ต่อทอง ทองหล่อ เมื่อ 6 July, 2016 เวลา 15.41 pm
Prop score™: 3.6
คะแนนรีวิว: 0.0
0 รีวิว
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ
พลัมคอนโด ปิ่นเกล้า สเตชั่น (Plum Condo Pinklao Station)
บริษัทผู้สร้าง
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
สถานที่
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
สถานีรถไฟ BTS
-
สถานีรถไฟใต้ดิน
MRT บางยี่ขัน Distance 750 m.
Airport Rail Link
-
สถานี BRT
-
พื้นที่
4-0-38 ไร่
ชั้น
อาคารชุดพักอาศัยสูง 22 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
ยูนิต
ห้องชุดพักอาศัย 964 ยูนิต และ ห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 4 ยูนิต รวม 968 ยูนิต
ที่จอดรถ
ประมาณ 42% (รวมซ้อนคัน)
ลิฟท์
4 Passenger Lifts + 1 Service Lift
สิ่งอำนวยความสดวก
ร้านค้า, สนามแบดมินตัน, Relaxing court, Relaxing pool, The Pool, Kid Pool, Sauna, Fitness, The club, Yoga
ประเภทยูนิต
ประเภท
CONDO
studio
-
1 bedroom
24.5-26.5 ตร.ม.
2 bedroom
49.5 ตร.ม. (combined unit)
3 bedroom
-
Duplex
-
Penthouse
-
ประเภทอื่นๆ
-
ความสูงจากพื้นถึงเพดาน
2.55 เมตร
ราคาเริ่มต้น / ตรม.
81,250
ราคาเริ่มต้น / ยูนิต
1.95 ล้านบาท
ค่าส่วนกลาง
45 บาทต่อตรม
Sinking Fund fee
ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
สร้างเสร็จ
2018
เว็บไซต์
http://www.pruksa.com/pre-sale/289-condo-pinklao
1739
พลัมคอนโด ปิ่นเกล้า สเตชั่น เปลี่ยนก้าวใหม่ให้ชีวิต ที่ปิ่นเกล้า… เมืองหลวงของฝั่งธนฯ
ถ้าจะพูดถึงย่านปิ่นเกล้า เราขอขนานนามย่านนี้ว่าเป็น The Capital City of Thonburi สาเหตุที่บอกว่าปิ่นเกล้าเป็นเหมือนเมืองหลวงของฝั่งธนบุรี เพราะปิ่นเกล้าเป็นศูนย์กลางรวมความเจริญทุกแบบ มายาวนานก่อนที่จะมีรถไฟฟ้าซะอีก มีทั้งห้างสรรพสินค้ามากมายหลายคอนเซปต์ คอนโดมิเนียม จุดเชื่อมต่อการเดินทางรูปแบบต่างๆ ทั้ง รถยนต์ รถเมล์ รถตู้ มอเตอร์ไซค์ เรือ และอีกไม่นานจะมีรถไฟฟ้า MRT เข้ามาเป็นทางเลือกใหม่อีกด้วย จึงถือได้ว่า “ปิ่นเกล้า” ย่านที่ดูจะเจริญเติบโตสำหรับคนยุคเก่า แต่มาถึงวันนี้ก็กลับมาดูคึกคักมีชีวิตชีวา ดูเป็นหนุ่มสาว Look Younger ขึ้นได้อีกครั้ง
ปิ่นเกล้ากลับมาเป็นย่านที่อยู่อาศัย และมอบไลฟ์สไตล์ที่สามารถครองใจคนรุ่นใหม่ Gen Y ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการ Renovate ครั้งใหญ่ของห้าง Central Plaza Pinklao ที่ออกแบบใหม่หมดทั้งภายนอกและภายใน มีการจัดระเบียบร้านค้าและเลือกร้านใหม่ๆ ปรับเปลี่ยนสไตล์ Interior design ให้สมัยใหม่ เดินสบาย มีร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ และร้านเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆ ที่โดนใจ Gen Y และครอบครัวยุคนี้มากขึ้น
นอกจากห้างสรรพสินค้าที่ปรับตัวแล้ว วิถีการเดินทาง การคมนาคมก็ปรับตัวด้วยเพราะปิ่นเกล้าในอนาคตจะมีรถไฟฟ้า MRT สถานีบางยี่ขันเกิดขึ้น สถานีนี้เป็นส่วนหนึ่งของ MRT สายสีน้ำเงินซึ่งจะวิ่งเป็นวงกลมจากบางซือแล้วข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาถนนจรัญสนิทวงศ์แล้วหมุนกลับลงมาเชื่อมกับ MRT หัวลำโพง การวิ่งเส้นทางแบบนี้ทำให้ในอนาคตคนที่พักแถวปิ่นเกล้าสามารถนั่งรถไฟฟ้าวิ่งไปลงย่านสีลม สาธร อโศกหรือรัชดาภิเษกซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจขนาดใหญ่ (CBD) ได้ง่ายๆ ทำให้จึงไม่แปลกใจว่าทำไมวิถีชีวิตปิ่นเกล้าเริ่มเปลี่ยนถ่ายจากยุครุ่งเรืองของคน Gen Babyboom มาเป็นคน Gen Y มากขึ้น
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปิ่นเกล้าจะทิ้งหรือละเลยคนที่อายุมากกว่า Gen Y ไปเสียทีเดียว เพราะเดี๋ยวนี้คนรุ่น “เหนือ Gen Y” (อายุมากกว่า 35 ปี) ก็มีการเสพไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย ปรับตัวตามโลกที่หมุนไป เพราะทุกคนยุคนี้มีโทรศัพท์มือถือและใช้ Social Networks ทำให้รสนิยม สไตล์การใช้ชีวิตของคนแต่ละยุคเริ่มใกล้เคียงกัน รู้จักร้านใหม่ๆ เหมือนกัน เริ่มกินอาหารรสชาติใกล้เคียงกัน สมัยก่อนคนรุ่นปู่รุ่นป้าอาจจะไม่เคยกินชาบูซูชิ แต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มมากินร่วมกับลูกหลานแล้ว เทรนด์ของสื่อมือถือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนต่างวัยให้ปรับจูนเข้าหากันได้อย่างลงตัว และย่านปิ่นเกล้านี้ก็ตอบโจทย์ของคนทุกวัยได้อย่างดีเยี่ยม
ตัวอย่างร้านอาหารและวิถีการกินการอยู่ของคนกรุงเทพที่เปลี่ยนแปลงไป
