Narasiri Krungthep Kreetha

  

นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา


นาราสิริ – “งดงามในรายละเอียด” [A Matter Of Refinement] หากคุณคือลูกค้าของแบรนด์บ้านเดี่ยวจากแสนสิริมาอย่างยาวนาน หรือเป็นผู้ที่คร่ำหวอดในวงการอสังหาฯ มาเกิน 10 ปีขึ้นไป ย่อมต้องคุ้นหูกับ Tagline ประจำแบรนด์ “นาราสิริ” อย่าง “งดงามในรายละเอียด”

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 30 August, 2022 เวลา 18.52 pm

Prop score™: 4.6

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

Narasiri Krungthep Kreetha

บริษัทผู้สร้าง

แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

สถานที่

ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่)

สถานีรถไฟ BTS

-

สถานีรถไฟใต้ดิน

-

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

57 ไร่

ชั้น

2 ชั้น

ยูนิต

86 ยูนิต

ที่จอดรถ

NoHo No. 6, NoHo No. 5 : 4 คัน, NoHo No. 4 : 3 คัน

ลิฟท์

เฉพาะ Type NoHo No. 6 มีช่องสำหรับติดลิฟต์

สิ่งอำนวยความสดวก

Clubhouse, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สวนขนาดใหญ่พร้อมทะเลสาป


    ประเภทยูนิต

ประเภท

HOUSE/บ้านเดี่ยว/บ้านระดับ Luxury

studio

-

1 bedroom

-

2 bedroom

-

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

-

ประเภทอื่นๆ

NoHo No. 6 พื้นที่ใช้สอย 687 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 182 – 250 ตารางวา 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 4 ที่จอดรถ, ห้องพักผ่อน, ห้องอเนกประสงค์, ห้องพระ, ส่วนเตรียมอาหาร, ครัวไทย, 2 ห้องแม่บ้าน และ 3 ห้องเก็บของ, NoHo No. 5 พื้นที่ใช้สอย 554 ตารางเมตร 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 4 ที่จอดรถ, 2 ห้องพักผ่อน, ห้องอเนกประสงค์, ห้องพระ, ส่วนเตรียมอาหาร, ครัวไทย, ห้องแม่บ้าน และ 2 ห้องเก็บของ, NoHo No. 4 พื้นที่ใช้สอย 495 ตารางเมตร ด้วย 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ, 2 ห้องพักผ่อน, ห้องอเนกประสงค์, ห้องพระ, ส่วนเตรียมอาหาร, ครัวไทย, ห้องแม่บ้าน และ 2 ห้องเก็บของ

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

3.2 เมตร (Living Room 7.3 เมตร)

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

101,010 บาท

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

50 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

55 บาทต่อตารางวา แบ่งออกเป็น 45 บาท - ค่าบริการสาธารณะในโครงการ และ 10 บาท - ค่าดูแลถนนภาระจำยอมและถนนสาธารณะ

Sinking Fund fee

n/a

สร้างเสร็จ

2022

เว็บไซต์

http://siri.ly/pyfE3w8

1685


เพื่อนบ้าน Street View


มากกว่างานดีไซน์ แต่คือเรื่องราวที่สะท้อนความเป็นคุณในทุกรายละเอียด พบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่งดงามที่สุดที่ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา

 

นาราสิริ – “งดงามในรายละเอียด” [A Matter Of Refinement] หากคุณคือลูกค้าของแบรนด์บ้านเดี่ยวจากแสนสิริมาอย่างยาวนาน หรือเป็นผู้ที่คร่ำหวอดในวงการอสังหาฯ มาเกิน 10 ปีขึ้นไป ย่อมต้องคุ้นหูกับ Tagline ประจำแบรนด์ “นาราสิริ” อย่าง “งดงามในรายละเอียด” ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัยก็ยังคงยึดมั่นในใจความเดิมไม่เปลี่ยนแปลง นับตั้งแต่โครงการล่าสุดที่นาราสิริ พระราม 2 แสนสิริกลับมารุกตลาดบ้านเดี่ยวในระดับ Super Luxury อีกครั้งกับโครงการ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา (Narasiri Krungthep Kreetha) ในปี 2022 นี้ แบรนด์นาราสิริ ก็ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของความใส่ใจทุกรายละเอียดในทุกขั้นตอนของการพัฒนาและสร้างสรรค์โครงการ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของแสนสิริในการตีความหมายของคำว่า Luxury ที่ตอบรับการใช้ชีวิตอย่างมีรสนิยม หรูหรา และสง่างามของผู้ครอบครองได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

การกลับมาของแบรนด์นาราสิริในครั้งนี้ เป็นการเติมเต็มช่องว่างทางการตลาดของกลุ่มบ้านเดี่ยวในระดับราคา 50 – 100 ล้านบาท* ที่แสนสิริยังไม่ได้ส่งแบรนด์ใดๆ เข้ามาเป็นผู้ท้าชิงในเซกเมนท์นี้ ด้วยการนำแบรนด์เข้าไปเป็นหนึ่งใน Sansiri Luxury Collection Portfolio ในกลุ่มบ้านเดี่ยว เคียงคู่กับ บ้านแสนสิริ พัฒนาการ และบูก้าน โดยจากความสำเร็จของโครงการบ้านเดี่ยวในระดับราคาเกินกว่า 100 ล้านบาท* ของบ้านแสนสิริ พัฒนาการ บ้านเดี่ยวสไตล์ ‘British Regency’ ตอบรสนิยมของกลุ่ม Authentic Luxury โดยดีไซเนอร์ระดับโลกชาวอังกฤษ “แมรี่ ฟ็อกซ์ ลินตัน” (Mary Fox Linton) และบูก้าน โยธินพัฒนา บ้านเดี่ยวระดับราคา 40 – 80 ล้านบาท* ที่โดนใจกลุ่ม Young Successor ด้วยดีไซน์ในแบบ Modern Luxury Living ร่วมกับจากเทรนด์การมองหาที่อยู่อาศัยอันเป็นเอกลักษณ์ที่มอบพื้นที่ส่วนตัวที่มากกว่าของกลุ่มผู้ซื้อในแบบ HNWI ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ก็ย่อมต้องสร้างความมั่นใจให้กับทางแสนสิริเป็นอย่างมากว่า ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์นาราสิริ ที่ครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่บน Top of Hierarchy ของแบรนด์บ้านเดี่ยวจากแสนสิริ ย่อมต้องได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ซื้อไม่น้อยไปกว่าแบรนด์อื่นๆ แน่นอน…ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องเกินคาด เพราะล่าสุด นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา สามารถทำยอดขายได้เกิน 80% ภายในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน ตั้งแต่ก่อนเปิดตัว โดยที่ลูกค้าที่ซื้อทั้งหมดมีโอกาสได้เห็นเพียงแค่ Main Gate และประตูทางเข้าบ้านเท่านั้น

นอกจากการสร้างเสน่ห์อันน่าค้นหาในหมู่กลุ่มลูกค้าด้วยภาพดังกล่าวแล้ว แสนสิริยังได้ถ่ายทอด Brand Message “A Matter of Refinement – งดงามในรายละเอียด” ผ่านทางภาพยนต์โฆษณาเรื่องราวความละเมียดของน้ำ ที่เป็นสัญลักษณ์ของความความงดงามตามธรรมชาติที่เปี่ยมไปด้วยพลังอันแสนบริสุทธิ์ ไม่หยุดนิ่ง เปรียบดั่งการไหลรวมและการส่งต่อของวิถี เวลา และประสบการณ์ที่ผสานรวมเป็นความงดงามของชีวิต เพื่อต่อยอดสู่เรื่องราวในบทใหม่ ที่จะยังคงความหมายไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งสะท้อนความสง่างามและทรงคุณค่าของแบรนด์นาราสิริ ผ่าน 3 ปรัชญาหลัก ภายใต้ Sansiri Luxury Collection ได้แก่ 1.การออกแบบที่ประณีตที่สุด ผสานความร่วมสมัยที่จะคงความโดดเด่นในทุกช่วงเวลา (Sophisticated Design) 2.ความพิถีพิถันในการคัดสรร วัสดุคุณภาพชั้นยอด (State of the art Materials) 3.ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวที่รองรับการใช้ชีวิตละเมียดละไม พร้อมประสบการณ์การพักอาศัยที่เหนือระดับ (Unparalleled Living Experience) นอกจากนี้แนวคิดของน้ำยังได้ถูกถ่ายทอดผ่านภาพวาดศิลปะสีน้ำในตอนจบของโฆษณา เพื่อให้เห็นความงดงามของบ้านนาราสิริทั้ง 2 โครงการที่เตรียมพร้อมเผยโฉมเร็วๆ นี้ กับดีไซน์ร่วมสมัย เพื่อตอกย้ำว่า นาราสิริ ทุกรายละเอียด คือ ความงดงามที่แท้จริง

