อาคารออฟฟิศกลางกรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพื้นที่กว่า 2,800,000 ตารางฟุต ถูกออกแบบโดยบริษัท Bjarke Ingels Group (BIG)

ภาพจาก: Archdaily

The Spiral ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นอาคารสูงที่ดีที่สุดในโลก โดยสภาอาคารสูง และ Urban Habitat ในการประชุมประจำปี อาคาร The Spiral ได้เชื่อมต่อภูมิทัศน์ของพื้นที่สีเขียวต่อเนื่องจากพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง High Line Park สู่พื้นที่เปลือกภายนอกอาคาร โดยทุกๆชั้นของอาคารที่มีความสูง 66 ชั้นจะสามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวริมระเบียงได้

ภาพจาก: Archdaily

อาคารแห่งนี้ถูกพัฒนาโดย Tishman Speyer สร้างโดย Turner และเปิดอย่างเป็นทางการโดยมีบริษัทระดับโลกจับจองพื้นที่หลายบริษัท เช่น Pfizer, Debevoise & Plimpton, Turner Construction, HSBC และอื่นๆอีกมากมาย

ภาพจาก: Archdaily

โดยอาคาร The Spiral มีที่ตั้งอยู่บนถนน West 34 ^th Street ระหว่าง Hudson Boulevard และ 10 ^th Avenue ซึ่งมีพื้นที่ติดกับ High Line และสวน Bella Abzug ทางฝั่งตะวันตกของแมนฮัตตัน (Manhattan) ซึ่งอาคารสูงแห่งนี้ถูกออกแบบโดย BIG ร่วมมือกับ Adamson Associates และวิศวกรรมโครงสร้างจาก WSP Cantor Seinuk ตัวอาคารมีจำนวน 66 ชั้น มีพื้นที่กว่า 2.8 ล้านตารางฟุต และความสูงกว่า 1,031.5 ฟุต(314.4 เมตร) โดยอาคาร The Spiral กำลังดำเนินการขอรับรองจาก LEED Silver ซึ่งอาคารแห่งนี้เป็นอาคารสูงที่สร้างเสร็จแห่งแรกที่ดีไซน์โดย BIG และเป็นอาคารเชิงพาณิชย์แห่งแรกในพื้นที่ใจกลางกรุงนิวยอร์กด้วย

ภาพจาก: Archdaily

ในชั้นระดับถนน Street Level ตัวอาคารดึงดูดสายตาจากคนที่ผ่านไปผ่านมา มาสู่ พื้นที่สีเขียวที่รัดอยู่บนตัวอาคาร ต่อเนื่องกับต้นไม้ที่ทอดยาวไปตาม High Line เหนือถนน West 34 ^th Street และเส้นขอบฟ้าของแมนฮัตตัน ตัวอาคารมาพร้อมกับ Façade ด้านหน้าอาคารเป็นแผงกระจกช่วยให้คนที่สัญจรไปมา มองเข้ามาสู่พื้นที่ภายในล็อบบี้อาคารที่มีความสว่าง โปร่งโล่ง และกว้างขวาง แถมมีการประดับตกแต่งงานศิลปะต่างๆ จาก Dutch Studio DRFT และต้นไม้ดอกไม้อันเขียวชอุ่ม

ภาพจาก: Archdaily

การเข้าอาคารสามารถเข้าได้จากทั้งฝั่ง Hudson Boulevard และ 10^th Avenue โดยล็อปปี้อาคาร The Spiral เลือกใช้วัสดุโลหะ (Metal) ที่มีความแตกต่างกัน 7 ชนิด เพื่อเป็นการให้เกียรติกับพื้นที่อุตสาหกรรมทางประวัติศาสตร์ดั้งเดิมในบริเวณนี้

ภาพจาก: Archdaily

ซึ่งภาษาการออกแบบสะท้อนถึงดีไซน์ความงามตามความคลาสสิคของอาคารสูงในเมืองแมนฮัตตัน ยกตัวอย่างเช่น ตึก Empire State และ Rockefeller Center ในขณะที่สัดส่วนที่เพรียวบางมีการใช้วัสดุสมัยใหม่ รวมถึงรายละเอียดที่บ่งบอกถึงลักษณะการดีไซน์สถาปัตยกรรมความร่วมสมัยในอาคารสูง

