ย่านทองหล่อ หรือ สุขุมวิทตอนกลาง  คือทำเลยอดนิยมสำหรับคนไทย และต่างชาติในการเลือกย่านนี้มาเป็นที่พักอาศัยกลางใจเมือง เนื่องจากความเพียบพร้อมทั้งระบบการคมนาคม รถไฟฟ้า รถยนต์ ที่เดินทางไปทำงานย่านใจกลางเมืองอย่างอโศกได้ในชั่วอึดใจ และห่างเพียง 1 สถานี จากแหล่งชอปปิ้งอย่าง The EM District ใกล้ชิดแหล่งแฮงเอาท์ยามค่ำคืนบันเทิงอย่างย่านทองหล่อ

นอกจากความนิยมในฝั่งย่านทองหล่อ หรือซอยสุขุมวิทเลขคี่แล้ว ซอยฝั่งตรงข้ามของสถานี ซอยสุขุมวิทเลขคู่ อย่างซอยสุขุมวิท 36 และซอย 38 ในช่วงหลังก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ในการเลือกเป็นทำเลพักอาศัย เพราะความแตกต่างของพื้นที่ 2 ฝั่งของสถานีรถไฟฟ้า ที่ฝั่งซอย 36,38 เป็นย่านที่พักอาศัยเดิม ทำให้พื้นที่ฝั่งละแวกนี้ มีความเงียบสงบ มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น ใช้การเดินเท้าได้สะดวก อีกทั้งยังเป็นซอยที่ใช้ลัดเลาะไปยังถนนพระราม 4 ช่วงที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานใหญ่ Lifestyle Mall และ Modern Trade ต่างๆมากมาย ทำให้ดีเวลลอปเปอร์คอนโดต่างๆ ก็ทยอยมาแย่งกัน จับจองพื้นที่เพื่อสร้างคุณภาพการอยู่อาศัยที่ดีกลางใจเมือง

รวมทั้งโครงการ URBITIA THONG LO (เออร์บิเทีย) โดยบริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญงานรับเหมาก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยหลายแห่ง โดยโครงการ URBITIA THONG LO นับเป็นโครงการแรกของ อีเอ็มซี ที่เป็นดีเวลลอปเปอร์อย่างเต็มตัว โดยเลือกที่จะพัฒนาโครงการโลว์ไรส์ บนทำเลเยี่ยมอย่างปากซอยสุขุมวิท 36 ที่ดึงความ private ของซอยพักอาศัย ผสมผสานกับวิถีธรรมชาติ สรรสร้างเป็น คอนโดโลว์ไรส์ แนว Eco Living ที่เชื่อมโยงธรรมชาติจากภายนอก สู่ภายในโครงการ พื้นที่ส่วนกลาง จนถึงพื้นที่พักอาศัยทุก units ทำให้ทุกห้องสามารถสัมผัสธรรมชาติแม้อยู่กลางใจเมืองได้ อีกทั้งยังเน้นการออกแบบ Fin แนวตั้ง และเพิ่ม Pocket space ลดแสงแดดที่กระทบเข้าสู่ตัวอาคาร และการเลือกใช้ไฟ LED เพื่อเน้นการประหยัดพลังงาน

สัมผัสชีวิตเมืองที่กลมกลืนไปกับวิถีแห่งธรรมชาติที่ URBITIA THONG LO

โครงการทั้งหมดตั้งอยู่บนพื้นที่เพียง 3 งาน 95 ตารางวา และด้วยราคาที่ต่ำกว่าตรม.ละ 2 แสน ที่มาพร้อม Fully Furnished ด้วยระยะทางเพียง 230 เมตร จากสถานีทองหล่อ จึงดูจะน่าสนใจ เข้าตาหลายๆคน เพราะมียอดจองสิทธิ์เรียงแถวกันมาถึง 400 กว่าราย จาก units ทั้งหมดที่โครงการมีเพียง 130 units 8 ชั้น และ Facility ที่ดาดฟ้า

ตัวโครงการตั้งอยู่ที่ซอย 36 ด้านซ้ายมือเมื่อเข้ามาจากทางรถไฟฟ้าทองหล่อ เป็นโรงเรียนนานาชาติ และ ด้านขวาของที่ดินติดโครงการของ Rhythm Sukhumvit 36-38

ขณะที่ Sale office ไปตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 38 เยื้องๆกับโครงการ Ashton ออกแบบตกแต่งด้วยบรรยากาศสวนสีเขียวตาม concept โครงการ

