รีวิว Noble Around Sukhumvit 33 ให้คุณได้ใช้ชีวิตไม่เคยซ้ำ ท่ามกลางย่านไลฟ์สไตล์ที่ดีที่สุดของ Mid Sukhumvit ในราคาที่น่าช้อน! 

ถ้านึกถึงย่านพร้อมพงษ์ สิ่งหนึ่งที่เป็น Top of Mind ของคนทั่วไปและอาจจะเป็น Generic name อีกชื่อของย่านนี้ก็คือ The Em District ซึ่งก็แน่นอนว่ามาจากการที่ย่านนี้ได้ถูกเติมเต็มศักยภาพให้เป็นย่าน lifestyle ระดับโลกมากยิ่งขึ้นด้วย โครงการ The Em District อันประกอบด้วย Emporium, Emquartier และในอนาคตกับ Emsphere รวมทั้งเป็นที่ตั้งของแหล่งธุรกิจ โรงเรียน โรงพยาบาลชั้นนำ โรงแรมชั้นนำระดับ 5 ดาว อาทิ Carlton Hotel Bangkok Sukhumvit โรงแรมสัญชาติสิงคโปร์, HOTEL FORZA Sukhumvit Bangkok จากกลุ่ม FJ group ประเทศญี่ปุ่น, Compass Sky View Hotel Sukhumvit 24 รวมทั้งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่แห่งใหม่หลายแห่ง ทั้งภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ที่เป็นอาคารสำนักงานเกรด A, The Metropolis, New Head Office UOB อาคารสำนักงานใหญ่ของ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ที่ล้วนแต่เลือกมาตั้งอยู่ในย่านนี้ และยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างอุทยานเบญจสิริ ที่ทำให้ย่านนี้มีความแตกต่างที่ชัดเจนจากทองหล่อจนกลายเป็นย่านที่คราคร่ำไปด้วย traffic ของผู้คนที่หมุนเวียนอยู่ในพื้นที่นี้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งทำงาน พักผ่อน shopping และพักอาศัย จนทำให้ราคาที่ดิน และราคาเฉลี่ยของคอนโดบนทำเลนี้ติดอันดับราคาสูงแห่งหนึ่งของประเทศ โดยราคาเฉลี่ยของคอนโดใหม่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์มีราคาขายอยู่ที่ 300,000 บาทต่อตารางเมตร ถ้าเป็นโครงการที่ไกลออกไปก็ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร และโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ไกลเกิน 2 กิโลเมตรขึ้นไป โดยอยู่ในซอยย่อยก็จะมีราคาขายต่ำกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร จึงถือว่าย่านพร้อมพงษ์เป็นที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ใจกลางเมืองที่ได้รับความนิยมจากคนไทยและชาวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง

และแน่นอนว่าด้วยการที่เป็นทำเลที่มีศักยภาพขนาดนี้ เจ้าแห่งคอนโดใจกลางเมืองอย่าง Noble ต้องไม่พลาดในการพัฒนาโครงการในย่านนี้ ซึ่งเมื่อประมาณเกือบ 4 ปีที่แล้ว Noble ได้มีการเปิดตัวแบรนด์คอนโดใหม่ ภายใต้ชื่อ Noble Around โดยเปิดที่ สุขุมวิท 33 ภายใต้ชื่อ Noble Around Sukhumvit 33 (โนเบิล อราวน์ สุขุมวิท 33) เป็นที่แรก ซึ่งวันนี้โครงการได้สร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่เรียบร้อยแล้ว ทางทีมงาน Propholic เลยอาสาพาคุณผู้อ่านไปชมโครงการด้วยกันเลยครับ

Noble Around Sukhumvit 33 ตั้งอยู่บนสุขุมวิท 33 อยู่ติดกับที่ดินของโครงการ Noble BE33 ซึ่งซอยสุขุมวิท 33 อยู่ใกล้ย่าน The EM District และสถานีพร้อมพงษ์ เพียง 550 เมตร สองข้างทางเดินในซอย 33 มีฟุทบาทที่เดินได้จริง ทั้งสองฝั่งถนนเต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารทั้งคุณภาพดีราคาแพงไปจนถึง street food บ้านๆรสชาติจัดจ้านถึงใจ รายล้อมด้วย ห้าง ร้าน supermarket ที่ครบครัน เป็นรูปแบบการใช้ชีวิตกลางเมืองในฝันของใครหลายๆคน

ตั้งแต่ปากซอยไปจนถึงท้ายซอย ถ้าไปทางปากซอยจะเป็นถนนสุขุมวิท ถ้าไปทางท้ายซอยจะออกไปยังซอยสุขุมวิท 31 ที่เชื่อมต่อไปได้ถึงอโศก และเพชรบุรี ทำเลสุขุมวิท 33 จึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เพราะมีทางเลือกในการเดินทางหลากหลาย เป็นทั้งซอยที่เชื่อมกับซอยสุขุมวิท 31 39 และ 49 ที่ทะลุถนนทองหล่อ หรือ ซอยทองหล่อ 13 ได้

สำหรับคนที่ทำงานฝั่งเพชรบุรี ก็สามารถใช้ซอยเพชรบุรี 38/1 เชื่อมเข้าสู่โครงการได้เช่นกัน

และทางหลักอีกทางก็คือเส้นสุขุมวิท ที่เข้าออกได้จาก สุขุมวิท 33 ไม่ว่าจะทางรถยนต์ หรือออกไปสถานีรถไฟฟ้าบริเวณหน้าปากซอย ที่สามารถเปลี่ยนไปรถไฟฟ้าใต้ดินเพียง 1 สถานี

