ถ้าพูดถึงรถไฟฟ้าสายใหม่ที่พร้อมใช้งานอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่เดือน ก็คงต้องนึกถึงรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ที่ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2553 จนแล้วเสร็จ เส้นทางรถไฟฟ้าดังกล่าว ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับพื้นที่ฝั่งนนทบุรี รัตนาธิเบศร์ สนามบินน้ำ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนจากตลาดหมู่บ้านจัดสรร มาเป็นตลาดคอนโดมิเนียม และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะทำเลดังกล่าว เป็นแหล่งงานสำคัญระดับประเทศ และระดับจังหวัดจำนวนมาก ทั้งศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลโรคทรวงอก และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแห่งใหม่ นอกจากรถไฟฟ้าที่กำลังจะเปิดใช้งาน แผนการพัฒนาระบบคมนาคมโดยรอบยังเอื้อต่อความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี โครงการสะพานสนามบินน้ำ ระยะทางกว่า 19 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนแจ้งวัฒนะ รวมทั้งการพัฒนาการคมนาคมทางน้ำที่เป็นที่นิยมของชาวนนทบุรี อย่างการเดินเรือ โดยการเพิ่มท่าเรือ เพื่อเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบริเวณสถานีสะพานพระนั่งเกล้า

การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ทั้ง 16 สถานี ล้วนแต่มีทำเลได้เปรียบในการเดินทางที่แตกต่างกัน แต่คงไม่มีทำเลไหน มีข้อได้เปรียบทั้งการเดินทาง วิว และ neighborhood facility โดยรอบ เท่ากับสถานีสะพานพระนั่งเกล้าอีกแล้ว เพราะนอกจากใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ และระบบการคมนาคมที่หลากหลาย ซึ่งรวมอยู่ที่สถานีนี้ ตัวสถานียังทำหน้าที่เป็น HUB การเปลี่ยนถ่าย ราง-รถ-เรือ ที่รถไฟฟ้าสถานีสะพานพระนั่งเกล้า ท่าเรือในอนาคตใต้สะพานพระนั่งเกล้า และการเดินทางด้วยรถยนต์ทั้งปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ สถานีสะพานพระนั่งเกล้ายังเป็นสถานีเดียวที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา จึงมีต้นทุนด้านทัศนียภาพ เป็น Panorama view ของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาในทำเลนนทบุรี

และที่สำคัญใครชอบ Lifestyle ที่หลากหลายมีให้เลือกทั้งแบบวิถีชุมชนริมน้ำ ผสมผสาน หรือห้างสรรพสินค้า ย่านนนทบุรี รัตนาธิเบศร์ สนามบินน้ำ ในช่วงหลังก็มีเพิ่มขึ้น รองรับการเติบโตของย่านการอยู่อาศัยอย่างมากมาย หลากหลายสไตล์ ทั้งทุนเดิมในพื้นที่ที่มีอยู่ อย่างตลาดท่าน้ำนนท์ แหล่งรวมของกินแสนอร่อยริมแม่น้ำเจ้าพระยา พิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney Venue แหล่งรวมความทรงจำวัยเยาว์ เกาะเกร็ด ที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตริมน้ำมาช้านาน ศูนย์การค้าสนามบินน้ำ มาร์เก็ต พาร์ค พื้นที่รวมสินค้าการเกษตรและร้านค้าร้านอาหารจำนวนมาก หรือจะเป็นเซ็นทรัลพลาซ่า รัตนาธิเบศร์ เอสพลานาด รัตนาธิเบศร์ โลตัส บิ๊กซี หรือเซ็นทรัลพลาซ่าเวสเกต ที่เพิ่งเปิดใหม่ ก็อยู่ในรัศมีการเดินทาง ในการพักผ่อนวันหยุด หรือแวะไปนั่งทานอาหาร ชอปปิ้งซื้อของ เรียกได้ว่ามีให้เลือหลากหลายไปได้ทุกวันแบบไม่ซ้ำเลยทีเดียว

เครดิตภาพ ศูนย์การค้าสนามบินน้ำ มาร์เก็ต พาร์ค : http://www.sbnmarket.co.th/gallery