 

คลิกที่นี่เพื่อชมภาพยนตร์โฆษณา โครงการ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา : https://www.youtube.com/watch?v=ugLLljyGIY4

 

รู้จักกับกรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้ สังคมที่อยู่อาศัยคุณภาพแห่งใหม่จากแสนสิริ

กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้ คือสังคมเมืองคุณภาพขนาดย่อม ที่ครบเครื่องที่สุดในย่านกรุงเทพกรีฑาช่วงกลาง (ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า) ซึ่งการพัฒนาสังคมในรูปแบบนี้เป็นสิ่งที่ทางแสนสิริมีประสบการณ์ค่อนข้างสูง จากตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จมาแล้วกับ T77 โดยในย่านกรุงเทพกรีฑานี้ มีอาณาเขตกว้างใหญ่ขนาดที่สามารถเข้าออกได้ถึง 2 ทาง ทั้งฝั่งถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า) และฝั่งถนนซอยรามคำแหง 68 ที่มีรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโรงเรียนนานาชาติแมนดารินตั้งอยู่ โครงการทั้งหมดในนี้มีมูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท

สำหรับที่กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้ แสนสิริเองได้มาปักหลักอยู่ได้ 5 ปีแล้ว จากโครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 1 และ 2 (เพิ่งขายหมดไปในช่วงเดือนมิถุนายน) จากนั้นก็จะมีการปล่อยเช่าที่ดินบางส่วนให้กับโครงการ Market Place กรุงเทพกรีฑา โดยในปีนี้แสนสิริพร้อมแล้วที่จะเติมเต็มศักยภาพในย่านกรุงเทพกรีฑาให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการจับมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำ เพื่อสร้างสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ บนดีไซน์ที่โดดเด่นของแต่ละโครงการ รวมถึงความปลอดภัยด้วย Liv-24 และ The Greenery Line ซึ่งเป็นถนนสีเขียวที่ขนาบด้วยต้นไม้ 2 ข้างทางพร้อมเสาไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และการวางระบบสายไฟลงใต้ดิน บนระยะทางกว่า 1.7 กม. ทะลุทั้งฝั่งถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ และถนนรามคำแหงได้ในเวลาเพียง 2 นาที

หากเดินทางมาจากถนนพระราม 9 มุ่งหน้าถนนศรีนครินทร์ ก็เพียงแค่ขับตรงจากถนนพระราม 9 เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.ศรีนครินทร์ ขับตรงมา ประมาณ 2 กม. ชิดซ้ายขึ้นสะพานมุ่งหน้าถนนกรุงเทพกรีฑา เบี่ยงขวาเพื่อลงอุโมงค์ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า เมื่อขึ้นจากอุโมงค์ ขับตรงมาประมาณ 1 กม. เลี้ยวซ้ายเข้าซอยประชาร่วมใจ ขับตรงเข้าไปประมาณ 1.7 กม. จะพบโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือ

ถนนแบบสี่เลน ให้ลูกบ้านใช้ถนนได้อย่างสะดวกสบาย

ทางเข้าฝั่งนี้จะผ่านโครงการเศรษฐสิริ 1 และ 2 ที่อยู่บริเวณด้านหน้าก่อน

ส่วนการเดินทางจากถนนลาดพร้าว ถึงบริเวณแยกแฮปปี้แลนด์ เลี้ยวขวาเข้าถนนศรีนครินทร์ และขับตรงไปประมาณ 350 ม. เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหง ขับตรงไปประมาณ 1.2 กม. เลี้ยวขวาเข้าซอยรามคำแหง 68 และขับตรงเข้าไป 400 ม. เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนของโครงการ ขับตามทางต่อไป 1.1 กม. จะพบทางเข้าโครงการอยู่ทางด้านขวามือ

ประตูฝั่งนี้จะผ่านชุมชนมากกว่าฝั่งถนนกรุงเทพกรีฑา สังเกตบริเวณรอบข้างที่มีทั้งร้านสะดวกซื้อและห้องพักให้เช่า

 

ในพื้นที่ กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้ มีทั้งหมด 3 โครงการที่กำลังจะเปิดในปีนี้ จะมีมูลค่าโครงการรวม 11,200 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา พื้นที่ 85 ไร่ มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ที่พัฒนาร่วมกับโตคิว คอร์ปอเรชั่น ราคาเริ่มต้น 14.99 – 40 ล้านบาท เปิดตัวในไตรมาส 3, โครงการ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา พื้นที่โครงการ 57 ไร่ มูลค่าโครงการ 5,800 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 50 – 95 ล้านบาท และโครงการ BuGaan กรุงเทพกรีฑา พื้นที่ 19 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 30 – 50 ล้านบาท* ส่วนอีก 3 ปีข้างหน้า จะพัฒนาที่ดินส่วน Future Development อีก 2 แปลงที่เหลือ ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเหมือนกัน ใครที่ชอบอยู่อาศัยในคอมมูนิตี้ที่มีความเป็นส่วนตัว และระบบรักษาความปลอดภัยแบบ 100% ให้คุณรู้สึกปลอดภัยเมื่อเข้ามาอยู่ภายในโครงการ ให้กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้ จากแสนสิริ เป็นหนึ่งในตัวเลือกของการอยู่อาศัยของคุณและครอบครัว

บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา

BuGaan กรุงเทพกรีฑา

 

Renaissance Revival สถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า ท่ามกลางกลิ่นอายแห่งมหานครนิวยอร์ก

ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รูปแบบของงานดีไซน์บ้านเดี่ยวในกลุ่ม SLC (Sansiri Luxury Collection) ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่แสนสิริรู้ดีกว่าคนซื้อไม่ได้ต้องการการเปรียบเทียบ แต่ต้องการได้สิ่งที่ดีที่สุดในแบบที่หาจากที่อื่นไม่ได้เท่านั้น จึงต้องมีอัตลักษณ์ที่ค่อนข้างชัดเจนแตกต่าง แต่ตรงใจในแบบที่ไม่ต้องปรับจูนเพิ่ม ดังนั้นในทุกครั้งที่เปิดตัวโครงการใหม่ทางทีมงานของแสนสิริจึงได้เริ่มต้นจากการรับฟังความต้องการจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทำรีเสิร์จเก็บข้อมูลร่วมกับฝ่ายขาย เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการในช่วงขณะนั้นมากที่สุด เราจึงเห็นการปรับแบบใหม่ และยกระดับการดีไซน์ทุกครั้ง โดยทางทีมผู้ออกแบบได้พบว่าหากเป็นบ้านเดี่ยวในระดับราคาประมาณ 50 – 100 ล้านบาทขึ้นไป กลุ่มลุกค้าเป้าหมายก็จะชอบงานดีไซน์ที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความร่วมสมัย ที่จะคงความโดดเด่นในทุกช่วงเวลา ผลสำรวจจากกลุ่มลูกค้าระดับ Ultra Luxury ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็น 2 รูปแบบงานสถาปัตยกรรมที่สะท้อนผ่านเรื่องราวของเมืองใหญ่ 2 แห่ง นั่นก็คือ ลอนดอน และนิวยอร์ก โดยเมืองลอนดอนนั้นทางแสนสิริได้ประสบความสำเร็จมาแล้วจากโครงการบ้านแสนสิริ พัฒนาการ จึงเป็นที่มาของการนำเอาเอกลักษณ์ของงานสถาปัตยกรรมอันงดงามเหนือกาลเวลาที่มหานครนิวยอร์ก อย่างสไตล์ Renaissance Revival มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบโครงการโดยทีมงานบริษัท Bug Studio