ตัวโครงการ Noble Around Sukhumvit 33 ตั้งอยู่บนที่ดิน 1-2-95.8 ไร่ เป็นอาคารที่พักอาศัย จำนวน 1 อาคาร รวมจำนวนห้องพักอาศัย 274 ยูนิต สูง 25 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 3 ชั้น ด้านหน้าอาคารเป็นฝั่ง ทิศตะวันออก ติดซอยสุขุมวิท 33 ได้วิวด้านทองหล่อ

ตัวอาคารแบ่งเป็นพื้นที่จอดรถที่ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น และบนอาคาร 2 ชั้น คือชั้น 2-3 รวม 53% (ไม่รวมซ้อนคัน) ส่วนที่ชั้น 1 พื้นที่หลักเป็น Lobby สำนักงานนิติบุคคล  และห้องงานระบบต่างๆ

พร้อมมี EV ชาร์จไว้รองรับ

ที่พักอาศัย เริ่มที่ชั้น 4-24

โดยที่ชั้น 4-20 Floor plan จะเป็นรูปตัว L ล้อมคอร์ทสวนที่ชั้น 4 และมีสวนแทรกระหว่างชั้น ที่ชั้น 14

ส่วนชั้น 21-24  Floor plan เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า รูปแบบมาตรฐาน แต่มีพื้นที่สวนที่ระหว่างชั้น 21 – 22

และพื้นที่ส่วนกลางหลักอย่าง Sky Pool และ Maroon Gym ที่ชั้น 25

จาก Floor plan จะเห็นว่ามีพื้นที่สวนที่เป็นลูกเล่นแทรกอยู่ในแต่ละชั้น เพราะ Noble Around Sukhumvit 33 มากับ Concept สวนป่าเขา หรือ Forest on the hill ที่ใช้การออกแบบแบบเล่นระดับของสวนที่แตกต่างกันในแต่ละชั้น ที่จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงมุมมองของเมืองที่แตกต่างไปจากเดิม จากการมีพื้นที่สีเขียวหลากหลายระดับ ทั้งที่ชั้น 4,14,22 และ 25 รวมพื้นที่สีเขียวในโครงการที่มีมากกว่า 1,000 ตารางเมตรแตกต่างจากโครงการโนเบิลที่อื่นๆที่เรามักไม่ได้เห็นสวนแนว Vertical แต่จะเป็นแนวแผ่เป็น courtyard อยู่ที่ชั้น Ground หรือบนดาดฟ้ามากกว่า โดยมีลูกเล่นการออกแบบที่แตกต่างกัน

อย่างที่ชั้น 4 เป็นสวนที่หันสู่ด้านหน้าโครงการ ถูกออกแบบเป็น Sunken Lounge  ที่โอบล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียว

ที่ต้องเดินผ่านสวนและร่มไม้ เพื่อเข้าไปใช้งาน

และยังมีพื้นที่นั่งเล่นริมสวน ที่มี background เป็นหินอ่อน Rosso Levanto สีแดง ลายขาว ที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการ

และใกล้กันเป็น Laundry Room สวนกลางไว้บริการ ที่รองรับระบบการชำระแบบออนไลน์

ที่ชั้น 14 มี Party Hill

สวนขั้นบันได out door ขนาดใหญ่ ที่มีสวนหญ้า ต้นไม้ใหญ่ ผักสวนครัว และมุมที่นั่งแทรกอยู่ทั่วทั้งพื้นที่

พร้อมพื้นที่นั่งเล่นกึ่ง out door

Party Hill ลดระดับ step สู่ Party Lounge ที่ภายในมีพื้นที่ชุดโซฟานั่งเล่นถึง 2 ชุดใหญ่

พร้อมมุม pantry หิน Arabescato สีขาวที่สามารถใช้เป็นพื้นที่ทำอาหาร ทำครัว ในรูปแบบ Co-Kitchen และนั่งทานในแบบ Fine Dining ได้

และนั่งทานในวันพิเศษกับคนพิเศษได้ ท่ามกลางวิวเมืองและวิวสวนโอบล้อม

และมุมโต๊ะพูลที่พร้อมให้คุณได้ปาร์ตี้กับเพื่อนได้ตลอดเวลา

ห้องน้ำที่ Party Lounge ตกแต่งพร้อมรับแขกด้วย Spider Green หินสีดำทั้งพื้นและผนัง

สวนที่ชั้น 22 เป็นสวน Napping Valley พร้อมโซฟาและเปลที่ให้คุณได้เอกเขนกทิ้งตัวนอนท่ามกลางร่มไม้ใหญ่

ซึ่งความพิเศษของสวนชั้นนี้คือสามารถออกได้โดยตรงจากชั้น 22 และยังสามารถเดินขึ้นบันได out door มาจากชั้น 21 ได้ด้วย

และ facilities ที่ชั้น 25

ที่เปิดต้อนรับด้วย sky pool ยาว 21 เมตร ที่ทอดตัวยาวมีฉากหลังเป็นวิวอาคารสูง

ปลายสระว่ายน้ำเป็น Maroon Gym ที่มาพร้อมกับ Fitness ของ MATRIX ครบครันทุกการออกกำลังกาย กับวิวสระว่ายน้ำ และวิวเมือง

ติดกันเป็น Restroom แยกชายหญิงที่มี Steam room ไว้ให้บริการ

และที่ชั้นนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นหลบมุมอาคารไว้ให้ได้นั่งเล่นรับลมชมวิวอีกด้วย