สถานีสะพานพระนั่งเกล้าจึงเป็นทำเลพื้นที่ที่น่าสนใจไม่น้อย ทั้งที่ตั้ง และ neighborhood facility ต่างๆที่รายล้อม จนทำให้เมื่อต้นปีมีคอนโด ที่ถูกจองเต็มจนต้องมี waiting list ต่อคิวยาวเหยียดอย่าง The Politan Rive ดำเนินการโดย บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) และตอนนี้กำลังเปิดโครงการใหม่ ติดกับโครงการเดิม คือ The Politan Breeze ที่เปิดตัวมาด้วยราคาค่อนข้างถูกมาก สำหรับคอนโดริมน้ำติดรถไฟฟ้า ด้วยตารางเมตรละ 57,000 บาท ราคาเริ่มที่ 1.65 ล้านบาท ถึงแม้ราคาจะถูก แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เพราะสเปคเหมือนกับโครงการแรก The Politan Rive แต่พื้นที่โครงการอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยามากกว่าเฟสแรก ให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มอิ่มกับบรรยากาศริมน้ำมากกว่าเดิม

เครดิตภาพ: https://www.facebook.com/CondoDiary

The Politan Breeze ตั้งอยู่ในซอยนนทบุรี 15 เป็นอาคารสูง 8 ชั้น 4 อาคาร รวม 587 ยูนิต และร้านค้า 3 ร้าน  แยกอาคารจอดรถสูง 7 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ 7-2-85 ไร่

จุดเด่นที่สำคัญคือ ที่นี่มีระยะความสูงของห้องอยู่ที่ 2.55 เมตร ซึ่งนับว่าสูงกว่ามาตรฐานของคอนโด Low rise ในระดับเดียวกัน นอกจากนี้คอนเซปท์ของโครงการ “ชีวิตชิดลมหายใจแม่น้ำ” ถูกนำมารังสงรรค์ให้เห็นเด่นชัดเป็นรูปธรรมมากขึ้น ด้วยการจัดวางตัวอาคารให้อยู่ห่างจากแม่น้ำเพียงแค่ 15 เมตร นับว่าเป็นคอนโดที่มีห้องอยู่ใกล้แม่น้ำมากที่สุดในตลาด ซึ่งถ้าเป็นคอนโดที่อยู่ในจังหวัด กทม. จะต้องโดนระยะห่าง set back ถึง 45 เมตรครับ

โครงการขายแบบ Fully Fitted โดยให้ แอร์ ชุดครัว และวอลล์เปเปอร์ มีราคาห้องขนาด 29 ตรม. เฉลี่ย อยู่ที่ 6 หมื่นกว่าบาทต่อตรม. ส่วน 2 ห้องนอน จะมีราคาเฉลี่ยราวๆ 8 หมื่นกว่าบาทต่อตรม.ครับ

(ภาพจำลอง)

โดยอาคารจอดรถอยู่ติดทางเข้าซอยโครงการ อาคารที่พักอาศัย 4 อาคารวางตัวแนวตะวันออก-ตะวันตก ล้อมเป็นคอร์ทของพื้นที่ส่วนกลางยาวจรดพื้นที่ส่วนกลางริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยอาคาร A และ D ด้านทิศใต้จะเห็นวิวแม่น้ำด้านข้างและสวนส่วนกลางของ The Politan Rive ตึกแรก  มีระยะห่างจากตึกไปตึก อยู่ที่ประมาณ 30 เมตร และด้านทิศเหนือเห็นวิวสวน Politan Garden และ Pavilion และตึกB ,C

ส่วนตึก B , C ทิศใต้เห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางและตึก A,D ส่วนทิศเหนือเป็นวิวเมืองและโค้งแม่น้ำฝั่งนนทบุรี ทุกอาคารมี Lobby เฉพาะของแต่ละอาคาร

(ภาพจำลอง)

โครงการมีห้องแค่ 2 Type คือ 1 Bedroom 29 Sq.m. และ 2 Bedroom 4 ขนาด คือ 43 Sq.m., 48 Sq.m., 50 Sq.m. และ 60 Sq.m.

