The Rich Nana “Wellness Residences” พร้อมพื้นที่ Retail แห่งเดียวบนถนนสุขุมวิท 3

นอกจากประเทศไทยจะเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวแล้ว ประเทศไทยยังเป็นประเทศอันดับต้นๆที่เป็นจุดหมายปลายทางของการรักษาพยาบาลทางการแพทย์ ของชาวต่างประเทศ หรือที่เรียกว่า Medical Tourists เพราะความเชี่ยวชาญ ความทันสมัย การบริการทางการแพทย์ และค่าครองชีพราคาถูก จึงทำให้ประเทศไทยเป็นที่หมายตาของการรักษาพยาบาลจากนานาประเทศ และโดยเฉพาะ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่ถูกจัดอันดับให้ติด 1 ใน 10 ของโรงพยาบาลที่ดีในกลุ่ม Medical Tourists หลายต่อหลายปี

Source: Prince Court Medical Center Tops 2014 MTQUA List Of World’s Best Hospitals For Medical Tourists™ (ที่มา https://www.mtqua.org/media-center/prince-court-named-top-10-worlds-best-hospitals-2014/ )

รวมทั้งยังเป็นโรงพยาบาลลำดับต้นๆ ที่คนไทยเลือกเข้ารับการรักษาเช่นกัน ซึ่งหากใครเคยไป โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ถือว่าเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ในทำเลการเดินทางที่สะดวก ทั้งรถยนต์ที่เดินทางได้ทั้งจาก ทางด่วน ถนนเพชรบุรี และถนนสุขุมวิท หรือเดินทางโดย BTS จาก BTS นานา และเป็นพื้นที่ที่รายล้อมด้วย Neighborhood Facilities ระดับชาติหลายแห่ง ที่อยู่ห่างไปเพียง 1-2 สถานี อย่าง Central Embassy, Central Chidlom, Terminal 21, The Em District, Park Ventures Ecoplex, All Season place, Times Square, Exchange Tower ฯลฯ

ย่าน BTS นานา จึงเป็นพื้นที่ Location ที่มีครบทุกสาธารณูปโภค สาธารณูปการใจกลางเมือง ที่ยังไม่ค่อยมีอาคารที่พักอาศัยในพื้นที่มากนัก ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาเป็นโรงแรม อพาร์ทเม้นต์ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวโดยรอบ เวลาเราไปแถว BTS นานา เราจึงพบเห็นชาวต่างชาติอยู่โดยรอบ

ด้วยต้นทุนของ ความครบถ้วนในด้าน world class neighborhood facilities ใจกลางเมือง บริษัท Richy Place 2002 จำกัด จึงคว้าพื้นที่ทำเลบนย่านสุขุมวิท 3 สร้างเป็นคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนท์ Full Facility ที่ดึงธรรมชาติ ผสานงานออกแบบที่เรียบง่าย และ Luxury เพื่อให้ผู้อาศัยได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มเปี่ยมทั้งกายและใจ ณ The Rich Nana (เดอะ ริช นานา)

The Rich Nana สร้างอยู่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ เป็นโครงการ Mixed Use คือ 3 ชั้นแรก (B1,G,2) เป็น Retail Shop จำนวน 50 Units และชั้น 3-32 เป็น Residence รวม 377 Units มีที่จอดรถกว่า 65% หรือ 254 คัน แบบ Automated Parking System

ตัวอาคารวางตัวตั้งฉากกับซอยสุขุมวิท 3

ที่ด้านหน้าโครงการเป็นวิวเมือง ซอยสุขุมวิท 3 และถนนสุขุมวิท

วิวด้านทิศใต้เป็นวิวด้านถนนสุขุมวิท เห็นเส้นรถไฟฟ้า

วิวด้านทิศเหนือ เป็นวิวด้านถนนเพชรบุรี เห็นตึกโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

ส่วนวิวด้านหลังโครงการเป็นแนวอาคารสำนักงาน KTB อาคารที่อยู่อาศัย และแนวทางด่วน

โดย The Rich Nana จับตลาดชาวต่างชาติที่อยู่โดยรอบพื้นที่ย่านนี้ ภายใต้คอนเซปท์ “Wellness Living” ซึ่งเป็นที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ผู้รักสุขภาพ ที่ต้องการพักอาศัยอยู่ในย่านโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

