ในขณะที่ดีเวลลอปเปอร์หลายๆเจ้า แข่งขันกันทำ Corporate Branding Campaign ที่มุ่งสื่อสารให้เห็นถึงความแตกต่างของแบรนด์ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นในแง่การดีไซน์ที่มีความเป็น innovative function, ทำเลสุด Rare ชนิดที่ยากที่จะหาใครเสมอเหมือน, การทุ่มเทจิตวิญญาณลงไปเพื่อสร้างสรรค์ Living Solution ที่ดีที่สุด, หรือการสร้างพื้นที่ส่วนกลางแบบใหม่ๆให้ก้าวทันไลฟ์สไตล์ปัจจุบันของผู้อยู่อาศัย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่จับต้องได้ทั้งสิ้น เมื่อโครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์ แต่สิ่งที่หลายๆดีเวลลอปเปอร์ลืมนึกถึงไปก็คือสิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นความเจริญทางวัตถุ ที่ง่ายต่อการเลียนแบบ ไม่ช้าก็เร็ว จนหลายๆครั้งเราก็มักจะพบว่าความเป็นรูปธรรมจับต้องได้เหล่านี้กลับกลายมาเป็นความเหมือนในความแตกต่างไปซะหยั่งงั้น

ในทางตรงกันข้ามการพยายามสร้างคุณค่าจากสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ให้มาจับใจผู้บริโภค ดูจะเป็นแนวทางที่นักการตลาดสายอสังหาฯมักจะมีความกังวล กล้าๆกลัวๆ ที่จะนำสิ่งที่ตอบโจทย์เชิง emotional มาใช้ในการทำโฆษณา เนื่องจากยอดขายมักจะถูกใช้เป็นเป้าหมายหลักของแคมเปญนั้นๆ ดังนั้นเมื่อผมเห็นชิ้นงาน Corporate campaign ของแบรนด์อสังหาฯส่วนใหญ่แล้ว ก็พบว่ามันช่างดูไม่สมดุลกันระหว่าง Functional และ Emotional เอาซะเลย

แน่นอนครับ หากมีเจ้าไหนสักเจ้าเลือกที่จะผลิตผลงานที่เน้นการสื่อสารให้เห็นถึงคุณค่าทางอารมณ์ มองทะลุถึง unmet need ของผู้อยู่อาศัยว่าเค้าแสวงหาอะไรที่นอกเหนือจาก Functional ภายในบ้านบ้าง ดีเวลลอปเปอร์เจ้านั้นคงเป็นสวรรค์ของบรรดาพนักงาน โดยเฉพาะทีมเซลล์และทีมการตลาด เพราะว่าที่นั่นก็คงจะไม่มีรูปแบบการขายของแบบลด แลก แจก แถม แต่ในทางกลับกันทีมงานหลังบ้านอย่างนิติบุคคล หรือ Customer Service จะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้ถึง Brand Promise ที่ไม่สามารถแจกแจงให้เห็นเป็นรูปธรรมได้เมื่อโครงการยังสร้างไม่เสร็จ

บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นการทำโฆษณาที่สื่อให้เห็นถึง บทบาทของความเป็น companion ความอบอุ่นใกล้ชิด ระหว่างคนในครอบครัว เพื่อตอกย้ำให้เห็นว่า บ้าน หรือคอนโดของบริษัทฉันเนี่ยมันเหมาะสมเหลือเกินที่จะอยู่กันหลายคน เพราะมันมีพื้นที่กว้างขวาง ห้องใหญ่โต เพื่อที่จะขายยูนิตที่มีราคาแพงๆให้ได้…โดยที่เรามักจะลืมไปว่าความเป็น companion ที่แท้จริงนั้น มันต้องอยู่ร่มกันเป็นสังคม ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน จนก่อให้เกิดความเป็นมิตรภาพชนิดที่แค่มองตาก็รู้ใจ หาใช่อยู่กันแค่ครอบครัวเดียว ในบ้านหลังเดียวเท่านั้น ไม่สนใจคนรอบข้างเลย!!!

