“บางจาก” เป็นทำเลอยู่อาศัยของแรงงานมานานแล้ว เดิมมีตลาดบางจากเป็นแหล่งจับจ่ายซื้อของ สภาพแวดล้อมปัจจุบันโดยรอบในฝั่งสุขุมวิทเลขคี่จะมีผสมผสานระหว่างกลุ่ม Budget และ Business ถ้าเราเดินห่างออกมาจากสถานีไปทางทิศตะวันออกจะกลายเป็นย่าน Office Buidling บริษัทใหญ่ๆ มีอาคารสำนักงานสร้างขึ้นใกล้ๆ กัน คล้ายๆ mini Business District ดังนั้นภาพรวมของย่านนี้คือขวักไขว่ไปด้วยคนทำงานระดับพื้นฐานจนถึงระดับกลางครับ แต่หลังจากที่มีสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีบางจากมาเกยถึงที่ก็ย่อมทำให้ Landscape ของบางจากค่อยๆ เปลี่ยนไป

บางจากคืออ่อนนุชใหม่

สถานีบางจากเป็นส่วนต่อขยายจากอ่อนนุช สร้างเสร็จเมื่อปี 2554 (เขียนบทความนี้เมื่อ 2559) ประมาณ 5 ปีที่ผ่านมาแล้วย่านนี้ยังไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงของมากนัก เพราะการพัฒนาจะกระโดดข้ามไปที่อุดมสุขและบางนาไปเลย แต่ทว่าตอนนี้ที่ดินติดรถไฟฟ้าแถวอ่อนนุชก็เริ่มหายากเต็มที ถึงแม้มีแปลงใหญ่อยู่บ้างแต่ก็ยังไม่ขาย จึงทำให้ช่วงนี้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เริ่มหันมามองสถานีบางจาก ซึ่งมีแปลงที่ดินขนาดใหญ่หลายแปลง บางแปลงปัจจุบันยังเป็นเต็นท์รถ ที่ดินเปล่าของ Landlord ดั้งเดิมซึ่งวิเคราะห์แล้วสามารถพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ได้อีกหลากหลายแบบเช่น อาคารสำนักงาน เพราะราคาที่ดินยังไม่แพงลิบเท่า CBD ยังสามารถพัฒนาเป็นอาคารสำนักงานปล่อยเช่าได้คุ้ม และคอนโดมิเนียมเพราะใกล้รถไฟฟ้า

จุดด้อยของบางจากในปัจจุบันมีอยู่อย่างเช่น สภาพแวดล้อมบางจุดที่ตอนนี้ยังดูไม่ค่อยสวยงามและดูไม่เป็นสากลมากนัก แต่ถ้าหากชุมชน นักลงทุนในย่านบางจากร่วมมือกันพัฒนาปรับปรุงย่านให้ดูดีขึ้นก็จะทำให้บางจากเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ แต่จุดเด่นของบางจากคือจำนวนคนเยอะพลุกพล่านมาก ทำให้มีร้านอาหารและของกินตรึงเต็มพื้นที่ นี่คือข้อดีของการอยู่อาศัยทำเลที่มีจำนวนคนเยอะๆ นั่นเอง

บางจากอยู่ในทำเลที่มีผังเมืองสีส้มสามารถสร้างโครงการได้หลากหลาย และไม่ไกลจากอ่อนนุช ซึ่งเดี๋ยวนี้อ่อนนุชกลายเป็นย่านการค้าขนาดใหญ่มากขึ้น มีสีสันจากโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Tesco Lotus, Century Movie Mall, Phyll community mall และโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆ ซึ่งคนในย่านบางจากก็มักจะพึ่งพาอาศัยสิ่งอำนวยความสะดวกแถวสถานีอ่อนนุชอยู่แล้ว ดังนั้นจะว่าไปแล้ว อ่อนนุชกับบางจากคือทำเลเดียวกันครับ เพราะไม่ห่างกันมากและถือว่าเป็นทำเลที่สะดวกกว่าภายในซอยอ่อนนุชหรือสุขุมวิท 77 จริงๆ ซะอีก เพราะบางจากอยู่บนถนนสุขุมวิทมีระบบขนส่งมวลชน Mass Transportation ที่สมบูรณ์สะดวกสบายมากกว่าภายในซอยอ่อนนุชครับ

บางจากเริ่มเจริญเติบโต

แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผมเริ่มรู้สึกว่าบางจากเริ่มโตเป็นหนุ่มมากขึ้น เริ่มเปลี่ยนจากเด็กน้อยบ้านๆ วิ่งเล่นหลังบ้านไปมา กลายเป็นหนุ่มวัยทำงานผูกไทใส่สูท มีสัญญาณในทางที่ดีว่าจะมีการพัฒนาเพิ่มขึ้น ผมมองว่ารอบสถานีบางจากจะกลายเป็นแหล่งโอกาสการทำงานและธุรกิจ (Business area) ส่วนพี่อ่อนนุชก็จะเป็นย่านช้อปปิงและการพักผ่อนเพื่อความบันเทิง (Shopping & Entertainment area)

เหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นเพราะย่านบางจากเริ่มมีโครงการอาคาร Mixed use ทันสมัยมาสร้างแล้ว ประกอบไปด้วยสำนักงานกำลังจะเปิดทำการในเร็วๆ นี้ ชื่อ M Tower เป็นโครงการอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก

สูง 21 ชั้น ภายในอาคารจะมีร้านค้าปลีก บริการต่างๆ ธนาคาร ร้านอาหาร โรงอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ เลาจ์นั่งพักผ่อน และมีสวนบนชั้น 10 อีกด้วย

ดีไซน์ของอาคาร M Tower ใช้กระจกตกแต่งภายนอก ดูทันสมัย กลายเป็น Landmark ใหม่ให้กับย่านบางจากดูหล่อขึ้นได้

เครดิตภาพ www.cbre.co.th

แผนผังการใช้ประโยชน์ภายในอาคาร M Tower ประกอบไปด้วยพื้นที่สำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และพื้นที่จอดรถ (มีที่จอดเฮลิคอปเตอร์ที่ชั้นบนสุดด้วยครับ)

เครดิตภาพ www.cbre.co.th

พื้นที่ค้าปลีกในอาคาร M Tower

เครดิตภาพ www.cbre.co.th

อาคาร M Tower นี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปักหมุดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ใหม่ให้กับย่านบางจากครับ ตอนนี้ได้ข่าวว่าพื้นที่ปล่อยเช่าสำหรับสำนักงานแห่งนี้มีบริษัทรอจองคิวเช่าเต็มหมดแล้วครับ และยังมีพื้นที่ให้เช่าสำหรับพาณิชย์ค้าปลีกอยู่ครับ จากข้อมูลข้างต้นทำให้เรามองเห็นว่าย่านบางจากนี้มีการเติบโตของจำนวนตำแหน่งงานและจะทำให้ที่อยู่อาศัยในแถบนี้เป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นแน่นอนครับ

Update ข่าวล่าสุด! ที่ดินติดกับ Viva Garden กำลังจะกลายเป็นอาคารสำนักงานหรือโครงการประเภท Mixed use สำหรับกลุ่มเจียไต๋ ของซีพี ครับ เห็นแบบนี้รู้สึกว่าย่านบางจากเริ่มคึกคักขึ้นมาแล้วอีกระดับ

อาคารสำนักงานกับ Demand ความต้องการที่อยู่อาศัย

ความสัมพันธ์ระหว่างความต้องการที่อยู่อาศัยกับโครงการอาคารสำนักงานมักไปในทางเดียวกัน ยิ่งย่านใดมีสำนักงานเยอะๆ ก็จะมีจำนวนคนทำงานหนาแน่นสูง และทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนั้นเพิ่มขึ้นมาตามกัน เพราะเหตุผลง่ายๆ คือ ใครๆ ก็อยากพักอาศัยใกล้ที่ทำงาน อย่างเช่นย่านรัชดา แยกพระราม 9 ซึ่งเป็น ย่านธุรกิจใหม่ มีความต้องการเช่าเป็นจำนวนมาก

ย่านบางจากแม้จะไม่ใช่ย่านธุรกิจ (Non-CBD) แต่ถือว่าเป็นย่านที่อาคารสูงที่เป็นสำนักงานหลายอาคาร ได้แก่ สำนักงานบริษัท DKSH  2 อาคาร และ M Tower มีจำนวนตำแหน่งงานเยอะ และใกล้สถานีอ่อนนุชซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อีกเหตุผลที่ทำให้บางจากมีความน่าสนใจคือเส้นทางการคมนาคมสะดวกมีสถานีรถไฟฟ้า BTS บางจาก และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนสุขุมวิท 62 ทำให้ Demand อยากซื้ออยากเช่าคอนโดมิเนียมย่านบางจากนี้มีสูงครับ

ทำเลบางจากเท่าที่ผ่านมามีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแค่ 4 โครงการเท่านั้คือ The Unique 62/1 , Regent Home ท้ายซอยสุขุมวิท 93, Casa Condo Sukhumvit 97 และ The Symphony ปากซอยสุขุมวิท 62 จะเห็นได้ว่าเป็น condo Lowrise ทั้งหมด และเป็นที่ดินแปลงเล็กๆ เนื่องจากแถวนี้เป็นชุมชนเก่า ที่ดินมีหลายโฉนด ยากมากที่จะเก็บที่ดินแปลงใหญ่ๆ ได้ แต่อย่างไรก็ตาม Demand คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ติดถนนเส้นหลักอย่างสุขุมวิทรูปแบบ High rise ตึกสูงๆ ก็ยังมี Demand มากอย่างต่อเนื่อง และยิ่งถ้าราคาเปิดตัวโดยรวมไม่แพงเกินไปก็จะยิ่งทำให้น่าดึงดูดใจมากอยู่แล้ว