โดยให้สิทธิชาวต่างชาติ 49% และคนไทย 51% แบบแยกขาย โดยแบ่งชั้นที่พักอาศัยคือ ชั้น 6-9,16-20, 23-26, 30 เป็นชั้นของคนไทย และ ชั้น10-15, 21-22, 27-29, 31-32 เป็นชั้นของต่างชาติ ส่วนชั้น 3-5 ยังไม่เปิดขาย

พื้นที่ Retail จะอยู่บริเวณ 3 ชั้นแรก (B1,G,2)

ที่พักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 3

ชั้น 4 เป็นส่วนกลาง มีสระว่ายน้ำ สำนักงานนิติฯ ห้องเอนกประสงค์ คลับเล้านจ์ และมียูนิตที่พักอาศัยอยู่จำนวน 6 ยูนิต

ชั้น 5 เป็นฟิตเนส และห้องโยคะ

ชั้น 6

ชั้น 7-15

ชั้น 16

ชั้น 17

ชั้น 18 – 19

ชั้น 20 มีพื้นที่สวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ รูปตัว L

ชั้น 21 – 22

ชั้น 23

ชั้น 24 – 25

ชั้น 26

ชั้น 27-29

ชั้น 30

ชั้น 31-32

รูปแบบห้อง มี 3 Type ประกอบไปด้วย 1 Bedroom, 1 Bedroom plus และ 2 Bedroom

1 Bedroom ขนาด 34.50-41.35 Sq.m. เป็นห้องที่มีจำนวนค่อนข้างเยอะ อยู่ที่ชั้น 3-29

1 Bedroom Plus ขนาด 49.50 – 61.75 Sq.m. ถือว่าเป็นห้องเด่นของโครงการ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งาน เป็น 2 ห้องนอน หรือ 1 ห้องนอน 1 ห้องทำงาน หรือปรับเป็นห้องอื่นๆได้ และเป็นห้องหัวมุมของทุกชั้น

2 Bedroom ขนาด 70.60-72.25 Sq.m. ห้อง 2 ห้องนอน มีอยู่เฉพาะที่ชั้น 26 – 32 เป็นหลัก

ส่วนห้องตัวอย่างที่ทาง The Rich Nana ตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่าง คือ รูปแบบ ห้อง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom

ห้องแรก คือ 1 Bedroom Plus ขนาด 50 Sq.m. ด้านในแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน คือ พื้นที่ครัวและห้องนั่งเล่น เชื่อมห้อง 1 Plus ห้องน้ำ และห้องนอน

ประตูห้อง เป็น Digital Door Lock ของ KABA

ด้านใน เปิดเข้ามาเป็นเคาท์เตอร์ครัว พื้นด้านทางเข้าและครัวเป็น Compressed Marble

ที่ฝั่งขวา เป็น ชุดครัว Built-in ติดประตูเป็นอ่างล้างจานฝังเคาท์เตอร์ ถัดมาเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัว เหนือเตาเป็นที่ดูดควันและชั้นวางของ โดยชุดครัวที่ทางโครงการให้มาเป็นของ MEX

ด้านล่างเคาท์เตอร์เป็นช่องสำหรับวางไมโครเวฟ เครื่องซักผ้าฝาหน้า

ฝั่งตรงกันข้าม ของจริงโครงการปล่อยเป็นพื้นที่โล่ง สามารถวางตู้เย็น หรือตกแต่งเป็นตู้เก็บของ ชั้นวางรองเท้าได้

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น พื้นเป็น Engineered wood เชื่อมไปยังประตูออกระเบียง ห้องนั่งเล่นค่อนข้างกว้าง สามารถวางชุดโซฟา สำหรับ 3 ท่าน พร้อมโต๊ะทานอาหาร สำหรับ 2 คน เป็นพื้นที่พักผ่อนที่สามารถมองออกไปชมวิวที่ด้านนอกระเบียงได้ ห้องนั่งเล่นโครงการให้แอร์แบบ Conceal type