นอกจากไลฟ์สไตล์การกินที่เปลี่ยนไป วิถีชีวิตของคนกรุงยุคใหม่ก็เริ่มเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวนี้เราเริ่มเห็นคนเหนือ Gen Y ย้ายจากตึกแถวหรือบ้านเดี่ยวแล้วขึ้นมาอยู่ในคอนโดมิเนียมกันมากขึ้น เพราะด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปเป็นครอบครัวเดี่ยว ประกอบกับมีความคิดที่ว่า “อยู่บ้านใหญ่ ดูแลไม่ไหว” เริ่มเข้ามาเป็นสาเหตุที่ทำให้เริ่มมองหาคอนโดมิเนียมขนาดย่อมที่อยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาปัดกวาดเช็ดถูมากมาย ไม่ต้องคอยมาเช็กหลังคากลัวน้ำรั่ว ไม่ต้องพะวงกั้นกระสอบทรายหน้าบ้านป้องกันน้ำท่วมอีกต่อไป
ภาพตัวอย่างโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ซึ่งปัจจุบันเป็นทางเลือกของคนทุกวัยนิยมแทนที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ ตึกแถว ทาวน์เฮาส์ไปแล้ว
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะ “ความเปลี่ยนแปลง” ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโลกเรา และใครเปลี่ยนตัวเองได้อย่างมีความสุขก็ถือว่าคนนั้นได้เปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ให้ตัวเองได้ดี
เมื่อสภาพสังคมเปลี่ยนแปลง ชีวิตเราก็ย่อมเปลี่ยนแปลงตามไปทุกด้าน รวมถึงการเปลี่ยนที่อยู่อาศัยของเราด้วย ปัจจุบันโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงได้รับความนิยมมาก หลังจากที่เราเห็นภาพกระแสการจองและซื้อคอนโดมิเนียมกันจนเป็นภาพชินตา ภาพเหล่านั้นถูกปรากฎขึ้นบนสื่อ Social Networks ด้วย ทำให้คนทุกวันนี้ ยอมรับได้กับการอยู่บนตึกสูงๆ ที่ตั้งอยู่ในทำเลใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน คอนโดมิเนียม มีมากมายหลายแบบให้เลือก แต่ที่ไหนจะเหมาะกับคน Gen Y และคนเหนือ Gen Y ที่สุด บทความนี้จะขอนำเสนอโครงการคอนโดมิเนียม ที่ทันสมัยในย่านปิ่นเกล้า ชื่อโครงการว่า พลัมคอนโด ปิ่นเกล้า สเตชั่น (Plum Condo Pinklao Station)
Plum Condo Pinklao Station ทำเลเป็นอย่างไร
พลัมคอนโดปิ่นเกล้า ตั้งอยู่บนถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้าซึ่งเป็นถนนใหญ่ ใกล้กับห้างพาต้าปิ่นเกล้าไม่กี่เมตรสามารถเดินไปช้อปปิ้งที่ห้างและแวะ Tesco Lotus ด้านล่างของพาต้าได้ง่ายๆ
นอกจากใกล้สถานที่ย้อนยุคอย่างพาต้าแล้ว ในอนาคตจะมีสถานีรถไฟฟ้า MRT บางยี่ขันที่จะเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางเข้าตัวเมือง ต่อไปผู้ที่อยู่ในโครงการพลัมคอนโดปิ่นเกล้าจะสามารถเข้าสู่ย่านสีลม พระราม 4 อโศก รัชดาภิเษกได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นับได้ว่าเป็นทำเลที่มีผสมผสานความเก่าและใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
แผนที่บอกที่ตั้งของพลัมคอนโดปิ่นเกล้า
พิกัด GPS 13.772451, 100.483166
ตำแหน่งใน Google Map : https://goo.gl/maps/1GduWWjCV2T2
สถานีรถไฟฟ้าบางยี่ขันที่กล่าวมานั้นไม่ใช่แค่แผนการก่อสร้าง แต่กำลังสร้างอยู่จริงๆ
ภาพนี้คืออัพเดตความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีบางยี่ขัน (ถ่ายเมื่อ มีนาคม 2559 ภาพจาก www.mrta-blueline.com)
ซึ่งพลัมคอนโดปิ่นเกล้า ตั้งห่างจากทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าบางยี่ขันแห่งนี้ประมาณ 600 กว่าเมตร คำนวณการใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 8 นาที
นี่คือพื้นที่ก่อสร้างพลัมคอนโดปิ่นเกล้า จะเห็นได้ว่าที่ดินของพลัมคอนโดจะติดกันกับโครงการ High-rise Condominium ชื่อ Lumpini Suite Pinklao
จุดเด่นที่น่าสนใจของทำเลโครงการนี้คือ ใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่ สวนหลวงพระราม 8 สามารถปั่นจักรยานไปจอดใต้่เชิงสะพานพระราม 8 แล้วไปวิ่งออกกำลังกายหรือพักผ่อนเดินชมวิว รับลมบนสะพาน
นอกจากแหล่งพักผ่อนแบบอากาศธรรมชาติๆ แล้วทำเลของโครงการก็ยังใกล้แหล่งพักผ่อนสมัยใหม่อย่างห้างเซ็นทรัลพลาซ่าปิ่นเกล้า ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร แฟชั่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ครบทุกความต้องการในบรรยากาศติดแอร์
พลัมคอนโดสามารถเดินเท้าไปห้างพาต้าปิ่นเกล้าได้เลยง่ายๆ
ถ้าขับรถเลยเซ็นทรัลปิ่นเกล้าไปก็จะเจอกับ Community Mall แห่งหนึ่งชื่อว่า The Sense แหล่งรวมร้านอาหาร
Credit ภาพ : www.facebook.com/thesensebkk
ทำเลของโครงการพลัมคอนโดนั้นยังใกล้โรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (Siriraj Piyamaharajkarun Hospital) ซึ่งเป็นศูนย์รวมตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับสายการแพทย์จำนวนมาก ดังนั้นแน่ใจได้เลยว่าที่โครงการพลัมคอนโดแห่งนี้เราจะต้องมีคุณหมอและพยาบาลเป็นเพื่อนบ้านเราแน่นอน
ภาพจาก www.siphhospital.com
จากโครงการพลัมคอนโดปิ่นเกล้าสามารถเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ได้อย่างสะดวกด้วยเรือข้ามฟากปิ่นเกล้า-ท่าพระจันทร์
มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นแหล่งงานของคณาจารย์และพนักงาน เป็นแหล่งเรียนของนักศึกษาโดยเฉพาะปริญญาโทและเอกหลากหลายคณะ
ภาพจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ภาพโดยรวมของทำเลและสถานที่สำคัญรอบๆ โครงการพลัมคอนโดปิ่นเกล้า
ขอสรุปว่าพลัมคอนโดปิ่นเกล้าตั้งอยู่ในทำเลจุดกึ่งกลางของแหล่งงานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีความได้เปรียบของโลเคชั่น นอกจากนี้ยังเป็นโครงการที่ติดถนนใหญ่ มี Exposure ดี คนจากภายนอกมองเห็นได้ง่าย ทำให้ในอนาคตเมื่ออาคารสร้างเสร็จแล้ว ตัวตึกเองจะโฆษณาตัวเองไปในตัว ย่อมมีคนสนใจและเข้ามาดูมาเยี่ยมชมมาเช่าหรือสนใจซื้อขายกันง่ายกว่าโครงการอื่นๆ ที่ไม่ติดถนนใหญ่ ซึ่งปัจจัยสร้างมูลค่าเพิ่มแบบนี้เองที่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งทำให้โครงการพลัมคอนโดปิ่นเกล้ามีราคาที่รักษาระดับไม่ให้ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร และราคาแบบนี้จะเป็นตัวกรองระดับของผู้อยู่อาศัยในโครงการไปในตัว ส่งผลเอื้อให้เพื่อนบ้านของผู้อาศัยในโครงการนี้เป็นครอบครัวที่มีรายได้อย่างน้อย 40,000-50,000 บาทต่อเดือนหรือมากกว่านั้น (ระดับ B ขึ้นไป) ถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่คัดเลือกที่อยู่อาศัยและคำนึงถึงเพื่อนบ้านเป็นเหตุผลร่วมในการตัดสินใจก็สามารถนำปัจจัยเรื่องระดับราคามาพิจารณาด้วยได้
ภาพรวมของอาคารและพื้นที่ส่วนกลางของ Plum Condo Pinklao เป็นอย่างไร
โครงการพลัมคอนโดปิ่นเกล้าเป็นอาคารพักอาศัยสูง 22 ชั้น ถ้ารวมชั้นดาดฟ้าด้านบนด้วยก็คือ 23 ชั้น
พื้นที่ออกกำลังกายและจุดชมวิวบน Roof Top มี Jogging Track จุดชมวิวลอยฟ้า สามารถใช้เป็นพื้นที่เล่นโยคะกลางแจ้งได้ นอกจากนี้ยังมี Relaxing Court นั่งพักผ่อนรับลมในยามเย็นได้ ถือว่าน่าสนใจทีเดียวที่ไม่ปล่อยให้พื้นที่ดาดฟ้าเป็นพื้นที่โล่งๆ ธรรมดา แต่นำมาตกแต่งและให้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้จริง
ชั้น 5 มีสระว่ายน้ำ ซึ่งมี 3 โซนได้แก่ Kid’s pool สระน้ำเด็ก Swimming Pool สระว่ายน้ำและที่นอนอาบแดด ซึ่งคาดว่าแดดจะส่องลงมาได้เฉพาะช่วงเที่ยงเท่านั้นเพราะด้วยการวางตำแหน่งของอาคารที่บังแดดรอบทิศ แต่ข้อดีคือสามารถว่ายน้ำแบบไม่โดนแดดและใช้ได้ทั้งเช้า บ่ายและเย็น นอกจากนี้ยังมี Relaxing Pool สระสำหรับนั่งแช่ตัวชิลล์ๆ เป็นสระว่ายน้ำที่ครอบคลุมกิจกรรมของคนทุกวัย นอกจากนี้ที่ชั้น 5 ยังมีห้องฟิตเนสติดแอร์ ห้องซาวน่า ลานโยคะ และห้องนั่งทำงานอ่านหนังสือ (The Club)
ภาพ Fitness Gym ลอยฟ้าชั้น 5 ถ้าเราวิ่งหรือปั่นจักรยานออกกำลังกายในฟิตเนส ทัศนียภาพที่จะได้รับคือมองลงไปเป็นสวนพักผ่อนและสนามแบดมินตันชั้นล่าง มีซาวน่าอยู่ติดกับฟิตเนส ส่วนด้านบนฟิตเนสเป็นลานโล่งมีที่นั่งพักและปลูกตุ้นไม้พุ่มสีเขียวเอาไว้ สามารถใช้เป็นพื้นที่เล่นโยคะได้
The Club แบ่งพื้นที่ออกเป็นหลาย space หลายจุดประสงค์การใช้งาน ได้แก่
Reading Club พื้นที่นั่งอ่านหนังสือ พื้นที่นั่่งพูดคุยเป็นกลุ่มแบบส่วนตัว โซฟาครึ่งวงกลม โซฟาเดี่ยว โซฟาคู่
Multi Club โต๊ะและเก้าอี้นั่งทำงานคอมพิวเตอร์และมีประตูกั้นปิดเป็นห้องประชุมชั่วคราว ออกแบบคล้ายๆ Co-working space ที่เป็นหนึ่งใน facility อินเทรนด์ของคอนโดมิเนียมปัจจุบัน
Play Club เป็นห้องมีโทรทัศน์ เครื่องเล่นเกมส์ สามารถฉายภาพยนตร์ และมีโต๊ะพูลไว้เล่นและสังสรรค์ได้
อาคารจอดรถจะตั้งอยู่ตรงกลางของโครงการ
ในอาคารมีที่จอดรถในร่ม 4 ชั้น จอดรถได้ 38% แต่ถ้ารวมซ้อนคันจะได้ประมาณ 42% หรือประมาณ 400 คัน (สมมุติ 1 ยูนิตมีสิทธิ์จอดได้ 1 คัน)
ด้านหน้าโครงการมี Lobby 2 ชั้น และ shop ร้านค้าต่างๆ จำนวน 4 shop โดยมีการวางแผนที่จะนำร้านสะดวกซื้อมาเปิดให้บริการชั้นล่างด้วย แต่ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ ถ้ามีร้านสะดวกซื้อจริงก็จะยิ่งทำให้โครงการนี้ดูน่าสนใจมากทีเดียว นอกจากนี้ที่ชั้น 1 ด้านทิศตะวันตกของโครงการ Plum Condo Pinklao Station ออกแบบให้มีคอร์ทแบดมินตันซึ่งหาจากโครงการที่ต่ำกว่า 1,000 ยูนิตได้ยาก มีสวนพักผ่อนและพื้นที่สีเขียว ซึ่งทำให้บรรยากาศดูดี สบายตา ทัศนียภาพระหว่างคอนโดมิเนียมใหญ่ 2 โครงการนั้นดูสวยงาม ไม่รู้สึกแน่น และแถมพื้นที่ก็ยังสามารถใช้สอยได้จริงอีกด้วย
ภาพนี้คือด้านหน้าของโครงการ เป็นมุมมองจากถนนใหญ่หน้าโครงการ (ทิศใต้)
ด้านล่างของอาคารจะมี Lobby แบบ Double Volume และมี Mezzanine Lobby เป็นชั้นลอย
ยูนิตฝั่งติดถนนใหญ่นี้จะมีบางยูนิตที่อยู่ระดับต่ำกว่าและระดับเดียวกับทางยกระดับบรมราชชนนีซึ่งอาจเป็นยูนิตที่ได้ราคาพิเศษกว่ายูนิตอื่น ต้องลองสอบถามพนักงานขายประจำโครงการดูเอาเอง
