แม้ว่าหลายคนจะจำภาพฮ่องกงว่าเป็นป่าคอนกรีต ทว่าฮ่องกงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสวย ๆ มากมาย ตั้งแต่อาคารเก่าแก่สไตล์สไตล์โคโลเนียล

อายุหลายร้อยไป ไปจนถึงอาคารแนวโมเดิร์นที่ล้ำสมัย ทั้งตึกแถวแบบดั้งเดิม อนุสรณ์สถานแบบนีโอคลาสสิก ไปจนถึงหอคอยแบบสมัยใหม่ มาดูกันว่าอาคารสวย ๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้คุ้นตาคุณบ้างหรือไม่?

1. Hong Kong Court of Final Appeal

ที่มา: https://www.hkcfa.hk/en/visiting/cfa_building/CFAB_PhotoGallery/index_id_15.html

เนื่องจากฮ่องกงเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ทำให้อาคารดั้งเดิมหลายหลังค่อย ๆ หายไป ทำให้อาคารของศาลอุทธรณ์สูงสุดประจำเมืองฮ่องกงแห่งนี้ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นเห็นเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิกสุดอลัง โดยอาคารเก่าแก่หลังนี้สร้างเสร็จตั้งแต่ในปี 1912 โดยฝีมือสถาปนิกที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบบางส่วนของพระราชวัง Buckingham และพิพิธภัณฑ์ V&A ในกรุงลอนดอน

อาคารดั้งเดิมเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากสไตล์กรีกแบบคลาสสิกที่สังเกตเห็นได้จากเสาอิออนและหน้าจั่ว

อาคารโคโลเนียลแห่งนี้ยังมีกลิ่นไอของสถาปัตยกรรมของอังกฤษอย่างตราแผ่นดินของสหราชอาณาจักรและรูปปั้นเทมิสผู้เป็นเทพีแห่งความยุติธรรมตามตำนานกรีกในลักษณะเดียวกันในศาลอาญา Old Bailey ในกรุงลอนดอนด้วย เนื่องจากอาคารได้มีการใช้งานมานานกว่าร้อยปี ครั้งหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่แห่งนี้เคยเป็นสำนักงานใหญ่ในช่วงที่ถูกญี่ปุ่นยึดครองด้วย

2. 1881 Heritage

ที่มา: https://www.1881heritage.com/about.php

ที่นี่ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าที่มีการตกแต่งภายนอกแบบย้อนยุค แต่เป็นอาคารเก่าแก่สไตล์นีโอคลาสสิกที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งถูกสร้างเพื่อใช้เป็นสำนักงานของตำรวจนาวิกโยธินฮ่องกงมาก่อน จากนั้นมาตัวอาคารหลักก็ได้ถูกดัดแปลงกลายมาเป็นบูติกโฮเทลที่ชื่อว่า Hullett House และในส่วนของหอสัญญาณและสถานีดับเพลิงเก่าได้กลายมาเป็นแหล่งขายเสื้อผ้า ร้านอาหาร และเครื่องดื่มแทน สถาปัตยกรรมของตัวอาคารยังคงงดงามไม่เคยเปลี่ยน และเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคู่รักในการถ่ายภาพพรีเว้ดดิ้งกันด้วย

3. หลุยเซ่งชุน (Lui Seng Chun)

ที่มา: http://www.hk.science.museum/scifest2021/web/view_detail.php?lang=en&act_refno=242&text=0

อาคารหลุยเซ่งชุนเป็นอาคารตึกแถวแบบกวางตุ้งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในฮ่องกง เนื่องจากเป็นตัวอย่างอาคารของฮ่องกงในช่วงก่อนเกิดสงคราม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุคเฟื่องฟูของยุโรป ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเสา ราวบันได และหน้าจั่ว ผสานเข้ากับสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของหน้าอาคารแบบโค้ง พร้อมระเบียงที่มีสำหรับป้องกันน้ำท่วมและให้ร่มเงากับตัวอาคาร ดั้งเดิมเคยเป็นร้านขายยาจีนมาก่อน ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นศูนย์สุขภาพและขายยาจีนของมหาวิทยาลัยแบ๊บติสต์ฮ่องกง (Baptist University)

4. สถาบันการออกแบบฮ่องกง (Hong Kong Design Institute)

ที่มา: https://greenbuilding.hkgbc.org.hk/projects/view/269

สถาบันการออกแบบฮ่องกงเป็นอาคารโพเดียมลอยตัวขนาดใหญ่ที่ถูกค้ำยันไว้ด้วยเสาเหล็กลวดลายตาข่าย เป็นอาคารสไตล์โมเดิร์นที่เหมือนหลุดออกมาจากหนังไซไฟยังไงยังงั้น ตัวอาคารใช้วัสดุอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คอนกรีต กระจก และเหล็ก ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกที่ชื่อว่า Thomas Coldefy ที่ต้องการออกแบบอาคารหลังนี้ให้แหวกแนว ใช้งานได้อย่างหลากหลาย และเป็นการเปิดประตูให้กับทุกความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นไปได้สำหรับงานดีไซน์ในอนาคต

5. วัดนางชีฉีหลินและสวนหนานเหลียน (Chi Lin Nunnery)

ที่มา: https://en.wikipedia.org/wiki/Chi_Lin_Nunnery

คอมเพล็กซ์วัดพุทธสไตล์ราชวงศ์ถังแห่งนี้ประกอบไปด้วยห้องโถง 16 แห่ง ซึ่งสร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมจีนแบบดั้งเดิม และเต็มไปด้วยฟีเจอร์ของการใช้น้ำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกที่พาดผ่านร้านอาหารในโรงแรม แหล่งโอเอซิสแห่งเดียวในย่านหว่องไทชิน พื้นที่แห่งเดียวของฮ่องกงที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล งดงามด้วยบ่อบัวที่อยู่รายล้อม งานไม้อันประณีต และสักการะพระธาตุอันทรงคุณค่า และไม่ลืมที่จะแวะชมความสวยงามของสวนหนานเหลียน

อาคารทั้งหมด 5 หลังนี้ต่างก็แสดงถึงความเป็นฮ่องกงได้เป็นอย่างดี ดินแดนที่ผสมผสานหลากหลายวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งสถาปัตยกรรมแบบจีนดั้งเดิม อาคารโคโลเนียล หรืออาคารฝีมือสถาปนิกจากอังกฤษ และอาคารสุดล้ำสมัยที่ไม่เหมือนอาคารใด แต่ละแห่งได้ย้อนพาผู้พบเห็นนึกถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของฮ่องกง ที่จะยังคงก้าวหน้าทางด้านงานออกแบบและเศรษฐกิจต่อไป ทว่ายังแวะไปชมความสวยงามของร่องรอยแห่งวัฒนธรรมในอดีตได้เสมอเมื่อหวนคิดถึง