การมาของ Ideo Sukhumvit 93 คอนโดมิเนียม High rise โครงการใหญ่ 8 ไร่ ติดสถานีรถไฟฟ้า

ข่าวดีล่าสุดที่จะมาช่วยเปลี่ยนโฉมย่านบางจากให้เปลี่ยนจากเด็กบ้านๆ วิ่งเล่นอยู่หลังหมู่บ้านให้กลายมาเป็นหนุ่มหล่ออนาคตดีคือการลงทุนกลุ่มทุนใหญ่บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่กล้าซื้อที่ดินแปลงใหญ่บึ้มขนาด 8 ไร่ติดรถไฟฟ้าซึ่งเคยเป็นตลาดบางจาก เพื่อก่อสร้างคอนโดมิเนียมตึกสูง ดีไซน์โดดเด่น ซึ่งโครงการ Ideo Sukhumvit 93 อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าแค่ 15 เมตรเท่านั้น หากใครอยากจะซื้อโครงการจุดแข็งแบบนี้คงต้องควักเงินจ่ายอย่างน้อยตารางเมตรละ 150,000 เป็นอย่างต่ำครับ อย่าง Ideo Verve Sukhumvit ติดสถานีอ่อนนุชที่ปล่อยเช่าชาวต่างชาติได้ดีมากโดยเฉพาะคนญี่ปุ่นระดับ Mid management หรือ Expat คนโสดมาทำงานในกรุงเทพที่ต้องการอยู่อาศัยติดรถไฟฟ้าในราคาไม่แพง จริงๆ เขาอาจจะอยากอยู่ย่านสุขุมวิทโซน B อย่างอโศก พร้อมพงศ์ครับ แต่ด้วยงบประมาณส่วนตัวจึงเลือกที่จะมาอยู่สถานีที่ไกลมากขึ้นแต่ขอให้ค่าเช่าอยู่ในงบประมาณ 14,000-25,000 บาท ซึ่งกลุ่มนี้ขอแค่ติดรถไฟฟ้าก็เพียงพอเพราะเขาเดินทางด้วย BTS อยู่แล้วครับ

แต่โครงการ Ideo Sukhumvit 93 เป็นคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่ส่วนกลางครบครัน สระว่ายน้ำขนาดใหญ่มาก 2 สระ และมีระบบ Hydrotherapy มียูนิตหายากที่เป็น Pool access ด้วย มีฟิตเนส เป็นคอนโดมิเนียมอาคารสูง  วิวดี บางยูนิตชั้นสูงๆ สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ออกแบบลวดลายอาคารโดย รักกิจ ควรหาเวช ศิลปิน Street Art ชื่อดัง

Ideo Sukhumvit 93 กับพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาแบบจัดเต็ม

จากรูปแปลนด้านล่างจะเห็นว่าแค่ชั้น 5 ก็บรรจุสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างทีเดียว ได้แก่ สระว่ายน้ำแบบว่ายไปกลับเอาจริงเอาจังยาว 45 เมตร สระว่ายน้ำ 25 เมตร ที่มีฟังก์ชั่น Hydrotherapy  และ Jacuzzi รวมกันทุกสระ 3 จุด นอกจากนี้ยังมีสระเด็กน้อยอีก 1 สระด้วย ใกล้ๆ กันมีห้องสมุดและ Coworking space วิวส่องเมือง ห้อง Kids room ตบท้ายบรรยากาศตามคอนเซปต์ Energetic ด้วยฟิตเนสวิวสระน้ำอีก 1 ห้องเต็มๆ

ฟิตเนสวิวดีริมสระน้ำ

Kids room ห้องสร้างเสริมจินตนาการเด็กๆ

ห้องสมุดลอยฟ้าเล่นระดับคล้ายโรงละคร เหมาะกับเป็นมุมพักผ่อนอ่านหนังสือ ทำการบ้าน

มุมทำงานแนว Co-working space ก็มี

พื้นที่ส่วนกลางไม่หมดแค่ชั้น 5 ถ้าวิ่งออกมาชั้นล่างพื้นที่ Outdoor ภายนอกอาคารก็จะพบ Playscape มี Trail run วิ่งรอบโครงการ และไฮไลท์คือ Multi-sport courtyard มันคือสนามกีฬาวาไรตี้ เล่นได้ทั้งบาสเก็ตบอล  แบดมินตัน  วอลเลย์บอล ยูนิตคนเยอะแบบนี้ มีสนามสารพัดประโยชน์แบบนี้ ผมคิดว่าโครงการนี้ต้องมีจัดงานกีฬาสีฮาเฮภายในคอนโดแน่นอน! ใครเป็นสายกีฬา สาย activity ห้ามพลาด Ideo Sukhumvit 93 ครับ