การออกแบบอาคารโครงการใช้แนวคิด Contrast is The New Exquisiteness คือการออกแบบที่เน้นโทนสีที่ตัดกัน ด้วยโทนสีน้ำตาล สีขาว รวมทั้งการใช้วัสดุที่ทำให้เกิดสีสันที่แตกต่าง เช่น หินอ่อนสีแดง และ Metal สีทอง ที่ทำให้เกิดจังหวะและมิติ ที่เป็น Style เฉพาะตัว กับหินอ่อน Rosso Levanto Import from Italy ที่ใช้กับพื้น Lobby และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ หิน Arabescato สีขาว Import from Italy ที่นำมาใช้กับเคาท์เตอร์ในพื้นที่ส่วนกลาง รวมทั้ง Spider Green หินสีดำ Import from Turkey ในพื้นที่ห้องน้ำของชั้น facilities ที่ได้กล่าวไปแล้ว

อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยที่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน กับระบบ Access Control ที่ลดการสัมผัส ตั้งแต่ทางเข้าโครงการ อย่าง Automatic gate barrier

การเข้าออกจากพื้นที่ส่วนกลาง ด้วยระบบ Face scan ที่มีการวัดอุณหภูมิร่วมด้วย

ปุ่มลิฟท์ที่ไม่ต้องสัมผัส

ห้อง Mail room ที่มาพร้อมตู้รับฝากพัสดุ และ Smart Mail Box

รวมถึงระบบ Digital door lock ที่ประตูห้องทุกยูนิต และระบบ Home Automation พร้อมสวิตซ์ไฟจาก HDL-ON ที่รองรับการเปิดปิดไฟ แอร์ และม่าน

และงานตกแต่งที่คัดสรร นำเข้ามาเพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ อาทิ โคมไฟ Vibia Flamingo 1530 Import from Spain ที่พื้นที่ Lobby เป็นต้น

รวมทั้งมีรถบริการรับส่งสถานีรถไฟฟ้า

Noble Around Sukhumvit 33 สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ แต่ยังพอมีห้องเหลือขายให้จับจองเป็นเจ้าของอยู่ในบางขนาด โดยโครงการตกแต่งห้องจริงให้ดูเป็นตัวอย่าง 5 Type โดยขายแบบ Fully Fitted กับราคาเฉลี่ยเพียง 170,000 /ตารางเมตร

โดยทุกห้องได้ครัวและห้องน้ำแบบห้องตัวอย่าง ส่วนภายในห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสี

ห้องแรกตัวอย่างแรกที่ชั้น 8 ห้อง 1 Bedroom(S) ขนาด 27.34 Sq.m. ที่มีโปรโมชั่นเริ่มต้นเพียง 4 ล้านบาท

ห้องนี้โครงการตกแต่งภายใต้ Concept : Japanese Modern การออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นที่มีความเรียบง่าย ใช้โทนสีขาวครีมเป็นสีหลัก แทรกองค์ประกอบหลักของงานออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นด้วยระแนงไม้ เพิ่มความ Modern ด้วยวัสดุกระจก, หินอ่อนและผ้าบุ ให้ความรู้สึกโก้หรูและยังเข้ากับโทนสีของไม้ได้เป็นอย่างดี

โครงการ ให้ประตู ลายไม้บานสูง 2.4 m

พร้อมระบบล็อกแบบ Electronic Door Lock

ภายในห้อง พื้นห้องปูด้วยลามิเนตผิวสัมผัสและโทนสีแบบไม้จริง ตั้งแต่บริเวณหน้าประตูยาวไปจรดห้องนอน ด้วยโทนสีไม้ที่ดูสว่างตา ประกอบกับปลายสุดของห้องเป็นประตูกระจกบานสูงถึง 2.90 เมตร เปิดรับแสง และยังได้ความสูงของห้องกว่า 2.75 m มาช่วยเสริม ทำให้ห้อง 27 Sq.m. ดูกว้างกว่าขนาดจริงมากขึ้นไปอีก

เมื่อเข้าสู่ภายในห้อง ด้านขวามือเป็นชุดครัว full height Built-in ติดประตูทางเข้า เป็นตู้วางรองเท้า พร้อมเว้นช่องไว้สำหรับวางตู้เย็น

เคาท์เตอร์ครัว เป็นท็อปหินสังเคราะห์สีขาว มีอ่างล้างจาน และ เตาไฟฟ้า 2 หัว ฝังเคาท์เตอร์ ด้านบนเป็นเครื่องดูดควันของ Franke พร้อมช่องวางไมโครเวฟ ด้านล่างเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า และชั้นเก็บของ อุปกรณ์ทำครัว

ฝั่งตรงข้ามเป็นผนังทึบเข้ามุม พอให้วางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2-3 ที่นั่ง

ถัดจากห้องครัว เป็นประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอนเปิดได้ทั้งสองฝั่ง กั้นครัวและพื้นที่ห้องนอน

ภายในพื้นที่ห้องนอน กว้างพอให้วางเตียง Queen Size พร้อมโต๊ะหัวเตียง ติดริมประตูบานเลื่อนออกระเบียง

และสามารถวางชั้นวางทีวี และโต๊ะโซฟาตัวเล็ก ไว้ที่บริเวณปลายเตียง

ติดกับหัวเตียงนอน เป็นทางเข้าห้องน้ำ ที่มีตู้เสื้อผ้า Built-in สูงจรดเพดาน ยาวขนานกำแพงไปจรดประตูห้องน้ำ หน้าบานกระจกใส