วันนี้ผมได้มีโอกาสเห็น Corporate Branding Campaign ดีๆที่สื่อให้เห็นถึงบทบาทของความเป็น Companion อย่างแท้จริง เป็นมิตรภาพในแบบข้ามครอบครัว แต่อยู่ภายใต้รั้วหมู่บ้านเดียวกัน จากดีเวลลอปเปอร์เจ้าดังอย่าง เอสซี แอสเสท ที่ดูระยะหลังๆนี้จะมีแคมเปญเนียนๆ เชิง emotional ออกมาให้เราเห็นกันอยู่อย่างเป็นระยะๆครับ

แนวคิดของแคมเปญนี้เกิดขึ้นมาจากการการแสวงหาคำตอบของทีมงานเอสซี แอสเสท ที่พบว่า ในการอยู่อาศัยภายใต้โครงการเดียวกันเนี่ย สิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความสวยงามของบ้าน นั้นคือเพื่อนบ้านครับ…”นานแค่ไหนแล้วที่เราปล่อยให้คำว่า “รั้ว” มาขวางกั้นมิตรภาพข้างบ้านที่เราอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน เป็นเวลากว่าทศวรรษมาแล้ว ที่ SC ASSET ให้ความสำคัญกับ “เพื่อนบ้าน” ไม่น้อยไปกว่า “คุณภาพบ้าน”

จากสโลแกน “For Good Mornings ชีวิตที่ดี มาจากจุดเริ่มต้นที่ดี” ของ SC ASSET ซึ่งสื่อถึงปรัชญาของแบรนด์ที่คำนึงถึงการตอบสนองคุณภาพชีวิตทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า และเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำสังคมอบอุ่นของเพื่อนบ้านหลังการขายในวงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย

ล่าสุด! SC ASSET ได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “Walk With Me มิตรภาพดีๆ มีอยู่รอบรั้ว…แค่ออกเดิน” โดยใช้เทคนิค Interactive สุดล้ำ จากฝีมือของผู้กำกับมือรางวัลจากประเทศญี่ปุ่น ที่จะทำให้คนดูสนุกสนานและมีส่วนร่วมไปกับภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้ ด้วยแนวคิดของเนื้อเรื่องที่สวนทางกับการขายบ้าน ทำให้แคมเปญนี้ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของแบรนด์ และเป็นครั้งแรกในวงการโฆษณาอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

ในสังคมปัจจุบันเราเห็นภาพของผู้คนที่เร่งรีบในการใช้ชีวิต ตอนเช้ารีบตื่นไปทำงาน ตกเย็นกลับบ้านนอน ทำให้มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างน้อยลง ส่งผลให้ความอบอุ่นรอบรั้วบ้านจางหายลงไป ทั้งนี้ Message ที่ซ่อนอยู่ในภาพยนตร์โฆษณา “Walk With Me” คือ SC ASSET ต้องการให้ทุกคนเชื่อว่าการก้าวเท้าเดินออกจากบ้านเป็นโอกาสที่จะทำให้ได้พบปะเพื่อนใหม่ เสริมสร้างสังคมเพื่อนบ้านให้มีความสัมพันธ์และมิตรภาพที่แข็งแรง รวมถึงนัยยะที่แบรนด์ต้องการสื่อสารถึงผู้บริโภค เช่น หนังสือ ที่เปรียบเสมือนสิ่งที่ร้อยเรียงทุกๆ เรื่องราวและความสัมพันธ์เข้าด้วยกัน นอกจากนั้นในแต่ละ Chapter ยังมีเรื่องราวต่างๆ ผ่านเข้ามามากมาย พร้อมระดับความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย

ชมคลิปโปรโมตแคมเปญได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=WGBwawvunT8