พื้นที่ระเบียงยาวขนานห้องนั่งเล่น ราวระเบียงเป็นกระจก ที่ปลายระเบียงกั้นเป็นที่ตั้ง Air Compressor

ติดกับพื้นที่นั่งเล่น เป็นห้อง 1 Plus มาพร้อมแอร์แขวนผนัง ห้องนี้ทางโครงการตกแต่งเป็นห้องทำงาน หรือจะตกแต่งเป็นห้องนอนเล็กสำหรับครอบครัว เปิดเป็นห้องดูทีวี ห้องโฮมเทียร์เตอร์  หรือเปิดเป็นพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมห้องใหญ่ได้พื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้นและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานก็ยังได้

ติดกัน เป็นห้องน้ำ ที่แบ่งส่วนเปียก แห้ง ด้วยกระจกบานเปิดเต็มผนัง และยกขอบพื้นกั้นกันน้ำไหล

ส่วนแห้งมีอ่างล้างหน้าลอยตัว ที่ผนังมีกระจกบานยาว และสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ

ส่วนเปียก ให้ Rain Shower แบบติดเพดาน พร้อมบาร์เตี้ย สำหรับนั่งและวางอุปกรณ์อาบน้ำได้

สุดท้าย ปลายสุดทางเดินเป็นห้องนอน มาพร้อมกระจกบานใหญ่ เกือบเต็มผนัง ติดเตียงนอน สำหรับนอนชมวิว และสามารถเปิดเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง เปิดรับลมจากภายนอกได้

ห้องนอนโครงการให้แอร์ติดผนัง

ติดประตูทางเข้าห้องนอน เป็นตู้เสื้อผ้า Built-in หน้าบานเป็นกระจกเต็มบาน ผนังติดกันสามารถตกแต่งเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือมุมแต่งตัวได้ตามสไตล์แต่ละคน

มาถึงห้อง 2 Bedroom 2 ห้องน้ำ 70 Sq.m. แปลนห้องแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆคือ พื้นที่ Living area ที่กลางห้อง ด้านปีกซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก และปีกขวาเป็นห้องนอนใหญ่

พื้นที่ Living area เป็นตัวแอลกลับด้าน  เปิดประตูเข้ามาจะพบกับผนังทึบ ที่โครงการตกแต่งเป็นผนังหินอ่อน หรือจะออกแบบเป็นชั้น Built-in เก็บของได้ และเป็นฉากเมื่อเข้าสู่ห้องก็น่าจะเพิ่มประโยชน์ใช้งานได้

ที่ด้านหลังประตูทางเข้าห้องเป็นห้องน้ำสำหรับเข้าจาก Living area ครัว และห้องนอนเล็ก ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง

ส่วนแห้ง ให้อ่างล้างหน้าลอยตัว ที่ผนังมีกระจกบานยาวจากมุมผนังจรดมุมผนัง และสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ

ส่วนเปียก มีกระจกบานเปิดกั้น พร้อมแนวกั้นกันน้ำ กั้นส่วนเปียกและส่วนแห้ง ด้านในให้ Rain Shower และฝักบัวสายอ่อน พร้อมที่วางอุปกรณ์อาบน้ำเข้ามุมผนัง

พื้นที่ Living area วางตัวเป็นแนวลึกจากประตูทางเข้าสู่พื้นที่ปลายสุดเป็นระเบียงห้อง  โครงการให้แอร์ conceal type ดรอปฝ้าที่บริเวณด้านติดกับประตูทางเข้าที่เป็นพื้นที่ครัวและโต๊ะอาหาร ชุดครัว Built-in ยาวเต็มผนัง ประกอบด้วย ช่องวางตู้เย็นไซท์ใหญ่ อ่างล้างจานฝังเคาท์เตอร์ และเตาไฟฟ้าฝังเคาท์เตอร์ 4 หัว ด้านบนเป็นที่ดูดควัน ชุดครัวเป็นของ MEX ถัดจากที่ดูดควันเป็นชั้นสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำครัวต่างๆ