ภายในห้องน้ำ ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคลายหินทั้งพื้นและผนัง  แบ่งส่วนแห้งติดประตูทางเข้า เป็นโถสุขภัณฑ์ลอยตัว และอ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมกระจกเต็มบาน

พื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยกระจกประตูบานเปิด ภายในโครงการให้ Rain Shower และ Hand Shower ของ Kohler

ที่ระเบียง เป็นสไตล์ Noble คือ ระเบียงแคบ แต่ยาวเต็มความกว้างห้อง ปูด้วยกระเบื้องโมเสคสีดำ แบ่งพื้นที่เป็นที่วาง compressor air พร้อมกริลกั้นเพื่อความสวยงาม และแบ่งพื้นที่การใช้งาน

ระเบียงของห้องหันไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นวิวเปิดโล่ง มีพุ่มไม้สีเขียวให้เห็นแทรกอยู่ทั้งพื้นที่ มี Skyline ของเมืองเป็นฉากหลัง

ห้องนี้ขนาดกะทัดรัดแต่ฟังก์ชั่นใช้งานครบครัน เหมาะสำหรับ ใช้เป็นห้องพักผ่อนใจกลางเมืองที่ใกล้แหล่งงาน ใกล้สถานศึกษา ของคนในใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในเมือง

ห้องที่ 2  : 1 Bedroom M 35.30 Sq.m. ชั้น 17 ซึ่งเป็นขนาดที่ขายดีมาก แต่ผู้ที่สนใจก็ยังมีตัวเลือกใกล้เคียงกันเป็นขนาด 1 Bed S กับ 1 Bed L ให้ได้เลือกเช่นกัน

ห้องนี้ตกแต่งภายใต้ Concept : Classic Timeless

ผู้ออกแบบได้แรงบรรดาลใจมาจากสไตล์การออกแบบในยุค Mid Century ผสมผสานกับความ Modern ในปัจจุบัน

ภาพรวมของห้องจึงมีความเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วย Detail ต่าง ๆ ที่ผู้ออกแบบได้ใส่ใจทั้งในส่วน Material รวมถึง Lighting ในส่วนต่าง ๆ

โดยในห้องนี้ได้ใช้โทนสี ขาว-ดำเทาเป็นหลักในการออกแบบ

ใช้กระจกเป็นตัวช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นแม้จะใช้โทนสีเข้มก็ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด

เพิ่ม Gimmick ด้วยโคมไฟ

และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวสไตล์ Mid Century ให้มีกลิ่นอายในยุค 1950s แต่ยังคงความทันสมัยตรงกับแนวความคิด Classic Timeless

ห้องที่สาม 1 Bedroom(L) ขนาด 45.85 Sq.m.

ห้องนี้ตกแต่งภายใต้ Concept : Classic Timeless แบบในยุค Mid Century ผสมผสานกับความ Modern ที่มีความเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วย Detail ต่างๆ ใช้สี Earth Tone น้ำตาล-ครีมเป็นหลักในการออกแบบเพื่อให้ห้องมีความรู้สึก Warm & Cozy

เข้ามาภายในห้อง มีพื้นที่เว้นระยะด้านหน้าทางเข้า เป็น space ที่สามารถ Built-in ที่วางรองเท้า และที่เก็บของ หรือเป็นพื้นที่ welcome space ของห้อง

ภายในยูนิต แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ  พื้นที่ครัวและห้องนั่งเล่น ด้านซ้ายถัดจากประตูทางเข้า และห้องน้ำห้องนอนที่ด้านขวาของห้อง

บริเวณครัว โครงการให้ครัวแบบ full-height Built-in ยาวเต็มผนัง

มีเว้นที่วางตู้เย็น ถัดมาเป็นเคาท์เตอร์ครัว ท็อปหินสังเคราะห์สีขาว มีอ่างล้างจาน และ เตาไฟฟ้า 2 หัว ฝังเคาท์เตอร์ ด้านบนเป็นเครื่องดูดควันของ Franke เว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า

ด้านหน้าเคาท์เตอร์ครัว สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 ที่ได้แบบมีพื้นที่ทางเดินเหลือไว้ยืนทำครัว และเดินเข้าออก

ถัดจากครัวเป็นพื้นที่นั่งเล่นติดประตูออกระเบียงบานใหญ่

พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ พร้อมโต๊ะกลางตัวเล็ก และชั้นวางทีวีที่ผนังฝั่งตรงข้าม ซึ่งถ้าติดทีวีที่ฝาผนัง ก็จะทำให้มีพื้นที่ใช้งานเพิ่มมากขึ้น

ติดชั้นวางทีวี เป็นทางเข้าห้องนอน

พื้นที่ส่วนของห้องนอนใหญ่ แบ่งเป็นพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำที่ด้านขวาของทางเข้า โครงการให้ตู้เสื้อผ้า Full-height Built-in ติดผนัง

ภายในห้องน้ำ แบ่งส่วนแห้งติดประตูทางเข้า เป็นโถสุขภัณฑ์ลอยตัว และอ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมกระจกเต็มบาน และได้หน้าต่างระบายอากาศ พื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยกระจกประตูบานเปิด ภายในโครงการให้ Rain Shower และ Hand Shower ของ Kohler