มุมมองนักลงทุนต่อ Ideo Sukhumvit 93

แค่พูดถึงส่วนกลางก็เหมือนวิ่งมาราธอนแล้ว ต่อไปเรามาพูดถึงเรื่องตัวเลขกันหน่อยดีกว่าครับ

สำหรับมุมมองนักลงทุนระยะยาว (Long-term investor) ที่จะรอโอนกรรมสิทธิ์เพื่อปล่อยเช่าและจะรอขายทำกำไรในอนาคต จะมองว่า Ideo Sukhumvit 93 มีราคาเปิดตัวและราคาขายต่อยูนิตที่ไม่สูงมาก เป็นราคาที่ซื้อง่ายขายคล่องจับต้องได้ ตีตัวเลขในมุมมองนักลงทุนรายย่อยก็ค่อนข้างน่าสนใจลงทุน แต่เป็นการลงทุนเพื่อปล่อยเช่าและถือครองไว้เพื่อขายต่อในอนาคต ซึ่งทำเลนี้ขายต่อได้สะดวกเพราะด้วยศักยภาพของทำเลบางจากหรือ New Onnut อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นครับ

ถ้าจะพูดถึงค่าเช่าของที่พักอาศัยในย่านบางจากนี้ ขอเริ่มจากยกตัวอย่างตัวท๊อปก่อน โครงการ Viva Garden ห้องขนาด 45 ตารางเมตร มีค่าเช่าที่ 45,000 บาทพร้อมบริการเต็มรูปแบบ Serviced Apartment ค่าเช่าเฉลี่ยตารางเมตรละ 760 บาท ตัวอย่างต่อไปเป็นคอนโดมิเนียมติดถนนใหญ่ The Symphony Sukhumvit ห้องขนาด 35 ตารางเมตรเก็บค่าเช่าอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน ตกตารางเมตรละ 430 บาท Casa Condo Sukhumvit 97 ห้องขนาด 26 ตารางเมตร ได้ค่าเช่าที่ 11,000 บาทต่อเดือน หรือตารางเมตรละ 420 บาท ซึ่งราคาทั้งหมดที่กล่าวมาคือราคาของโครงการรูปแบบ Low rise ตึกเตี้ยไม่เกิน 8 ชั้นครับ แต่ถ้าเป็นโครงการที่เป็นรูปแบบตึกสูง วิวดีกว่า สวยกว่า ราคาค่าเช่าต่อเดือนก็จะขยับขึ้นเป็นตารางเมตรละ 540-600 บาทขึ้นไป

ภาพโครงการ Viva Garden

สำหรับโครงการ Ideo Sukhumvit 93 จากการวิเคราะห์ตามความเป็นจริงและพื้นฐานของทำเล ณ ปัจจุบัน (ปี 2559) แล้วคาดว่าจะได้ค่าเช่าที่ตารางเมตรละ 600 บาท ห้องขนาดเริ่มต้นที่ 25 ตารางเมตร (มีอ่างอาบน้ำด้วยนะครับ) ค่าเช่าเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000-16,000 บาท ครับ ซึ่งจะได้ราคาค่าเช่าสูงกว่าคอนโดมิเนียม Low rise รอบข้างครับ แต่ถ้าหากในอนาคตบางจากเริ่มมี facility ร้านค้า ห้าง สำนักงานสร้างขึ้นเสร็จพร้อมใช้งานแล้วก็จะทำให้ราคายกตัวสูงขึ้นตามรุ่นพี่อย่างอ่อนนุชได้ครับ

สำหรับนักลงทุนระยะสั้น (Short-term investor) ที่ต้องการขายสิทธิ์การจอง อาจจะต้องระมัดระวังเนื่องจากจำนวนยูนิตมีมากถึง 1,300 กว่ายูนิต ผู้ซื้อจึงมีทางเลือกเยอะ ดังนั้นนักลงทุนระยะสั้นควรจะเลือกยูนิตที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและมีจำนวนน้อยจริงๆ เช่น Exclusive Special Type อย่าง 2 Bedroom 68.5 ตร.ม.ที่มีอยู่เพียง 1 ยูนิตหนึ่งเดียวที่ชั้น 6 , ยูนิตแบบ Pool Access ที่มีทั้งโครงการแค่ 5 ยูนิตเท่านั้น แบ่งเป็น 2 Bedroom 2 ยูนิต (หายากและเลอค่ามาก) และ 1 Bedroom 3 ยูนิต , ยูนิตแบบ Garden Access 6 ยูนิต, ยูนิต 2 ห้องนอนห้องมุมชั้นสูงๆ ที่ take วิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ เป็นต้น ส่วนยูนิตอื่นๆ ที่มียูนิตแบบเดียวกันจำนวนมากกว่า 40 ยูนิตขึ้นไปนั้น ยังไม่ค่อยน่าสนใจลงทุนระยะสั้นเท่าใดนัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองแต่ละคน ไม่มีผิดไม่มีถูก ถ้าเราหาลูกค้าของเราเจอก็ประสบความสำเร็จไป แต่ถ้าหาลูกค้าไม่เจอก็อาจจะเป็นความเสี่ยง