แปลนอาคาร layout เป็นรูปตัว O แบบ single corridor มีช่อง Void อยู่กลางอาคาร เพื่อเปิดทางให้แสงธรรมชาติ ส่องผ่านลงมายังพื้นที่ทางเดินแต่ละชั้น

ทุกห้องมีระเบียงที่ยื่นหา Pocket space ที่ปลูกไม้ยืนต้นอย่างต้น สั่งธรรม หรือที่รู้จักกันในชื่อของต้นล่ำซำ ต้นไม้ชื่อมงคล และลักษณะการเติบโตคือการหยั่งรากลงแนวตั้ง จึงไม่ทำลายพื้นที่ระนาบหรือตัวอาคาร อีกทั้งเป็นต้นไม้ที่มีการผลัดใบน้อย ทำให้ใบไม่ร่วง จึงเป็นการเลือกสรรที่เหมาะสมกับการสร้างไฮไลท์ให้กับโครงการและเหมาะสมกับการออกแบบให้เติบโตอยู่ที่พื้นที่ส่วนกลางทั้งโครงการ และพื้นที่ Pocket space ริมระเบียง โดยหลักๆจะอยู่ที่ชั้นเลขคี่ ส่วนชั้น 1 จะเป็นระเบียงส่วนตัวริมสวน

ในโครงการ มีห้องทั้งหมด 3 แบบ ประกอบด้วย 1 ห้องนอนขนาด 28 – 35 ตารางเมตร

2 ห้องนอนขนาด 51 – 65 ตารางเมตร

และ 3 ห้องนอนขนาด 97 ตารางเมตร มีอยู่ห้องเดียวที่ชั้น 7

ห้องตัวอย่างเป็น Type ห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตร.ม. ที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ ซึ่งมีความพิเศษคือ บริเวณพื้นที่ Living area เป็น Flexible Space ที่สามารถใช้งานได้ 2 ฟังก์ชั่นหลัก คือเป็นมุมทำงาน มุมพักผ่อน หรือจะเป็นพื้นที่ห้องนอน ที่เป็น Fully Furnished ออกแบบแบบพับเก็บได้มาให้แบบพร้อมใช้งาน

ประตูทางเข้าสูง 2.25 เมตร เพราะเปิดเข้าไปเป็นระยะ drop ฝ้าส่วนพื้นที่ครัว เป็น Digital door lock HAFELE หรือเทียบเท่า

เข้ามาในห้อง แปลนห้องแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่ living area และ พื้นที่ห้องนอน พื้นห้องปูด้วย Engineering wood 4 มิล ปูเชื่อมต่อกันทั้งห้อง ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่ห้องนอน ที่มีประตูบานเลื่อน รางเลื่อนเจาะเก็บด้านบนฝ้าเพดาน กั้นเป็นประตูระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นหากต้องการพื้นที่เป็นสัดส่วน หรือสามารถปิดเก็บเปิดโล่ง หากต้องการพื้นที่โล่งและเชื่อมต่อกัน

พื้นที่  Living area สูง 2.55 เมตร แบ่งเป็นพื้นที่ใช้งาน3ส่วน คือ พื้นที่ครัว อยู่ด้านขวาของทางเข้า เป็น Furniture Build in เปิดปิดแบบ soft close เต็มพื้นที่ มีตู้สูงเก็บงานระบบและสามารถใช้เก็บของ หรือประยุกต์เป็นชั้นเก็บรองเท้าได้ ถัดมาเป็นเคาท์เตอร์ครัว ด้านข้างเว้นไว้เป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น เคาท์เตอร์ครัว ประกอบด้วยอ่างล้างจาน และ เตาไฟฟ้า2หัวผังพื้นเคาท์เตอร์ มาพร้อมกระจกขุ่นติดผนังกันคราบน้ำมันและที่ดูดควันด้านบนของ Teka ที่เก็บอยู่เหนือตู้ Build in ด้านบนที่ Build สูงจรดเพดาน มีพื้นที่ช่องเปิดไว้สำหรับวางไมโครเวฟ

ในส่วนพื้นที่เชื่อมต่อพื้นที่ครัว เป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น ดูทีวี ด้านข้างผนังครัวมีวางโต๊ะกินข้าวสำหรับ2ท่าน ที่สามารถขยายเป็นโต๊ะยาวและพับเก็บเป็นโต๊ะเล็กเพื่อประหยัดพื้นที่ได้ ผนังห้อง ถูก Build in เป็นชั้นสำหรับแขวนทีวี วางของตกแต่ง วางหนังสือ และซ่อนไฟไว้ด้านหลังและดรอปฝ้าซ่อนไฟที่เหนือชั้นวางทีวี