ดีไซน์ของอาคารใช้สี 2 tone คือ สีเทาและสีเหลืองทอง สลับกันเพื่อให้ดูมีมิติ โทนสีเหลืองที่เลือกใช้สื่อถึงความมงคลตามความเชื่อชาวจีน นอกจากนี้สีเหลืองยังเป็นสีที่สื่อถึงจักรพรรดิจีนอีกด้วย ส่งผลต่อความเชื่อของผู้อยู่อาศัยในโครงการนี้ล้วนได้รับแต่สิ่งดีๆ เหมือนอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งมังกรทอง ถือได้ว่าสถาปนิกออกแบบได้คำนึงและเข้ากับคอนเซปต์ของย่านปิ่นเกล้าได้ดีและผสมผสานความเป็นถิ่นดั้งเดิมให้เข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว
นี่คือภาพฝั่งทิศตะวันตกถ้าสมมุติขับรถยนต์เข้าโครงการแล้วเลี้ยวซ้ายตามทิศทางเดินรถ จะเห็นภาพรวมของอาคารวางคล้ายตัว F สลับด้าน ด้านทิศตะวันตกนี้จะบรรจุพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดและอาคารจอดรถไว้ตรงกลางของโครงการ
มุมมองของภาพนี้เสมือนมองจากคอนโดมิเนียมที่ติดกันคือ โครงการ Lumpini Suite Pinklao
ภาพลักษณะคร่าวๆ ของการวางตำแหน่งของโครงการ (เป็นภาพไม่ทางการ ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้) จะเห็นได้ว่าทาง Plum Condo ออกแบบให้พื้นที่โล่งส่วนกลางหันหน้าไปหา Lumpini Suite เพื่อให้มีระยะห่างออกจากกันมากพอสมควร การออกแบบเช่นนี้ส่งผลดีให้กับทัศนียภาพของชุมชนทั้งสองโครงการ ดูไม่อึดอัด อาคารไม่ชิดกันมากเกินไป
หมุนมาอีกทิศ นี่คือภาพอาคารฝั่งทิศเหนือ ด้านนี้ยังไม่ติดกับอาคารสูงใดๆ เพราะยังคงติดกับที่ดินเปล่า
หมุนมาอีกทิศ งานออกแบบของฝั่งทิศตะวันออก ซึ่งเป็นด้านที่มีความยาวของตึกมากที่สุด ยูนิตด้านนี้จะมองไปเห็นห้างพาต้าปิ่นเกล้าและจากระเบียงทิศตะวันออกนี้สามารถมองเห็นสะพานพระราม 8 ในระยะไกลได้อีกด้วย เป็นทิวทัศน์ที่สวยในยามค่ำคืน
นี่คือภาพโซน THE LIVING หรือ Lobby แบบ Double Volume ที่ทำให้ดูยิ่งใหญ่ ประทับใจตั้งแต่เดินเข้าโครงการมา
Lobby แบ่งออกเป็น 2 ชั้นได้แก่ Ground Lobby และ SOCIAL LIVING (Mezzanine Lobby)
ดีไซน์ตกแต่งภายในและการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบนี้เสมือนอยู่ในโรงแรมหรู เพราะเลือกใช้ scheme สีเป็นสีม่วง ทอง ดำ ซึ่งสีม่วงเป็นชุดสีที่เชื่อมโยงความรู้สึกถึงความสูงส่ง (Royalty) อำนาจ (Power) และความมั่งคั่ง (Wealth) เพราะสมัยก่อนการจะย้อมผ้าเป็นสีม่วงนั้นมีต้นทุนที่สูงมาก ต้องใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่หายากจากหอยชนิดหนึ่งในทะเลเมดิเตอเรเนียนจำนวนมหาศาลกว่า 9,000 ตัวถึงจะสกัดสีม่วงออกมาได้เพียง 1 กรัมเพื่อนำไปย้อมผ้า ดังนั้นผู้ที่ครอบครองอาภรณ์สีม่วงได้ย่อมมีเพียงแค่ราชวงศ์ ชนชั้นปกครองหรือระดับมหาเศรษฐีเท่านั้น สาเหตุนี้เองที่ทำให้สีม่วงเป็นสีที่ให้ความรู้สึกเลอค่าสูงส่งมีอำนาจนั่นเอง
Ground Lobby ด้านล่างเหมาะกับนั่งพักรอคอยชั่วคราว หรือนั่งรอเพื่อเตรียมจะไปต่อ ส่วน Mazzanine Lobby ชั้นลอยเหมาะกับการพักผ่อนหรือนั่งอ่านหนังสือที่ต้องการเพิ่มระดับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
จากภาพจะเห็นว่า lobby ทั้งหมดแบ่งออกได้มากถึง 4 โซนเพราะมี Partition สีดำกั้นแบ่ง space ออกจากกัน
Mezzanine lobby มีการแบ่งโซนกึ่งปิด ได้แก่ โซนใกล้บันไดและโซนด้านใน ยิ่งเพิ่มระดับความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้นไปอีก ส่งผลทางจิตวิทยาของผู้ใช้งานที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัวแม้อยู่ในโครงการที่มียูนิตจำนวนมาก
สรุปได้ว่า พื้นที่ส่วนกลางของโครงการพลัมคอนโดปิ่นเกล้าถือว่าครบครันและตอบโจทย์ของชีวิตทุกวัย ตั้งแต่เด็กๆ คนทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุ เพราะมีพื้นที่ให้ทำกิจกรรมยามว่างได้หลากหลายมุมทั้งเล่นกีฬา ออกกำลังกายคนเดียวหรือหลายคน มีพื้นที่ outdoor activity เช่นวิ่ง เดิน นอน นั่งพักผ่อน และมีร้านค้าอำนวยความสะดวก ส่วนกลางเยอะแบบนี้เรียกได้ว่า “จัดเต็ม” น่าจะทำให้โครงการนี้เป็นที่สนใจของคนที่ต้องการพักแถวปิ่นเกล้านี้แน่นอน
ลักษณะเฉพาะแต่ละยูนิตเป็นอย่างไร
หลังจากพาดูพื้นที่ส่วนกลางไปแล้ว มาดูพื้นที่ส่วนตัวของเรากันดีกว่าว่ามีห้องแบบไหนให้เลือกบ้าง
จาก Floor plan จะเห็นได้ว่าห้องพักอาศัยนั้นเริ่มที่ชั้น 2 เลยซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่จอดรถ ห้องชั้น 2 จะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบอยู่ที่สูง เช่น คนสูงอายุ หรือคนที่กังวลว่าจะทำอย่างไรเวลาเกิดเหตุไฟดับหลายชั่วโมง
Floor plan ของชั้น 3-4 เหมือนชั้น 2 ต่างกันแค่พื้นที่ Mezzanine Lobby นั้นก็เปลี่ยนเป็นห้องพักอาศัยแทนนั่นเอง ชั้นเตี้ยๆ แบบนี้มีข้อดีตรงที่อยู่ชั้นเดียวกับที่จอดรถนั้นจะสะดวกสบายเหมาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ขับรถเข้าออกโครงการบ่อยๆ เพราะวนรถขึ้นมาจอดชั้นเดียวกับห้องพักของตัวเองแล้วก็เดินผ่านประตูเข้าสู่โถงทางเดินเข้าห้องตัวเองได้ทันทีไม่ต้องยืนรอลิฟท์ คล้ายๆ อารมณ์แบบมีที่จอดรถหน้าบ้าน