เปิดให้ชมห้องตัวอย่างแล้ว หน้าตาเป็นยังไง

ขณะนี้โครงการ Ideo Sukhumvit 93 ได้เปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่างกันแล้ว ขอแวะเก็บภาพห้องตัวอย่างมาฝากแฟนๆ Propholic กันครับ

ที่ตั้งของโครงการ Ideo Sukhumvit 93 อยู่ใกล้กับบันได Skywalk ที่เชื่อมต่อกับสถานี BTS บางจากครับ ใกล้มากๆ เรียกได้ว่าเป็นคอนโดมิเนียม “ชิด” รถไฟฟ้าได้เลย

หน้าตาสำนักงานขาย Ideo Sukhumvit 93 มีความพุ่งทะยาน

โมเดลอาคาร เป็นอาคารเดียวต่อกันนะครับ เล่นระดับ แบ่งเป็น 3 zone ได้แก่ ตึกหน้าติดถนนใหญ่คือ Zone A ตึกกลางคือ Zone B และท้ายสุดคือ Zone C

ทางเข้าโครงการ อาคารทางขวาที่มี Façade สีขาวเป็น shop ได้แก่ Max Valu และ ร้านอื่นๆ ครบทุกความต้องการพื้นฐานและไลฟ์สไตล์ทั้งพักผ่อนและทำงานแบบคนรุ่นใหม่

ภาพอาคารและสระว่ายน้ำรูปเสือ (Panther pool) ฝั่งทิศเหนือ

ฝั่งทิศใต้ก็มี Lap pool, Jacuzzi และ Private Pavilion

Energetic Playscape กว้างขนาด 1 ไร่เต็มๆ และที่จอดรถล้อมรอบ

ห้องตัวอย่างที่โครงการสร้าง Mock Up room ขึ้นมามีทั้งหมด 3 Type ได้แก่ 1 Bedroom 33.5 ตร.ม. 1 Bedroom 31 ตร.ม. และ 2 Bedroom 57.5 ตร.ม. ครับ

1 Bedroom 33.5 ตร.ม. (จุดเด่นคือ เป็น 1 Bedroom ที่มี Bath Tub)

ฟังก์ชั่นเด่นๆ ของ type 1 Bedroom 33.5 นี้คือ “หนึ่งนอน กระจกมุม ลึกยาว Walk-in closet อ่างอาบน้ำ”

เปิดประตูห้องเข้ามาเจอเคาน์เตอร์ครัวก่อนเลย สะดวกสำหรับเวลาซื้อของเข้าบ้านมาก็วางได้เลย

สีพื้นห้องลามิเนตเป็นสีเข้มแบบนี้

ตู้ล่างเคาน์เตอร์เปิดออกได้ มีฟังก์ชั่นใหม่เป็นลิ้นชักเลื่อนเข้าออกใช้ใส่ขวดเครื่องปรุงได้ มีพื้นที่วางไมโครเวฟด้านล่าง ใช้ง่ายสำหรับคนทุกระดับความสูง

เตาไฟฟ้าให้แบบนี้ครับ ทำความสะอาดง่ายมาก

หันเข้าประตูทางเข้าเพื่อดู new function เป็น new series ใหม่จากทีม IDEO ครับ ทีมงานอธิบายให้ฟังว่าเนื่องจากโครงการ Ideo Sukhumvit 93 จะเน้นลงรายละเอียดมากขึ้น ทีมงานจึงสร้างห้อง Lab room ขึ้นมาจำลองการใช้งานจริง เดินจริง ลองจริง อยู่จริง แล้วพบว่าส่วนใหญ่ฟังก์ชั่นที่ชาวคอนโดต้องการมากที่สุดคือ “ตู้เก็บรองเท้า” เพราะโครงการอื่นส่วนใหญ่เมื่อเข้าห้องมาก็จะถอดรองเท้ากองๆ ไว้ตามพื้น ทีมงานจึงบิลท์ตู้เก็บรองเท้าขึ้นมาให้เลยเพื่อตอบโจทย์ผู้พักอาศัยจริง นอกจากนี้ยังมีตู้เก็บไม้กวาด ไม้ถูพื้น อุปกรณ์ทำความสะอาดอีกด้วย ลงรายละเอียดดีมากน่าชื่นชมสมควรเป็นตัวอย่างให้โครงการอื่นๆ

หันกลับมาอีกที จะเห็นว่าห้องนั่งเล่นมีลักษณะ “ยาวลึก” เดินเชื่อมต่อได้ไปถึงระเบียง มีพื้นที่เดินเยอะทีเดียว ทำให้ไม่อึดอัด