กลางห้องตั้งโซฟาสำหรับ 2 ท่าน ไว้นั่งดูทีวี อ่านหนังสือ ด้านหลังโซฟาชนกับพื้นที่ประตูบานเลื่อนสำหรับกั้นห้อง

มาถึงพื้นที่ริมหน้าต่าง ที่เป็น Flexible Space มีกระจกล้อมเป็นตัว L เต็มผนัง ออกแบบหน้าต่างให้เป็น Bay window สามารถเปิดปิดเข้ามุมได้ เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ Pocket space ริมระเบียงต้นสั่งธรรม หรือล่ำซำ รวมทั้งเปิดรับลมและแสงธรรมชาติให้สามารถเข้ามาสู่พื้นที่ห้องได้  โดยพื้นที่ริมหน้าต่างเป็นมุมโต๊ะทำงาน ที่ของจริงจะเป็นโต๊ะทำงานยาว นั่งทำงานชมสวน รับลมได้

ด้านขวาของมุมทำงานเป็น เตียงนอนสำหรับ 1 คน Build in เป็นเฟอร์นิเจอร์เข้ามุมห้องสามารถ เก็บเตียงเมื่อไม่ใช้งานได้ และปรับเป็นพื้นที่ทำงาน และเปิด space เชื่อมกับพื้นที่ living area และพื้นที่ห้องส่วนอื่นๆได้ และยังออกแบบตู้เสื้อผ้าเล็กมาให้ที่ด้านข้างที่เก็บเตียงอีกด้วย

มาในส่วนด้านซ้ายของUnitsเป็นพื้นที่ส่วนของห้องนอน และห้องน้ำ ที่ห้องน้ำออกแบบให้สามารถเข้าได้จากพื้นที่ Living area ด้วยประตูบานเปิด และอีกทางคือจากห้องนอนด้านประตูบานเลื่อน

ในส่วนของห้องน้ำ แบ่งส่วนเปียกอยู่ด้านในสุด ส่วนแห้งอยู่ติดทางเข้า ซึ่งเชื่อมต่อกับตู้เสื้อผ้า Build in ซ้ายและขวาแยก His & Her ตรงประตูทางเข้าจากด้านห้องนอน ทำให้ 1 Bedroom units นี้มีถึง 3 ตู้เสื้อผ้า โดยเฟอร์นิเจอร์ใช้วัสดุปิดผิว ที่มีเทคโนโลยี ซิลเวอร์ไอออน Protect plus กันเชื้อแบคทีเรีย และเป็นแบบ Soft close พร้อมไฟเมื่อเปิดตู้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ของ Starmark

ในส่วนของห้องน้ำส่วนเปียก มี Shower Box ประตูเปิดบานสวิง กันพื้นที่เปียก แห้ง มีกระจกเชื่อมต่อห้องนอนเพื่อรับแสงธรรมชาติ จากระเบียงห้องนอน

ด้านล่างเป็นเคาท์เตอร์เตี้ยสำหรับวางอุปกรณ์ และพอดีระยะนั่ง

มี Shower และ Rain shower มาให้คู่กัน

ที่ผนังอีกด้านเป็นมุมเสาและมุมผนัง ที่เจาะช่อง สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำได้ 2 ช่อง

พื้นที่ส่วนแห้งเป็นเคาท์เตอร์เล็กวางอุปกรณ์ ยาวจากผนังถึงผนัง และกระจกบานใหญ่พร้อมไฟซ่อนหลังกระจก จัดวางสุขภัณฑ์ด้านติดห้องอาบน้ำ และด้านติดประตูทางเข้าเป็นอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมพร้อมตู้ติดผนังยกลอยจากพื้นห้องน้ำ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดเป็นของ Kohler

ในส่วนของห้องนอน ความสูงเชื่อมต่อจากพื้นที่ห้องนั่งเล่น  มีเพดานด้านห้องน้ำ ห้องแต่งตัวและห้องครัวที่ดรอปฝ้าฝังแอร์ VRV แบบประหยัดพลังงาน และดรอปฝ้าซ่อนไฟที่หัวเตียง โดยพื้นที่ห้องนอน หัวเตียงBuild inเป็นผนังซ่อนไฟ พร้อมแผงControlที่หัวเตียง เข้าชุดกับชั้นวางของหัวเตียง2ข้าง

หัวเตียง2ด้านมีไฟอ่านหนังสือพับเก็บ มาให้ ติดตั้งพอดีระยะเอนหลังอ่านหนังสือบนเตียง

เตียงนอนห้องตัวอย่างเป็นเตียง Queen Size มาไว้ จึงมีพื้นที่เหลือด้านข้างชั้นหัวเตียงและปลายเตียง แต่ของจริงโครงการให้เป็นเตียงKing Sizeก็จะพอดีกับFurnitureและพื้นที่ที่เหลือ

อีกด้านของห้องนอนเป็นประตูกระจกสูงบานเปิดออกระเบียงพร้อมรางม่านซ่อนในฝ้า

พื้นที่ระเบียงมีผนังระแนงเก็บความเรียบร้อย compressor air และมีพื้นที่พอสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าได้

ราวกันตกที่ระเบียงเป็นกระจกและราวจับไม้ ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ Pocket space ที่เป็นลักษณะเด่นของโครงการ ที่ปลูกต้นสั่งธรรมหรือล่ำซำ สูงจากชั้นล่างเชื่อมสูงระเบียงห้องชั้นบน โดยห้องที่อยู่ชั้นบนจะเห็นส่วนลำต้นและพุ่มของต้นสั่งธรรมนี้

ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนใหญ่เป็นไม้ยืนต้นอย่างต้นสั่งธรรมหรือล่ำซำ ที่ปลูกแทรกอยู่ตั้งแต่ชั้น Ground, Facade จนถึงชั้นดาดฟ้า ที่เป็นไฮไลท์ของโครงการ คือพื้นที่ดาดฟ้าเป็นสระว่ายน้ำ สวน และเนินปลูกต้นสั่งธรรมขนาดใหญ่ ที่ทางโครงการ ต้องการให้เป็นต้นไม้บนดาดฟ้าคอนโดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มาพร้อมทางเดินไม้ล้อมต้นไม้ใหญ่ สร้างบรรยากาศให้เป็นบ้านต้นไม้สำหรับลูกบ้านให้มีปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

คอนโด Low Rise แนว Eco Living แห่งเดียวในย่านทองหล่อ

URBITIA THONG LO เป็นโครงการคอนโดที่ตอบโจทย์ในเรื่องของคอนเซปท์การอยู่อาศัยแบบ Eco Living อย่างชัดเจนที่สุด ในบรรดาทุกคอนโดที่อยู่รอบๆ BTS ทองหล่อ ด้วยการที่รูปแบบโครงการเป็นคอนโด Low Rise แน่นอนว่า Exposure ในตัวตึกก็อาจจะดูไม่โดดเด่น เท่ากับโครงการรุ่นพี่ที่อยู่โดยรอบ แต่หากพิจารณาในแง่ของดีไซน์ และฟังก์ชั่น ก็ถือได้ว่าคอนโดแห่งนี้มีลูกเล่น และมีมนต์เสน่ห์ที่ชวนให้ค้นหามากพอสมควร การออกแบบอาคารที่มี Pocket Garden เป็นไม้ยืนต้น กระจายอยู่ทั่วทุกชั้น รวมถึงเป้าหมายที่จะปลูกต้นไม้ที่สูงใหญ่ที่สุดบนดาดฟ้าคอนโด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ท้าทายวงการคอนโด Low rise บ้านเรา ที่เรามักจะเห็นการสร้างพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระน้ำบริเวณชั้นล่าง โดยที่ละเลยการพัฒนา rooftop facility อย่างจริงจัง การออกแบบแปลนอาคารให้มี Skylight & Water Corridor อยู่ที่กลางตึก ทำให้ห้องเกือบทุกห้องมีความเป็น single corridor โดยเฉพาะห้องชั้น 1 ที่นอกจากจะได้ความเป็น single corridor แล้ว ก็ยังมี สวนส่วนตัวอยู่ภายนอกระเบียงห้องด้วย…สิ่งเหล่านี้ได้ฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆของคอนโด low rise ในตลาด ที่ชั้น 1 มักจะเป็นชั้นที่มีราคาถูกที่สุดออกไป