จากภาพ Floor Plan ชั้น 5 จะเห็นว่าเป็นชั้นที่เริ่มมี room type แบบ 2 ห้องนอนขึ้นมา
และที่สำคัญคือชั้น 5 นี้ทางโครงการได้บรรจุพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มเอาไว้ให้ แต่การมีส่วนกลางครบไว้ในชั้นเดียวนี้ไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวบริเวณโถงทางเดินของผู้พักอาศัยชั้น 5 เพราะสถาปนิกได้ออกแบบให้มีประตูกั้นระหว่างโถงที่พักกับโถงทางเข้าพื้นที่ส่วนกลาง คนจากชั้นอื่นๆ สามารถเดินออกจากลิฟท์แล้วเข้าเล่นฟิตเนสว่ายน้ำได้เลยแค่ 3 ก้าวโดยไม่ต้องเดินผ่านโถงของส่วนพักอาศัย จึงจะไม่เกิดเหตุการณ์เดินรองเท้าแตะดังเปาะแปะไปมาให้น่ารำคาญหูเหมือนโครงการอื่นๆ
ในอาคารมีลิฟต์ทั้งหมด 5 ตัว แบ่งเป็นลิฟต์โดยสาร 4 ตัว และลิฟต์ขนของ 1 ตัวทำให้แยกสัดส่วน ไม่มีช่างหรือพนักงานขนเฟอร์นิเจอร์ผ่านเข้ามาในลิฟท์โดยสารให้ยากลำบาก ลิฟท์โดยสารมี 2 ปีก ปีกละ 2 ตัว เพื่อให้ลูกบ้านไม่ต้องเดินมากระจุกรอที่เดียวกัน ใครใกล้ลิฟท์ไหนก็ขึ้นลิฟท์นั้นไปเลย ลิฟท์ล็อคชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ไม่มีใครเดินขึ้นลงไปมาระหว่างชั้นได้
รูป Floor plan ชั้น 6-22 เหมือนกับรูปชั้น 5 แค่ตัดส่วนกลางออก
ภาพข้างบนนี้ค่อนข้างบรรยายภาพรวมของยูนิตของทั้งโครงการได้ครบถ้วน
จริงๆ แล้วยูนิตมี 2 Type ได้แก่
1 Bedroom type (มี 2 ขนาดคือ 24.5 ตร.ม. และ 26.5 ตร.ม. นอกจากนี้ก็ยังมีห้องมุม 2 ขนาดคือ 24.5 ตร.ม.และ 26.5 ตร.ม. อีกด้วย) ซึ่ง Type 1 Bedroom ดูในภาพแล้วเหมือนจะมีหลายแบบ แต่จริงๆ แล้วดีไซน์การแบ่งกั้นห้องไม่แตกต่างกัน อย่างเช่นห้อง 24.5 กับ 26.5 นั้นต่างกันแค่ระยะของความยาวของห้องจากประตูทางเข้าไปหน้าต่างเท่านั้น
2 Bedroom type 49.5 ตร.ม. เป็นแบบห้อง combined ที่ลงตัวเหมาะกับอยู่อาศัยแบบครอบครัว เช่น พ่อแม่ที่มีลูกเล็ก หรือลูกโตอยู่กับพ่อแม่อายุมาก ซึ่ง type นี้มีแค่ 72 ยูนิตเท่านั้น จากทั้งหมด 964 ยูนิต จึงถือว่าเป็นอีก room type ที่น่าจะได้รับความนิยมและอาจจะต้องมีการแข่งขันแย่งชิงตอนซื้อขายกันสักหน่อย
1 Bedroom ขนาด 24.5 ตารางเมตร สังเกตว่าวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง
เหมาะกับการอยู่ 1 หรือ 2 คน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเอาไว้ปล่อยเช่าคุ้มกว่า เพราะเป็นห้อง type เล็กที่สุด จะปล่อยเช่าได้ราคาต่ำกว่า type อื่น ทำให้หาคนผู้เช่าได้ง่ายกว่า
1 Bedroom ขนาด 26 ตารางเมตร วางโซฟาแบบ 3 ที่นั่งได้ เหมาะสำหรับพักอาศัย 1-2 คนได้อย่างลงตัวมากขึ้น
จะขอเริ่มพาทัวร์ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom 24 ตร.ม.
มุมมองจากโถงทางเดิน (Corridor)
ต้องบอกไว้ก่อนดูห้องตัวอย่างที่สวยงามนี้ว่า ห้องที่เราได้รับจริงๆ จะเป็นแบบ Fully-Fitted คือมีชุดครัวแถมเตาไฟฟ้าและที่ดูดควันระบบหมุนเวียน (Hob & Hood) ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ แอร์ 2 ตัว วอลเปเปอร์บริเวณห้องนั่งเล่น
นี่คือมุมมองจากประตูทางเข้าห้อง (Entrance) เปิดประตูเข้ามาเห็นห้องนั่งเล่นและครัว มีแอร์ให้ 1 ตัวเหนือประตูกระจกออกระเบียง เลย์เอาท์ห้องแบบนี้เหมาะกับคนที่ไม่ชอบทำครัวหรือขี้เกียจทำอาหารเอง แต่นิยมซื้ออาหารนอกบ้านมาทาน หรืออาจจะแค่ปรุงอาหารแบบเบาๆ คลุกสลัด แกะถุงกับข้าว ต้มสปาเกตตี้ ปิ้งขนมปัง ทำอาหารกลิ่นเบาๆ แล้วยกมานั่งทานอาหารที่โต๊ะกินข้าว ข้างๆ โต๊ะกินข้าวสามารถทำเป็นตู้เก็บของ Built-in ได้ เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า
บริเวณติดกับประตูทางเข้ามีที่วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ฝั่งตรงข้ามติดโทรทัศน์ที่ผนังได้
เดินเข้ามาอีกนิด นี่คือมุมมองจากโซฟา มองไปทางระเบียงแบบเฉียงๆ ให้เห็นประตูเข้าห้องนอน
จากภาพต้องการบอกว่า เพดานห้องสูง 2.55 เมตร
มุมมองจากโซฟา หันไปทางโทรทัศน์
ห้องจริงจะไม่ได้ตู้ด้านล่างทีวีและโซฟา แต่จะได้ wallpaper ติดให้เฉพาะบริเวณห้องนั่งเล่น
มุมมองจากประตูห้องนอน มองเข้าหาโซฟา
ฝั่งซ้ายที่เป็นห้องนั่งเล่น ของจริงจะไม่มีอะไร มีแต่ wallpaper ส่วนฝั่งขวาที่เป็นครัว ห้องจริงจะได้รับชุดครัว ชั้นลอยวางของ Hob Hood อ่างล้างจาน
นี่คือมุมมองขยับเข้ามาใกล้ระเบียงมากขึ้น หันหน้าออกไปที่ระเบียง แอร์มีให้ 1 ตัว
กลับหลังหันเป็นมุมมองหันหน้าเข้าหาประตูทางเข้า ระยะแบบนี้ให้ความรู้สึก cozy ดูอบอุ่น ใกล้ชิด
ชุดครัวสามารถเปิดลิ้นชัก เปิดบานล่างอ่างล้างจานออกมาได้แบบนี้ มีพื้นที่วางไมโครเวฟด้านล่าง หยิบยกอาหารร้อนๆ สะดวกกว่าบางโครงการที่เอาชั้นวางไมโครเวฟไว้ข้างบนซึ่งไม่เหมาะและอันตรายต่อการถือของร้อน
