ในอนาคตข้างหน้าอาคารสร้างใหม่ของฝรั่งเศสจะมีไม้เป็นส่วนประกอบ 50%!
รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศแผนเตรียมออกกฎหมายเพื่อความยั่งยืนให้อาคารสาธารณะที่สร้างใหม่ต้องมีส่วนประกอบจากไม้อย่างน้อย 50% มาตราการนี้จะถูกบังคับใช้ภายในปี 2022 โดยมีผลกับอาคารที่ได้รับเงินสนับสนุนจากทางการฝรั่งเศส
นาย Julien Denormandie รัฐมนตรีว่าการเคหะและเมืองแห่งฝรั่งเศสเปิดเผยต่อสำนักข่าวฝรั่งเศสว่า เขากำหนดให้การปลูกสร้างอาคารสาธารณะใหม่ต้องมีไม้หรือวัสดุ Bio-base เป็นส่วนประกอบอย่างน้อย 50%
วัสดุ Bio-base มักได้มาจากส่วนของสิ่งมีชีวิตอย่าง พืช ต้นไม้ สัตว์ ยกตัวอย่างเช่น ใบปอและฟางข้าว โดยตัววัสดุจะมีความคล้ายกับไม้ตรงที่ทิ้ง Carbon footprint ต่ำเมื่อเทียบกับวัสดุการก่อสร้างอื่น เช่น เหล็กและคอนกรีต
ข้อเสนอนี้สอดคล้องกับแผนการสร้างเมืองอย่างยั่งยืนแห่งฝรั่งเศสที่ประกาศออกมาเมื่อปี 2009 และประธานาธิบดี Emmanuel Marcron ที่ผลักดันให้ประเทศเข้าสู่การเป็น Carbon Neutral หรือการมีองค์กร ผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050
รัฐมนตรี Denormandie ยังเชิญชวนสำนักข่าวให้ติดตามงานสัมมนา Living in the city of tomorrow ของเขาที่จัดขึ้นที่ UNESCO เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภายในงานเขาอธิบายการตัดสินใจที่นำไปสู่กฎหมายสนับสนุนให้เกิดการใช้วัสดุ Bio-base ในการสร้างอาคารกีฬาปารีสโอลิมปิกที่กำหนดไว้ในปี 2024 และอาคารใดที่มีจำนวนมากกว่า 8 ชั้นขึ้นไปจะต้องถูกสร้างจากไม้ทั้งหมด
นี่เป็นเหมือนการให้คำมั่นสัญญา ให้หมดข้อกังขาว่าแนวคิดนี้อาจนำไปใช้ในงานก่อสร้างแบบปกติไม่ได้ในเมื่อการก่อสร้างสำหรับงานโอลิมปิกยังทำได้
นอกจากนี้ทางการฝรั่งเศสยังลงทุนอีก 20 ล้านยูโร หรือราวๆ 713 ล้านบาท ให้แก่การสร้างฟาร์มคนเมือง 100 แห่ง ในเขตชานเมือง ฟาร์มจะถูกสร้างในละแวกชุมชนเป็นลำดับแรก โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายไปในเมืองที่ต้องการการลงทุนเพิ่มเพื่อต่อสู้กับปัญหาที่มีอยู่โดยเฉพาะ ด้วยความหวังจะสร้างพื้นที่สีเขียวไปทั้งฝรั่งเศสและเพิ่มโอกาสให้คนในพื้นที่มีผลผลิตที่งอกงาม
ในฐานะพ่อคน Denormandie กล่าวว่า “เขาอยากให้สิ่งที่อยู่ในจานอาหารของลูกๆ นั้นมาจากผลผลิตของคนในท้องถิ่นมากกว่าถูกขนส่งมาจากเครื่องบิน”