 

งานสถาปัตยกรรมแบบ Renaissance Revival ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายที่อเมริกา โดยเฉพาะในนิวยอร์ก มาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ต่อเนื่องต้นศตวรรษที่ 20 หรือราวๆ ปี ค.ศ. 1890 – 1930 ซึ่งมีการนำเอารูปแบบของงานสถาปัตยกรรม Italian Renaissance ในช่วงศตวรรษที่ 14 กลับมาใช้ใหม่อีกครั้งกับงานก่อสร้างประเภทอาคารสูง โดยเพิ่มวัสดุที่เป็นผลผลิตจากการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมอย่างเหล็กมาเป็นองค์ประกอบในการก่อสร้างเพื่อความคงทนแข็งแรง ซึ่งรูปแบบเฉพาะตัวของงานสถาปัตยกรรมสไตล์นี้จะประกอบไปด้วย

 

– Façade แบบสมมาตร

– การแบ่งสัดส่วนที่แตกต่างกันไปออกเป็น 3 ตอน ส่วนบน ส่วนกลาง ส่วนล่าง ให้เห็นชัดเจนด้วยแถบหิน หรืออิฐ

– มีบานประตู หน้าต่างแบบซุ้มโค้ง ตกแต่งเพิ่มเติมส่วนยอดด้วย รูปแกะสลัก หรืองานประติมากรรม

– หลังคาทรงแบนราบ พร้อมบัวประดับชายคา

ซึ่งนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา ได้จำลององค์ประกอบของสถาปัตยกรรมเหล่านี้ รวมถึงสถานที่สำคัญของนิวยอร์ก อย่าง Central Park และสะพาน Brooklyn มาไว้ในโครงการ เริ่มสัมผัสได้ตั้งแต่ Main Gate, Clubhouse พร้อม Sky Bridge ที่มาพร้อมสี Brownstone อันสะดุดตา ตกแต่งภายในตามสไตล์ Gilded Age Chic ให้ความหรูหราดุจ Mansion ส่วนตัวของเหล่าคหบดีในนิวยอร์กยุคต้นศตวรรษที่ 20 สระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 25 เมตร สวนขนาดใหญ่พร้อมทะเลสาปและ Pavilion ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Landmark สำคัญใน Central Park อย่าง Bethesda Terrace และ Bethesda Fountain ที่มาพร้อมงานประติมากรรมอันเลื่องชื่อ Angel of the Waters สูง 6.2 เมตร ในแบบที่งดงามดูอลังการยิ่งกว่าโครงการบ้านเดี่ยวใดๆ ในกรุงเทพฯ

รายละเอียดโครงการ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา

นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา (Narasiri Krungthep Kreetha) ตั้งอยู่บน ถ.ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เป็นบ้านเดี่ยวขนาด 2 ชั้น จำนวน 86 ครอบครัว บนพื้นที่โครงการประมาณ 57 ไร่ มีบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบบ้าน คือ NoHo No. 4, NoHo No. 5 และ NoHo No. 6 มีพื้นที่ใช้สอย 495, 554 และ 687 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 120 – 250 ตารางวา พร้อมระบบรักษาควาปลอดภัย LIV-24 อาทิ ประตู Double Gate พร้อมระบบเข้า – ออกด้วยบัตร RFID, CCTV รอบโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ตามมาตรฐาน SSI

CLUBHOUSE สุดโอ่โถง พร้อมวางผังส่วนกลางในแบบยก Central Park มาไว้ที่กรุงเทพกรีฑา

Clubhouse ภายในโครงการ มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor บนพื้นที่ 4 ไร่ ให้ผู้อยู่อาศัยได้เพลิดเพลินไปกับพื้นที่อำนวยความสะดวกที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ เป็น Clubhouse ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบภายในให้ดูหรูหรา โอ่อ่า เปี่ยมไปด้วยสีสัน เป็นพิเศษ ตามสไตล์ Gilded Age Chic โดยเป็นอาคาร 2 ชั้น ที่เชื่อมต่ออาคารด้วย Sky Bridge ซึ่งภายในอาคาร ประกอบด้วย Drawing Room, Punch Room, Gym และ The library ส่วนพื้นที่ภายนอกอาคาร ประกอบด้วย Swimming Pool, Park, Pavilion, Maze Playground และ Sansiri Backyard ให้คุณได้ใช้ช่วงเวลาในการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

 

Drawing Room ห้องพักผ่อนของสมาชิกครอบครัวและรับรองแขกผู้มาเยือน

Punch Room ห้องพักผ่อนเพื่อสันทนาการของสมาชิกในครอบครัว ที่สามารถเข้ามาเล่นเกมส์ จัดเลี้ยง สังสรรค์ในครอบครัวและเพื่อนสนิทได้

Gym ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์ครบครัน

The library ห้องประชุมพร้อมอุปกรณ์เพื่อให้ทุกธุรกิจมีความต่อเนื่อง

Swimming Pool ระบบเกลือ ความยาว 25 เมตร พร้อมสระเด็ก

Park พื้นที่สวนสวยและ Lake ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสถาปัตยกรรมเลื่องชื่อใน Central Park

Pavilion มุมพักผ่อนซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนเพื่อสร้างความผ่อนคลาย ท่ามกลางธรรมชาติ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Bethesda Terrace ใน Central Park

Maze Playground สนามเด็กเล่นเพื่อการเรียนรู้ ด้วยแรงบันดาลใจจาก Alice in Wonderland

Sansiri Backyard พื้นที่สีเขียวเพื่อใช้ปลูกผักสวนครัวภายในโครงการ

บ้านตัวอย่าง

NoHo No. 6 พื้นที่ใช้สอย 687 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 182 – 250 ตารางวา ฟังก์ชั่น ประกอบไปด้วย 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 4 ที่จอดรถ, ห้องพักผ่อน, ห้องอเนกประสงค์, ห้องพระ, ส่วนเตรียมอาหาร, ครัวไทย, 2 ห้องแม่บ้าน และ 3 ห้องเก็บของ โดยบ้านในโครงการมีทั้งหมด 3 Type หลังนี้เป็น Type ใหญ่สุด ซึ่งความแตกต่างจะอยู่ตรงขนาดที่ดินที่มีให้เลือกตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย บริเวณหน้าบ้านมีจุด Drop off ให้รถจอดหน้าประตูบ้านก่อนที่จะวนรถไปยังโรงจอดรถข้างบ้าน ซึ่งโรงจอดรถทางโครงการติดตั้งหลังคาให้ จอดได้ 4 คัน ไม่รวมซ้อนคัน ประตูหน้าบ้านมีให้เลือก 2 สี คือ Manhattan Blue และ Liberty Green ชั้น 1 เปิดประตูเข้าไปในบ้าน จะมีส่วนของ Foyer ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในแมนชั่นหรู และส่วนภายในบ้านเป็นห้องโถงกว้างและเพดานสูง 7.3 เมตร มี Elder Care บริเวณชั้นล่าง ไม่มีสเตประหว่างประตูเพื่อรองรับการใช้วีลแชร์ พื้นที่เตรียมอาหารพร้อม Island สีสั่งทำพิเศษจาก Kohler ภายในบ้านมีการ Provide พื้นที่ติดตั้งลิฟท์ให้ และครัวไทยติดกับ Maid Quarter หลังบ้าน สะดวกต่อการทำอาหาร พร้อมทั้งติดตั้ง Magnetic & Motion Sensor, Breeze Panel, Solar Roof, EV Charger และ VDO Door Phone ให้ทุกหลัง