1 ห้องนอน 29 ตรม. จุดเด่นคือสัดสรรพื้นที่ได้เป็นสัดส่วน และทุกห้องนอนหันหัวนอนไปทางทิศตะวันออก มองไปทางวิวแม่น้ำได้ถนัดเกือบทุกห้อง (อยู่ที่ตึก C และ D ทั้งหมด)

มี Living room ที่เชื่อมห้องครัวแบบครัวปิด ที่มีพื้นที่ซักล้างแยก และเชื่อมห้องนอน ที่มีระเบียงห้องในตัว

ทางโครงการมีแถม แอร์ ชุดครัว และวอลล์เปเปอร์ด้วยนะครับ

ภาพจำลองห้องขนาด 29 ตรม.

ภาพจริงจากห้องตัวอย่างขนาด 29 ตรม.

2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 43 ตรม.

จุดเด่นคือเป็นห้องแนวยาว พื้นที่เกือบทุกส่วนสามารถชมวิวได้  โดย Living room เชื่อมกับส่วนครัว

ภาพจำลองห้องขนาด 43 ตรม.

แบ่งพื้นที่ห้องนอนเล็กที่ด้านซ้ายมือที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน

และห้องนอนใหญ่ที่ด้านขวามือ มีระเบียงยาวเชื่อมห้องนอนใหญ่และห้องนั่งเล่น

ภาพจริงจากห้องตัวอย่างขนาด 43 ตรม.

ห้องนอนเล็ก

ห้อง Master Bedroom

2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 48 ตรม. จุดเด่นคือเป็นห้องแนวยาว พื้นที่เกือบทุกส่วนสามารถชมวิวได้  โดย Living room เชื่อมกับส่วนครัว แบ่งพื้นที่ห้องนอนเล็กที่ด้านซ้ายมือ และห้องนอนใหญ่ที่ด้านขวามือ มีระเบียงยาวเชื่อมห้องนอนใหญ่และห้องนั่งเล่น

2 Bedroom 2 ห้องน้ำ ขนาด 50 Sq.m. พื้นที่เกือบทุกส่วนสามารถชมวิวได้  โดย Living room มีระเบียง เชื่อมกับส่วนครัว แบ่งพื้นที่ห้องเล็กที่ด้านขวามือ และห้องนอนใหญ่ที่ด้านซ้ายมือพร้อมห้องน้ำในตัว

2 Bedroom 2 ห้องน้ำ ขนาด  60 Sq.m จุดเด่นคือเป็นห้องหัวมุม มีระเบียงตัวแอล ทำให้ทุกห้องสามารถเชื่อมสู่ระเบียงได้ 

โดย Living room เชื่อมกับครัวในแนวลึก

ภาพจำลองห้องขนาด 60 ตรม.

แบ่งพื้นที่ห้องเล็กที่ด้านขวามือ

และห้องนอนใหญ่ที่ด้านซ้ายมือพร้อมห้องน้ำในตัว

ภาพจริงจากห้องตัวอย่างขนาด 60 ตรม.

มาดูที่แปลนอาคารกันบ้าง ห้อง Type 1 Bedroom ขนาด 29 ตรม. จะอยู่ที่ตึก C และ D ใกล้อาคารจอดรถและทางเข้าออก

ที่ชั้น 1 ของทั้งสองตึกเป็นที่จอดรถและ Lobby Double Height มีอาคาร D ที่ด้านทิศเหนือ เป็นห้องพัก ที่อยู่ติดคอร์ทพื้นที่สวนส่วนกลาง

อาคาร D ชั้น 1 จะมีห้องหันไปทางทิศเหนือทั้งหมด

ส่วนชั้น 2 – 8 ก็เป็นห้องพักอาศัย โดยที่ชั้น 2 จะมียูนิตน้อยกว่า เนื่องจากพื้นที่ Lobby เป็น Double Volume

อาคาร C ชั้น 1 เป็นที่จอดรถเกือบทั้งชั้น และมีส่วนของ Lobby อยู่ทางมุมซ้ายมือ

ส่วนชั้น 2-8 ก็เป็นยูนิตพักอาศัยแบบ 29 ตรม.ล้วนๆเช่นเดียวกับตึก D

ส่วน Type 2 Bedroom อยู่ที่ตึก A และ B ใกล้พื้นที่ส่วนกลางบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ที่ชั้น 1 ของตึก A เป็นที่จอดรถ ยกเว้นฝั่งทิศเหนือ เป็นห้องพักอาศัย ติดกับคอร์ทพื้นที่ส่วนกลาง และเป็นที่ตั้งของ Lobby Double Height และสำนักงานนิติบุคคล