ด้านซ้ายของทางเข้าห้องนอน กว้างพอให้วางเตียง King size พร้อมโต๊ะหัวเตียง ชั้นวางทีวีปลายเตียง

และสามารถวางโต๊ะทำงานตัวเล็กไว้นั่งคิดงานได้ หรือจริง ๆ ใครมีเสื้อผ้าเยอะ ยังสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้อีกมุมหนึ่งได้เลย เพราะพื้นที่ห้องนอนใหญ่จริงๆ

ห้องนี้เหมาะสำหรับ 1-2 คน มีการแบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วน ขนาดห้องของ living และห้องนอนที่มาพื้นที่การใช้งานเท่าๆ กัน และที่สำคัญเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาอย่างตู้เสื้อผ้า น่าจะเหมาะสำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ เพราะเป็นห้องที่ได้ตู้เสื้อผ้าเยอะมากถึง 2 ตู้เต็มแนวผนัง และห้องนี้หันไปทางทิศตะวันออกด้านหน้าโครงการ

2 Bedroom 55.69 Sq.m. ที่ชั้น 17

ห้องนี้ตกแต่งด้วย Concept : Classic Timeless ในยุค Mid Century ผสมผสานกับความ Modern เน้นความเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วย Detail ใช้สี Earth Tone ในการออกแบบ เพิ่มเส้นสายเลขาคณิตในส่วนผนังตกแต่งสไตล์ Art Deco และ เพิ่ม Gimmick ด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยและของตกแต่งตัวสไตล์ Mid Century

ห้องนี้เปิดรับด้วยห้อง Living ติดริมระเบียงหน้ากว้าง

ด้านซ้ายของทางเข้าเป็นชุดครัว full height Built-in แยกที่วางตู้เย็นไว้ที่หลังประตู

ที่เคาท์เตอร์ครัว เป็นท็อปหินสังเคราะห์สีขาว มีอ่างล้างจาน และ เตาไฟฟ้า 2 หัว ฝังเคาท์เตอร์ ด้านบนเป็นเครื่องดูดควันของ Franke พร้อมช่องวางไมโครเวฟ ด้านล่างเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า และชั้นเก็บของ อุปกรณ์ทำครัว

ถัดจากครัวเป็นพื้นที่ติดระเบียง สามารถวางชุดโซฟา พร้อมโต๊ะอาหารติดริมระเบียง

ด้านในสุดของยูนิตเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ห้องนอนแรกเป็นห้องนอนเล็กด้านหลังครัว มีห้องน้ำแยก

ภายในห้องน้ำ แบ่งส่วนแห้งติดประตูทางเข้า เป็นโถสุขภัณฑ์ลอยตัว และอ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมกระจกเต็มบาน

พื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยกระจกประตูบานเปิด ภายในโครงการให้ Rain Shower และ Hand Shower ของ Kohler

ห้องนอนเล็ก สามารถวางเตียง Queen size ติดริมระเบียง

ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีติดผนังได้

ที่หัวเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าติดผนัง

ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว

ด้านขวาติดระเบียงเป็นที่วางเตียง สามารถวางเตียง Queen size พร้อมโต๊ะหัวเตียง

และที่ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีติดผนังได้

ที่ผนังหัวเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า

ติดกันเป็นห้องน้ำ ภายในห้องน้ำ แบ่งส่วนแห้งติดประตูทางเข้า เป็นโถสุขภัณฑ์ลอยตัว และอ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมกระจกเต็มบาน

พื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยกระจกประตูบานเปิด ภายในโครงการให้ Rain Shower และ Hand Shower ของ Kohler

ห้องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบพื้นที่ living หน้ากว้าง ติดหน้าต่าง มีพื้นที่ห้องนอนสำรองสำหรับสมาชิกในครอบครัวในอนาคต หรือสามารถปรับเปลี่ยนห้องนอนเล็กไปเป็นห้องทำงาน หรือห้องฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆ ได้

ห้องนี้หันไปทางทิศเหนือ วิวด้านถนนเพชรบุรี

2 Bedroom 60.64 Sq.m.

2 ห้องนอน ห้องสุดทางเดิน ที่มากับห้อง living ทรงลึก แบ่งพื้นที่ห้องนอนทั้งสองห้องที่ปีกซ้ายของยูนิตทั้งสองห้อง

ห้องนี้ตกแต่งภายใต้ Concept : Monochromatic Modern ใช้โทนสี ขาว-ดำ เป็นหลักในการออกแบบ แทรกด้วยกระจกและวัสดุปิดผิวลายไม้ ตกแต่งด้วยเส้นตั้งผนังลอน และ เพิ่ม Gimmick ด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวสไตล์ Art Deco

ชุดครัวที่ด้านซ้ายของทางเข้า เป็นครัว full height Built-in เว้นช่องวางตู้เย็นไว้ติดประตู

ที่เคาท์เตอร์ครัว เป็นครัว L-shape ท็อปหินสังเคราะห์สีขาว มีอ่างล้างจาน และ เตาไฟฟ้า 2 หัว ฝังเคาท์เตอร์ ด้านบนเป็นเครื่องดูดควันของ Franke พร้อมช่องวางไมโครเวฟ ด้านล่างเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า และชั้นเก็บของ อุปกรณ์ทำครัว

ผนังฝั่งตรงข้ามครัว สามารถ built-in ชั้นวางของ ชั้นวางรองเท้า และตั้งโต๊ะอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งได้

ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ปลายยูนิต ติดริมระเบียง สามารถตั้งชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี เป็นมุมเอกเขนก เอนหลังพักผ่อนของห้อง

