ครั้งหนึ่งฮ่องกงเคยเป็นหนึ่งในตัวเลือกการลงทุนในอสังหาฯ ของเหล่านักลงทุนชนชั้นกลางจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ท่ามกลางการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ยาวนาน ทำให้สิงคโปร์ขึ้นแท่นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจแทน

ดังเช่นแจ๊คกี้ นักธุรกิจวัยสามสิบปลายๆ จากกวางโจวที่กำลังวางแผนซื้อคอนโดขนาด 1 ห้องนอน งบ 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสิงคโปร์เพิ่มเข้าไปในพอร์ตการลงทุนของตัวเอง เพิ่มเติมจากอสังหาฯในเสินเจิ้นและฮ่องกง หลังจากที่ได้ไปเยี่ยมชมเมืองสิงโตทะเลเมื่อวันหยุดยาว

แจ๊คกี้เป็นหนึ่งในนักลงทุนคลื่นลูกใหม่จากจีนแผ่นดินใหญ่ที่มองหาช่องทางลงทุนนอกประเทศตัวเอง แจ๊คกี้เผยว่าในตอนแรกเขาได้พิจารณาฮ่องกงเป็นหนึ่งตัวเลือกการลงทุนของเขาด้วย แต่ด้วยระยะเวลาประท้วงอันยาวนานกว่า 6 เดือนของที่นั่นทำให้เขาต้องมองประเทศที่ไกลออกไปอีกอย่างสิงคโปร์

เขาวางแผนจะขายอสังหาฯ ในฮ่องกงแล้วนำเงินไปลงทุนในสิงคโปร์ ประเทศที่มีความมั่นคงและสกุลเงินที่แข็งแกร่งกว่า

ทางด้านคลาเรนซ์ ฟู่ รองผู้อำนวยการแผนกของบริษัทอสังหาฯ ERA ก็กล่าวว่า ฮ่องกงเคยเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งมากๆ สำหรับนักลงทุน แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว สำหรับคนกลุ่มนี้ ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด พวกเขารู้ว่าตนไม่เป็นที่ต้อนรับและกำลังตกเป็นเป้าจากชาวฮ่องกง หากคุณพูดด้วยสำเนียงจีนแผ่นดินใหญ่ก็อาจถูกทำร้ายได้

ชาวจีนแผ่นดินใหญ่รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในการอาศัยและทำงานในฮ่องกง พวกเขาเริ่มหวาดวะแรงและสอนให้เด็กๆ พูดเป็นภาษาอังกฤษเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าจากการโจมตี

ลิลลี่ ฮาน ที่ปรึกษาด้านการลงทุนจากปักกิ่งเผยว่า ความประสงค์ซื้อจากชาวจีนแผ่นดินใหญ่ถึงอสังหาฯ ในสิงคโปร์มีเพิ่มขึ้นถึง 30% นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ความนิยมกำลังเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เธอเสริมอีกว่าทางบริษัทของเธอเองก็เริ่มแนะนำสิงคโปร์ให้เป็นจุดหมายการลงทุนอันดับหนึ่งในเอเชีย

เช่นเดียวกันกับ มิเชล เกา ตัวแทนอสังหาฯ จากเซี่ยงไฮ้ ที่เห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน ความสนใจซื้อในสิงคโปร์มีเพิ่มขึ้น 25% นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน เธอกล่าวว่าสิงคโปร์เคยเป็นหนึ่งในตัวเลือกมานาน แต่ดูเหมือนตอนนี้จะเป็นเวลาที่เนื้อหอมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

ประชากรชาวสิงคโปร์ประมาณ 80% จาก 5.8 ล้านคนอาศัยอยู่ในแฟลตที่อนุญาตเฉพาะพลเมืองชาวสิงคโปร์และผู้มีสิทธิพำนักในประเทศแบบถาวรเท่านั้น ส่วนอีก 20% ที่เหลืออาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ส่วนตัวซึ่งเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติ

ตลาดอสังหาฯ สิงคโปร์เริ่มเนื้อหอมในหมู่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่แม้ว่าราคาจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับยุโรปก็ตาม สิ่งที่นักลงทุนให้ความสำคัญ คือ ความมั่นคงทางการเมือง

กลุ่มนักลงทุนที่กำลังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี้มีงบประมาณอยู่ที่ราว 8-10 ล้านหยวน (35-44 ล้านบาท) และเป็นกลุ่มที่กำลังหาซื้อบ้านเพื่อให้ลูกๆ ได้อยู่อาศัยและเรียนที่สิงคโปร์ไปด้วยเลย

อีกหนึ่งผู้ให้ข้อมูลนามว่า ซินดี้ กล่าวว่า ระบบการศึกษาของสิงคโปร์เหมาะสำหรับชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะมีนโยบาย 2 ภาษา โดยนักเรียนจะต้องเรียนภาษาที่ 2 เช่น จีน มาเลย์ หรือทมิฬ เพิ่มเติมไปจากภาษาอังกฤษ โรงเรียนนานาชาติจึงเหมาะเจาะอย่างมากสำหรับพวกเด็กๆ ที่จะมาอาศัยอยู่ในสิงคโปร์

คลาเรนซ์ ฟู่ จาก ERA ยังเสริมอีกว่าอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนจีนแผ่นดินใหญ่หันมาสนใจอสังหาฯ ในสิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง คือ ราคาอสังหาฯ ในจีนที่ราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ในเมืองหลักอย่าง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจวและเสินเจิ้น รวมไปถึงสัดส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนอสังหาฯ ในประเทศอื่นก็ไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจเท่าที่ควร เช่น มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เพราะบางประเทศก็มีปัญหาความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองเช่นเดียวกัน

และถึงแม้ว่าทางรัฐบาลสิงคโปร์จะขึ้นอัตราอากรแสตมป์ Additional Buyer’s Stamp Duty (ABSD) สำหรับชาวต่างชาติเพิ่มอีก 5% ให้กลายเป็น 20% กำลังซื้อจากนักลงทุนจีนก็ยังแข็งแกร่ง โดยมีจำนวนธุรกรรมรวมจากจีนมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2019 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2018

แหล่งข้อมูลและภาพประกอบ

https://www.scmp.com/week-asia/economics/article/3043313/chinas-new-wave-mid-tier-investors-set-their-sights-singapore

https://unsplash.com/photos/Gf_KqXHU-PY

https://unsplash.com/photos/Gdk04KwRbGU

https://unsplash.com/photos/1z2rtP3XGf8

http://www.iss.edu.sg/gallery/campus/