ชั้นวางของด้านบน เตาไฟฟ้า (Hob) และเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียน (Hood)
Hob ยี่ห้อ MEX หน้าตาทันสมัย เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย
Hood ดูดควันก็ยี่ห้อ MEX เช่นเดียวกัน
อ่างล้างจาน
เดินออกมาที่ระเบียง จะเห็นว่ามีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าได้ 1 เครื่อง ที่ผนังมีปลั๊กไฟและก๊อกน้ำให้พร้อม เหนือเครื่องซักผ้าเป็นที่วางคอมเพรซเซอร์แอร์
ปลั๊กไฟและก๊อกน้ำที่ระเบียง
เดินหันหลังกลับแล้วเลี้ยวเข้าห้องนอน ซึ่งวางที่นอน 5 ฟุตได้ มีแอร์ให้ 1 ตัว เป่าปลายเท้าไม่หนาวเกินไป
โชว์ให้เห็นว่าสามารถติดโทรทัศน์ที่ผนังได้ด้วย พื้นที่เดินปลายเตียงแคบ จำเป็นต้องเดินแบบด้านข้างคล้ายปูเดินเพื่อไปเปิดม่านหน้าต่าง
มุมมองจากโทรทัศน์ในห้องนอน จะเห็นตู้เสื้อผ้า (โครงการให้)โต๊ะเครื่องแป้ง (โครงการไม่ได้ให้)
ประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ในห้องนอน เราสามารถเข้าห้องน้ำและออกมาแต่งตัวได้สะดวก แต่ไม่เหมาะกับรับแขกเพราะแขกต้องเดินผ่านห้องนอนของเรา แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะรับแขกไม่ได้เพราะทางโครงการจัดให้มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งคุยรับแขกที่ชั้น 5 ไว้ทดแทนแล้วเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องพาแขกมาคุยในห้องก็ได้
ห้องน้ำของซีรี่ส์พลัมคอนโดจะมีหน้าตาแบบนี้ ห้องน้ำไม่มีกระจกกั้นส่วนเปียกเราต้องติดเอาเอง
จุดเด่นของห้องน้ำโครงการพลัมคอนโดคือจะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปที่สร้างมาจากโรงงานและผ่าน QC มาแล้วทำให้ห้องน้ำทุกห้องได้มาตรฐานการก่อสร้างแบบเดียวกันทั้งโครงการ ไม่มีปัญหาเชื้อราหรือปัญหาช่างก่อสร้างหลุดมาตรฐาน ข้อดีอีกอย่างคือห้องน้ำแบบสำเร็จรูปนี้มีความเป็นไปได้ต่ำมากที่ห้องน้ำจะรั่ว เพราะระบบท่อต่างๆ ได้ถูกต่อเอาไว้แล้วเรียบร้อย ซึ่งเทคโนโลยีการก่อสร้างห้องน้ำสำเร็จรูปแบบนี้ทำให้ห้องน้ำของบริษัท พฤกษาเรียลเอสเตทแตกต่างจากเทคโนโลยีการก่อสร้างของเจ้าอื่นๆ
โถสุขภัณฑ์ที่เลือกใช้คือ Cotto
ก๊อกเดี่ยวอ่างล้างหน้าแบบก้านโยก รุ่น ETERNITY แบรนด์ Prema
กระเบื้องในห้องน้ำเป็นโทนสีขาว ทำให้คราบสบู่สีขาวๆ ไม่ตกค้างให้เกิดเป็นรอยด่าง
มีธรณีกั้นระหว่างโซนเปียกและโซนแห้ง
ธรณีกั้นระหว่างห้องน้ำและห้องนอน เนื่องจากเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปที่นำมาประกอบวางบนพื้นห้อง จึงทำให้พื้นห้องน้ำอยู่เหนือกว่าห้องนอน แต่ไม่มีผลเกี่ยวกับการรั่วซึมเข้าห้องนอน
แวะพักผ่อนก่อนไปดูยูนิตแบบ 2 ห้องนอนครับ
สรุปห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งแบบ 24 ตร.ม. และ 26 ตร.ม.
จะเป็นยูนิตที่ควบเอาส่วนนั่งเล่นกับครัวเข้าไว้ด้วยกัน ข้อเสียคือเวลาทำอาหาร กลิ่นจะกระจายเต็มห้องนั่งเล่น แต่ข้อดีคือถ้าไม่ได้ใช้งานครัวก็จะมีพื้นที่ยาวต่อเนื่องกัน จะทำงานบนโต๊ะอาหารก็ยังได้ และมีการแยกห้องนอนไปอยู่โซนเดียวกับห้องน้ำ ทำให้เป็นห้องนอนแบบที่มีห้องน้ำในตัว มีความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องเดินข้ามห้องไปมา ยูนิต 1 Bedroom เหมาะกับการปล่อยเช่าคนทำงานในย่านนี้ หรือซื้อเอาไว้อยู่เองก็ได้ นอกจากนี้ด้วยขนาดห้องที่ไม่ใหญ่มาก และมีห้องน้ำขนาดไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งจะปลอดภัยกับกลุ่มผู้สูงอายุ เพราะป้องกันการลื่นล้มแล้วศีรษะกระแทกพื้น หรือถ้าเวียนหัวเซก็ไม่ถึงกับล้มทั้งตัวเพราะมือสามารถยันกับผนังได้ คอนโดมิเนียมขนาดไม่ใหญ่นั้นเป็นที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับผู้สูงอายุได้เช่นกัน
2 Bedroom (Combined)
Room type อีกรูปแบบ คือยูนิตขนาด 49.5 ตร.ม. เป็นห้องแบบ combined คือเอา 2 ห้องมารวมเป็นยูนิตเดียวกัน ยูนิตจะกว้างมากขึ้น หน้าต่างรับแสงธรรมชาติเยอะมากขึ้น และมีประโยชน์ใช้สอยที่ครบครันมากขึ้น เพราะออกแบบให้มีประโยชน์ใช้สอยมากถึง 9 ฟังก์ชั่น ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องกินข้าว ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องเก็บของและซักรีด ระเบียงพักผ่อน และห้องนอนที่เปลี่ยนเป็นห้องทำงานที่สองก็ได้
ภาพมุมมองจากประตูทางเข้า
ทางซ้ายทำ Built-in เป็นตู้รองเท้าก็ได้ ทางขวาเป็นโต๊ะกินข้าว มองไประเบียงมีพื้นที่ทำครัว และระเบียง เหนือประตูระเบียงจัดแอร์ไว้ให้ 1 ตัว
ภาพนี้มุมมองจากตู้รองเท้า มองไปทางครัว จะเห็นว่าห้องครัวกับห้องนั่งเล่นจะมีโถงเชื่อมกัน
มุมมองหันไปหาทางเข้าห้องนั่งเล่น ด้านซ้ายมีชุดครัวมาตรฐานแบบเดียวกันกับห้องขนาด 1 Bedroom
ตรงกลางเป็นทางเดินเข้าห้องนั่งเล่นได้
