนาปรับกลยุทธ์ภายในองค์กรให้ก้าวหน้า และพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายณพน กล่าว

ประเมินทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2568

นายณพน มองว่า “ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ ช่วงครึ่งปีแรกยังคงชะลอตัว แต่เชื่อว่าที่อยู่อาศัยยังคงเป็นปัจจัยหลักในการใช้ชีวิต และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ซึ่งคาดว่านโยบายการสนับสนุนจากภาครัฐ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจ เช่น การเติบโตในภาคการท่องเที่ยวและบริการ ตลอดจนการค้าระหว่างประเทศที่เกื้อหนุนการลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ปีนี้ยังเป็นปีที่ภาวะการแข่งขันสูงในตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ ทำให้ผู้พัฒนาต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งด้านการพัฒนาสินค้าที่ตรงใจลูกค้า การสื่อสารการตลาดและสร้างแบรนด์ที่เข้าถึงผู้บริโภค”

ประเมินทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2568

นายณพน มองว่า “ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ ช่วงครึ่งปีแรกยังคงชะลอตัว แต่เชื่อว่าที่อยู่อาศัยยังคงเป็นปัจจัยหลักในการใช้ชีวิต และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ซึ่งคาดว่านโยบายการสนับสนุนจากภาครัฐ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจ เช่น การเติบโตในภาคการท่องเที่ยวและบริการ ตลอดจนการค้าระหว่างประเทศที่เกื้อหนุนการลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ปีนี้ยังเป็นปีที่ภาวะการแข่งขันสูงในตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ ทำให้ผู้พัฒนาต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งด้านการพัฒนาสินค้าที่ตรงใจลูกค้า การสื่อสารการตลาดและสร้างแบรนด์ที่เข้าถึงผู้บริโภค”

กลยุทธ์การพัฒนาโปรเจ็กต์ใหม่ ปี 2568 

การจะเลือกซื้อบ้านสักหลัง ผู้บริโภคในปัจจุบันอาจไม่ได้มองเพียงราคาเป็นปัจจัยหลัก แต่ยังให้ความสำคัญกับ “คุณค่า” ที่จะได้รับจากแบรนด์นั้น ๆ (Value Proposition) และต้องการบ้านที่สามารถสะท้อนตัวตน มอบคุณภาพการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ทำให้การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของสัมมากรทุกหลังมาจากข้อมูลเชิงลึกด้วยความเข้าใจในลูกค้า (Customer Centric) ทำให้การออกแบบพื้นที่ของบ้าน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการตรงกับความต้องการ มุ่งเน้นดีไซน์ที่มอบความสวยงามในทุกช่วงเวลาและส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้

สำหรับกลยุทธ์พัฒนาโครงการปีนี้ ที่เราต้องการเติมเต็มพอร์ตบ้านระดับลักชัวรี (Luxury Segment) เน้นชูความโดดเด่น 3 ด้านหลัก ได้แก่

1. โดดเด่นด้านทำเล (Prime Location) : ทำเลศักยภาพ เชื่อมต่อทุกการเดินทาง

2. โดดเด่นด้านการออกแบบ (Design & Functionality) : ดีไซน์และฟังก์ชันบ้านเข้ากับไลฟ์สไตล์ สะท้อนตัวตนเหนือระดับ

3. โดดเด่นด้านบริการ (Exceptional Service) :ใส่ใจทุกมิติของบริการหลังการขาย เพื่อประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ

ปักหมุด 3 ทำเลศักยภาพ มอบความคุ้มค่าสำหรับชีวิตยุคใหม่

ปีนี้ สัมมากร เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 3 แห่ง มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ได้แก่โครงการ 91 KINTON ทาวน์โฮมสามชั้นครึ่งในซอยลาดพร้าว 91 โดยโครงการเน้นดีไซน์มอบความเป็นส่วนตัวแก่ผู้อยู่อาศัย โดดเด่นด้วยฟังก์ชันการออกแบบให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ราคาเริ่มต้นมูลค่า 15 ล้านบาท* (พรีเซลไตรมาส 3) และการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของแบรนด์ PROVIDENCE LANE หลังประสบความสำเร็จและได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากโครงการแรก PROVIDENCE LANE เอกมัย-รามอินทรา ในปีนี้ปักหมุด 2 ทำเลศักยภาพ ได้แก่

1. PROVIDENCE LANE เกษตร-นวมินทร์ บ้านเดี่ยวเน้นความสุนทรียของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ในราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท* (พรีเซลไตรมาส 3)

2. PROVIDENCE LANE ลาซาล บ้านเดี่ยวเน้นความสมดุลระหว่างความหรูหราและความเป็นธรรมชาติเหนือกาลเวลา ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท* (พรีเซลไตรมาส 4)

“ปี 2568 เป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่เรายังคงเชื่อมั่นในเป้าหมายการเติบโต โดยวางแผนเจาะกลุ่มลูกค้าบ้านระดับลักชัวรีมากกว่าครึ่งของสัดส่วนการขายทั้งหมด ถึงแม้ว่าหลายแบรนด์จะลงมาแข่งขันในเซกเมนต์นี้ แต่เมื่อพิจารณาศักยภาพรอบด้านและจุดเด่นที่แตกต่างของแบรนด์ เราเชื่อว่าทั้ง 3 โครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้จะได้รับความสนใจและเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้อยู่อาศัยที่กำลังมองหาชีวิตที่สมบูรณ์แบบ” นายณพน กล่าว

เป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้าของสัมมากร

นายณพน กล่าวอีกว่า “จริง ๆ แล้ว เรามองถึงเป้าหมายระยะยาวในอีก 50 ปีข้างหน้า ที่ต้องการให้สัมมากรเติบโตอย่างมั่นคงและเป็นแบรนด์ Top of Mind ให้ผู้คนนึกถึงเมื่อกำลังมองหาที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ดี ในช่วง 5 ปีจากนี้ ลูกค้ายังคงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เรามุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพที่อยู่อาศัย เพื่อมอบประสบการณ์ The Essential of Living ที่เหนือความคาดหมายและตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกวัย”

“ปีที่ 55 สู่อนาคตของสัมมากร เราเชื่อว่าการพัฒนาภายในองค์กร การใส่ใจในคุณภาพสินค้าและการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าคือรากฐานสำคัญที่จะทำให้สัมมากรเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายณพน กล่าวทิ้งท้าย