ความน่าสนใจของภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้ ไม่ได้อยู่เพียงแค่ Message ที่ SC ASSET ส่งถึงผู้บริโภคเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความแตกต่างของงานโฆษณาในวงการอสังหาริมทรัพย์แบบเดิมๆ ด้วยมิวสิควิดีโอในรูปแบบ Interactive  ที่คุณต้องอึ้ง เพราะครั้งนี้เป็นโฆษณาที่เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ โดยคุณสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกเส้นทางเดินให้กับตัวละครให้ไปทางซ้ายหรือทางขวาได้ถึง 12 เส้นทางจาก 3 เรื่องราว Night Walker, Dog Walker และ Dream Walker  ซึ่งแต่ละทางที่คุณเลือกจะมีจุดจบที่ไม่เหมือนกัน เพียงแค่ Click! คุณก็สามารถเพลิดเพลินไปกับการรับชมวิดีโอได้อย่างไม่น่าเบื่อ

รับชมแบบ Interactive และดูเรื่องราวที่แตกต่างกันไปได้ที่นี่นะครับ http://walkwithme.scasset.com/

ยิ่งไปกว่านั้น ภาพยนตร์โฆษณา Walk With Me ถูกกำกับและตีความโดยโคไซ เซกิเนะ (Kosai Sekine) ผู้กำกับระดับโลก การันตีด้วยรางวัลจากหลายเวที เช่น Cannes Lions Film และ New York Festivals เป็นต้น ร่วมด้วย เจ มณฑล จิรา และ แฮนน่า เบ็งสัน นักร้องและโปรดิวเซอร์จากสวีเดน ที่เมื่อ 2 ปีก่อน เคยสร้างผลงานเพลง “The Way” อันฮือฮามาแล้ว จากแคมเปญ Farm Rak มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวผ่านบทเพลงเพราะๆ “Walk With Me” ในครั้งนี้อีกด้วย

แคมเปญ “Walk With Me มิตรภาพดีๆ มีอยู่รอบรั้ว…แค่ออกเดิน” มาพร้อมกับกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ให้ทุกคนได้ร่วมทำดีด้วยการนำรองเท้าที่ไม่ได้ใช้แล้วมาบริจาคให้มูลนิธิ Second Chance ซึ่งจะเป็นตัวแทนส่งต่อให้กับผู้ที่อยู่ในชุมชนคลองเตย พร้อมร่วมสนุกลุ้นรับรองเท้าชิคๆ จาก adidas รุ่นคลาสสิก เพียงติดตามรายละเอียด และลงทะเบียนเล่นกิจกรรมได้ที่ http://walkwithme.scasset.com/ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 7 กันยายน 2559 นี้

“Good stories are around the corner.”
“มิตรภาพดีๆ มีอยู่รอบรั้ว…แค่ออกเดิน”

ภาพยนตร์โฆษณา: Walk With Me มิตรภาพดีๆ มีอยู่รอบรั้ว…แค่ออกเดิน
กำกับภาพยนตร์: โคไซ เซกิเนะ
กำกับภาพ: เซนโซ อูเอโนะ
ดนตรีประกอบ: เจ มณฑล จิรา และแฮนน่า เบ็งสัน
ผลิตภาพยนตร์: Stink, Shanghai
ออกแบบสื่อประสม: Stink Digital, Paris
ครีเอทีฟเอเจนซี่: กลุ่มบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ (ประเทศไทย)
อำนวยการผลิต: บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

“Walk With Me” Lyrics

Hey you, come walk with me
and you will see, what a day it is, to be out in the streets
We can take it slow
Feel the grass on our toes
Strangers meet but we can all say hello
And I think that we’re on to something
Yeah I think that we’re on to something good
Like I knew we would
Yeah this could be good as long as you
come by my neighbourhood
Look up and around
There’s no need to frown
when we’re hanging out on my side of town

ออกมาเดินกันดีไหม มาพบกัน
ออกมาเดินกันหน่อยไหม อย่าแอบอยู่ข้างใน

 
So good, yeah this could be good. Just like la la la
Yeah I think that we’re on to something
Yeah I think that we’re on to something good
Yeah I think that we’re on to something
on to something, on to something good
Just like la la la
Come on out and you won’t be lonely
Take a walk and we’ll tell our story

ออกมาเดินกันดีไหม มาพบกัน
ออกมาเดินกันหน่อยไหม อย่าแอบอยู่ข้างใน
บ้านเราอยู่ข้างกัน ออกมา…ให้รู้จักกัน
แค่เรา…ได้ออกมาเดิน