ชั้น 1

ชั้น 2 บันไดบ้านทำจากไม้เนื้อแข็ง บริเวณชั้น 2 มี Grand Master Bedroom และ Master Bedroom เนื่องจากบ้านสามารถอาศัยอยู่ได้หลาย Gen จึงทำให้ห้องนอนของปู่ย่า ตายาย และรุ่นพ่อแม่ เป็นห้องนอนใหญ่ที่มีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องขนาดใหญ่ ส่วนห้องลูกหลานก็เป็นขนาดรองลงมา และมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างก็คือ The Sky Palor ที่เป็นส่วนพักผ่อนของทุกคนในครอบครัว ในทุกช่วงเวลา และสามารถชมวิวไปพร้อมกัน โดยส่วน Living และ Master Bedroom ให้ Air cassette type ส่วนแบบบ้าน NoHo No.6 จะให้ที่ห้อง Grand Master Bedroom

ชั้น 2

มีการออกแบบโทนสีของบ้านให้เป็น Sandstone ที่ดู Contrast กับสีของ Clubhouse ที่เป็น Brownstone และติดตั้งประตูรั้วอัตโนมัติให้ทุกหลัง

จุด Drop off บริเวณหน้าประตูบ้าน ออกแบบลวดลายกระเบื้องพื้นทางเข้าบ้าน และลานจอดรถเพื่อเสริมความสง่าให้กับบ้าน โดยบ้านที่ขายให้เหมือนบ้านตัวอย่าง

โรงรถจอดได้ 4 คันในร่ม เหมือนบ้านตัวอย่าง

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทางโครงการมอบให้กับลูกบ้าน คือ ติดตั้ง EV Charger ให้ทุกหลัง รองรับสำหรับคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า

พื้นที่สวนหน้าบ้าน ซึ่งบ้านจริงจะปูหญ้าให้รอบตัวบ้าน

จัดมุมนี้ให้เป็นมุมพักผ่อนที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ที่มาใช้อ่านหนังสือ นั่งรับลมตอนกลางวัน หรือใช้ปาร์ตี้เล็กๆ สำหรับเพื่อนและครอบครัวก็ได้

พื้นที่ข้างบ้าน มีชานบ้านยื่นออกมาจากตัวบ้านให้ ส่วนรั้วบ้านจะเป็นรั้วปูนสูง 1.9 เมตร

วนกลับมาที่ประตูหน้าบ้าน ที่มีให้เลือกถึง 2 สี ด้วยกันคือ Manhattan Blue (น้ำเงิน) และ Liberty Green (เขียว) (ในกรณีที่ทำการจองก่อนบ้านสร้างเสร็จ)

เปิดประตูบ้านเข้ามาก็จะเห็น Foyer ก่อน เป็นโถงก่อนเข้าตัวบ้าน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงแรม หรือไม่ก็แมนชั่นสุดหรูราคาแพงในต่างประเทศ

โถงกว้าง วัสดุปูพื้นและลวดลายให้แบบบ้านตัวอย่าง โดยที่ผนังภายในติด Wallpaper สีอ่อนให้

Walk In Shoes Cabinet ขนาดใหญ่บริเวณประตูหน้าบ้าน สามารถออกแบบชั้นวางของหรือชั้นวางรองเท้าได้ตามความต้องการของเจ้าของบ้าน

มองจากมุมนี้จะเห็นพื้นที่ Living Room ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางบ้าน เดินเข้ามายังส่วนนี้ รู้สึกได้ถึงความหรูหรา และอลังการเป็นอย่างมาก กับพื้นที่โถงกลางบ้านที่จัดเป็น Living Room ไว้รับแขก มีเพดานสูงถึง 7.3 เมตร และเป็นแอร์แบบฝังฝ้า ทำให้บริเวณนี้ดูกว้างและโปร่ง

จัดมุมนี้ให้เป็นมุมรับแขกขนาดใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเป็นวันรวมญาติ นัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ก็รองรับคนได้เยอะ

เพดานด้านบน ทางโครงการติดตั้งรอกไฟฟ้าเพื่อรองรับการติด Chandelier ให้ด้วย

ผนังบ้านแบบฉาบเรียบและติด Wallpaper โทนสีสว่างให้

ถัดจากพื้นที่โถงกลางบ้านมายังห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ด้านหน้าบ้าน

ผนังแบบทรงโค้งและติดเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้ห้องได้รับแสงธรรมชาติตลอดเวลา พร้อมทั้งมองวิวได้รอบด้านอีกด้วย

บ้านตัวอย่างตกแต่งห้องนี้ให้กลายเป็นห้องออกกำลังกาย ใช้อุปกรณ์ของ Techno Gym จาก Christian Dior ของแท้จากช้อปมาตั้งไว้ และมีมุมพักผ่อนไปในตัว

เพดานของทุกห้องภายในบ้าน สูง 3.2 เมตร

โถงกลางบ้านเชื่อมต่อมายังพื้นที่ทานอาหารได้

มุมนี้จัดวางโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ 8 – 10 ที่นั่งได้อย่างกว้างขวาง

พื้นที่เตรียมอาหาร โครงการ Built-in ตู้ให้ พร้อม Island สี Matt Gray สั่งทำพิเศษ จาก Kohler

เปิดตู้ออกมาได้แบบนี้

มีตู้ไวน์อยู่ใต้ Island ของ Kuppersbusch

มีลิ้นชักเก็บช้อนส้อมเพื่อความสะดวกและเป็นระเบียบในการใช้งาน

Elder Care ห้องนอนชั้นล่าง อยู่ติดกับสวนด้านข้างของบ้าน เป็นห้องที่มีการปูพื้นรองรับแรงกระแทก และไม่มีสเตประหว่างห้องน้ำ รองรับการใช้วีลแชร์ได้ เหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย จะได้ไม่ต้องเดินขึ้น – ลง บันไดบ่อยๆ

เพดานสูง 3.2 เมตร ห้องอยู่ติดบริเวณข้างบ้าน สามารถเปิดประตูออกไปนั่งพักผ่อนบริเวณเฉลียงด้านนอกเพื่อสูดอากาศได้

มีมุม Walk-in Closet เตรียมไว้บริเวณหน้าห้องน้ำ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

ไม่มีสเตประหว่างพื้นห้องน้ำ ปลอดภัยต่อผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในห้องนี้ มีช่องระบายน้ำบริเวณประตู เพื่อกันน้ำไหลออกมาข้างนอก

ห้องน้ำปูกระเบื้องและสุขภัณฑ์ ให้แบบให้แบบเดียวกับบ้านตัวอย่าง มีม้านั่งตรงส่วนอาบน้ำให้ และช่องแสงช่วยให้สว่างได้ทั้งวันแม้ไม่เปิดไฟ

ออกจาก Elder Care เดินไปอีกฝั่งของตัวบ้านจะเป็นส่วนของ Maid Quarter

โครงการติดตั้ง Magnetic & Motion Sensor และ VDO Door Phone ให้ทุกหลัง ซึ่ง Magnetic Sensor จะติดตั้งบริเวณวงกบประตู หน้าต่างของบ้าน เมื่อมีประตูบานไหนเปิดหรือมีการบุกรุกก็จะมีเสียงสัญญาณเตือน และเชื่อมต่อไปยังสมาร์ทโฟนของเจ้าของบ้านและป้อม รปภ.ของโครงการ จะติดตั้งไว้บริเวณประตูเข้าบ้านฝั่งโรงจอดรถและบริเวณโถงบันไดชั้น 2

 

และซ้ายมือเป็นพื้นที่ไว้ใช้ติดตั้งลิฟต์ (บ้านจริงจะเว้นเป็นพื้นที่ห้องโล่งพร้อมประตูไว้ให้)

ลิฟท์บ้านที่โครงการติดตั้งไว้ในบ้านตัวอย่าง เป็นประตูแบบ Manual เมื่อลิฟท์มาถึงชั้นที่ต้องการถึงจะดึงประตูออกได้ ป้องกันการเกิดอันตรายภายในบ้านได้

ปิดประตูลิฟท์ให้สนิทแล้วกดชั้นที่ต้องการจะไป บรรจุได้ 2-3 คน

ใครที่ชื่นชอบการดื่มไวน์ สามารถปรับตำแหน่งนี้ซึ่งเป็นห้องเก็บของเพื่อติดตั้งตู้แช่ไวน์ขนาดใหญ่ได้ อยู่ตรงข้ามกับลิฟท์