ด้านซ้ายของยูนิตเป็นห้องนอนทั้งสองห้อง ด้านซ้ายของทางเดินเป็นห้องน้ำแยก

ติดกันเป็นห้องนอนเล็ก ขนาดกะทัดรัด สามารถวางเตียง Queen size ได้ โดยห้องตัวอย่างโครงการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เตียงแบบยกเก็บได้และปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานได้แบบมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

ห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำในตัว มีพื้นที่ทางเข้าห้องน้ำพร้อมตู้เสื้อผ้า ที่ด้านขวาของทางเข้า

ห้องน้ำมีหน้าต่างระบายอากาศ และเปิดรับแสงส่องถึงทั่วทั้งพื้นที่ห้องน้ำ

ภายในแบ่งส่วนแห้งติดประตูทางเข้า เป็นโถสุขภัณฑ์ลอยตัว และอ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมกระจกเต็มบาน

พื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยกระจกประตูบานเปิด ภายในโครงการให้ Rain Shower และ Hand Shower ของ Kohler

ด้านซ้ายมีโถงทางเดินไม่ยาวมากแยกพื้นที่สู่พื้นที่พักผ่อน

ที่สามารถวางเตียง Queen size พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้

ซึ่งห้องนอนใหญ่จะได้ตู้เสื้อผ้าอีก 1 ตู้ที่ผนังติดที่วางเตียง

ห้องนี้เหมาะสำหรับครอบครัว  ที่มีพื้นที่ห้องไว้รองรับการใช้งานในอนาคต เน้นสัดส่วนการใช้งานทุกๆ ห้องเท่าๆ กัน แต่ได้วิว มุมมองที่แตกต่างกันระหว่างห้องนอนที่หันไปทางทิศเหนือ และห้องlivingหันไปทางทิศตะวันออก

จากห้องทั้ง 5 Type จะเห็นได้ว่าที่นี่มีรูปแบบห้องที่ค่อนข้าง Compact แตกต่างจากคอนโดส่วนใหญ่ในย่านนี้ที่ห้องเริ่มต้นบางแห่งก็เกิน 45 ตารางเมตร ไปจนถึงห้องขนาดใหญ่หลายร้อยตารางเมตรสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ แต่ที่นี่มีห้องขนาดเล็กให้เลือกและตอนนี้มีการปรับราคาลงสำหรับยูนิตล๊อตสุดท้ายที่เฉลี่ยตารางเมตรละ 170,000 นับว่าเป็นราคาที่ดีที่สุดของตลาดคอนโดในย่านพร้อมพงษ์ และพื้นที่ส่วนกลางก็นับว่าหลากหลาย ค่อนข้างเยอะถ้าเทียบกับจำนวนยูนิต โดยเฉพาะสวนเล่นระดับ outdoor ให้คุณได้ใกล้ชิดธรรมชาติที่มักไม่ได้เห็นจากคอนโดทั่วไปในย่านนี้้ ที่มักจะเน้นพวก Sky Lounge หรือพื้นที่สันทนาการภายในร่มมากกว่า ทำให้คุณได้เลือกใช้ชีวิตกลางเมืองแบบ Multicultural ไม่ซ้ำสไตล์ ที่ Noble Around Sukhumvit 33

Noble Around Sukhumvit 33 น่าซื้อแค่ไหน?

“ทำไมเธอถึงเลือกมาอยู่ที่นี่ล่ะ ไหนบอกว่ามองหาคอนโดใกล้ออฟฟิศแถวทองหล่ออยู่?” นี่คือประโยคแรกที่ผมถามเพื่อนสนิทมากๆๆของผมที่โครงการ Noble Around Sukhumvit 33 หลังจากที่บังเอิญรู้ว่าเค้าอยู่ที่คอนโดแห่งนี้ จากการที่เค้าไลน์มาถามผมว่ามาที่นี่ทำไมหรือ เพราะเห็นว่าผมโพสอะไรบางอย่างเกี่ยวกับโครงการนี้ลงในหน้าเฟสบุ๊คของผมเอง

“เธอชั้นชอบที่นี่มากเลยว่ะ” เธอคนนั้นตอบพร้อมน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้น และยินดีที่จะ Proudly Present ถึงความประทับใจในตัวคอนโดใหม่ที่เธอเพิ่งเข้ามาอยู่ได้ไม่กี่เดือน ประหนึ่งสาวแรกรุ่นผู้ไม่เคยสัมผัสและหลงใหลในมนต์เสน่ห์แห่งแสงสี ของย่านไลฟ์สไตล์อย่างพร้อมพงษ์ – ทองหล่อมาก่อนเลยในชีวิต ทั้งๆที่จริงๆเล้วเธอคนนี้คือ Lifestyle Seeker ตัวแม่ ที่ตำแหน่งหน้าที่การงานในปัจจุบันใหญ่โตถึงขนาดเป็น Country Manager ของบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติแห่งหนึ่งที่มีสำนักงานประจำประเทศไทยอยู่ที่ตึก T-ONE ตรงปากซอยทองหล่อ และแน่นอนว่าลำพังรายได้ก็เธอก็เพียงพอที่จะซื้อห้องเพนท์เฮ้าส์ของคอนโดหรูใจกลางทองหล่อได้อย่างสบายเลย แต่ทำไมเพื่อนผมคนนี้ถึงได้ลุ่มหลงในตัวโครงการนี้ประดุจดั่งต้องมนต์สะกด จนวันๆแทบจะไม่อยากออกจากคอนโดไปนั่งทำงานที่ออฟฟิศเลย… และด้านล่างนี้คือเหตุผลหลักในการตัดสินใจของเธอครับ มาดูกันว่ามันตรงกับใจของใครหลายๆคนหรือเปล่า