ส่วนด้านล่างเคาท์เตอร์ เจาะช่องสำหรับวางไมโครเวฟ เครื่องซักผ้าฝาหน้า และชั้นเก็บอุปกรณ์ทำครัว

ด้านหน้าเคาท์เตอร์ มีพื้นที่กว้างพอที่จะวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 คน ได้

ถัดจากพื้นที่ครัว อีกด้านเป็นพื้นที่รับแขก ดูทีวี หรือนั่งพักผ่อน เป็นพื้นที่เชื่อมกับระเบียงด้านนอก พื้นที่ Living area วางตัวขนานกับพื้นที่ระเบียง กว้างพอที่วางชุดโซฟา สำหรับ 4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง หรือชั้นวางของตั้งโชว์เล็กๆน้อยๆ ที่ผนังด้านขวาติดกับห้องนอนเป็นตำแหน่งติดตั้งทีวี

ระเบียงยาวขนานห้องนั่งเล่น ราวระเบียงเป็นกระจกนิรภัย ที่ปลายระเบียงกั้นเป็นที่ตั้ง Air Compressor

ด้านซ้ายของห้องนั่งเล่น เป็นห้องนอนเล็ก ด้านในมีตู้เสื้อผ้า Built-in ฝาหน้าเป็นกระจก  พร้อมแอร์แขวนผนัง

ปลายสุดของห้องนอนเล็ก เป็นกระจกบานเต็ม สำหรับเปิดมุมมองสู่วิวเมือง ถ้าตั้งเตียงติดริมหน้าต่างกระจกก็สามารถนอนชมวิวยามค่ำคืนได้สบายๆ

ประตูห้องเป็นบานสไลด์ รางด้านบน หน้าบานเป็นอลูมิเนียมบานเกล็ดสีทอง สามารถเปิดเชื่อมพื้นที่ห้องนั่งเล่น หรือปิดเป็นพื้นที่ส่วนตัวได้ตามต้องการ

ที่ปีกขวาของห้องเป็นห้องนอนใหญ่ มีห้องน้ำในตัว จากประตูทางเข้า ด้านขวามือเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in หน้าบานเป็นกระจก ถัดไปเป็นห้องน้ำที่แบ่งสัดส่วนชัดเจน แอร์ระบบ conceal type

ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง โดยส่วนแห้ง ให้อ่างล้างหน้าและที่วางอุปกรณ์ลอยตัว ที่ผนังมีกระจกบานยาวจากมุมผนังจรดมุมผนัง และสุขภัณฑ์เข้ามุมระบบอัตโนมัติ

ส่วนเปียก ด้านในมีอ่างอาบน้ำวางชิดผนังทั้งสามด้าน พร้อมบาร์นั่งและวางอุปกรณ์เข้ามุม มาพร้อม Rain Shower และ Shower กั้นระหว่างส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยกระจกบานเปิดยาวเต็มผนัง

ในส่วนของพื้นที่ห้องนอน ที่ปลายผนังห้องเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่นอนชมวิวด้านนอก หรือเปิดรับลมรับแสงในบางเวลา พื้นที่ห้องกว้างพอที่วางเตียง King Size พร้อมโต๊ะหัวเตียงทั้ง 2 ด้านได้ และสามารถ Built-in ชั้นวางของ หรือมุมทำงานเล็กๆที่ปลายเตียงติดผนังได้เช่นกัน

ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางแนวคิดหลักของโครงการ คือนำธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในงานออกแบบ พื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 4 จึงเน้นเพื่อการพักผ่อน ด้วยสัมผัสของธรรมชาติ ที่ให้มาครบแบบ Full Facility

ทั้งสระว่ายน้ำ Chromotherapy healing swimming pool ซึ่ง Chromotherapy คือ การบำบัดด้วยสี ด้วยการใช้เทคนิคการเปลี่ยนสีในสระว่ายน้ำ ที่ช่วยในการบำบัดทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น สีฟ้า ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สีแดง ช่วยให้มีพลัง เป็นต้น