เซ็ทเป็นมุมโต๊ะกินข้าว

แต่จริงๆ เรามักจะมานั่งกินข้าวที่โซฟากันมากกว่าเพราะจะนั่งดูทีวีไปด้วย โซฟาตัวนี้สามารถเปลี่ยนเป็นแบบ 3 ที่นั่ง หรือโซฟาเบดตัวยาวนอนเอนกายสบายได้ รับแขก รับเพื่อนฝูงมาค้าง มาปาร์ตี้ในห้องได้

มุมวางทีวีและมุมทำงานเล็กๆ ริมหน้าต่าง

ติดแอร์ 1 ตัวที่ห้องนอน

ระเบียง ห้อง type นี้จะไม่เน้นมากนัก วางเครื่องซักผ้าก็เต็มแล้ว แต่ก็ยังมีพื้นที่ยืนได้ 1 คน สูบบุหรี่ชิลล์ๆ (แต่อย่าโยนก้นบุหรี่ลงไปนะ ไม่ดีๆ)

ลีลาการวางคอมเพรซเซอร์แอร์ครับ

วกกลับมาที่ห้องนอน

หน้าต่างค่อนข้างใหญ่ทีเดียว

ความพิเศษครับ กระจกเข้ามุม ผนังตรงนี้ติดแอร์และทีวีได้ด้วยถ้าต้องการ

กลับหลังหันมองไปทางห้องน้ำซึ่งอยู่ในห้องนอน ทางซ้ายจะมองเห็นหน้าต่างกระจกทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้าห้องนั่งเล่น ทำให้ไม่อึดอัด

นี่คึอ Walk-in closet ที่สาวๆ ใฝ่ฝัน จัดเต็มตู้เสื้อผ้าให้ทั้งซ้ายและขวา เป็นฟังก์ชั่นที่ดีมากๆ เพราะอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาหยิบเสื้อผ้าใส่ได้ทันทีไม่ต้องเดินไกล

ตู้เสื้อผ้าแบ่งฝั่งซ้ายให้คนแรก ฝั่งขวาให้คนที่สอง

เข้าห้องน้ำพบกับสิ่งที่โครงการจัดมาเอาใจชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะครับ อ่างอาบน้ำนี้นี่เอง

หันขวาเห็นอ่างล้างมือ กระจกเงา และชั้นวางของใต้อ่าง

มาอีกแล้ว New function ที่เพิ่มมา กรอบไม้วางอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องน้ำ ขวดเครื่องสำอางต่างๆ นานา

ก๊อกน้ำ

อ่างล้างมือเป็นแบบอะคริลิก อาจจะเคาะแล้วได้ยินเสียงโป๊งเป๊งไปบ้างแต่ข้อดีคือ ทำความสะอาดง่าย และทำให้เพิ่ม space การวางของได้เพิ่มสำหรับคนของเยอะน่าจะถูกใจกว่าอ่างล้างมือแบบเล็กๆ ทั่วไป

กลับหลังหันมาเจอสุขภัณฑ์

ยี่ห้อ American Standard

สรุปห้อง 1 Bedroom 33.5 ตร.ม. เป็น type ที่เหมาะอยู่อาศัย 2 คน และเหมาะเป็นศูนย์รวมหมู่เพื่อนหรือ party room สำหรับคนเพื่อนเยอะเพราะพื้นที่ห้องนั่งเล่นยาวลึก สามารถจุแขกได้ประมาณ 5 คน ยูนิตลักษณะนี้มีทั้งหมดประมาณ 335 ยูนิต ถือว่ามีเยอะที่สุดเมื่อเทียบกับทั้งโครงการครับ

1 Bedroom 31 ตร.ม. (จุดเด่นคือ ทำครัวได้สะใจ)

พูดสั้นๆ เกี่ยวกับ type นี้คือ “นั่งเล่นกว้างใหญ่ ครัวปิด สังสรรค์ได้”

เปิดประตูทางเข้ามาเจอห้องนั่งเล่นที่ความกว้างและยาวพอๆ กัน เกือบจะเป็นห้องแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส วางโซฟาขนาด 3 คนนั่งได้ วางโซฟาเบดได้สบาย ข้อดีคือห้องแบบกว้างคือ นั่งตั้งวงที่ต้องมีขาเอ้ยมีคนเยอะๆ ทำกิจกรรมสร้างสรรค์เช่น ตั้งชมรมคณิตศาสตร์ได้ 555

หันซ้ายเป็นประตูเข้าห้องน้ำ การมีห้องน้ำอยู่ในห้องนั่งเล่นจะช่วยให้ห้องนอนกลายเป็นห้องส่วนตัวไม่มีแขกมารบกวนได้ ข้างๆ ประตูห้องน้ำมีตู้เก็บรองเท้าและเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด

เปิดตู้ออกมาเป็นแบบนี้

ห้องน้ำ ฟังก์ชั่นครบดี

ตู้อาบน้ำกระจกบานเลื่อน 2 ตอน

กลับมาดูโซฟาห้องนั่งเล่นอีกครั้ง กว้างใหญ่ใช้ได้เลย

แวะห้องนอน แขวนทีวีที่ผนังได้

หน้าต่างกว้าง แต่ไม่สูงเต็มผนังแบบ floor to ceiling นะครับ

กลับหลังหัน มีตู้เสื้อผ้าและเก็บของ มีตู้เดียว ในทางปฏิบัติอาจจะต้องติดตู้เพิ่มที่ห้องนั่งเล่น

เดินออกมาห้องนั่งเล่นอีกครั้ง เปิดประตูครัวแยก

ครัวแยกเป็นสัดส่วน วางโต๊ะกินข้าวแบบสูงได้ ทำให้โต๊ะกินข้าวเป็นได้ทั้ง Pantry และโต๊ะกินข้าว บางทีก็เปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานได้ด้วย

เปิดตู้ใต้เคาน์เตอร์ครัวออกมา ฟังก์ชั่นลิ้นชักใส่ขวดเครื่องปรุงหายไป แต่ก็ยังมีพื้นที่วางไมโครเวฟเหมือนเดิม

ระเบียง วางเครื่องซักผ้าได้สบายๆ

มุมวางตู้เย็น ด้านบนเป็นตู้เก็บของในครัว บอกแล้วครับว่า type นี้เหมาะกับคนสายทำอาหาร เพราะมีตู้เก็บอุปกรณ์เครื่องปรุงได้เยอะ

ชมห้องนั่งเล่นกันอีกครั้งก่อนไปห้องต่อไปครับ

สรุป 1 Bedroom 31 ตร.ม. เป็นยูนิตที่เหมาะกับคนอยู่คนเดียวที่นัดเพื่อนมาสังสรรค์ที่ห้องได้ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบทำอาหาร

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มครอบครัวที่ต้องการบ้านหลังเล็กๆ ติดรถไฟฟ้า

ถ้าคุณเป็นกลุ่มครอบครัวอยากพักอาศัยติดรถไฟฟ้า มีสมาชิกในบ้าน ได้แก่ พ่อแม่และลูก 1-2 คนที่โตอยู่ในช่วงเริ่มวัยรุ่นจนถึงมหาวิทยาลัยแล้ว แทนที่จะซื้อห้อง 2 bedroom แบบปกติคุณอาจจะซื้อห้อง 33.5 ตร.ม.และ 31 ตร.ม. บริเวณด้านในลึกสุดของ Zone C ที่เป็นห้องตรงข้ามกันก็ได้ โดยจัดสรรให้คุณพ่อคุณแม่อยู่ในห้อง 33.5 ตร.ม. เก็บของได้เยอะ ห้องนั่งเล่นแปลงเป็นห้องทำงานใหญ่ ส่วนคุณลูกให้อยู่ห้องนอนของห้องแบบ 31 ตร.ม. คุณแม่เดินเข้าประตูเข้ามาง่ายๆ ทำอาหารในห้องครัวแยกส่วน จัดเต็มได้ทุกเมนูเพราะหมดปัญหาเรื่องกลิ่น ส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นของ 31 ตร.ม. เปลี่ยนเป็นห้องกินข้าวหรือห้องอเนกประสงค์ของครอบครัวไปแทน การตัดสินใจซื้อ 2 ยูนิตแบบนี้ ทำให้ในอนาคตเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของชีวิตครอบครัว เช่น ลูกเรียนจบ แต่งงานแยกครอบครัว ย้ายถิ่นฐาน ก็สามารถปล่อยขายหรือปล่อยเช่าได้ง่ายกว่าห้องขนาดใหญ่ นอกจากนี้การแยกยูนิตแบบนี้ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวระหว่างพ่อแม่และคุณลูกวัยหนุ่มสาวที่ต้องการ Personal space ได้มากกว่าห้องแบบ 2 bedroom ที่มักจะได้ยินเสียงผ่านผนังกันอีกด้วย บางครั้งวัยรุ่นหนุ่มสาวมักจะพาเพื่อนๆ มาติวหนังสือมาเที่ยวเล่นในห้องก็มักจะกรี๊ดกร๊าดส่งเสียงดัง ถ้าแยกยูนิตแบบนี้ไปเลยก็จะดีเหมือนกัน คิดเสียว่าอย่างน้อยลูกๆ ก็ยังพาเพื่อนมาให้อยู่ในสายตาการดูแลของพ่อแม่

2 Bedroom 57.5 ตร.ม.

จริงๆ แล้วห้อง 2 Bedroom มีหลายขนาด เริ่มตั้งแต่ 51-59.5 ตร.ม. แต่สาระสำคัญของห้องแบบนี้คือเปิดมาจะเจอครัวก่อนที่เชื่อมไปถึงห้องนั่งเล่นกลาง ห้องน้ำกลาง ปีกซ้ายเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว ปีกขวาเป็นห้องนอนเล็ก ประมาณนี้เหมือนๆ กันทุกห้อง ต่างกันแค่ระยะความกว้างยาวของยูนิตที่แตกต่างกันเท่านั้น