“เพิ่งย้ายบ้านและรู้สึกว่าอยู่ไกลจากที่ทำงานมาก ไม่อยากเสียเวลาในการเดินทาง ต้องทนรถติดอยู่บนถนนเป็นเวลานาน เลยมองหาคอนโดที่อยู่ใกล้ที่ทำงานย่านทองหล่อ แต่ก็ไม่อยากอยู่ย่านทองหล่อ เพราะรู้สึกว่าวุ่นวายและรถติดตลอดเวลา ไปดูคอนโดอยู่หลายที่แต่ก็ยังไม่ถูกใจบางที่เข้าไปก็รู้สึกอึดอัดทึบ และทางเข้าออกมีทางเลือกไม่มาก

Noble Around Sukhumvit 33 ให้ความรู้สึกโปร่งตั้งแต่เดินเข้าตึกมา ล้อบบี้มีความสูงโปร่งโล่ง ชอบส่วนกลางชั้น 14 ที่มี Party Lounge ห้องอเนกประสงค์กึ่ง indoor กึ่ง outdoor ผสานระหว่าง Living-Diningและ Library ที่สามารถเชื่อมไปที่ Step Garden ด้านนอกได้ ไม่รู้สึกว่าอยู่คอนโดเลย เหมือนอยู่บ้านมากกว่า ยิ่งในช่วงที่ต้อง WFH ก็ทำให้รู้สึกว่าไม่น่าเบื่อ

ห้องที่เลือกเป็นขนาดกลางประมาณ 44 ตรม. ตอนแรกคิดว่าจะเล็กไปไหม ไหวหรือเปล่าเพราะว่าเราเป็นคนของเยอะเสื้อผ้าเยอะ แต่พอเข้าไปดูก็ไม่ได้รู้สึกว่าเล็ก แต่กลับรู้สึกว่าลงตัว ยิ่งพอได้อยู่จริงลงของแล้วกลับยังรู้สึกว่ามีพื้นที่เหลือ ที่ชอบที่สุดคือวิวจากหน้าต่างห้องไม่มีตึกสูงมาบังวิวเลยยิ่งรู้สึกว่าน่าอยู่ขึ้นไปอีก

เพิ่มเติมคือตรงนี้เป็น area ที่อยู่มีความสะดวกสบาย มีตัวเลือกของห้างและ supermarket ค่อนข้างเยอะ เหมือนจะอยู่ใจกลางสุขุมวิทแต่ที่ตั้งคอนโดกลับเงียบและไม่วุ่นวายเลย เหมือนเป็น hidden gem ของย่านนี้เลยทีเดียว”

แม้ว่าจะเป็นคำอธิบายที่ไม่ยาวนัก แต่ก็เชื่อว่าคนที่ได้เคยเข้ามาสัมผัสบรรยากาศของที่นี่ หรือคนที่ตัดสินใจอยู่ที่นี่ก็น่าจะนึกภาพออกว่าโครงการ Noble Around Sukhumvit 33 นั้น ได้มอบบรรยากาศการอยู่อาศัยที่ไม่เหมือนโครงการอื่นๆในย่านนี้ และแม้จะเทียบกับโครงการของโนเบิลด้วยกันเอง ที่นี่ก็ยังมอบความแปลกใหม่ด้วยพื้นที่สีเขียวที่เล่นระดับ อยู่ตามชั้นต่างๆ แตกต่างจากโครงการอื่นๆของโนเบิลที่เรามักจะเห็นพื้นที่สีเขียวเป็น Courtyard ขนาดใหญ่อยู่ที่บริเวณชั้น Ground ของโครงการ หรือไม่ก็บนชั้นดาดฟ้าซะเป็นส่วนใหญ่