ห้อง Fitness แบบ Full feature Gym ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายแบบครบเซ็ต ให้คุณได้ออกกำลังกายท่ามกลางวิวเมืองกรุงแบบ Panorama view มาพร้อมกับห้อง Yoga , Jacuzzi, Sauna, Kid room,  Business Lounge, Business Meeting room, Sky garden terrace

และ Outdoor garden terrace ที่เป็นพื้นที่พักผ่อน ออกกำลังกาย แบบส่วนตัวในสวนของตัวเอง กับอากาศที่บริสุทธิ์กลางสวนต้นไม้นานาชนิด เป็น Green space ของโครงการอีกแห่งหนึ่ง

The Rich Nana เป็นคอนโดแบรนด์ The Rich ลำดับที่สองต่อจาก The Rich @ Sathorn –Taksin และยังเป็นโครงการที่มีราคาแพงที่สุดในบรรดาโครงการทั้งหมดของบริษัท ริชี่ เพลส การเลือกพัฒนาโครงการในทำเลสุขุมวิทตอนต้นอย่างบริเวณ นานา ถือว่าเป็นการท้าทายตลาดคอนโดในเมืองไทยพอสมควร เนื่องจากทัศนคติของคนไทยส่วนใหญ่มักจะมองว่าทำเลนานา เป็นทำเลที่เต็มไปด้วยสีสันยามค่ำคืน และไม่ค่อยเงียบสงบเหมาะกับการเป็น Private Residential Area ส่งผลให้ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทำเลนานา ไม่ค่อยจะมี Supply คอนโดใหม่เกิดขึ้นมากนัก แต่หากว่ามีการพัฒนาโครงการ ก็มักจะเป็นโครงการในระดับไฮเอนท์ขึ้นไป มีราคาที่ค่อนข้างแพง เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายคนต่างชาติ และกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการจะปล่อยเช่าคนต่างชาติ ที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะกลุ่มอาหรับ ตะวันออกกลาง ที่ดูจะคุ้นเคยกับคำว่า นานา เป็นอย่างดี

สำหรับผมแล้วที่ตั้งของโครงการ The Rich Nana ถือว่าเป็นทำเลที่มีความพิเศษเฉพาะมากกว่าทุกทำเลที่เกาะอยู่ในรัศมีจาก BTS นานา กล่าวคือในบริเวณสุขุมวิทซอย 3 นั้นมี Global Destination ที่สำคัญระดับโลก คือโรงพยาบาล บำรุงราษฎร์ ที่เป็น Top of mind ในส่วนของ Medical tourist ในหมู่ผู้มีกำลังซื้อสูงชาวตะวันออกกลาง คอนเซปท์ Wellness Living ถูกนำมาใช้กับตัวโครงการเนื่องจากสาเหตุที่สำคัญที่ทางริชี่ มอง ก็คือโครงการนี้อยู่แทบจะรั้วติดกันกับ โรงพยาบาล บำรุงราษฎร์ ที่ซึ่งคนตะวันออกกลาง รวมถึงชาวพม่าที่มีกำลังซื้อสูง ส่วนใหญ่มักจะพาญาติมิตร มาพักรักษาตัว และเช่าคอนโด หรืออพาร์ทเมนท์เพื่ออยู่เป็นเพื่อนผู้ป่วยในระยะเวลาที่ยาวนาน บางรายมาปีละ 2-3 ครั้ง แต่ละครั้งกินเวลารักษายาวนานเป็นเดือนก็มี

ศักยภาพของทำเลนี้จึงไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่การใกล้รถไฟฟ้า และอยู่ใจกลางแหล่งไลฟ์สไตล์ยามค่ำคืน เพียงเท่านั้น หากแต่เป็นทำเลที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะอย่างชัดเจนโครงการหนึ่ง…ตลอดระยะทางบนถนนใหญ่สุขุมวิท 3 พบว่ามีคอนโด High Rise ที่อยู่ริมถนนเพียงแค่โครงการเดียวก็คือ The Rich Nana นี่แหละครับ นอกนั้นก็จะอยู่ในซอยย่อย และทำเลนี้ก็เต็มไปด้วยโรงแรม อพาร์ทเมนท์ ซ่อนตัวอยู่ตามถนนย่อยมากมาย ดังนั้นกลุ่มคนไทยที่คิดจะซื้อโครงการนี้ย่อมหวังผลถึงการปล่อยเช่าชาวตะวันออกกลางที่ดูจะหลงเสน่ห์ทำเลนี้เป็นพิเศษเช่นกัน