Powder Room ตกแต่งสวยงามคล้ายบรรยากาศของห้องน้ำในโรงแรมหรู โดยมีสุขภัณฑ์สี Rose Gold รุ่น Top ของ Kholer

ครัวไทย อยู่ตรงปีกบ้านฝั่งโรงจอดรถ

พื้นที่ส่วนนี้กว้างมาก สามารถติดตั้งเครื่องครัวได้เยอะ หรือจะวางโต๊ะทานอาหารขนาดเล็กไว้ด้วยก็ได้

Maid Quarter โซนสำหรับแม่บ้าน ที่ใช้ทำงานบ้าน ดูทีวี และพักผ่อนไปพร้อมๆ กันได้ แม่บ้านจะไม่ได้อยู่แต่ในห้องนอนของตัวเองอีกต่อไป

โซนซักล้าง มีการลงเสาเข็มให้เท่ากับตัวบ้าน

มีประตูเปิดออกมาหลังบ้านได้

บ้านหลังใหญ่สุดจะมีห้องนอนแม่บ้าน 2 ห้อง และห้องน้ำอีก 1 ห้อง

มีหน้าต่างในห้องนอนทุกห้อง

ห้องน้ำแม่บ้าน

วนกลับมาที่บันได เพื่อขึ้นไปยังชั้น 2

Grand Stair ออกแบบเพื่อสร้างความหรูหราให้กับบ้าน สามารถวางเปียโนหรือโต๊ะเพื่อเสริมบรรยากาศให้กับบ้าน

ชั้น 2 เป็นส่วนของ Grand Master Bedroom, Master Bedroom, ห้องนอน 2-3 และ The Sky Palor

มุมมองจากชั้น 2 ลงไปยัง Living Room ที่โถงกลางบ้าน

พื้นที่เอนกประสงค์รูปทรงหกเหลี่ยม The Sky Palor ให้คุณได้พักผ่อน และนั่งจิบชาสวยๆ ยามบ่ายได้

จัดเป็นมุมไพรเวทสำหรับคนในครอบครัวก็ดีไม่น้อย

ไปยัง Grand Master Bedroom ที่อยู่ฝั่งปีกซ้ายของบ้าน

ซึ่งจุดเด่นของบ้านที่มีทั้งห้อง Grand Master Bedroom และ Master Bedroom นั้น ทางโครงการให้เหตุผลว่า บ้านที่สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้หลาย Generation ทั้งรุ่นปู่ย่า ตายาย รุ่นพ่อแม่ และรุ่นลูก ฉะนั้นเพื่อเป็นการให้เกียรติผู้อาวุโสภายในบ้าน จึงมีห้องนอนขนาดใหญ่สำหรับให้คนรุ่นปู่ย่า ตายาย ได้มีพื้นที่ในการใช้ชีวิตอยู่ในห้องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ ดูทีวี ก็สามารถทำได้ภายในห้องโดยไม่เบื่อนั่นเอง

ภายในห้องมีหน้าต่างหลายจุด เพื่อให้ห้องรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เพดานสูง 3.2 เมตร Air Cassette Type และผนังแบบฉาบเรียบติด Wallpaper โทนสว่างให้

Porch ด้วยผนังกระจกที่ยื่นออกไปจากตัวบ้าน ทำให้การมองวิวด้านนอกมีมุมมองที่กว้างขึ้น

มุมพักผ่อนภายในห้อง

Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นของห้องมีการเตรียมไว้เพื่อรองรับน้ำหนักของตู้เซฟขนาดใหญ่

ใช้เก็บเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับได้อย่างจุใจ

ห้องน้ำใน Grand Master Bedroom มีขนาดใหญ่ อ่างล้างหน้าแบบ His & Her

ห้องน้ำมีช่องแสงเยอะ ทำให้สว่างได้ทั้งวัน

ติดตั้งบานกระจก Skylight บริเวณอ่างอาบน้ำให้

ให้ Shower Screen ตรงส่วนอาบน้ำ ความพิเศษของห้องน้ำห้องนี้คือ ติดตั้ง Rain Shower และ Hand Shower ให้ถึง 2 จุด สามารถอาบน้ำพร้อมกันได้ในช่วงเวลาเร่งรีบ โครงการเตรียมระบบเพื่อติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนให้

เดินออกมาจาก Grand Master Bedroom ก็เจออีก 1 ห้อง ที่โครงการตกแต่งให้เป็นห้องทำงาน ซึ่งห้องนี้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นให้เป็นห้องนอนหรือห้องหนังสือได้

มีห้องน้ำในตัว

กั้นส่วนแห้งและเปียกด้วย Shower Screen

บริเวณทางเดิน เนื่องจากมีพื้นที่กว้าง สามารถตกแต่งให้เป็นมุมโปรดได้ตามใจชอบ

VDO Door Phone ติดตั้งไว้ที่ชั้น 2 ให้เช่นกัน

บริเวณชั้น 2 ตำแหน่งของลิฟท์จะอยู่ตรงนี้ หากบ้านหลังไหนที่ไม่อยากติดตั้งลิฟท์ไว้ในบ้าน ก็สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องเก็บของได้

ห้องนอนเล็ก ที่เป็นส่วนของห้องนอนลูกๆ อยู่บริเวณหน้าลิฟท์

มีห้องน้ำในตัว พร้อมแยกส่วนแห้งและเปียก

พื้นที่สามารถปรับเป็นห้องพระได้ อยู่บริเวณหน้าห้อง Master Bedroom เปิดม่านออกจะได้วิวฝั่งหน้าบ้าน

Master Bedroom อยู่ฝั่งปีกขวาของตัวบ้าน ติดกับโซนหน้าบ้าน

ห้องพื้นที่กว้าง สามารถจัดมุมพักผ่อนไว้ในห้องได้ เพดานห้องสูง 3.2 เมตร แอร์แบบ Cassette Type

Walk-in Closet ติดตั้งตู้เสื้อผ้าได้ทั้งสองฝั่งแบบนี้ และยังเหลือทางเดิน

ห้องน้ำใน Master Bedroom ให้อ่างอาบน้ำ

อ่างแบบ His & Her วัสดุในห้องน้ำได้แบบเดียวกับบ้านตัวอย่าง

ติดตั้งบานกระจก Skylight บริเวณอ่างอาบน้ำให้

แช่น้ำตอนกลางคืนพร้อมดูดาวไปด้วยได้

กั้น Shower Screen ทั้งส่วนอาบน้ำและส่วนวางโถสุขภัณฑ์

 

NoHo No. 5 พื้นที่ใช้สอย 554 ตารางเมตร ฟังก์ชัน ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 4 ที่จอดรถ, 2 ห้องพักผ่อน, ห้องอเนกประสงค์, ห้องพระ, ส่วนเตรียมอาหาร, ครัวไทย, ห้องแม่บ้าน และ 2 ห้องเก็บของ บริเวณหน้าบ้านมีประตูเข้าบ้านได้ 2 ทาง คือ จากประตูหลัก และประตูหลังโรงจอดรถ ซึ่งเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็จะเจอส่วน Foyer ที่มีพื้นที่ Shoes Cabinet และพื้นที่ของ Living Room ตั้งอยู่โถงกลางบ้าน เพดาน Double Volume สูง 7.3 เมตร เชื่อมต่อกับส่วนเตรียมและทานอาหาร โดยห้อง Living และ Master Bedroom ให้ Air Cassette Type บริเวณหลังบ้านของ Type โครงการปรับฟังก์ชันให้เป็นสระว่ายน้ำ น่าจะถูกใจสมาชิกในครอบครัวไม่น้อย ห้อง Elder Care และห้องอเนกประสงค์จะอยู่ปีกขวาของตัวบ้าน ชั้น 2 เป็นส่วนของ Master Bedroom ห้องนอน 2-3 และพื้นที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว

 

ชั้น 1

ชั้น 2

บ้านใช้โทนสี Sandstone ดูหรูหรา

โรงจอดรถอยู่หน้าบ้าน ในร่มจอดได้ 4 คัน ด้วยพื้นที่จอดรถเป็นแนวลึก ในบางแปลงที่ดินสามารถจอดซ้อนคันได้อีก