ห้อง 2 Bedroom ที่โครงการทำให้ดูเป็น mock up room คือ 2 Bedroom 57.5 ตร.ม. ห้องมุม Zone A ครับ ซึ่งมีจุดเด่นที่ร้องว้าวๆๆๆ ที่ผมขอเรียกชื่อว่า “Super Sexy Sky Bathroom” เป็นยูนิตในฝันของใครหลายคนคือจะได้ตอบสนองจินตนาการอาบน้ำขัดตัวท่ามกลางท้องฟ้า วิว sunset ในยามเย็น และดวงจันทร์ในยามค่ำคืน อะไรจะเก๋ เท่ แปลก แหวกแนว โรแมนซ์ ฮอร์โมนหลั่งพุ่งพล่าน Energetic ขนาดนี้ แต่ขอแนะนำให้รีบแย่งกันซื้อยูนิต high floor ก่อนนะครับ เพราะท่านจะได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่เหนือกว่าใครและเป็นส่วนตัวมากกว่า low floor ครับ

นี่ครับ Super Sexy Sky Bathroom ตัวจริง สถาปนิกโครงการก็ช่างกล้าทำจังเลยครับ คอนเซปต์แปลกทีเดียว แต่คนอาบน้ำจะกล้าอาบจริงไหม เรื่องแบบนี้มันต้องลอง

ไฮไลท์สุดพีคพูดไปแล้ว ขอพูดไฮไลท์รองลงมาของห้องมุมอีกซะหน่อย คือกระจกห้องนอนเข้ามุมเปิดทัศนียภาพกว้างขวาง ให้ความรู้สึกอิสระเสรี

จุดเด่นอีกประการของห้อง 2 Bedroom ทุกขนาดคือเคาน์เตอร์ครัว L-shape ครับ ช่วยให้ประสบการณ์การรังสรรค์เมนูอาหารของคุณสุนทรีย์และมีพื้นที่มากขึ้น เหมาะกับคุณแม่บ้าน พ่อครัวครับ

ก็ยังมีลืมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างตู้เก็บรองเท้า

ดูห้องนั่งเล่นกันครับ วางโซฟาได้ยาวทีเดียว

สรุป 2 Bedroom ห้องมุมเหมาะกับคนที่มีงบประมาณสูง และต้องการประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิต ส่วน 2 Bedroom แบบปกติที่ไม่มี Super Sexy Sky Bathroom ก็จะเหมาะกับกลุ่มครอบครัว หรือคนที่ทำงานอยู่บ้าน มีชีวิตติดบ้าน ต้องการ space เก็บของเยอะๆ

เป็นอย่างไรบ้างครับพาเยี่ยมชมห้องตัวอย่างในสไตล์ Energetic หวังว่าจะชอบรีวิวโครงการจาก Propholic นะครับ อยากได้อะไรก็คอมเมนต์มาบอกกันได้ครับ คราวหน้าจะได้จัดให้สมปรารถนา

รายละเอียดโครงการ Ideo Sukhumvit 93

Ideo Sukhumvit 93 เป็นคอนโดมิเนียมอาคารสูง 37 ชั้น จำนวน 1 อาคาร สูงไล่ระดับกันเริ่มตั้งแต่ Zone A 38 ชั้น Zone B 27 ชั้น Zone C 17 ชั้น ตามลำดับ ตั้งบนที่ดินขนาด 8-3-59.6 ไร่ ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท 93 ติดถนนสุขุมวิทเส้นหลัก ตำแหน่ง GPS 13.698584, 100.604807  https://goo.gl/maps/T391HEUsXAQ2  มียูนิตพักอาศัยทั้งหมด 1,332 ยูนิต Studio  312 ยูนิต คิดเป็น 24% 1 Bedroom  655 ยูนิต คิดเป็น 49% (มากที่สุด) และ 2 Bedroom  365 ยูนิต คิดเป็น 27% มีที่จอดรถ 615 คัน หรือประมาณ 46% มี 2 ยูนิตเพื่อทำพาณิชย์เป็นร้านกาแฟ Starbucks และร้านสะดวกซื้อ MaxValu ลิฟต์โดยสาร 8 ตัว 2 ฝั่ง ค่าส่วนกลางรายเดือน 45 บาทต่อตร.ม.

Ideo  Sukhumvit 93 กำหนดเริ่มก่อสร้าง พฤศจิกายน 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ ธันวาคม 2561 ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท  ลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.ananda.co.th/register/ideo/  หรือแวะเข้ามาเยี่ยมชมโครงการใกล้ BTS สถานีบางจากได้เลยครับนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป