รีวิวเจาะลึก Noble TERRA Rama 9 – Ekamai บ้านเดี่ยวใจกลางเมืองที่หลอมรวม ธรรมชาติ สเปซ และผู้อยู่อาศัย เข้าไว้ด้วยกัน

ต้องบอกว่าเทรนด์ยอดฮิตในการพัฒนาโครงการแนวราบในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าประเภท Ultra Luxury Home ในเมือง มักจะแบ่งออกเป็น 2 เทรนด์หลักๆ อย่างแรกคือการออกแบบบ้านที่มอบทั้งดีไซน์ สเปซ และฟังก์ชัน ที่สะท้อนถึงรสนิยมที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าของบ้าน และอีกอย่างก็คือ การออกแบบบ้านที่ให้ความสำคัญกับการนำเอาองค์ประกอบของธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในแบบยั่งยืนของเจ้าของบ้าน ซึ่งหากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ โดยการใช้หลักการของทฤษฎีที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง Maslow’s Hierarchy of Needs ที่เชื่อว่ามนุษย์จะมีลำดับความต้องการแบ่งออกเป็น 5 ขั้น เราก็มักจะเห็นความแตกต่างอย่างสุดขั้วของเทรนด์การออกแบบทั้ง 2 ประเภท นั่นคือ แบบแรกจะเน้นการออกแบบเพื่อสนอง Needs ในส่วนของ Esteem Needs และ Self-Actualization Needs ที่ผู้เป็นเจ้าของล้วนต้องการการมีคุณค่า เป็นที่ยอมรับนับถือ มีหน้าตาในสังคม สร้างสถานภาพทางสังคมของตัวเองให้สูงขึ้น ต้องการความท้าทาย และบริการในแบบ Exclusive มากกว่าเดิม ตลอดจนจนสามารถเติมเต็มความต้องการภายในตนเองได้อย่างสมบูรณ์ เราจึงได้เห็นความหรูหรา ฟู่ฟ่า ของการการเลือกใช้วัสดุ ขนาดพื้นที่ดิน และขนาดพื้นที่ใช้สอยที่เป็นแบบ Over Scale มีฟังก์ชันจัดเต็มทั้ง สระว่ายน้ำส่วนตัว สวนขนาดใหญ่ ไปจนถึง Sky Bar

ในขณะที่เทรนด์การออกแบบที่เน้นการนำเอาองค์ประกอบของธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัยนั้น จะมีการออกแบบเพื่อสนอง Needs ในส่วนของ Level ที่ขยายไปสู่อีกขั้นเป็นขั้นที่ 6 นั่นคือ Transcendence needs ที่ผู้เป็นเจ้าของบ้านมักจะหลุดพ้นจากอัตตา เพื่อมองหาความต้องการลึกๆ ในแบบ Unmet Need จากการทบทวนประสบการณ์ทั้งชีวิตที่ผ่านมา จนรู้ว่าคุณค่า และเป้าหมายที่แท้จริงของการที่ทำให้เรายังอยากจะอยู่บนโลกนี้อย่างมี Passion ต่อไปในอนาคตนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งสำหรับใครหลายคน การกลับคืนสู่ธรรมชาติ และรับรู้ได้ว่าตัวเองเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของมัน คือการบรรลุซึ่งความสุขขั้นสุด โดยโครงการ Noble TERRA Rama 9 – Ekamai (โนเบิล เทอร์รา พระราม 9 – เอกมัย) คือ โครงการที่น่าจะ Represent ความแตกต่างตามแบบฉบับของ Transcendence needs ได้เป็นอย่างดี

โดยทั่วไปแล้วคำว่าธรรมชาติ จะมีองค์ประกอบสำคัญอยู่ 4 อย่างคือ ผืนดิน ผืนน้ำ อากาศ และสิ่งมีชีวิต ซึ่งคำว่า TERRA มีความหมายว่า ผืนแผ่นดิน และปกติแล้วหากพูดถึงผืนดินก็จะตามมาด้วย ผืนน้ำ กับคำว่า AQUA โดยในปีนี้โนเบิลก็ได้ตีโจทย์ของความหรูหราในแบบฉบับที่แตกต่างออกไปจากโครงการที่เราเห็นทั่วไปในตลาด ตามปรัชญา be different, be noble ด้วยแนวคิดการสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตใจกลางเมืองที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ออกมาเป็น 2 โครงการ Ultra Luxury Home ที่มีชื่อเรียกเฉพาะซีรีส์ว่าเป็น “The Rare Selection by Noble” อันประกอบด้วย Noble TERRA Rama 9 – Ekamai (โนเบิล เทอร์รา พระราม 9 – เอกมัย) และ Noble Aqua Riverfront Ratburana (โนเบิล เอควา ริเวอร์ฟรอนท์ ราษฎร์บูรณะ) ซึ่งวันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงรายละเอียดทุกซอกทุกมุมในโครงการ Noble TERRA Rama 9 – Ekamai ที่เค้าสร้างเสร็จสมบูรณ์เป็นแห่งแรก

Noble Aqua Riverfront Ratburana

เจาะองค์ประกอบหลักของแนวคิดในการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว Ultra Luxury ในคอลเลคชัน ‘THE RARE SELECTION BY NOBLE’ ที่  Noble TERRA Rama 9 – Ekamai

Rare Location มีการคัดสรรที่ดินที่มีความพิเศษมาใช้ในการพัฒนาโครงการ ซึ่งนอกเหนือจากจะต้องเป็นทำเลที่เดินทางสะดวกและแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแล้ว ยังต้องเป็นที่ดินที่มีอยู่เพียงจำกัด เป็นที่ต้องการ และยากที่จะครอบครองเท่านั้น โครงการ Noble TERRA Rama 9 – Ekamai ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ ไลฟ์สไตล์ และความคิดสร้างสรรค์ของกรุงเทพ อย่างถนนประชาอุทิศ ย่านพระราม 9 ที่เชื่อมต่อสู่เอกมัย – ทองหล่อ และอโศก – เพชรบุรี และพื้นที่อื่นๆ ของกรุงเทพมหานครฯ ได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งเส้นทางถนนประชาอุทิศ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถนนเทียมร่วมมิตร ถนนรัชดาภิเษก ถนนพระราม 9 ถนนรามคำแหง และทางพิเศษฉลองรัช เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งทำเลฮิตในกรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นถนนเส้นหลักที่เชื่อมต่อย่านอื่นได้สะดวก อีกทั้งยังใกล้กับทางด่วนหลายสายไม่ว่าจะเข้า-ออกเมือง หรือเดินทางออกต่างจังหวัดก็ใช้ทางพิเศษฉลองรัชเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ง่าย

ไม่เพียงเท่านั้น โครงการยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล ใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาที ถึงถนนพระราม 9 และย่านทาวน์อินทาวน์ เชื่อมต่อชีวิตในบ้านสู่สถานที่ทำงานและไลฟ์สไตล์ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจจากดีเวลลอปเปอร์หลายเจ้าในการพัฒนาคอนโดมิเนียม และบ้านแนวราบหลายโครงการ ซึ่งโครงการบ้านในย่านนี้ต้องบอกเลยว่าอยู่ในระดับลักซ์ชัวรี่ขึ้นทั้งนั้น มีให้เห็นตั้งแต่ราคาหลัก 30 ล้านไปถึงหลัก 100 ล้านก็ยังมี

โครงการ Noble TERRA Rama 9 – Ekamai ตั้งอยู่ในซอยจำเนียรเสริม ซึ่งเป็นทำเลที่สามารถใช้ทางเข้า-ออกโครงการได้ถึง 3 เส้นทางด้วยกัน คือ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถนนพระราม 9 และถนนประชาอุทิศ ใครสะดวกใช้เส้นทางไหนก็ไปได้เลย และในช่วงเวลาเร่งรีบก็สามารถเลือกใช้เส้นทางที่รถติดน้อยที่สุดเพื่อเดินทางไปยังจุดมุ่งหมายได้ สะดวกต่อลูกบ้านในโครงการเป็นอย่างมาก พร้อมกับเชื่อมต่อย่านอื่นได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็น ถนนเอกมัย 2.8 กม., ถนนรัชดาภิเษก 4 กม. และถนนอโศก 5.4 กม. เท่านั้น

เส้นทางที่ 1 จากถนนประดิษฐ์มนูธรรมมุ่งหน้าสู่โครงการ โดยใช้เส้นทางจากซอยประดิษฐ์มนูธรรม 1 ซึ่งเป็นซอยที่เป็นที่ตั้งของ โกลเด้น เพลซ (พระรามเก้า) เป็นร้านค้าปลีกที่มีสินค้าจากโครงการหลวง มีป้ายโดดเด่นอยู่บริเวณด้านหน้าปากซอย ถัดมาใกล้กับสามแยกก่อนถึงโครงการมีศูนย์รวมยาฟาร์แมกซ์ PHARMAX สาขาประดิษฐ์มนูธรรม ระยะทางจากปากซอยประดิษฐ์มนูธรรม 1 เข้าไปยังโครงการเพียง 300 ม. เท่านั้น ถึงสามแยกซอยจำเนียรเสริมแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะมองเห็นด้านหน้าโครงการ Noble TERRA Rama 9 – Ekamai ที่อยู่บริเวณขวามือได้เลย

โกลเด้น เพลซ (พระรามเก้า)

ศูนย์รวมยาฟาร์แมกซ์ PHARMAX

เส้นทางที่ 2 จากถนนพระราม 9 ซอย 17 เป็นซอยที่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีวัดพระราม 9 ที่ลัดเลาะออกถนนเทียมร่วมมิตรได้ เมื่อเข้ามาในซอยแล้วเลี้ยวขวาตรงโรงเรียนสมาคมไทย – ญี่ปุ่น เพื่อเข้าสู่ซอยจำเนียรเสริม ตรงไปประมาณ 1 กม. ก็จะเจอกับโครงการบริเวณซ้ายมือ เส้นทางนี้จากบริเวณปากซอยพระราม 9 ถึงหน้าโครงการระยะทางเพียง 1.8 กม.

บริเวณปากซอยพระรามเก้าซอย 17

เส้นทางที่ 3 จากหน้าโครงการถึงถนนประชาอุทิศมีระยะทาง 300 ม. เลี้ยวซ้ายออกจากโครงการแล้วตรงไปได้เลย ซึ่งย่านนี้จะเป็นย่านเหม่งจ๋ายที่เชื่อมต่อกับย่านรัชดาภิเษกได้ พร้อมทั้งยังเป็นย่านที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต สถานที่ราชการ และโรงเรียนนานาชาติชื่อดังหลายแห่งก็อยู่ในย่านนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์กรุงเทพ, โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ และ KIS International School เป็นต้น

ทางออกสู่ถนนประชาอุทิศ หากเลี้ยวซ้ายสามารถเชื่อมต่อย่านห้วยขวาง และรัชดา เลี้ยวขวาออกถนนประดิษฐ์มนูธรรมได้

Rare Design การออกแบบที่มุ่งเน้นการสร้างอัตลักษณ์แตกต่าง ทั้งในแง่ของความสวยงามของอาคารภายนอก และฟังก์ชั่นพิเศษภายใน ที่มีเฉพาะในแต่ละโครงการและไม่สามารถพบเห็นได้จากโครงการอื่นๆ ในส่วนของ Rare Design ทางโครงการได้นำ Pain Point ของการพัฒนาบ้านเดี่ยวในเมืองที่ อาจถูกจำกัดด้วยขนาดของที่ดิน ทำให้การที่จะมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ภายในบ้านอาจเป็นไปได้ยาก มาเป็นโจทย์หลักในการพัฒนางานดีไซน์ให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติให้ได้มากที่สุด บนแนวคิด “Oneness with Nature” หรือการหลอมรวมชีวิตเข้ากับธรรมชาติ จากการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัท แอนโนนีม จำกัด (ANONYM) บริษัทสถาปนิกซึ่งมีประสบการณ์ในการออกแบบบ้านแบบ Private Residence หลายแห่ง ซึ่งให้ความสำคัญกับการนำเอาองค์ประกอบของธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัย จนออกมาเป็น 3 องค์ประกอบหลัก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และแตกต่างจากโครงการอื่น คือ

CONNECTING การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติ สเปซ และผู้อยู่อาศัย ผ่านโถงต้นไม้กลางบ้าน (Triple-Volume Connecting Tree Court ) สูง 11 ม. ซึ่งเป็นไฮไลท์ฟังก์ชัน ที่ดึงธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายใน ด้วยต้นไม้ใหญ่บริเวณคอร์ทกลางบ้านแบบอินดอร์ เปิดรับแสงธรรมชาติ ลม อากาศ และความผ่อนคลายจากพื้นที่สีเขียวสู่ตัวบ้านได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน เป็นจุดศูนย์กลางที่เชื่อมต่อทุกคนในบ้านกับต้นไม้ สายลม และแสงแดด รวมถึงเป็นพื้นที่ที่ทำให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวมองเห็นกันได้ตลอดเวลาแม้ไม่ได้อยู่ในจุดเดียวกัน

GROUNDING สร้างสิ่งแวดล้อมให้ผู้อยู่อาศัยสงบและกลับมาสู่จุดสมดุลเหมือนได้กลับมาชาร์จพลังชีวิตทุกครั้งที่กลับบ้าน ผ่านธรรมชาติ ความเงียบสงบเป็นส่วนตัว ที่ซ่อนไว้ในการออกแบบองค์ประกอบต่างๆ เช่น การจัดวางผังบ้านให้มีพื้นที่สีเขียวเชื่อมต่อถึงกันตลอดทั้งบ้าน พร้อม Outdoor Terrace ระเบียงกึ่ง Outdoor ที่สามารถใกล้ชิดกับธรรมชาติยิ่งขึ้น

บ้านแบบ Radix

บ้านแบบ Pollinis

บ้านแบบ Cortex

SELF SUFFICIENT การอยู่อาศัยแบบพึ่งพาตัวเอง ด้วยการออกแบบให้ใช้พลังงานน้อยลง พึ่งพาธรรมชาติมากขึ้น เพราะสามารถเปิดรับแสงแดดจาก Sky Roof และช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟตลอดเวลา รวมทั้งสามารถเปิดรับลม และเพิ่มการถ่ายเทอากาศได้จากทุกมุมของบ้าน รวมถึงติดตั้ง ระบบ Air Quality System เพิ่มอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้านให้ได้มากยิ่งขึ้น

เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้านมากขึ้นด้วย Façade Tree บริเวณชั้น 2 และ 3 ของตัวบ้าน เป็นพื้นที่ Pocket Garden ที่ทางโครงการติดตั้งต้นไม้ใหญ่มาให้ 1 ต้น โดยบ้านแบบ Pollinis, Cortex และ Folium ทางโครงการจะให้เป็นต้นกันเกรา ความสูง 4 ม. ส่วนบ้านแบบ Radix จะได้เป็นต้นไม้สั่งทำ ความสูง 3 ม. และคุณสามารถตกแต่งพื้นที่ในกระถางให้เป็นสวนสีเขียวขนาดย่อมได้ตามใจชอบ ช่วยให้บ้านดูร่มรื่น พร้อมสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้จากตัวบ้านของคุณเอง

Façade หน้าบ้านตกแต่งด้วยต้นไม้เล็กใหญ่ สีเขียวจากต้นไม้ช่วยเพิ่มความลงตัวกับบ้านสีขาวได้ดี

มีพื้นที่ Pocket Garden ในตัวบ้านหลายจุด มองทีไรก็สบายตา

ดึงธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายในด้วยเอกลักษณ์ต้นไม้ใหญ่บริเวณคอร์ทกลางบ้านแบบอินดอร์ เปิดรับแสงธรรมชาติ ลม อากาศ และความผ่อนคลายจากพื้นที่สีเขียวสู่ตัวบ้านได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน เมื่อเข้าไปอยู่ในตัวบ้านจะรู้สึกได้ว่าบ้านดูโปร่งและโล่ง อยู่แล้วไม่รู้สึกอึดอัด พร้อมรับความร่มรื่นจากต้นไม้ในบ้านทำให้สบายตามากยิ่งขึ้น ซึ่งบ้านแต่ละไทป์จะได้ต้นไม้ไม่เหมือนกัน POLLINIS ต้นเกล็ดกะโห้เขียว สูง 4.5 ม, CORTEX ต้นจิกเศรษฐี สูง 5 ม. และ FOLIUM ต้นกลด จะเป็นความสูง 3,4,5 ม.

ในตัวบ้านชั้น 1 ดูโปร่งและโล่งมาก

พื้นที่ Triple Volume พร้อมช่องแสง Sky Roof ช่วยเพิ่มความสว่างให้บ้านได้เยอะทีเดียว

และในส่วนของการออกแบบประสบการณ์ในการอยู่อาศัย อย่าง Rare Experience โครงการมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Double Gate Security และ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง Private Sanctuary Clubhouse ประกอบไปด้วย ฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ ผนังน้ำตกที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย Guest Lounge สำหรับรับรองแขกหรือเพื่อนฝูงจากภายนอก Co – Kitchen Space รวมไปถึง Sensory Garden สวนกลางสีเขียวด้านในโครงการ ให้คุณได้ใช้เวลาว่างหลังจากการทำงาน มาทำกิจกรรมสนุกๆ พร้อมกับคนในครอบครัว

Private Sanctuary Clubhouse

ฟิตเนส

Business Lounge ห้องรับรองส่วนกลางที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย คลาสสิกไร้กาลเวลา ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้การต้อนรับแขกและพูดคุยธุรกิจได้อย่างง่ายดาย

Co – Kitchen Space & Welcome Lounge ครัวกลางที่สามารถใช้ประกอบอาหารและจัดงานเลี้ยงสังสรรค์อย่างเป็นส่วนตัว

จาก Clubhouse ชั้น 2 มองเห็นผนังน้ำตกและอ่าง Jacuzzi แบบนี้ ช่วยเพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย

Sensory Garden พื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ สามารถเดินชมธรรมชาติ หรือเป็นสถานที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งภายในครอบครัวได้เช่นกัน

Noble TERRA Rama 9 – Ekkamai บ้านเดี่ยว ULTRA LUXURY มาพร้อมแบบบ้านถึง 4 สไตล์ เหมาะสมกับครอบครัวยุคใหม่

Noble TERRA Rama 9 – Ekkamai (โนเบิล เทอร์รา พระราม 9 – เอกมัย ) โครงการบ้านเดี่ยวบ้านเดี่ยวระดับ Ultra Luxury ขนาด 3 ชั้น ในคอลเลกชัน ‘The Rare Selection by Noble’ พัฒนาโดย บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บนพื้นที่โครงการประมาณ 8 ไร่ จำนวน 29 หลัง มีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเริ่มต้น 382 – 498 ตร.ม. บนขนาดที่ดินขนาด 50 – 88 ตร.ว. แบบบ้านมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ RADIX มอบพื้นที่ใช้สอย 382 ตรม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน, POLLINIS มอบพื้นที่ใช้สอย 409 ตรม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน, CORTEX มอบพื้นที่ใช้สอย 457 ตรม. 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ จอดรถได้ 4 คัน และ FOLIUM มอบพื้นที่ใช้สอย 498 ตรม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ จอดรถได้ 5 คัน และบ้านทุกหลังยังติดตั้งลิฟต์, Home Automation, ระบบหมุนเวียนอากาศ Active Air Quality by SCG เติมอากาศบริสุทธิ์ พร้อมถ่ายเทความร้อนภายในบ้านให้เย็นสบายตลอดวัน และวางระบบ Junction box เพื่อรองรับ EV Charger อีกด้วย

Master Plan

Noble TERRA Rama 9 – Ekkamai ตั้งอยู่ในซอยจำเนียรเสริม ติดกับซอยประดิษฐ์มนูธรรม 1 โครงการมีทางใช้เข้า – ออกทางเดียว พร้อมประตูแบบ Double Gate เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านแบบสูงสุด ด้านหน้าโครงการก่อนเข้าไปยังส่วนที่อยู่อาศัยมี Sanctuary Clubhouse พื้นที่ส่วนกลางสำหรับลูกบ้าน ในโครงการมีบ้านทั้งหมด 29 หลัง แบ่งเป็นซอยละ 6 หลัง หน้าบ้านหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ โดยบ้านแปลงที่ 28 – 29 บริเวณหลังโครงการเป็นแปลงเดี่ยวไม่ติดกับหลังอื่น และอยู่ใกล้กับ Sensory Garden พื้นที่สวนส่วนกลางของโครงการ

Floor Plan บ้าน 4 แบบ

แบบบ้าน Radix

แบบบ้าน Pollinis

บริเวณหน้าบ้านจอดรถได้ 3 คัน ในตัวบ้านสามารถปรับฟังก์ชันให้เป็น Living Area, Dining Area ได้ พร้อมกั้นพื้นที่ครัวให้ โถงกลางบ้านมี Yard Area ที่ทางโครงการให้ต้นกันเกรามา 1 ต้น พร้อมพื้นที่ Triple Volume สูง 11 ม. มีช่องแสง Sky Roof ด้านบน ให้แสงสว่างเข้าสู่ตัวบ้านได้เพิ่มขึ้น ติดตั้งลิฟท์ให้ ชั้น 2 มีห้องทั้งหมด 3 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัว สามารถปรับห้องได้ตามการใช้งานต่างๆ และชั้น 3 แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ Master Bedroom มีห้องทำงานในตัว และ Master Bathroom แยกฝั่ง His & Her สะดวกต่อการใช้งาน พร้อมติดตั้งอ่างอาบน้ำให้

แบบบ้าน Cortex

บ้านไทป์ L มีที่ดินเริ่ม 62.8 – 88 ตร.ว. มีพื้นที่หลังบ้านกว้างสามารถปรับฟังก์ชันให้เป็นสระว่ายน้ำได้ หน้าบ้านจอดรถได้ 4 คัน ในบ้านชั้น 1 เป็นพื้นที่ของ Living Area, Dining Area และ Yard Area โครงการติดตั้งต้นกันเกราให้ พร้อมพื้นที่ Triple Volume สูง 11 ม. และลิฟต์ส่วนตัว ชั้น 2 มีห้อง 4 ห้อง และห้องน้ำในตัว ชั้น 3 เป็นส่วนของ Master Bedroom, Master Bathroom ขนาดใหญ่ บริเวณหน้าห้องนอนมีมุมพักผ่อนสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ

บ้านตัวอย่าง

RADIX พื้นที่ใช้สอย 382 ตรม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน (Size S)

หน้าบ้านมีประตูสองฝั่งเป็นประตูฝั่งโรงจอดรถและประตูบานเดี่ยว ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ลายไม้ เพื่อใช้เปิดมารับของ เดินเข้า-ออก โดยไม่ต้องเปิดประตูฝั่งโรงจอดรถได้

บ้านขนาด 3 ชั้น สีขาว – เบจ สะอาดตา หน้าบ้านทุกหลังจะมี Façade Tree ตามชั้นต่างๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวของบ้านได้ และช่องกระจกบานใหญ่ให้แสงธรรมชาติเข้าถึงในตัวบ้านได้อย่างเต็มที่

พื้นที่จอดรถหน้าบ้าน จอดได้ 3 คัน ติดตั้งประตูบานเลื่อนอะลูมิเนียมผิวไม้ให้ หากบ้านหลังไหนอยากได้เป็นประตูอัตโนมัติก็สามารถติดตั้งเองได้ เนื่องจากทางโครงการได้ Provide มอเตอร์ในส่วนนี้ให้เรียบร้อย

โครงการวางระบบ Junction box เพื่อรองรับ EV Charger ให้บ้านทุกหลัง รองรับเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน

เพดานพื้นที่จอดรถสูง 3.1 ม.

มีห้องเก็บของหน้าบ้านติดกับพื้นที่จอดรถ

ประตูบ้านใช้เป็นประตูไม้สัก ความสูง 2.8 ม. พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock แบรนด์ Yale ให้ทุกหลัง

เปิดประตูเข้ามาในบ้านส่วนแรกก็จะเจอ Foyer สามารถติดตั้งตู้เก็บรองเท้าได้ เชื่อมต่อไปยัง Living Area ด้านใน โดยโครงการให้เป็นบ้านเปล่าสีขาวทุกหลัง เจ้าของบ้านตกแต่งบ้านตามสไตล์ของตัวเองได้เลย

ติดกระจกบานใหญ่บริเวณ Foyer ให้ ให้มุมนี้รับแสงสว่างได้ตลอดวัน

พื้นที่ภายในบ้านสามารถแบ่งเป็น Living Are และ Dining Area ได้ โดยโครงการวางระบบแอร์ให้บ้านทุกหลัง แต่ไม่ได้แถมแอร์ให้ เจ้าของบ้านเลือกติดตั้งแอร์ได้ตามความชอบ

เพดานชั้นนี้สูง 2.8 ม. เป็นบ้านแบบฉาบเรียบสีขาว

Living Area กว้าง ให้ครอบครัวทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้

ชั้น 1 มี Powder Room พร้อมช่องแสงที่ทำให้ห้องนี้สว่างได้ทั้งวัน วัสดุในห้องน้ำจะได้แบบเดียวกับบ้านตัวอย่าง โดยโถสุขภัณฑ์ของ Powder Room และ Master Bedroom จะได้เป็นแบบ Automatic แบรนด์ Roca ส่วนห้องน้ำในห้องนอนอื่นๆ จะได้เป็นโถสุขภัณฑ์แบบกดปุ่มชำระล้างธรรมดา

มาดูส่วนหลังบ้าน มีพื้นที่กว้าง ด้วยที่ดินของบ้านไทป์นี้เริ่มต้น 50.1 – 73.6 ตร.ว. ทำให้บริเวณหลังบ้านกว้าง ใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ว่าจะทำเป็นมุมพักผ่อน หรือมุมปาร์ตี้เล็กๆ ของคนในครอบครัวก็ได้ โดยบ้านจริงโครงการปูหญ้าให้แต่ไม่มีต้นไม้ตกแต่ง

วนกลับเข้ามาในบ้านอีกรอบ ซึ่งส่วนของ Dining Area จะเชื่อมต่อกับ Living Are เป็นพื้นที่กว้างที่รองรับครอบครัวใหญ่ และเวลามีแขกแวะมาที่บ้านได้

ตกแต่งครัวนอกพร้อมพื้นที่จัดเตรียมอาหารแบบบ้านตัวอย่างได้เลย

ไฮไลท์ฟังก์ชันในบ้านทุกไทป์ก็คงจะหนีไม่พ้นส่วนของ Triple Volume ตั้งแต่ชั้น 1 ไปถึงช่อง Skylight บริเวณชั้น 3 ที่มีความสูงถึง 11 ม. ให้บ้านดูโปร่งโล่ง พร้อมรับแสงธรรมชาติได้ทั้งวัน และยังช่วยประหยัดการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้

จากมุมนี้มองเห็นชั้น 2 และ 3 ได้เลย

ห้องครัว

ทางโครงการกั้นพื้นที่สำหรับห้องครัวให้ เป็นห้องโล่งๆ ไม่ได้ให้เคาน์เตอร์ครัวแบบบ้านตัวอย่าง เพดานห้องนี้สูง 2.2 ม.

บ้านทุกไทป์ในโครงการ Noble TERRA Rama 9 – Ekamai มีห้อง Maid พร้อมห้องน้ำทุกหลัง เชื่อมต่อมาทางประตูห้องครัว

บ้านทุกหลังยังติดตั้ง ลิฟต์ ของ Hitachi, Home Automation, ระบบหมุนเวียนอากาศ Active Air Quality by SCG เติมอากาศบริสุทธิ์ พร้อมถ่ายเทความร้อนภายในบ้านให้เย็นสบายตลอดวัน

ลิฟท์อยู่ติดกับประตูเข้าบ้านฝั่งโรงจอดรถ

มีห้องเก็บของใต้บันไดให้

ขึ้นมาที่ชั้น 2 มีห้องทั้งหมด 3 ห้อง สามารถปรับฟังก์ชันห้องได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องดูหนัง ห้องนั่งเล่น หรือห้องทำงานก็ได้เช่นกัน เพดานในห้องต่างๆ สูง 2.9 ม. พร้อมทางเดินที่ติดกับ Triple Volume 11 ม. ที่ช่วยให้บ้านสว่างมากขึ้น

ติดกับลิฟท์มีห้องที่ใช้เป็นห้องซักล้างได้ ห้องแบบทึบไม่มีช่องแสง

ติดกับบันไดเป็นห้องนอน 4 มีห้องน้ำในตัว พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ปูพื้นด้วย Engineering Wood

เพดานสูงถึง 2.9 ม. ทำให้ห้องดูกว้างและโปร่ง วางเตียง 5 ฟุตได้สบาย

ในห้องติดตั้งกระจกบานใหญ่แบบเต็มความสูง มีระเบียงส่วนตัว มองเห็นสวนหลังบ้านได้

ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว

ห้องน้ำได้วัสดุแบบเดียวกับบ้านตัวอย่าง ปูด้วยกระเบื้อง Porcelain มีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ ติดตั้ง Shower Screen ให้ และมีช่องแสงด้านใน ช่วยให้ห้องน้ำสว่างและระบายกลิ่นได้

เดินออกมาจากห้องแรก จะมองเห็นโถงทางเดินติดกับพื้นที่ Triple Volume สูง 11 ม. พร้อมช่อง Sky Roof จากบริเวณชั้น 3 ช่วยให้แสงธรรมชาติสองเข้าบ้านได้ตลอดทั้งวัน

ระเบียงฝั่งนี้กั้นด้วยกระจกกันตก และมองเห็นพื้นที่ Living Area & Dining Area บริเวณชั้น 1 พร้อมตกแต่งโคมไฟ Chandelier แบบบ้านตัวอย่างได้

แสงจาก Sky Roof ทำให้บ้านสว่างมาก และมองเห็น Pocket Garden ที่ชั้น 3 ด้วย

Sky Roof

ห้องนอน 3 ติดกับฝั่งหน้าบ้าน เป็นห้องหน้ากว้าง มีห้องน้ำในตัว

ปรับฟังก์ชันให้เป็นห้องทำงานได้ พร้อมกระจกบานใหญ่แบบเต็มความสูงให้รับแสงได้เต็มที่

บ้านจริงติดตั้งประตูลามิเนทแบบบานเปิดให้

ห้องน้ำติดหน้าต่างบานกระทุ้งและกระจกบานใหญ่ มองเห็นระเบียงที่เชื่อมยาวมาจากฝั่งห้องนอน หากใครต้องการความเป็นส่วนตัวในการเข้าห้องน้ำสามารถติดมู่ลี่ หรือฟิล์มทึบกันการมองเห็นได้ ในห้องน้ำติดตั้ง Shower Screen ให้

ห้องนอน 2 แยกห้องน้ำและห้องนอนไว้คนละฝั่ง โดยห้องนอนมองเห็นสวนหลังบ้าน ส่วนห้องน้ำอยู่ติดฝั่งหน้าบ้าน

ในห้องนอนมีกระจกบานใหญ่แบบเต็มความสูงติดตั้งไว้ให้ และสามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตได้ เพดานสูง 2.9 ม.

ถัดมาเป็นห้องน้ำ มีช่องแสงในห้อง ติดตั้ง Shower Screen และให้ Hand Shower แบบปรับระดับขึ้น-ลงได้

ขึ้นบันไดไปดูที่ชั้น 3 กัน

โดยชั้น 3 ของบ้าน จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom แทบทั้งชั้น คล้ายกับ Penthouse เลยก็ว่าได้ ขึ้นมาก็เจอลิฟท์ก่อน และโถงหน้าลิฟท์สามารถตกแต่งให้เป็นมุมพักผ่อนได้

Pocket Garden ติดกับพื้นที่ Triple Volume ช่วยให้ในตัวบ้านดูร่มรื่นและสบายตามากขึ้น

Outdoor Terrace กว้าง เดินออกมานั่งรับลมเย็นๆ ด้านนอกพร้อมครอบครัวได้เลย ทั้งยังจัดเป็นพื้นที่ปาร์ตี้เล็กส่วนตัวสำหรับสมาชิกในครอบครัวได้

ประตูทางเข้า Master Bedroom

Master Bedroom มีพื้นที่กว้าง เพดานสูง 3.2 ม. ทำให้ห้องดูโปร่งมากกว่าห้องนอนอื่น

วางเตียงคิงไซส์ได้สบาย ปลายเตียงหันไปทางกระจกบานใหญ่ ให้คุณนอนมองวิวด้านนอกได้เลย

เปิดม่านออกยิ่งทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งมากกว่าเดิม มองวิวด้านนอกได้แบบสุดลูกหูลูกตา

ฝั่งนี้สามารถกั้นพื้นที่ห้องเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ติดหน้าห้องน้ำได้ พร้อม Built-in แยกฝั่งชาย-หญิงได้สบาย

Master Bathroom เพดานสูง 2.9 ม. มีอ่างอาบน้ำในห้องติดกระจก ให้คุณได้แช่น้ำพร้อมกับชมวิวด้านนอกได้เลย

ให้อ่างแบบ His & Her และกั้นห้องอาบน้ำ ห้องโถสุภัณฑ์ด้วย Shower Screen แบบเป็นสัดส่วน

Master Bathroom ได้แบบอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว และก๊อกน้ำที่ปรับน้ำร้อน-น้ำเย็นได้ พร้อม SHOWER SET จาก Grohe ที่ให้ทั้ง Rain Shower และ Hand Shower แบบปรับระดับขึ้น-ลง ได้ โดย Master Bathroom และ Powder Room จะได้โถสุขภัณฑ์แบบ Automatic

POLLINIS พื้นที่ใช้สอย 409 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน (Size M)

ประตูหน้าบ้านให้เป็นอลูมิเนียมลายไม้ มีกล่องรับจดหมายและพื้นที่ทิ้งขยะอยู่ใกล้กัน

บ้านแบบ 3 ชั้น หน้าบ้านตกแต่งด้วยสีขาว-เบจ พร้อมพื้นที่ Façade Tree ที่ชั้น 2 – 3 ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้านได้มากขึ้น

Façade Tree ทางโครงการลงต้นกันเกราไว้ให้ ตรงบริเวณ Double Volume พอดี

พื้นที่จอดรถเพดานสูง 3.1 ม. จอดได้เรียงกัน 3 คัน หน้าบ้านมีประตูทางเข้าด้วยกันถึง 3 ทาง คือ ประตูหลักที่เป็นไม้สักอยู่ขวามือ ประตูกระจกอยู่หลังพื้นที่จอดรถ มองเห็นโถงในบ้านได้ และประตูสีขาวฝั่งซ้ายมือติดกับที่จอดรถ

โครงการวางระบบ Junction box เพื่อรองรับ EV Charger ให้แบบนี้

หากบ้านหลังไหนอยากได้เป็นประตูอัตโนมัติก็สามารถติดตั้งเองได้ เนื่องจากทางโครงการติดระบบไฟเพื่อรองรับมอเตอร์ในส่วนนี้ให้เรียบร้อย

ประตูบ้านใช้เป็นประตูไม้สัก ความสูง 2.8 ม. พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock แบรนด์ Yale

เดินเข้ามาในตัวบ้านจะพบกับ Living Area และโถงแบบ Double Volume ติดกระจกแบบเต็มความสูงถึง 5.7 ม. ไปถึงชั้น 2

ช่วยเพิ่มความสว่างให้บ้านได้

เพดานบริเวณชั้น 1 สูง 2.8 ม. ทางโครงการวางท่อแอร์ให้ทั้งหลัง โดยเจ้าของบ้านสามารถเลือกติดแอร์แบบที่ต้องการได้เลย พื้นปูด้วยกระเบื้อง PORCELAIN

พื้นที่ในบ้านเป็นส่วนของ Living Area & Dining Area เชื่อมต่อกัน

บ้านไทป์ Pollinis มี Tree Court กลางบ้าน ให้ต้นเกล็ดกะโห้เขียว สูง 4.5 ม. เป็นไฮไลท์โดดเด่นด้วยต้นไม้ใหญ่บริเวณคอร์ทกลางบ้านแบบอินดอร์ เปิดรับแสงธรรมชาติ ลม อากาศ และความผ่อนคลายจากพื้นที่สีเขียวสู่ตัวบ้านได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน เป็นจุดศูนย์กลางที่เชื่อมต่อทุกคนในบ้านกับต้นไม้ สายลม และแสงแดด

โดยบ้านจริงบริเวณพื้นจะเสมอกันไม่มีลดระดับเหมือนบ้านตัวอย่าง ส่วนงานระบบจะเตรียมจุดปล่อยน้ำไว้ให้แต่ไม่มีก๊อก ลูกค้าสามารถต่อก๊อกหรือต่อสายเพื่อเข้าระบบรดน้ำแบบ On Timer ได้ และบริเวณที่ปลูกต้นไม้ ทางโครงการทำโครงสร้างเป็นลักษณะเหมือนกล่องสีเหลี่ยมโอบล้อมดินและรากไว้ มีระบบระบายน้ำและตัวกรองดินออกจากน้ำก่อนปล่อยสู่ระบบระบายในโครงการและระบายสู่ภายนอก ดังนั้นเรื่องการทรุดตัวก็ไม่ทรุดแยกจากตัวบ้านและไม่มีอาการรากไม้ไปสร้างความเสียหาย โดยมีระบบกรองน้ำไว้ให้จึงไม่ทำให้ท่อตันนั่นเอง

Sky Roof และพื้นที่ Triple Volume สูงถึง 11 ม. ช่องแสงที่ช่วยให้บ้านสว่างได้ทั้งวัน

ด้วยบ้านไทป์นี้มีที่ดินเริ่มต้น 57.1—79 ตร.ว. ทำให้หลังบ้านมีพื้นที่กว้าง ทางโครงการจึงปรับฟังก์ชันให้เป็นห้อง Glass House สำหรับปลูกต้นไม้ ไว้เป็น Reference ให้กับลูกค้าได้ ส่วนบ้านจริงบริเวณนี้จะปูพื้นหญ้าให้ ไม่ได้ลงต้นไม้ใหญ่ให้แบบบ้านตัวอย่าง

วนกลับเข้ามาในบ้าน มาดูส่วนของครัวกัน โดยพื้นที่ครัวอยู่บริเวณด้านหลังของ Dining Area ทางโครงการได้เตรียมพื้นที่สำหรับครัวนอกและครัวในให้ เผื่อบ้านหลังไหนอยากมีพื้นที่เตรียมอาหารด้านนอกที่สามารถทำอาหารเบาๆ ได้ และครัวในที่ไว้ทำอาหารหนักก็สามารถแยกส่วนกันได้

ครัวมีเพดานสูง 2.2 ม. เป็นห้องโล่งๆ ให้เจ้าของบ้านเลือกแบบครัวได้ตามใจชอบ

ประตูครัวเชื่อมต่อไปด้านหลังบ้านที่เป็นส่วนของห้อง Maid ได้ โดยพื้นที่ห้อง Maid มีห้องน้ำแยกส่วนกัน

เดินออกมาจากครัวทางฝั่งขวามือ จะมองเห็น Powder Room ที่ให้เป็น Auto Washlet พร้อมอ่างล้างมือ

ฝั่งตรงข้ามกับ Powder Room เป็นลิฟท์แบรนด์ Hitachi ที่ทางโครงการติดตั้งให้ทุกหลัง สะดวกต่อการขึ้น-ลงชั้น 1 – 3 ส่วนนี้อยู่ติดกับบริเวณประตูข้างบ้านฝั่งที่จอดรถ

ฝั่งนี้เป็นตู้วางเครื่องซัก – อบผ้า

ส่วนตู้บานไม้ติดลิฟท์ จะเป็นตู้เก็บงานระบบไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ต

บันไดเป็นไม้ประสาน มีบัวไม้เทียม ทำสีขาว

ขึ้นมาชั้น 2 ก็จะเห็น Tree Court ก่อน ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางที่เชื่อมต่อทุกคนในบ้านกับต้นไม้ สายลม และแสงแดด รวมถึงเป็นพื้นที่ที่ทำให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวมองเห็นกันได้ตลอดเวลาแม้ไม่ได้อยู่ในจุดเดียวกัน กั้นด้วยกระจกกันตก

ชั้น 2 มีห้องทั้งหมด 3 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัว สามารถปรับห้องได้ตามการใช้งานต่างๆ ปูพื้นด้วย Engineering Wood

บริเวณนี้ของบ้านจริงจะเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว แต่ทางโครงการปรับพื้นที่ให้เป็นห้องทำงานที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ Triple Volume และมีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้มุมนี้ยิ่งดูโปร่ง สบายมากขึ้น เพดานส่วนนี้สูง 2.9 ม.

ห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียก Hand Shower แบบปรับระดับขึ้น-ลงได้ พร้อมติดตั้ง Shower Screen ให้ และมีช่องแสงเพิ่มความสว่างในห้องน้ำด้วย

ห้องอเนกประสงค์ ติดเป็นกระจกทั้งห้อง ใช้เป็นห้องทำงานหรือส่วนพักผ่อนได้

ถัดมาเป็นลิฟท์

อีกหนึ่งห้องนอนอยู่ตรงข้ามลิฟท์ ติดกับฝั่งหน้าบ้าน เพดานสูง 2.9 ม. มีห้องน้ำในตัว

สามารถปรับให้เป็นห้องทำงาน ห้องดูหนัง หรือห้องแบบอื่นที่ต้องการได้

ห้องน้ำกั้นส่วนแห้งและเปียกด้วย Shower Screen โถสุขภัณฑ์แบบธรรมดาไม่ใช่ Auto Washlet มีช่องแสงด้านในและติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 1 บาน ทำให้ห้องน้ำสว่างมาก

Hand Shower แบบปรับระดับขึ้น – ลง ได้

เดินข้ามมาอีกฝั่งจะเจอกับห้องนอนอีกหนึ่งห้อง มีพื้นที่กว้าง ติดกระจกบานใหญ่ให้มองเห็น Living Area ด้านล่าง และ Façade Tree บริเวณหน้าบ้าน

เพดานห้องนี้สูง 2.9 ม. ทางเดินตรงนี้จะมีผนังเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง สามารถมองเห็นพื้น Triple Volume ได้

เดินเข้ามาจะเจอกับเตียงนอน พร้อมติดกระจกบานใหญ่แบบเต็มความสูงให้ ดูจากรูปภาพก็จะเห็นได้ว่าห้องมีความสว่างมากโดยไม่ต้องเปิดไฟช่วยเลย

ผนังอีกด้านจะเป็นกระจกที่สามารถมองลองไปเห็น Living Area ได้

ห้องน้ำให้ Shower Screen และ Hand Shower แบบปรับระดับได้ พร้อมทั้งติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 1 บาน

เดินขึ้นบันไดมายังชั้น 3 จะเห็นว่าบริเวณ Triple Volume สว่างมาก เนื่องจากหลังคาบริเวณนี้จะเป็นส่วนของ Sky Roof ที่ให้แสงส่องสว่างเข้ามาในตัวบ้านได้ตลอดเวลา

ชั้นนี้เป็นส่วนของ Master Bedroom & Master Bathroom ทั้งชั้น มีความเป็นส่วนตัวอย่างมาก

Façade Tree ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ตัวบ้านได้ และยังดูร่มรื่น นั่งมองได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ

กระจกของฝั่งตรงข้ามที่มองเห็นนั้น จะเป็นส่วนของ Master Bathroom

ลิฟท์อยู่ติดกับประตูเข้าห้องนอน

พื้นที่ห้องนอนกว้างมาก มีเพดานสูง 3.2 ม. สามารถแบ่งเป็นห้องทำงานและมุมพักผ่อนได้ด้วย

เป็นห้องนอนที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากระเบียงด้านนอกเป็นส่วนของ Façade Tree สามารถปลูกต้นไม้เล็กใหญ่ได้ ให้เรานอนมองต้นไม้ และวิวด้านนอกได้ทั้งวัน

ใครอยากสูดอากาศ รับลม ก็ออกไปยืนตรงระเบียงได้นะ ระเบียงกว้างพร้อมติดกระจกกันตกให้

ถัดมาเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งเจ้าของห้องอาจจะใช้เป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ หรือห้องดูหนังได้เลย กั้นทั้งห้องด้วยกระจกแบบเต็มความสูง

มีระเบียงอีกจุดตรงนี้

ทางเดินไปยัง Master Bathroom เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง เปิดออกไปเห็นส่วน Triple Volume ได้

Master Bathroom ขนาดใหญ่ แบ่งฝั่งเป็น His & Her และอ่างล้างหน้า 2 จุด สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าแยกฝั่งกันได้ สะดวกสำหรับเมื่อต้องการการใช้ห้องแต่งตัวพร้อมกัน หรือใครที่มีเสื้อผ้า ของใช้เยอะจะได้ไม่ต้องแย่งตู้เก็บเสื้อผ้าของอีกฝ่าย

เพดานสูง 2.9 ม. มีช่องแสงในห้อง

แยกห้องน้ำ ห้องอาบน้ำอยู่คนละฝั่ง และติด Shower Screen ให้ ในห้องอาบน้ำให้ทั้ง Rain Shower และ Hand Shower

อ่างอาบน้ำแบบลอยตัวอยู่ตรงจุดนี้

CORTEX พื้นที่ใช้สอย 457 ตร.ม. 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ จอดรถได้ 4 คัน (Size L)

โดยบ้านในโครงการ Noble TERRA Rama 9 – Ekamai มีรูปแบบคล้ายกันทุกไทป์ แต่จะต่างกันที่พื้นที่ใช้สอยในบ้านและขนาดที่ดินของบ้านนั่นเอง ไทป์นี้คือบ้านไซส์ L ที่ใหญ่รองลงมาจากไซส์ XL คือ FOLIUM

Façade Tree ตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียวตัดกับสีขาว-เบจ ของบ้าน ให้มีความลงตัวมากยิ่งขึ้น

หน้าบ้านจอดรถเรียงกันได้ 4 คัน เพดานสูง 3.1 ม.

หน้าบ้านมีประตูทางเข้าด้วยกันถึง 3 ทาง คือ ประตูหลักที่เป็นไม้สักอยู่ขวามือ ประตูกระจกอยู่หลังพื้นที่จอดรถ มองเห็นโถงในบ้านได้ และประตูสีขาวฝั่งซ้ายมือติดกับที่จอดรถ พร้อมติดตั้ง Junction box เพื่อรองรับ EV Charger

โครงการให้ประตูบานเลื่อนอะลูมิเนียมผิวไม้ และติดระบบมอเตอร์ให้หากต้องการติดตั้งเป็นรั้วอัตโนมัติ

บ้านไทป์นี้มีห้อง Maid และห้องน้ำอยู่บริเวณหน้าบ้าน

ประตูบ้านเป็นไม้สัก ความสูง 2.8 ม. และติดตั้ง Digital Door Lock แบรนด์ Yale ให้

เดินเข้ามาในบ้านตรงพื้นที่ Foyer ติดเป็นกระจกบานใหญ่แบบเต็มความสูงไว้ให้มุมนี้

โครงการยังติดตั้ง ลิฟต์, Home Automation, ระบบหมุนเวียนอากาศ Active Air Quality by SCG เติมอากาศบริสุทธิ์ พร้อมถ่ายเทความร้อนภายในบ้านให้เย็นสบายตลอดวัน

เข้ามาในบ้านก็จะเป็นส่วนของ Living Area & Dining Area ฟังก์ชันคล้ายกับบ้านไทป์ Pollinis พร้อมช่องแสงแบบ Double Volume ที่ช่วยให้บ้านสว่างมากขึ้น

เพดานชั้นนี้สูง 2.8 ม. พื้นปูด้วยกระเบื้อง PORCELAIN และมีการเดินระบบท่อแอร์ให้ทั้งบ้าน เจ้าของบ้านสามารถเลือกประเภทแอร์ได้ตามต้องการ

พื้นที่ Tree Court กลางบ้าน ให้ต้นจิกเศรษฐี  สูง 5 ม. เป็นจุดศูนย์กลางที่เชื่อมต่อทุกคนในบ้านกับต้นไม้ สายลม และแสงแดด โดยบ้านจริงบริเวณพื้นจะเสมอกันไม่มีลดระดับเหมือนบ้านตัวอย่าง ส่วนงานระบบจะเตรียมจุดปล่อยน้ำไว้ให้แต่ไม่มีก๊อก ลูกค้าสามารถต่อก๊อกหรือต่อสายเพื่อเข้าระบบรดน้ำแบบ On Timer ได้

Dining Area เชื่อมต่อไปยังครัว

ส่วนครัว ทางโครงการกั้นเป็นห้องครัวไทยไว้ให้ด้านใน หากเจ้าของบ้านต้องการพื้นที่จัดเตรียมอาหารและครัวนอกเพิ่มก็สามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้แบบบ้านตัวอย่างเลย

ห้องครัวของบ้านจริงจะอยู่ส่วนนี้ เป็นห้องโล่งๆ เพดานสูง 2.2 ม. สามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ

Powder Room ติดกับครัวให้เป็น Auto Washlet แบรนด์ Roca

ออกจาก Powder Room มองเห็นโถงทางเดินไปยังลิฟท์

ลิฟท์ ใช้แบรนด์ Hitachi ติดกับประตูบ้านฝั่งโรงจอดรถ

ด้วยที่ดินของบ้านไทป์นี้เริ่มต้น 62.8—88 ตร.ว. ทำให้พื้นที่หลังบ้านกว้าง ทางโครงการจึงตกแต่งให้เป็นสระว่ายน้ำแบบส่วนตัวสำหรับสมาชิกในบ้านเท่านั้น เป็นตัวเลือกที่ดีอีกหนึ่งทางให้แก่เจ้าของบ้าน

ให้ทุกคนเล่นน้ำได้สนุกและเป็นส่วนตัว หรือหากมีญาติ มีเพื่อนมาที่บ้าน ก็สามารถจัดเป็นปาร์ตี้บาร์บีคิวข้างๆ สระว่ายน้ำได้เลย

ขึ้นไปดูบนชั้น 2 กัน

ขึ้นมาถึงชั้น 2 มองเห็นพื้นที่ Triple Volume ที่มีความสูงถึง 11 ม. พร้อมช่อง Sky Roof ด้านบน ที่ให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาในตัวบ้านได้ ทำให้บ้านสว่าง และโปร่ง ไม่อึดอัด

มองลงไปเห็น Tree Court ที่ชั้น 1

ชั้น 2 มีทั้งหมด 4 ห้อง เป็น 3 ห้องนอน และ 1 ห้องอเนกประสงค์ แยกอยู่ตามมุมบ้านทั้ง 4 มุม มีพื้นที่กว้างและห้องน้ำในตัวทุกห้อง

ขึ้นบันไดมาขวามือก็จะเจอกับห้องนอน 1 ฝั่งซ้ายมือ

ในห้องเป็นกระจกแบบเข้ามุมและติดหน้าต่างบานกระทุ้งให้ พร้อมห้องน้ำในตัว

เพดานสูง 2.9 ม. พื้นห้องเป็น Engineering Wood

ห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียกเป็นสัดส่วน พร้อมติดตั้ง Shower Screen ให้

ถัดมาเป็นอีกห้องที่อยู่ติดฝั่งหน้าบ้านเช่นกัน เป็นผนังกระจกบานใหญ่ รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ปรับให้เป็นห้องทำงาน อ่านหนังสือก็เป็นตัวเลือกที่ดี

มีห้องน้ำที่ใช้อาบน้ำได้

เดินผ่าน Triple Volume ข้ามมาอีกฝั่ง

ขวามือเป็นห้องนอนได้อีกหนึ่งห้อง ซึ่งบ้านไทป์นี้เหมาะสำหรับอาศัยอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ เพราะมีห้องนอนเยอะ พร้อมด้วยพื้นที่ใช้สอยในบ้านก็กว้างพอสำหรับทุกคน

ห้องนี้จะมีห้องน้ำอยู่ด้านหน้าก่อนถึงห้องนอน โดยห้องน้ำใช้วัสดุและสเปคแบบเดียวกัน ที่ต่างออกไปก็จะเป็น Master Bathroom และ Powder Room ที่ให้ Auto washlet

ห้องนอนเพดานสูง 2.9 ม. มีช่องแสงขนาดใหญ่ และช่องกระจกที่สามารถมองเห็น Living Area บริเวณชั้น 1 ได้

เดินไปฝั่งตรงข้ามเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่ปรับฟังก์ชันให้เป็น Living Are หรือห้องดูหนังแบบส่วนตัวสำหรับสมาชิกในครอบครัวได้

ส่วนนี้มีช่องแสงถึงสองด้าน ให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่

Powder Room เหมือนกับชั้น 1 ให้โถสุขภัณฑ์แบบ Auto Washlet และมีช่องแสงเพิ่มความสว่างในห้องได้

Pocket Garden ไว้ปลูกต้นไม้ที่มีขนาดต้นไม่สูงมาก ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในตัวบ้านได้

ชานพักเท้าบริเวณบันไดขึ้นไปยังชั้น 3 มีช่องแสงด้านบนตรงกับ Façade Tree เปิดรับแสงธรรมชาติ ลม อากาศ และความผ่อนคลายจากพื้นที่สีเขียวสู่ตัวบ้านได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน

ทำให้บริเวณบันไดสว่างได้ทั้งวันโดยไม่ต้องเปิดไฟบ้านเลย

ชั้น 3 ก่อนเข้าห้อง เป็นพื้นที่ติดกับ Triple Volume และมองเห็น Tree Court กลางบ้าน

Sky Roof ช่วยดึงแสงให้เข้ามาในทุกส่วนของบ้าน

พื้นที่ของลิฟต์และ Pocket Garden

ติดกับลิฟท์เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ก่อนเข้าห้องนอน

เป็นพื้นที่โล่งๆ และมีช่องแสงอยู่ด้านข้าง ปรับฟังก์ชันให้เป็นมุมโปรดได้ตามใจชอบ

มองเห็นช่องแสงของ Master Bathroom ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

Tree Court และ Sky Roof

Master Bedroom พื้นที่กว้าง พร้อมผนังแบบกระจกทั้งแถบ ให้ห้องสว่างและมองวิวได้กว้างไกล

เพดานห้องสูง 3.2 ม. ปูพื้นด้วย Engineering Wood

ตอนเช้าๆ เปิดม่านรับแสงทำให้รู้สึกสดชื่นหลังจากตื่นนอน และยังได้พื้นที่สีเขียวจาก Façade Tree หน้าบ้านอีกด้วย

มีระเบียงเล็กๆ อยู่มุมนี้ เปิดออกรับลมธรรมชาติ หรือไปยืนจิบกาแฟดูวิวด้านนอกได้เลย

ห้องอเนกประสงค์ที่ใช้เป็นห้องดูหนัง ห้องทำงาน และห้องอ่านหนังสือได้เลย

ช่องแสงระหว่างทางเดินไปยัง Master Bathroom

ทางเดินตรงนี้ติดหน้าต่างบานกระทุ้งที่ติดกับพื้นที่ Triple Volume

Master Bathroom มีช่องแสงด้านใน

แยกส่วน Walk-in Closet แบบ His & Her ที่ทุกคนจะได้พื้นที่ห้องแต่งตัวเท่าๆ กัน

Master Bathroom แยกส่วนแห้งและเปียกแบบเป็นสัดส่วน ติดตั้ง Shower Screen ให้ทั้งในห้องอาบน้ำและห้องน้ำ ห้องอาบน้ำมี Rain Shower และ Hand Shower พร้อมโถสุขภัณฑ์แบบ Auto Washlet ให้อ่างล้างหน้า His & Her เช่นกัน

อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว พร้อมให้ก๊อกน้ำเย็นและน้ำร้อน

ช่องแสงด้านในช่วยให้ห้องสว่างมากขึ้น และยังสามารถเปิดระบายอากาศได้อีกด้วย

สรุปจุดเด่น Noble TERRA Rama 9 – Ekamai

เป็น 1 ใน 2 โครงการ Ultra Luxury Home ในซีรีส์ “The Rare Selection by Noble” ทำเลเยี่ยมใจกลางพระราม 9 เชื่อมต่อถนนเลียบด่วน เอกมัย – รามอินทรา ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน และรถไฟฟ้าถึง 3 สาย เป็นส่วนตัวที่สุดสำหรับโครงการเปิดใหม่ย่านพระราม 9 ในปีนี้ เพียง 29 หลัง บนที่ดิน 8 ไร่ รายล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติถึง 7 โรงเรียน พร้อมห้าง และ Lifestyle Mall มากมาย ให้ความสำคัญกับการนำเอาองค์ประกอบของธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัย บนแนวคิด “Oneness with Nature” ออกแบบโดย ANONYM บริษัทสถาปนิกซึ่งมีประสบการณ์ในการออกแบบบ้านแบบ Private Residence หลายแห่ง สร้างความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติ สเปซ และผู้อยู่อาศัย ผ่านโถงต้นไม้กลางบ้าน ต่อเนื่อง 3 ชั้น สูง 11 เมตร เน้นการอยู่อาศัยแบบพึ่งพาตัวเอง ด้วยการออกแบบให้ใช้พลังงานน้อยลง จาก Sky Roof และช่องแสงขนาดใหญ่ Private Sanctuary Clubhouse ขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วย ฟิตเนส สระว่ายน้ำพร้อมผนังน้ำตก ที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย มีแบบบ้าน 3 ชั้นให้เลือกถึง 4 แบบ ค่อนข้างเยอะหากเทียบกับโครงการระดับ Ultra Luxury แห่งอื่นๆ มาพร้อมลิฟต์, Home Automation, และระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ พร้อมถ่ายเทความร้อนภายในบ้าน

Noble TERRA Rama 9 – Ekamai

โครงการ Ultra Luxury Home ในซีรีส์ “The Rare Selection by Noble”

พบความสงบใจกลางพระราม 9 –เอกมัย กับบ้านเดี่ยวคอลเลกชันใหม่เพียง 29 ครอบครัว เริ่ม 39 ล้านบาท*

นัดหมายชมบ้านตัวอย่างที่ Line @noblerarity

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ https://bit.ly/3Pc4680