ส่วนตึก B ชั้น 1 เป็นที่จอดรถ ยกเว้นปลายอาคารด้านทิศตะวันตกเป็นที่พักอาศัยติดกับพื้นที่ส่วนกลางริมแม่น้ำเจ้าพระยา และยังเป็นที่ตั้งของ Fitness และ Lobby Double Height และ Library 2 ชั้นครับ

ชั้น 2-8 ของทั้งสองอาคาร เป็นที่พักอาศัย โดยห้อง 2 Bedroom ขนาดใหญ่สุด 60 Sq.m. เป็นห้องหัวมุมระเบียงยาวตัว L  ด้านทิศตะวันตก

ชั้น 2-8 ของอาคาร A

ชั้น 2-8 ของอาคาร B

ส่วน Facilities ที่ทางโครงการให้มา ประกอบด้วย

Lobby Double Height ที่โอ่โถง กว้างขวาง เหมาะแก่การต้อนรับเข้าสู่พื้นที่พักผ่อน หรือรับแขกในบางเวลา

(ภาพจำลอง)

Swimming pool & Kid pool , Pool deck , Bubble pool  ที่เชื่อม River terrace พื้นที่พักผ่อนริมน้ำที่เชื่อมต่อมุมมองสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

เครดิตภาพ: https://www.facebook.com/CondoDiary

(ภาพจำลอง)

The river breeze pond, Garden สวนพักผ่อนหย่อนใจ กลางคอร์ทของพื้นที่โครงการ ใช้วัสดุโทนสีธรรมชาติกับระเบียงในสวน ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ เหมาะแก่การพักผ่อนที่แท้จริง

(ภาพจำลอง)

Library & Multipurpose room บนพื้นที่ Double Height 2 ชั้น มีมุมให้นั่งอ่านหนังสือ ทำงานได้หลากหลายรูปแบบ

(ภาพจำลอง)

ภาพจำลอง Fitness วิวสระว่ายน้ำ เชื่อมโยงธรรมชาติภายนอกเข้าสู่พื้นที่ด้านในอาคาร เสมือนการออกกำลังกายท่ามกลางสวนของโครงการ

ถึงแม้ว่า The Politan Breeze จะเป็นคอนโดเฟสใหม่ เปิดติดกัน แต่ก็ไม่มีส่วนไหนเชื่อมต่อกับเฟสแรก แถมยูนิตยังน้อยกว่าโครงการเฟสแรก และยังแยกอาคารจอดรถไว้ส่วนด้านหน้าสุดของโครงการ ทำให้ไม่เกิดการรบกวนกัน น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบความ Privacy เพียง 500 กว่ายูนิต บนพื้นที่โครงการ 7 ไร่ครึ่ง แถมยังมีพื้นที่ส่วนกลางติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขนาดกว่า 3 ไร่ ให้ได้นั่งรับลม ชมพระอาทิตย์ตกริมเจ้าพระยาได้แบบไม่มีเบื่อ อีกทั้งทำเลและ neighborhood facility ที่รายล้อม พร้อมให้บริการ กับราคาที่ค่อนข้างถูก หากเทียบกับทำเลที่ได้ และรูปแบบห้อง ในราคาที่ไม่น่าจะหาได้ในคอนโด low rise ติดรถไฟฟ้า ติดแม่น้ำในยุคปัจจุบันได้อีกแล้ว

The Politan Breeze จึงน่าสนใจไม่น้อย หากใครสนใจคงต้องรีบเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือเข้าชมห้องตัวอย่างได้ที่โครงการเช่นกัน เพราะถ้าช้าอาจต้องเสียใจภายหลัง และอาจจะต้องไปรอต่อคิวเป็น waiting list แบบโครงการแรกก็เป็นได้

Presale 23-24 ก.ค. นี้ ที่สำนักงานขายริมแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่ม 1.65 ลบ เพียง 57,000 บาท/ตรม

ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดสูงสุด 80,000 บาท ที่ http://www.thepolitancondo.com/breeze/