ด้านหลังที่จอดรถ โครงการมีการออกแบบ Universal Design ไว้รองรับการใช้รถเข็น

ตำแหน่งของ EV Charger ติดกับห้องเก็บของ สวนในบ้านจริง จะปูหญ้าและปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ตามการออกแบบเพื่อความสวยงาม

พื้นที่ข้างบ้านกว้าง ตกแต่งให้เป็นพื้นที่พักผ่อนกลางแจ้งแบบนี้ได้

ประตูหน้าบ้านทรงโค้ง สี Liberty Green ทางเดินหน้าประตูบ้านให้ความรู้สึกเหมือนบ้านในต่างประเทศ เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับ Foyer และ Shoes Cabinet ฝั่งขวามือ ในบ้านเป็นผนังฉาบเรียบติด Wallpaper โทนสีสว่างให้

Walk-in Shoes Cabinet จัดเตรียมพื้นที่โล่งเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน

Living Room ติดแอร์แบบฝังฝ้าให้ เพดานส่วนนี้สูง 3.2 เมตร

ประตูกระจกทรงโค้งสูง ตามสไตล์ Renaissance Revival ให้บ้านได้รับแสงธรรมชาติเต็มที่

 

จาก Living Room เชื่อมต่อไปยังโซนเตรียมและทานอาหาร ที่อยู่ด้านหลัง

ด้วยพื้นที่ในบ้านกว้าง สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งได้สบาย

โซนเตรียมอาหาร ทางโครงการให้ Island ท็อปหินควอทซ์ และ Built-in ตู้ด้านหลังให้ สี Matt Gray จาก Kohler

ตู้แช่ไวน์ Kuppersbusch

ครัวไทย สามารถวางเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว U แบบนี้ได้ พื้นที่กว้างมาก และเปิดบานเลื่อนช่วยลดกลิ่นได้

พื้นที่ด้านหลังบ้านตัวอย่างหลังนี้ตกแต่งเป็นสระว่ายน้ำ ตัวบ้านมาพร้อมพื้นที่รอบบ้านกว้างขวางสามารถปรับเป็นพื้นที่พักผ่อนได้อย่างเต็มที่

ไม่ใช่สระเด็กเล็กๆ ด้วยนะ เป็นสระที่สามารถว่ายน้ำแบบจริงจังได้เลย

ห้องอเนกประสงค์ที่อยู่บริเวณปีกซ้ายของบ้าน เป็นห้องทรงโค้ง ติดกระจกให้รอบด้าน

นั่งพักผ่อนพร้อมชมวิวด้านนอกได้ทั้งวัน หรือเปลี่ยนฟังก์ชั่นห้องได้ตามใจชอบ ถัดมาเป็น Powder Room และห้องนอนด้านล่าง ซึ่งมีฟังก์ชั่น Elder Care

Powder Room ติดตั้งช่องแสงด้านในให้

ห้องนอนด้านล่าง มีห้องน้ำในตัว

ห้องน้ำอยู่หน้าห้อง มีห้องน้ำภายในห้องนอน ซึ่งมีที่นั่งอาบน้ำ

ในห้องนี้จะไม่มีสเตประหว่างห้อง เพื่อรองรับการใช้รถเข็น และเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุได้

เพดานห้องสูง 3.2 เมตร ให้แอร์แบบติดผนัง

บันไดเป็นไม้เนื้อแข็งสีอ่อน ซึ่งสีเข้มดูได้จากบ้าน NoHo No.6 ติดกระจกบริเวณบันได ทำให้บ้านสว่างเป็นอย่างมาก

พื้นที่ Double Volume สูง 7.3 เมตร ติดตั้งรอกไฟฟ้าให้รองรับการติด Chandelier

โถงทางเดินชั้น 2 มองเห็นพื้นที่ด้านล่าง ให้ความรู้สึกโปร่ง สบายเพิ่มความหรูหราให้กับบ้าน

ฝั่งซ้ายของบ้านเป็นห้องนอน 2 และ 3 โดยที่พื้นชั้น 2 ใช้ Engineering Wood

ห้องนอน 3 อยู่ด้านหลังของบ้าน

มีหน้าต่างในห้องหลายจุด ทำให้ห้องสว่างทั้งวัน

ห้องนอน 3 มองเห็นวิวสระหลังบ้านได้

มีห้องน้ำในตัว กั้นส่วนแห้งและเปียกด้วย Shower Screen

ห้องนอน 2 อยู่ด้านหน้าบ้าน

ห้องกว้าง มีพื้นที่ Walk-in Closet

 

Walk-in Closet อยู่หน้าห้องน้ำ

ห้องน้ำมีช่องแสงด้านใน และแยกส่วนแห้ง เปียก

ห้องอเนกประสงค์บริเวณชั้น 2 ที่ทางโครงการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นให้เป็นมุมพักผ่อนขนาดใหญ่

มีระเบียงด้านนอก

เชื่อมต่อไปยังห้องอีกฝั่งได้ ใครที่อยากปรับเปลี่ยนพื้นที่ส่วนนี้ให้เป็นห้องอเนกประสงค์อย่างอื่นก็ทำได้เช่นกัน สามารถปิดผนังกั้นให้เป็นสองห้องได้

The Sky Parlor พื้นที่พักผ่อนเพื่อสมาชิกในครอบครัวนั่งจิบชายามบ่ายที่มุมนี้ก็ดีไม่น้อย

Magnetic Sensor ที่ติดตั้งบริเวณวงบกประตูหน้าต่างภายนอกบ้าน

ห้องนี้อยู่ติดกับ Master Bedroom เปลี่ยนฟังก์ชั่นให้เป็นห้องพระได้

Master Bedroom

เพดานสูง 3.2 เมตร ให้แอร์แบบฝังฝ้า

ห้องกว้าง ทำมุมพักผ่อนในห้องนอนได้

Walk-in Closet ใหญ่ Built-in ตู้เสื้อผ้าสองฝั่งได้แบบนี้

มีอ่างอาบน้ำใน Master Bedroom

ให้อ่างล้างหน้า His & Her ผนังห้องน้ำบ้านจริงได้แบบบ้านตัวอย่าง

บานกระจก Skylight บริเวณอ่างอาบน้ำ และติดตั้ง Shower Screen ให้

 

 

NoHo No. 4 พื้นที่ใช้สอย 495 ตารางเมตร ฟังก์ชั่น ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ, 2 ห้องพักผ่อน, ห้องอเนกประสงค์, ห้องพระ, ส่วนเตรียมอาหาร, ครัวไทย, ห้องแม่บ้าน และ 2 ห้องเก็บของ ชั้นล่างมี Living Room 2 โซน โดย Living Room ที่อยู่ติดกับประตูทางเข้าบ้าน ตรงพื้นที่ Double Volume ตกแต่งไว้รับแขกได้ ส่วน Living Room อีกโซนก็เป็นพื้นที่พักผ่อนของคนในครอบครัวได้ มีส่วนของ Elder Care อยู่ติดฝั่งหน้าบ้าน และครัวไทยที่เชื่อมต่อไปยัง Maid Quarter ที่อยู่โซนหลังบ้านได้ บริเวณชั้น 2 มีห้องนอน 3 ห้อง และห้องพระ โดยมีห้องอเนกประสงค์เชื่อมต่อกับ Master Bedroom ได้ ใช้เป็นมุมพักผ่อนหรือห้องเด็กเล็กก็ได้เช่นกัน

 

ชั้น 1

ชั้น 2

ประตูหน้าบ้านสี Manhattan Blue

EV Charger ให้บ้านทุกหลัง

พื้นที่หน้าบ้านกว้าง โครงการปูหญ้าจัดสวน และติดตั้งรั้วอัตโนมัติให้

ข้างบ้านกว้างเช่นกัน

 

เปิดประตูเข้าบ้านก็จะเจอกับ Foyer

Living Room ติดแอร์ฝังฝ้าให้ ภายในบ้านผนังแบบฉาบเรียบ ติด Wallpaper โทนสีสว่างให้

