– ห้องชุดแห่งแรกที่ The Regent (เดอะ รีเจ้นท์) ในย่านไทโป ได้ถูกปล่อยขายในวันพฤหัสบดี ด้วยราคาเฉลี่ยต่อ ยูนิตที่ 12,800 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อตารางฟุต

– เหล่านักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างคาดากรณ์ว่าความต้องการขาย (อุปทาน) จะมีเพิ่มขึ้นจนล้นตลาดในไม่กี่เดือนข้างหน้า และจะเป็นตัวบังคับให้ราคาลดลงไปอีก

นักพัฒนาโครงการจากจีนแผ่นดินใหญ่ China Overseas Land and Investment ได้เปิดตัวที่พักอาศัยแห่งใหม่ในย่านไทโป เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาพร้อมกระหน่ำส่วนลดมากมาย เพื่อที่จะป้องกันการแข่งขันท่ามกลางความต้องการขาย (อุปทาน) ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของตลาดที่พักอาศัย

ในการขายอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของปีนั้น ทางผู้พัฒนาได้ตั้งราคาให้กับ 324 ยูนิตแรกของ The Regent (เดอะ รีเจ้นท์) ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 10,688 ดอลลาร์ฮ่องกง (1,364 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตารางฟุตหลังจากหักส่วนลดแล้ว

ราคาเฉลี่ยต่อยูนิตอยู่ที่ 12,800 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อตารางฟุต น้อยกว่าโครงการใกล้เคียงที่เปิดตัวไปเมื่อ 5 เดือนที่แล้วประมาณ 32% The St. Martin by Sun Hung Kai Properties ที่ห่างออกไปประมาณ 5 นาทีโดยรถยนต์ ถูกขายไปในราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 18,698 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อตารางฟุต ในเดือนกรกฎาคม ไม่นานก่อนที่ปรากฏการณ์ราคาบ้านในเมืองพุ่งกระฉูดตลอด 28 เดือน ที่ผ่านมาจะจบลง

“สิ่งที่จะเรียกความสนใจได้ในขณะนี้คือราคาที่ต่ำเท่านั้น” นายโทมัส ลาม ผู้อำนวยการบริหารของ Knight Frank กล่าว

“ดูเหมือนว่านักพัฒนาโครงการในจีนแผ่นดินใหญ่ต้องการที่จะได้เงินสดโดยเร็วที่สุด และเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ ทางเดียวที่ทำได้คือ การเพิ่มส่วนลด”

การเปิดตัวอสังหาริมทรัพย์ ล่าสุด ได้รับผลลัพธ์ที่ไม่ดีนัก ยกเว้นเพียง 1 โครงการ Sino Land’s Grand Central ในย่านเกาลูนตะวันออก ที่ให้ส่วนลด 14% ในช่วงกลางเดือนธันวาคม การซื้อห้องชุดที่ออกมาใหม่ จึงกลายเป็นราคาเดียวที่ทำให้ขายหมดได้อย่างรวดเร็ว ในตอนนี้มีการขายไปแล้วประมาณ 98% จากจำนวน 1,417 ห้อง ที่ปล่อยขายโดยนักพัฒนารายเดียวกัน

เหล่านักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างคาดการณ์ว่า ความต้องการขาย (อุปทาน) จะมีเพิ่มขึ้นจนล้นตลาดในไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ราคาถูกปรับลงอย่างรวดเร็ว เพื่อจะดึงความสนใจของเหล่าผู้ซื้อ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะมีที่พักอาศัยประมาณ 4,29 ยูนิต ออกมาสู่ตลาดในไทโปภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า

Central Horizon โครงการไทโป จำนวน 1,408 ยูนิต โดย Billion Development และ Project Management ได้รับอนุญาตให้มีการพรีเซลแล้ว ส่วนโครงการอื่นๆในไทโป รวมถึง Ontolo โดย Great Eagle Holding และ Mayfair Sea 8 ก็มีการขออนุญาตในการพรีเซลแล้วเช่นกัน

แม้จะมีการแจกส่วนลดที่ The Regent ทาง China Overseas ก็ยังคงเชื่อว่าจะยังมีการทำกำไรอยู่

Jeffrey Mak, นักวิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์ของ CGS-CIMB Securities กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาโครงการแต่ละแห่งอาจจะต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อตารางฟุต

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ทาง China Overseas ได้ซื้อที่ดินในปี 2016 ด้วยราคา 2.13 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 1,848 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อตารางฟุต

ที่พักอาศัยชุดแรกที่จะถูกปล่อยสู่ตลาด เป็นโครงการที่มีส่วนพักอาศัยจำนวน 1,620 ยูนิต มีขนาดตั้งแต่ 377 ตารางฟุต ถึง 701 ตารางฟุต

ยูนิตที่มีราคาถูกที่สุดของ The Regent ขายอยู่ที่ราคา 4.39 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ในขณะที่ห้องที่มีราคาสูงที่สุดถูกขายไปด้วยราคา 1,018 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงหลังใส่ส่วนลดแล้ว

“ผู้ซื้อจำนวนมากจะต้องมาซื้อห้องชุดในราคานี้อย่างแน่นอน” Mark Fong ตัวแทนของ Centaline Property สาขาไทโปกล่าว “ผู้พัฒนามีมากกว่า 1,000 ยูนิต และภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันนี้ จำเป็นจะต้องตั้งราคาที่ถูกลงเพื่อเรียกลูกค้าให้หันมาซื้อ”

Fong กล่าวว่า ราคาในตอนนี้อยู่ในระดับเดียวกันกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีอายุราวๆ 20 ปี ในพื้นที่เดียวกัน

ที่พักขนาด 924 ตารางฟุตในย่านเดียวกันกับ Grand Palisades สร้างเมื่อปี 1997 ถูกขายไปในราคา 13.78 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 14,628 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อตารางฟุต เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ในขณะที่ห้องขนาด 3 ห้องนอนอื่นๆใน Classical Gardens สร้างเมื่อปี 1994 มีการตั้งราคาขายอยู่ที่ประมาณ 10.79 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 12,815 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อตารางฟุต

กลุ่มเป้าหมายเหล่าผู้ซื้อบ้านกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องเศรษฐกิจ และคาดการณ์ว่าราคาที่พักอาศัยในเมืองจะมีการเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 25% ในปีนี้

จำนวนการซื้อข่ายอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการซื้อขายห้องชุด, สำนักงานและลานจอดรถ ลดลงเหลือ 3,024 ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ลดลงถึง 58% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านๆมา อ้างอิงข้อมูลของ Midland Realty

ที่มา : https://www.scmp.com/business/article/2180611/hong-kongs-first-residential-project-sale-year-released-steep-price