นอกจากความใส่ใจในเรื่องของการออกแบบภายนอก รวมถึง landscape แล้ว การออกแบบแปลนห้องพักอาศัยก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องชื่นชม ส่วนตัวผมเองค่อนข้างชอบกับการออกแบบของห้องขนาด 35 ตรม. ที่เป็นห้องตัวอย่างมาก นอกจากโครงการจะขายแบบ Fully Furnished แล้ว ก็ยังมีความเป็น practical design ในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง double access bathroom ตู้เสื้อผ้าที่จัดให้ถึง 3 ตู้ รวมถึงพื้นที่เอนกประสงค์ริมหน้าต่างเข้ามุมบานใหญ่ ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ และมีแถมเตียงพับได้ให้อีกแหน่ะ!! นี่คือสิ่งที่คอนโดเจ้าตลาดบางเจ้าเคยคิด แต่ไม่เคยที่จะทำให้เป็นรูปธรรม จับต้องได้จริงๆ…การขายพื้นที่ 1 ห้องนอน ในขนาดแค่ 35 ตรม. แต่สามารถเพิ่มพื้นที่เป็น 2 ห้องนอนได้เอง โดยที่ผู้อยู่อาศัยไม่ต้องลงทุนปรับเปลี่ยน เพิ่มเติมอะไรเลย คือสิ่งที่ได้ผลในเชิงจิตวิทยาของผู้ซื้อมาก อย่าลืมว่าในทำเลทองหล่อ supply สองห้องนอนส่วนใหญ่มักจะมีขนาดที่ใหญ่เกิน 50 ตารางเมตรทั้งสิ้น ผลที่ตามมาก็คือ demand อีกมากมายที่ต้องการห้องแบบสองห้องนอนขนาดเล็ก เพราะไม่ได้ใช้นอนเป็นประจำ และงบประมาณก็ไม่ถึง จำใจที่จะต้องขยับขยายไปซื้อห้องในทำเลที่ไกลออกไป ทั้งๆที่ชอบอยู่แถวทองหล่อ นี่ยังไม่รวมถึงอัตราการปล่อยเช่า ที่ไม่แน่ว่าเมื่อ URBITIA THING LO สร้างเสร็จ ห้องรูปแบบนี้อาจจะมี value ในการปล่อยเช่า มากกว่า 1 ห้องนอนแบบปกติ แบบที่เคยเกิดขึ้นแล้วในห้องแบบ Loft ของ Ideo Morph 38 (Skyle)

ในเรื่องของราคา แน่นอนว่าหากต้องการที่จะซื้อห้อง Promotion 35 ตารางเมตรในราคาตารางเมตรละ 139,000 บาท คงจะยากพอสมควร เพราะตอนนี้ก็มีคนลงชื่อจองสิทธิ์แล้วกว่า 400 ราย โดยจากที่สอบถามมา ราคาเฉลี่ยของโครงการจะอยู่ที่ 170,000 บาทต่อตรม. จะว่าแพงก็แพงเพราะเป็นคอนโด low rise จากดีเวลลอปเปอร์หน้าใหม่ แต่หากคิดในแง่ที่ว่าโครงการขายแบบ Fully Furnished ด้วยแพคเกตเฟอร์ Build in เกรดพรีเมียม และยังเน้นการประหยัดพลังงาน ยิ่งกว่านั้นหากเปรียบเทียบกับคอนโดในย่านต้นซอย 34-36-38 ด้วยกัน ที่ขายกันทะลุหลักสองแสนกลาง-สามแสน (โครงการ BEATNIQ ราคาอยู่ที่ราวๆตารางเมตรละ 270,000 บาท หรือราคาสูงหน่อยก็กำลังทยอยเปิด The Bangkok Sukhumvit 38 , The Bangkok Thonglor 5 หรือ Circle ปากซอย 36 ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรเกิน 3 แสนบาททั้งสิ้น) ก็น่าจะพอเห็นภาพว่า Gap ของราคาที่ URBITIA THONG LO นั้นก็ยังพอที่วิ่งขึ้นไปได้มากกว่านี้ แต่ผมมองว่าถ้ามีโอกาสได้ห้องราคาราวๆไม่เกิน 155,000 นี่ ก็น่าที่จะลองเก็บเอาไว้นะครับ อย่างที่บอกยูนิต 1 ห้องนอน ของ โครงการ URBITIA THONG LO ที่จริงๆถือว่าเป็น 2 ห้องนอนก็น่าจะได้ เพราะให้มาครบ และยังเน้นการประหยัดพลังงาน

URBITIA THONG LO จึงถือว่าเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลดีใกล้รถไฟฟ้า มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว และราคาก็ดูจะพิเศษกว่าโครงการอื่นๆ จึงเป็นโครงการที่อยู่ในความสนใจของหลายๆคน จนทำให้ยอดจองสิทธิ์เกินกว่าจำนวนห้องที่ขาย นับว่าเป็นโครงการที่มาแรงทั้งยอดจอง ราคา และทำเลกลางย่านทองหล่อเลยจริงๆ