ภาพจาก: Archdaily

ระเบียงที่จัดภูมิทัศน์เป็นชั้น และสวนลอยฟ้าจะลัดเลาะตามขึ้นไปบนอาคารในลักษณะแบบหมุนวน เพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์ (Unique) ด้วยพื้นที่สีเขียวพันล้อมรอบส่วนหน้าของ Façade อาคาร ทำให้พื้นที่ออฟฟิศสำนักงานในแต่ละชั้น สามารถเข้าสู่พื้นที่ระเบียงได้สะดวก ด้วยพื้นที่กว่า 13,000 ตารางฟุตสำหรับพื้นที่ภายนอกอาคาร ซึ่งสวนลอยฟ้าขนาดเท่านี้ ไม่เคยถูกติดตั้งเหนือพื้นกว่า 300 ฟุต ที่เมืองนิวยอร์กมาก่อน ในส่วนพืชพันธุ์ส่วนใหญ่ที่ใช้ในอาคารจะเป็นพันธุ์ดั้งเดิมของพื้นที่ในสหรัฐอเมริกา ทำให้ทนต่อความแห้งและลมในที่สูง

ภาพจาก: Archdaily

พืชพันธุ์ในตัวอาคารมีทั้งไม้พุ่มเตี้ยและไม้พุ่มสูง มีการบานสะพรั่งในช่วงฤดูหนาว ทำให้ภูมิทัศน์อาคารก็จะปกคลุมไปด้วยต้นไม้ รวมถึงโครงไม้ระแนงแนวตั้ง English And Boston ivy ที่เป็นไม้เลื้อยที่ให้ใบตลอดฤดูหนาว โดยสีของต้นไม้จะแตกต่างกันไปในแต่ละด้านของอาคารขึ้นอยู่กับทิศทางแสงของดวงอาทิตย์ และความทนต่อลมแรง

ภาพจาก: Archdaily

เมื่อ The Spiral ที่วนขึ้นไปตามพื้นที่แต่ละชั้นก็สามารถเชื่อมต่อสู่พื้นที่ระเบียงที่มองเห็นทัศนียภาพความน่าตื่นตาตื่นใจกับวิวเมือง แมนฮัตตัน, แม่น้ำฮัดสัน Hudson และนิวเจอร์ซีย์ New Jersey ซึ่งบางชั้นของอาคารจะมอบความสูง Double-Height เป็นพื้นที่อำนวยความสะดวก (Amenity Space) และสามารถเชื่อมต่อพื้นที่ชั้นถัดไปผ่านบันไดขนาดใหญ่ (Grand Staircase) สร้างทางเลือกมากกว่าลิฟท์ และยังส่งเสริมให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน
นอกจากนี้บนชั้น 66 ของอาคารแห่งนี้ยังมี ZO Clubhouse เป็นพื้นที่ Exclusive สำหรับทุกๆคน ที่สามารถมาอยู่ร่วมกัน และเติมพลังบนพื้นที่เลาจน์ส่วนตัว และระเบียงเปิดโล่งได้

ภาพจาก: Archdaily

อาคาร The Spiral สร้างพื้นที่ทำงานร่วมสมัย ที่ผสมผสานพื้นที่ธรรมชาติเข้ากับออฟฟิศได้อย่างลงตัว ด้วยคุณลักษณะเชิงพื้นที่ที่สามารปรับให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้อยู่อาศัยได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางแจ้ง และสนับสนุนพื้นที่สีเขียวภายใน The Spiral และการเคลือบกระจกด้านนอกที่คัดสรรมาเป็นพิเศษช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้

ระบบจัดการน้ำบนตัวอาคารจะเก็บน้ำฝนที่ล้นออกมาเพื่อบำบัด และแจกจ่ายสู่พื้นที่สวน Landscape ในแต่ละชั้นช่วยให้ประหยัดน้ำได้หลายล้านแกลลอนต่อปี ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainable) เท่านั้น แต่เป็นการสร้างรากฐานใหม่ด้วยพื้นที่สีเขียวให้กับสกายไลท์ของเมืองแมนฮัตตันอีกด้วย

อ้างอิง
The Spiral / BIG | ArchDaily