กลับหลังหัน มองไปทางห้องซักรีด Laundry Room และโถงทางเดินเข้าห้องนอนเล็กและห้องน้ำแขก
ชุดครัว เปิดออกได้แบบนี้
มองไประเบียงครัว ตู้เย็นวางไว้ใกล้หน้าต่างอาจจะบังหน้าต่างไปครึ่งหนึ่ง ถ้าวางจริงๆ อาจจะเลื่อนออกมาไว้ตรงข้ามไมโครเวฟก็ได้
ยูนิต 2 Bedroom นี้เราจะได้ 2 ระเบียง คือ ระเบียงที่ติดกับครัว และ ระเบียงที่ติดกับห้องทำงาน
ซึ่งระเบียงที่ติดกับครัวเราสามารถดัดแปลงเป็นครัวไทยขนาดจิ๋วได้ หรือจะเป็นพื้นที่วางเครื่องอบผ้าก็ได้
ส่วนอีกระเบียงที่ติดกับห้องทำงานนั้นสามารถทำเป็นระเบียงเพื่อการพักผ่อน วางเก้าอี้เอนได้ ไว้นั่งทอดอารมณ์ผ่อนคลายยามเย็นหรือกลางคืน
ตรงนี้สามารถวางเครื่องอบผ้าได้เพิ่ม
ห้อง Laundry room ปิดบานตู้ได้ ด้านบนเครื่องซักผ้ามี space สำหรับทำที่เก็บผ้าหรือเก็บของก็ได้ เราสามารถจ้าง interior designer มาช่วยออกแบบ
ทางเข้าห้องน้ำแขก
ห้องน้ำดีไซน์เหมือนกันกับห้องน้ำ 1 Bedroom
ตรงข้ามห้องน้ำ เป็นห้องนอนเล็ก วางเตียงขนาด Single Bed ได้ หรือเราจะดัดแปลงให้เป็นห้องทำงานก็ดี
ห้องนี้จัดแอร์ให้ 1 ตัว
ลักษณะตู้เสื้อผ้ามีบานกระจกเงาหน้าบาน
ออกจากห้องนอนเล็ก เดินผ่านครัว แล้วหยุดยืน มองเข้าไปที่ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ตรงกลางคือประตูไปห้องนอนใหญ่ Master Bedroom
มุมห้องนั่งเล่น วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง
มุมทำงานเล็กๆ มีด้านหลังสามารถ Built-in เป็นชั้นวางของ ชั้นวางหนังสือหรือจะทำเป็นมุมทำงานอีกมุมเพิ่มก็ได้
เป็นห้องทำงานวิวดี มองออกไปด้านนอกพักสายตา
เปิดประตูจากห้องนั่งเล่น เข้ามาในห้องนอนใหญ่ Master Bedroom มีตู้เสื้อผ้า วางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้
มุมแต่งตัวใกล้กับห้องน้ำ
ห้องน้ำ Master Bathroom ขนาดและสเปคเดียวกับห้องน้ำของทุกยูนิต แต่ห้องน้ำนี้จะอยู่ห้องเดียวกับ Master Bedroom ทำให้เป็นส่วนตัว ไม่ต้องเดินออกมาโถงข้างนอก
มุมมองจากตู้เสื้อผ้าในห้องนอน Master Bedroom มีแอร์ 1 ตัวที่หัวเตียงให้
ในห้องนอนทุกยูนิตนั้นทางโครงการจัดหน้าต่างมาให้แบบเกือบเต็มผนัง หน้าต่างจะค่อนข้างสูง ทำให้แสงส่องเข้าได้มากกว่าและ take วิวภายนอกได้มุมมองใหญ่ขึ้น
สรุปเกี่ยวกับ 2 Bedroom
ความรู้สึกหลังจากดูห้องตัวอย่าง 2 Bedroom แล้วสรุปได้ว่า เป็นแบบห้องที่ลงตัวและน่าอยู่มากที่สุด ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านเพราะมีหลายห้อง เดินไปเดินมาในยูนิตได้ไม่เบื่อ เหมาะกับการอยู่อาศัยสำหรับผู้ใหญ่ 3 คน เป็นครอบครัวขนาดเล็กๆ เช่น อาจจะให้ลูกโสดอยู่กับพ่อแม่ที่มีอายุมาก หรือเหมาะกับการอยู่สำหรับ 4 คน (ผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 2 คน) ที่เป็นครอบครัวลูกเรียนชั้นประถม นอกจากนี้ห้อง 2 Bedroom ในโครงการนี้มีจำนวนไม่มาก แต่คาดว่าความต้องการที่ซื้ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ของ 2 ห้องนอนในทำเลปิ่นเกล้านี้จะมีจำนวนที่ค่อนข้างเยอะ จึงทำให้ห้อง 2 Bedroom type เป็นยูนิตที่มีคนจับจ้องเป็นพิเศษ
Plum Condo เป็นซีรี่ส์คอนโดมิเนียมเปิดใหม่ด้วยราคาต่อตารางเมตรไม่สูง อยู่ในทำเลที่น่าดึงดูด มีศักยภาพ ใกล้แหล่งงานหรือใกล้ระบบขนส่งสาธารณะในอนาคต ช่วยให้คนหลายระดับมีศักยภาพครอบครองได้ไม่ยาก (Affordable) ปกติแล้ว Plum Condo มักจะตั้งอยู่วงนอกหรือชานเมือง แต่ว่าพลัมคอนโดปิ่นเกล้าสเตชั่นนี้เป็นโครงการในซีรี่ส์พลัมที่ตั้งอยู่ในเมืองมากที่สุดเท่าที่เคยทำพลัมมาทั้งหมด
Plum Condo Pinklao Station เป็นโครงการที่มีจุดเด่นตั้งอยู่ใน Location ที่ดีมาก อยู่ใจกลางปิ่นเกล้า ติดถนนใหญ่ เป็นอาคารสูงมองเห็นได้ง่าย ทำการตลาดด้วยตัวเองได้ดี ในอนาคตสามารถเดินไปรถไฟฟ้า MRT สถานีบางยี่ขันได้ภายในระยะประมาณ 600 เมตร หรือเดินเท้าประมาณ 8 นาที การได้ครองครองยูนิตที่ Location แบบนี้ ด้วยราคาเฉลี่ยต่ำกว่าตารางเมตรละ 100,000 บาท ซึ่งราคานี้สามารถช่วยรักษาระดับคุณภาพและศักยภาพของเพื่อนบ้านได้ แต่ราคาก็ไม่สูงจนเกินไปที่ทำให้กลายเป็นคอนโดที่ไม่มีคนพักอาศัย ประกอบกับเหตุผลเรื่องพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาจัดเต็ม แบบ full option ใช้สอยหลากหลาย และเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการใหม่ทำเลใกล้เคียงกันของค่ายอื่นที่ราคาวิ่งไปไกลถึงตารางเมตรละ 120,000 บาทไปแล้ว เหตุผลทั้งหมดก็ทำให้ Plum Condo Pinklao Staion เป็นหนึ่งในโครงการเรียกได้ว่าคุ้มค่า
สรุปจุดเด่นของโครงการ Plum Condo Pinklao Station คือ อยู่ในทำเลศูนย์กลางของสถานที่ต่างๆ และแหล่งงานสำคัญของฝั่งธนบุรี และรายล้อมด้วยระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบรถ เรือ และราง เสมือนอยู่ใจกลางเมืองหลวงของธนบุรี เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High-rise ใหม่เอี่ยมเปิดตัวปี พ.ศ.2559 ที่มีราคาเริ่มต้นถูกที่สุดในย่านปิ่นเกล้าจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของประเทศไทย โครงการมีรูปแบบยูนิตที่ตอบโจทย์คนในพื้นที่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ย่านที่ทำงานและกลุ่มครอบครัวดั้งเดิม มีพื้นที่ส่วนกลางครบถ้วน ครอบคลุมทุกกิจกรรมอย่างที่โครงการระดับหรูในย่านสุขุมวิทมีให้ ทั้งหมดนี้คือจุดที่แตกต่างของ Plum Condo Pinklao Station
ก่อนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2559 ทางโครงการมีโปรโมชั่นแชร์ลุ้นทอง ติดตามกติกาของโครงการและสอบถามรายละเอียดโปรโมชั่นได้ที่สำนักงานขายที่ตั้งของโครงการ ใกล้ห้างพาต้าได้เลย
ภาพสำนักงานขาย Plum Condo Pinklao Station
ราคาแต่ละยูนิต โดยประมาณ เฉลี่ยอยู่ที่ ตารางเมตรละไม่ถึง 100,000 บาท
24.5 ตร.ม. เฉลี่ยประมาณ 2.4 ล้านบาท แต่มีบางยูนิตชั้นล่างที่มีราคาเริ่มต้นที่ 1.95 ล้านบาท แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นตามความสูง และวิว
26.5 ตร.ม. เฉลี่ยประมาณ 2.7 ล้านบาท
49.5 ตร.ม. เริ่มต้นประมาณ 4 ล้านต้นๆ เฉลี่ยประมาณ 4.7 ล้านบาท
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทุกท่านสามารถเข้าไปดูห้องตัวอย่างและรับข้อมูลรายละเอียดที่สำนักงานขายได้ แต่ทางโครงการยังไม่เปิดให้จอง ทั้งนี้เพื่อให้ทุกคนเตรียมตัวศึกษาให้ละเอียดกันก่อนเปิด Presale จริง
Presale จะมีในวันที่ 6-7 สิงหาคม 2559
บรรณาธิการสื่อเกี่ยวกับการศึกษา และ Blogger ผู้มีผลงานการวิเคราะห์ด้านอสังหาฯ มามากกว่าร้อยบทความ ยังเป็นผู้สนใจลงทุนคอนโดมิเนียม ชอบใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad รักการเดินเท้าและเลือกใช้ขนส่งมวลชนสำรวจความเปลี่ยนแปลงของทำเลสถานที่ผ่านมุมมองการเข้าใจมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็น Active Citizen ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาเมืองผ่านงานเขียนและเครื่องมือสื่อสารที่เชื่อมรัฐกับประชาชน เป้าหมายระยะยาวต้องการเห็นคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นของทุกคนในสังคม ติดตามผลงานได้ที่ https://matttortong.weebly.com
จุดเด่นของโครงการ Plum Condo Pinklao Station คือ อยู่ในทำเลศูนย์กลางของสถานที่ต่างๆ และแหล่งงานสำคัญของฝั่งธนบุรี และรายล้อมด้วยระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบรถ เรือ และราง เสมือนอยู่ใจกลางเมืองหลวงของธนบุรี เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High-rise ใหม่เอี่ยมเปิดตัวปี พ.ศ.2559 ที่มีราคาเริ่มต้นถูกที่สุดในย่านปิ่นเกล้าจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของประเทศไทย โครงการมีรูปแบบยูนิตที่ตอบโจทย์คนในพื้นที่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ย่านที่ทำงานและกลุ่มครอบครัวดั้งเดิม มีพื้นที่ส่วนกลางครบถ้วน ครอบคลุมทุกกิจกรรมอย่างที่โครงการระดับหรูในย่านสุขุมวิทมีให้ ทั้งหมดนี้คือจุดที่แตกต่างของ Plum Condo Pinklao Station
PROPSCORE™ 3.6
0
0 รีวิว รูป
บรรณาธิการสื่อเกี่ยวกับการศึกษา และ Blogger ผู้มีผลงานการวิเคราะห์ด้านอสังหาฯ มามากกว่าร้อยบทความ ยังเป็นผู้สนใจลงทุนคอนโดมิเนียม ชอบใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad รักการเดินเท้าและเลือกใช้ขนส่งมวลชนสำรวจความเปลี่ยนแปลงของทำเลสถานที่ผ่านมุมมองการเข้าใจมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็น Active Citizen ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาเมืองผ่านงานเขียนและเครื่องมือสื่อสารที่เชื่อมรัฐกับประชาชน เป้าหมายระยะยาวต้องการเห็นคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นของทุกคนในสังคม ติดตามผลงานได้ที่ https://matttortong.weebly.com
12 ปี กรุงเทพมหานครเปลี่ยนไปแค่ไหน?
EURO ยกระดับ Design District ใจกลางทองหล่อ เปิดตัว Poltrona Frau Monobrand Store แห่งใหม่! ส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า
สโคป หลังสวน เผยโฉมครั้งแรกกับยูนิตพิเศษ “The Debonair Edition” 2-bedroom เลย์เอาต์ใหม่ ที่จะมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือกว่า
นิว อีโว พัฒนาการ คอนโดฟีลบ้าน สเปซกว้าง เลี้ยงสัตว์ได้* ใกล้ทองหล่อ และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 2.95 ล้าน*
บมจ.ศุภาลัย ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท ธรรมสรณ์ จำกัด หรือ DOS ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบการจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อม ร่วมคิดค้นนวัตกรรม GREENOVATION