การออกแบบโครงการให้เป็น Mixed use ถือว่าเป็นการพัฒนาโครงการให้ดูตรงกับจริตกลุ่มเป้าหมายของโครงการเป็นพิเศษ เพราะกลุ่มชาวอาหรับส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเจ้าของกิจการค้าขาย ในละแวกนี้แทบจะทั้งถนนอยู่แล้ว ดังนั้นพื้นที่ retail ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่ง value creation ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเอาใจกลุ่มตลาดนี้โดยเฉพาะ

สำหรับคนไทย โครงการ The Rich Nana ถือว่าอยู่ในทำเลที่สามารถลงทุนปล่อยเช่าได้กับชาวต่างชาติ คงไม่เหมาะกับคนไทยที่ไม่คุ้นชินกับทำเลนี้ และต้องการซื้อคอนโดเพื่ออยู่เอง โดยที่เลือกความเงียบสงบเป็นหลัก  เพราะหากดูจาก คอนเซปท์โครงการ และการตกแต่งห้องตัวอย่างทั้ง Furnishing & decoration อาจไม่เหมาะกับ Taste คนไทย แต่น่าจะเหมาะกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มชาติตะวันออกกลางที่เป็น User หลักของพื้นที่อย่างโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เสียมากกว่า ที่ส่วนใหญ่มาหาห้องเช่าขนาดใหญ่ เพราะมาเป็นครอบครัว และอยู่ทีละนานๆเป็นเดือนๆ ที่มี Full Facility ตั้งแต่ระบบจอดรถอัตโนมัติ ร้านค้าให้ Shopping ในตัวโครงการ และสระว่ายน้ำ สวน และพื้นที่ออกกำลังกาย พักผ่อน ต่างๆ แบบเน้นดูแลสุขภาพ สำหรับคนต้องการพักผ่อน หรือการบำบัดที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้

อีกประเด็นหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณาก็คือ โครงการ The Rich Nana เป็นโครงการที่เน้นห้องที่มีขนาดค่อนข้าง compact กว่าโครงการ High Rise ใหม่ๆที่เกาะตามแนวสถานีรถไฟฟ้านานา ด้วยขนาดของห้องที่เริ่มต้นที่ 34.5 ตรม. ถือได้ว่าเป็นโครงการไฮเอนท์ ตึกสูง ที่เพิ่งเปิดขายใหม่เพียงโครงการเดียวเท่านั้นที่มี ยูนิตขนาดนี้ขาย ซึ่งดูแล้วก็น่าจะเป็นการจับกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่มกับคอนโดในเซกเมนท์ Ultra Luxury อย่าง Q Sukhumvit ที่มีขนาดเริ่มต้นที่ 92 ตรม.

ด้วยทำเลกลางเมืองใกล้ facility หลักๆของย่านนานา และโครงการมาพร้อม Full facility เอาใจคนรักสุขภาพ ราคาต่อตารางเมตรเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 240,000-250,000 บาท (ราคาห้องถูกสุด ณ วันพรีเซล เมื่อเดือนมิย. 2559 คือตรม.ละ 198,000 บาท) ห้องถูกสุดอยู่ที่ประมาณ 6.8 ล้านบาท และได้ EIA Approved เรียบร้อย ใครสนใจอยากลงทุนลองไปชมห้องตัวตัวอย่างและทำเลกันได้ที่ Sale office บนซอยสุขุมวิท 3 ติดอาคาร KTB อาจเห็นลู่ทางการลงทุนปล่อยเช่าคอนโด ในย่านนานา กับกลุ่มเป้าหมายชาวตะวันออกกลางผู้รักสุขภาพก็เป็นได้