ในความเห็นของผมมีอยู่ 2 ปัจจัยที่เป็นเครื่องการันตีถึงความเป็นโครงการที่ Unique และหายากในย่านนี้ครับ ประการแรกก็คือ จำนวนโครงการคอนโดที่อยู่ในสุขุมวิท 33 ครับ เพราะเมื่อครั้งที่โนเบิลเปิดตัวโครงการมาเมื่อราวๆสามปีกว่าๆ ตอนนั้นก็มีอยู่แค่ 2 โครงการในซอยนี้ คือ Noble BE33 และ Noble Around Sukhumvit 33 พอเมื่อเวลาผ่านไปที่สุขุมวิท 33 นี้ก็ยังคงมีโครงการอยู่แค่ 2 โครงการดังเดิม ต่างจากย่านพร้อมพงษ์อื่นๆอย่างซอย 39, 31 หรือ 24 ที่มีโครงการคอนโดแห่งใหม่เปิดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ โดยที่ทำเลซอย 33 ตรงนี้ก็สามารถเดินทางในแบบ Walk Around ไปทั่วทุกย่านในพร้อมพงษ์ – อโศก – ทองหล่อ ได้ในแบบไม่ยากเลย ที่สำคัญคือในอนาคตอันใกล้ก็จะมีโครงการ Emsphere มาตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามปากซอยเลยเพิ่ม Value ของซอยนี้ให้มากขึ้นไปอีก และอีกประการก็คือในเรื่องของขนาดห้อง และราคาโดยรวมต่อห้องที่ค่อนข้างออกมา Competitive แตกต่างจากคอนโดแห่งอื่นๆในย่านพร้อมพงษ์มากๆ ซึ่งก็แน่นอนว่า ทาง Noble ได้สร้างโครงการนี้มาเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ชอบทำเลในซอย 33 นี้ แต่อาจจะติดขัดด้วยงบประมาณกับเลย์เอ้าท์ห้อง ที่ต้องการห้องที่มีความ compact แต่ได้ฟังก์ชั่นครบในการใช้งานมากกว่า ด้วยจำนวนยูนิตเพียงแค่ 274 ยูนิต บนความสูง 25 ชั้นแต่มีพื้นที่สวนสีเขียวกระจายตัวอยู่หลายชั้นของอาคาร จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รู้สึกถึงความเป็น Urban Hideaway ที่มอบความผ่อนคลายให้ผู้อยู่อาศัยทุกยูนิตได้อย่างทั่วถึง ช่วงต้นซอยสุขุมวิท 33 อาจจะดูวุ่นวายไปนิดนึง เพราะว่ามีครบทั้งอาคารสำนักงาน Supermarket และยังมีทั้งร้าน Street food สลับกับบาร์ญี่ปุ่น แต่ในบริเวณตั้งแต่โครงการ Noble เป็นต้นไป กลับเป็นศูนย์รวมของอพาร์ทเมนท์ที่จับกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวญี่ปุ่น นับว่าเป็นอีกหนึ่ง Residential area ที่นิยมมากสำหรับ Japanese Expat ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็น apartment ที่มีอายุค่อนข้างมาก แต่หากเป็น Serviced Apartment ก็จะสามารถทำราคาค่าเช่าได้เกินตรม.ละ 1,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเป็นอัตราที่คงที่ไม่ได้ลดลงหนักๆเหมือนกับทำเลใกล้เคียงอย่างอโศก หรือเอกมัย เนื่องจากกลุ่มผู้เช่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้เช่าที่ทำสัญญาระยะยาวมากๆ อยู่ในเมืองไทยมานานจนมีกิจการเป็นของตัวเอง และไม่ได้ผลกระทบอะไรจากวิกฤตโควิด

ทั้งนี้คนที่ตัดสินใจเช่าโครงการ Noble Around Sukhumvit 33 ก็ดูจะมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างไปจากผู้เช่าตึกอีกๆ อย่างคนเช่า Noble BE33 หรือ Service Apartment ก็อาจจะชอบในการมีอ่างอาบน้ำ เลี้ยงสัตว์ได้ หรือห้องที่มีขนาดใหญ่กว่า และมักจะเป็นผู้เช่าสูงวัย ชาวเอเชียเป็นหลัก ในทางกลับกันกลุ่มผู้เช่าของโครงการนี้ถ้าลองสังเกตดูก็จะพบว่าเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติที่เป็นฝรั่ง มีอายุไม่มากนักราวๆ 35 – 45 ปีและทำงานเป็นผู้บริหารระดับกลางถึงสูงที่มีออฟฟิศอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อค่อนข้างเยอะ…ราคาโปรโมชั่นที่มีขายในตอนนี้คือเริ่มต้นแค่ 4 ลบ* หรือเฉลี่ยราวๆตรม.ละ 170,000 ถ้าเทียบกับทำเล ส่วนกลาง และสิ่งที่ได้รับในห้อง ที่นี่น่าจะเป็นโครงการที่น่าซื้อมากที่สุดในระดับราคาเฉลี่ยนี้แล้วล่ะครับ และก็เป็นน่าจะเป็นราคาขายที่หาแทบไม่ได้ในย่านนี้อีกแล้ว…โครงการ Noble Around Sukhumvit 33 จึงดูจะตอบโจทย์คนหมู่มากที่จำเป็นที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้มากทีเดียวครับ

พบ Facilities เหนือระดับ ทั้งล็อบบี้สไตล์โมเดิร์น สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ชั้นดาดฟ้า สกายฟิตเนส เลานจ์ สวนร่มรื่นในสไตล์เล่นระดับ​

รีบคว้าข้อเสนอพิเศษ “ช่วงเวลาน่าช้อน”​ เริ่มต้น 4 ล้าน* ลงทะเบียนวันนี้ ฟรีทุกค่าใช้จ่าย* พิเศษ! ชมโครงการแบบ Private Tour​วันนี้ ถึง 30 พฤศจิกายน 2564 คลิก https://nobleurl.com/3BZnrjZ

– คอนโดพร้อมอยู่ 350 ม. ถึง The EM District ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ ​

– 1-BED เริ่ม 4.0 ล้าน* | 2-BED เริ่ม 8.4 ล้าน*​​

– ใกล้ห้างสรรพสินค้าระดับเวิลด์คลาส สวนเบญจสิริ ร้านอาหารนานาชาติ ออฟฟิศชั้นนำ​​

– พร้อมใส่ชีวิตใหม่ให้ตัวเอง วันนี้​

– จองเยี่ยมชมโครงการแบบ Private Tour ล่วงหน้าได้ที่ โทร. 02-251-9955  ​

ชมห้องตัวอย่างผ่าน Live VDO Show Unit วันนี้ ที่ LINE @NobleDev​​

Contact us for more info. ​

Tel : 02-251-9955  ​

Line : nobleurl.com/line ​

Email : info@noblehome.com ​

#TailorYourOffers #AroundSukhumvit33 #NobleDevelopment #CondoSukhumvit