Double Volume สูง 7.3 เมตร ติดตั้งรอกไฟฟ้าเพื่อรองรับการติด Chandelier

ห้องนอนด้านล่าง ซึ่งมีฟังก์ชัน Elder Care ซึ่งทางโครงการออกแบบเป็นห้องเกมส์ เพื่อเป็นแนวทางการออกแบบให้ดูแนวคิดการปรับการใช้งานห้องตามการใช้งานของแต่ละครอบครัวได้

ไม่มีสเตปที่ประตูห้องน้ำ รองรับการใช้รถเข็น

ในห้องน้ำมีม้านั่งอาบน้ำ และช่องแสง

ส่วนเตรียมอาหารเชื่อมต่อกับส่วนพักผ่อนและส่วนทานอาหาร

Built-in ตู้และเคาน์เตอร์ให้ พร้อม Island สี Matt Gray จาก Kohler

ส่วนพักผ่อนของทุกคนในครอบครัว

ครัวไทยแยกเป็นสัดส่วน พร้อมเคาน์เตอร์ เตาและเครื่องดูดควัน ซึ่งเชื่อมต่อไปยังส่วน service และแม่บ้าน

บันไดไม้เนื้อแข็ง ขนาดลูกนอนกว้างเดินได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งมีไฟส่องบริเวณขั้นบันไดเพื่อการใช้งานที่ดี มี Powder Room ใต้บันได

บริเวณทางเดินชั้น 2

มุมมองจากชั้น 2 มองลงไปเห็น Living Room

ห้องนอน 2 อยู่ซ้ายมือ ส่วนขวามือเป็นห้องอเนกประสงค์ที่เชื่อมต่อกับ Master Bedroom

ห้องนอน 2 อยู่ติดฝั่งหน้าบ้าน

Walk-in Closet

ห้องน้ำกั้นส่วนแห้งและเปียกให้

The Sky Palor บริเวณแห่งการพักผ่อนและทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว

ใช้เป็นห้องเด็กเล็กได้ เนื่องจากเชื่อมต่อกับ Master Bedroom จะได้อยู่ใกล้สายตาพ่อแม่

กั้นผนังกระจกให้แบบนี้

Master Bedroom เพดานสูง 3.2 เมตร

Walk-in Closet กั้นผนังให้เป็นสัดส่วน

พื้นที่ในห้องกว้าง

ห้องน้ำให้อ่างอาบน้ำ

บานกระจก Skylight ให้ห้องน้ำสว่างตลอดเวลา

อ่างล้างหน้าแบบ His & Her

ออกจาก Master Bedroom ก็จะเจอกับห้องพระ สามารถเปลี่ยนฟังก์ชั่นห้องได้ตามใจชอบ

ถัดมาเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ถูกตกแต่งให้เป็นห้องทำงาน

ห้องนอน 3 เพดานสูง 3.2 เมตร

มีห้องน้ำในตัว แยกส่วนแห้งและเปียกให้

ห้องกว้าง อยู่ติดฝั่งหลังบ้าน

 

นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา มากกว่าบ้านหรู แต่คือสถานที่ซึ่งวิถี เวลา และประสบการณ์ ผสานเป็นความงดงามของชีวิต เพื่อต่อยอดสู่เรื่องราวในบทใหม่

อะไรที่ทำให้บ้านราคาสูงถึง 95 ล้านบาท ขายดีจนเกือบหมดโครงการ ทั้งๆ ที่คนซื้อทั้งหมดยังไม่เคยมาสัมผัสบรรยากาศจริงที่บ้านตัวอย่างด้วยซ้ำ? นี่คือคำถามที่เรานึกขึ้นในใจก่อนที่จะเข้ามาเยี่ยมชมโครงการในครั้งนี้ โดยจากประสบการณ์ของเราหากเป็นบ้านในระดับราคานี้ ลำพังแค่องค์ประกอบของ Standard Benefits ยังไงก็ต้องมีมากกว่า Extra Benefits ของโครงการอื่นๆ ในระดับราคารองลงมาแน่นอน ซึ่งปกติแล้วกลุ่มคนซื้อบ้านในระดับราคานี้ก็มักจะมองว่าการเป็นเจ้าของบ้านหรู ราคาแพงเหล่านี้ คือเครื่องหมายที่แสดงซึ่งอำนาจ บารมี รสนิยม และสถานะทางสังคมที่โดดเด่นเหนือใคร มอง Perceived Value หรือคุณค่าที่เกิดขึ้นจากการเป็นเจ้าของที่มากกว่าแค่การพักอาศัยในบ้านที่มีขนาดพื้นที่กว้างขวางโอ่อ่า ดังนั้นเรื่องของความเชื่อมั่นแบรนด์ว่าจะสามารถส่งมอบองค์ประกอบของการอยู่อาศัยอันหรูหราได้สมบูรณ์แบบในทุกมิตินั้นเป็นเรื่องที่มาเป็นอันดับหนึ่งครับ และสำหรับกลุ่มแบรนด์ภายใต้ Sansiri Luxury Collection นั้นนิยามของคำว่าหรูหราไม่ใด้เกิดมาจากการ Comparative ในเชิงฟังก์ชันการใช้งาน แต่ต้องเป็น Superlatives เหนือที่สุดในเชิง Exclusivity ที่สร้างมนต์เสน่ห์อันเย้ายวนใจ มอบประสบการณ์อันแปลกใหม่ กับกลุ่มผู้มีกำลังซื้อระดับสูงทั่วโลก จนเกิดเป็นความถวิลหาเพื่อให้ได้ครอบครอง…ไม่เช่นนั้น ตลาดบ้าน Ultra-Luxury คงแข่งกันที่เรื่องราวในเชิงตัวเลขอย่างขนาดพื้นที่ใช้สอย ขนาดพื้นที่ดิน จำนวนที่จอดรถและจำนวนห้องเพียงอย่างเดียว

 

สำหรับองค์ประกอบของ Standard Benefits ที่เรามักพบเห็นกันในบ้านเดี่ยวระดับราคาเกิน 50 ล้านบาทขึ้นไปก็คือ

1. ทำเล ที่ต้องอยู่บนจุดที่ดีที่สุดของย่านนั้นๆ เดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองได้สะดวก ติดกับ Magnet ชั้นนำของย่านนั้นๆ

2. Main Entrance และพื้นที่ส่วนกลางมีขนาดใหญ่ หรูหรา โอ่อ่า มอบความปลอดภัย และประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างในแบบที่ไม่สามารถหาได้จากพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน

3. ขนาดของพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่ต้องสามารถอยู่ร่วมกัน ใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างเป็น Multigeneration จริงๆ โดยมักจะมีขนาดตั้งแต่ 500 ตารางเมตรขึ้นไป

4. จำนวนยูนิตที่ค่อนข้างน้อย ให้ความเป็นส่วนตัว ที่มากกว่าโครงการใกล้เคียง ดั่งอยู่ในสังคมคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรแล้ว

5. รูปแบบการดีไซน์ การเลือกใช้วัสดุ ที่ตอบรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของได้มากที่สุด มีดีไซน์ร่วมสมัย ที่จะคงความโดดเด่นในทุกช่วงเวลา ให้เจ้าของบ้านสามารถเชิญแขก เชิญเพื่อนมาเยี่ยมบ้านได้อย่างภาคภูมิใจในทุกครั้ง

6. มีหน่วยงานบริหารงานนิติบุคคลฯ ที่ต้องเน้นงานบริการ และรู้ลึกรู้จริงในเรื่องการดูแลสภาพโครงการให้ดีเพื่อรักษาและเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ให้สูงขึ้นตามกาลเวลา

 

สรุปจุดเด่นที่เกิดจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในทุกๆ ด้าน ของนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา

นาราสิริเป็นโครงการบ้านเดี่ยวในกลุ่ม Sansiri Luxury Collection ที่มีประวัติความนิยมอย่างยาวนานมากที่สุด โครงการตั้งอยู่บน “กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้” พื้นที่รวมอยู่กว่า 500 ไร่ พัฒนาโดยแสนสิริ และกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตคุณภาพ โครงการเป็นบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ที่ทำเลดีที่สุดในย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เข้าออกได้สองทางทั้งทางฝั่งถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า และรามคำแหง 68 ร่มรื่นกว่าด้วย The Greenery Line ซึ่งเป็นถนนสีเขียวทางเข้าออกหลักที่ขนาบด้วยต้นไม้ 2 ข้างทางพร้อมเสาไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นย่านยอดนิยมของกลุ่ม Expat ระดับผู้บริหารที่เป็นบุคคลากรโรงเรียนนานาชาติ ทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีศรีบูรพา บนถนนหลักรามคำแหง

โครงการนาราสิริถูกออกแบบภายใต้สถาปัตยกรรม Renaissance Revival ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ในนิวยอร์ก จำลองบรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลาง และ Clubhouse มาจากงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นใน Central Park New York มี Clubhouse 2 ชั้น ตกแต่งภายในตามคอนเซปท์ Gilded Age Chic โดดเด่นด้วยสีอาคาร Brownstone เชื่อมต่อด้วย Sky Bridge มาพร้อมแบบบ้าน 2 ชั้น ขนาดใหญ่ให้เลือก 3 แบบ จอดรถได้ 3 – 4 คัน มอบฟังก์ชั่นสูงสุดถึง 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ พร้อม 2 ห้องแม่บ้าน มีเทคโนโลยีและความสะดวกภายในบ้านครบครัน โดยบ้านหลังใหญ่สุด NoHo No 6. รองรับการติดตั้งลิฟท์บ้านได้ ประตูหน้าบ้านของแต่ละหลังสามารถเลือกโทนสีได้ 2 สีคือ Liberty Green และ Manhattan Blue สามารถเลือก Customized วัสดุบางอย่างในตัวบ้านได้ พร้อมไฮไลท์ในตัวบ้านเป็นโถง Living แบบ Double Volume สูง 7.3 เมตร และส่วน The Sky Parlor

 

โดยย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่เป็นย่านที่น่าจับตามองมากๆ ในฐานะของการเป็นย่าน Residential Area ส่วนต่อขยายของพระรามเก้า ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการเดินทาง จนส่งผลให้มีโครงการอสังหาฯ แนวราบเกิดใหม่ราคาสูงผุดขึ้นมามากมาย เคียงคู่ไปกับโครงการแนว Community Mall และ Specialty Store ที่ทยอยกันเข้ามาปักหมุดรอดักกำลังซื้ออยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่มีเงินพร้อมแต่ยังไม่รู้ว่าจะเอาไปซื้อโครงการไหน เพราะถ้าวัดกันที่ระดับราคาขายก็ต้องบอกว่าแถวนี้บ้านเดี่ยวราคาเกิน 30 ล้านบาทขึ้นไป หาง่ายกว่าบ้านเดี่ยวราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทด้วยซ้ำ!

สำหรับโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา เองก็ต้องบอกว่าด้วยระดับราคาขายที่ 50 – 95 ล้านบาท ในช่วงเปิดตัว (เชื่อว่าตอนปิดโครงการต้องมีราคาขายสูงกว่านี้ ยิ่งเป็นบ้านตัวอย่างนี่ราคาทะลุเกิน 100 ล้านบาทแน่นอน) ทำให้ที่นี่ถูกยกให้เป็น Best in Class มือวางอันดับหนึ่งที่คนอยากได้บ้าน Ultra – Luxury ในย่านนี้ทุกคน จำเป็นที่จะต้องแวะเข้ามาดู ก่อนที่จะไปตัดสินใจเลือกอีกทีว่าจะโดนใจโครงการไหนมากที่สุด จำนวนบ้าน 86 หลัง บนขนาดที่ดิน 120 – 250 ตารางวา พร้อมพื้นที่ใช้สอยสูงสุดถึง 687 ตารางเมตร ในแง่ของ Functional แล้วที่นี่คือจัดมาให้เยอะที่สุดบนถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า คุณไม่สามารถหาบ้านเดี่ยวที่ไหนที่ให้ที่ดินและพื้นที่ในบ้านเยอะเท่าบ้านแบบ NoHo No. 6 ได้อีกแล้ว จึงไม่แปลกใจเลยที่บ้านหลังใหญ่ที่สุดกลับขายดีมาก จนต้องปรับผังโครงการเพื่อมาสร้างบ้านแบบ NoHo No. 6 เพิ่ม พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือหากคุณมีเงินพร้อมจ่ายในระดับ 80 ล้านบาทขึ้นไป ยังไงที่นี่คือคำตอบเดียวของคุณ แต่หากเป็นขนาดที่รองลงมาอย่าง NoHo No. 4 และ 5 ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 495 – 554 ตารางเมตร ก็ต้องบอกว่าผู้ซื้อยังคงมีตัวเลือกเพิ่มเติมอื่นๆ ให้ศึกษาก่อนซื้อ รวมถึงโครงการ BuGaan กรุงเทพกรีฑา ของแสนสิริ ที่กำลังจะเปิดตามมาเช่นกัน ซึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้นก็น่าจะอยู่ที่รสนิยมของคุณแล้วล่ะ ว่าคุณจะหลงรักในมนต์เสน่ห์ของกลิ่นอาย Renaissance Revival และความกว้างขวาง อลังการของ Clubhouse ที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องตกตะลึงในความกล้าทุ่มทุนของแสนสิริที่ย่อส่วน Central Park มาทั้งงานแลนด์สเคป และงานสถาปัตยกรรม ในขณะที่ดีเวลลอปเปอร์รายอื่นๆ มักจะมองคอนเซปท์ของ Central Park เพียงแค่พื้นที่สวนเท่านั้น…ถ้าได้เป็นเจ้าของบ้านในโครงการนี้ ลำพังแค่การได้เชิญเพื่อนมาที่ Clubhouse สักครั้ง ก็เกิดเป็นเรื่องเล่าอันน่าประทับใจไปได้ตลอดทั้งชีวิตแล้ว

นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา

แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุค Renaissance Revival ท่ามกลางกลิ่นอายแห่ง “มหานครนิวยอร์ก”

“ความงดงาม” สะท้อนการใช้ชีวิตในแบบคุณ ทุกรายละเอียด มาจากความเข้าใจอย่างแท้จริง

แรงบันดาลใจ ถูกถ่ายทอดอย่างพิถีพิถัน ทุกการคัดสรร และสร้างสรรค์ ล้วนมีความหมายสมบูรณ์แบบ บนทำเลที่ทวีมูลค่าตามกาลเวลาอย่าง “กรุงเทพกรีฑา” พร้อมให้คุณต่อยอดสู่เรื่องราวในบทใหม่ ที่งดงามในทุกรายละเอียด

 

NARASIRI KRUNGTHEP KREETHA

A Matter of Refinement

50 – 95 MB.*

ลงทะเบียนเพื่อเข้าชมบ้านตัวอย่าง คลิก http://siri.ly/pyfE3w8 หรือโทร. 1685​



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 4.6

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ และก็ในหลายระดับราคาด้วย ไม่ว่าจะเป็น ONE Bangkok Residence (Tentative Name), AMAN Nai Lert Bangkok, Thirty Thre... อ่านต่อ

17 April, 2024



คัดสรรให้! งบ 7 ลบ. ก็หาซื้อคอนโดหรูพร้อมอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย ได้

หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมท... อ่านต่อ
12 April, 2024

เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

สืบเนื่องมาจากข้อมูลของกระทรวงการคลังที่รายงานครม.ไปว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา ภา... อ่านต่อ
10 April, 2024

มาร่วมออกแบบโครงการให้โลกจำเป็นตำนาน ด้วยสูตรลับที่ตกผลึกมาจากประสบการณ์หลากหลายมุมมอง กับหลักสูตรสำหรับคนฝันใหญ่ “Iconic Xperience 2”

ในการพัฒนาโครงการอะไรก็แล้วแต่ แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของผู้พัฒนาโครงการก็น่าจะเป็นในเรื่... อ่านต่อ
1 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง