Monthly Roundup พ.ค. 63
New Product
บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
เปิดตัวโครงการแฟล็กชิพบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ มูลค่ากว่า 830 ล้านบาท ใจกลางบางนา ภายใต้ชื่อ “โคโม่ เบียงก้า” อีกหนึ่งโครงการที่รังสรรค์ผ่านเส้นสายสถาปัตยกรรมที่”เรียบแต่มาก” นำเสนอประสบการณ์การใช้ชีวิตสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอลตามแบบฉบับของแบรนด์ “โคโม่” ที่ยังคงชูจุดเด่นด้านความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและการออกแบบที่โดดเด่น ตอบโจทย์ครอบครัวคนเมืองยุคใหม่ พร้อมเปิดพรีเซลแล้ว ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 นี้
โครงการ “โคโม่ เบียงก้า” เกิดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Minimal Eco Living” ซึ่งการใช้งาน พื้นที่ใช้สอย และความงดงามของสถาปัตยกรรมถูกผนวกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน “โคโม่ เบียงก้า” สร้างอยู่บนพื้นที่กว่า 21 ไร่ ถูกสร้างสรรค์ด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบ Modern Monolithic Minimalism ที่เข้ากันกับวิถีชีวิตสไตล์โมเดิน์นทรอปิคอล หน้าต่างเบย์วินโดว์ถูกสร้างติดกับเฉลียงขนาดใหญ่ การออกแบบภายในเพื่อเพิ่มพื้นที่สูงสุด ทำให้บ้านมีขนาดพื้นที่ใช้สอยยูนิตละ 162 ตารางเมตร บนพื้นที่ 37.5 – 64.7 ตารางวาต่อยูนิต มีพื้นที่กว้างขวาง ตอบรับทุกโจทย์ชีวิต ของทุกสมาชิกในครอบครัว
บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
รุกตลาดแนวราบชิงเปิด “ทาวน์โฮมติดโซลาร์” รายแรกในวงการอสังหาฯ ไทย เตรียมขาย มิ.ย. นี้ ชี้จุดเปลี่ยนหลังโควิดป่วน มาตรการ Work From Home กลายเป็น New Normal แต่โซลาร์จะเป็น Next New Normal ที่ช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คอนซูมเมอร์ได้ระยะยาว 25 ปี
เน้นกลุ่มคอนซูมเมอร์ระดับกลาง – ล่าง ขนาดติดตั้งโซลาร์ 1 กิโลวัตต์ ซึ่งเท่ากับการเปิดแอร์ และคอมพิวเตอร์ทำงาน ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าไฟเพิ่ม ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับคนกลุ่มนี้ ภายใต้ชื่อโครงการ “เสนา วิลล์ ลำลูกกา คลอง 6” ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่ม 22 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 138 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 1 คัน ราคาเริ่ม 2 ล้านบาท กำหนดเปิดขายเดือน มิถุนายน 2563
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
SC ประสบความสำเร็จจากการพลิกกลยุทธ์การตลาดแนวราบสู่ออนไลน์ ทำให้ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยในไตรมาส 2/63 จะเปิดบ้านเดี่ยวเพิ่มอีก 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท ราคาเริ่ม 5-50 ล้านบาท และเตรียมปิดการขายโครงการบ้านอีก 6 โครงการ
โดย 2 โครงการแรกที่จะเปิด Pre-sale ในวันที่ 16-17 พ.ค. นี้ ได้แก่ บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี บ้านหรู 2 ชั้น พื้นที่ 10-2-7.5 ไร่ มูลค่าโครงการ 730 ล้านบาท จำนวน 37 ยูนิต เริ่ม 13.99 – 26 ล้านบาท, บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 5 บ้านหรู 2 ชั้น 3 แบบ พื้นที่ 44 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท จำนวน 189 ยูนิต ราคาเริ่ม 8.99-15 ล้านบาท และอีก 2 โครงการใหม่ เปิดในวันที่ 23-24 พ.ค. คือ เดอะ เจนริ วิภาวดี วิลล่าหรู 3 ชั้น ดีไซน์ใหม่ รองรับครอบครัวใหญ่ 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ เพียง 10 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 27-50 ล้านบาท และเวนิว โฟลว์ แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 แบบ พื้นที่โครงการ 68-1-59 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,710 ล้านบาท จำนวน 254 ยูนิต ราคาเริ่ม 5-10 ล้านบาท พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังมีแคมเปญโปรโมชั่นผ่อนหนักให้เป็นฟรี ‘SC Super Free’ เมื่อจองโครงการตั้งแต่วันนี้ – 31 พ.ค. 63 และโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 30 มิ.ย. 63 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1749
บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี 2563 ว่า บริษัทฯ จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 4-5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 2-3 โครงการ โดยเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียมทั้งหมดภายใต้แบรนด์ “ควินทารา” (QUINTARA) อาทิ ควินทารา คีเนท รัชดา 12, ควินทารา ภูม สุขุมวิท 39 ซึ่งโครงการทั้งหมดล้วนตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพโดยอยู่ในแนวรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT มีระดับราคาอยู่ที่ 3-7 ล้านบาท จับกลุ่มเป้าหมายกลาง-บน โดยโครงการภายใต้แบรนด์ควินทารานี้จะเป็นโครงการที่จะมาสร้างรายได้หลักให้กับบริษัทฯ ในปีนี้ และอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง อีก 2 โครงการเป็นโครงการแนวราบ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ได้เพิ่มช่องทางขายแบบ 24 Hrs. online booking พรีเซลแบบออนไลน์ 100 % เพื่อเปิดขายทางช่องทางออนไลน์ 24 ชม. และมีการทำ VR360 องศา (Virtual Reality) ของห้องตัวอย่างเหมือนจริงส่งให้ลูกค้าชมห้องตัวอย่างที่บ้านได้ง่ายโดยไม่ต้องเดินทางมาเซลล์ออฟฟิศ
Real Estate Hi-Light
บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ตอบรับปรากฏการณ์ยอดขายบ้าน “โครงการลุมพินี ทาวน์วิลล์ พหลโยธิน – สะพานใหม่” ดีสวนกระแสตลาด หลัง Covid-19 ระบาด ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจให้ซบเซา โดยภายในเวลา 2 เดือน LPN สร้างยอดขายได้จำนวน 80 หลัง คิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ลบ. เชื่อมั่นผลตอบรับเกิดจากทำเล ราคา ดีไซน์ การบริหารหลังการขาย “ชุมชนน่าอยู่” รวมถึงดีมานด์ของผู้บริโภคยังมี ในยุคที่ความคุ้มค่าต้องมาก่อน ด้วยราคาขายเริ่มต้น 2.30 ลบ. ประกอบกับบ้านยังตอบโจทย์เรื่องพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง พอดีสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว บ้านยังรองรับรูปแบบการทำงานที่บ้าน (Work From Home) หลังสถานการณ์ Covid-19 คลี่คลายลงอีกด้วย
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
ในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 1,700 ล้านบาท ถือเป็นยอดขายที่สูงที่สุดของเดือน เม.ย. (New High) แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการในกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมกว่า 1,100 ล้านบาท และยอดขายจากกลุ่มธุรกิจบ้านจัดสรรกว่า 600 ล้านบาท
ทั้งนี้ ช่วงเดือน เม.ย. ออริจิ้นได้หันมาใช้กลยุทธ์ Online-Merge-Offline (OMO) นำการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์มาเชื่อมโยงกันแบบไร้รอยต่อ นำโครงการที่อยู่อาศัยของออริจิ้นมาวางจำหน่ายบนแพลทฟอร์มออนไลน์ พร้อมทั้งจัดแคมเปญ “Always Online” ให้ผู้บริโภคสามารถจองโครงการคอนโดมิเนียมในเครือ 15 โครงการ ในราคาเพียง 1,999 บาท ขณะเดียวกัน ยังเชื่อมโยงทุกประสบการณ์ทั้งการหาข้อมูล การจอง การทำสัญญา การตรวจห้อง การโอนกรรมสิทธิ์ ให้มาทำผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ได้ คาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดขายในเดือน เม.ย. แตะ New High ได้สำเร็จ
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)
เปิดผลประกอบการไตรมาส 1/2563 มีกำไรสุทธิ 108.2 ล้านบาท ลดลง 55.6% จาก 243 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 2,512.9 ล้านบาท ลดลง 30.6% จาก 3,623.0 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รายได้รวมไตรมาส 1/2562 จะเป็นจำนวน 3,031.5 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นรายได้ลดลง 17.1% พร้อมเดินหน้าธุรกิจต่อเนื่องด้วยมาตรการควบคุมและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด ทำให้ค่าใช้จ่ายการบริหารส่วนกลางและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวมลดลง 37.1% และ 22.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ เพื่อการบริหารงานและการใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในไตรมาส 1/2563 กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ มีรายได้จากสินทรัพย์ดำเนินงานอยู่ที่ 1,534.6 ล้านบาท ลดลง 36.2% จาก 2,404.0 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศปรับตัวลดลงตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม รวมทั้งการจัดประชุมสัมมนาและจัดแสดงสินค้าต่างๆ หยุดชะงักตามนโยบายของรัฐบาล
บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
ในไตรมาสแรกนี้ บริษัทยังคงสามารถทำผลงานโดยรวมได้น่าประทับใจ โดยมียอดรับรู้รายได้ที่ 1,254 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 247 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับไตรมาสแรกของปีก่อนหน้าที่ฐานสูง จากการที่ลูกค้าบางส่วนเร่งโอนกรรมสิทธิ์เข้ามาก่อนที่มาตรการ LTV จะเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อเมษายน 2562 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้ามียอดเติบโต 24 ล้านบาท
ตามแผนขยายธุรกิจในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่จำนวน 9 – 11 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 5,000 – 5,500 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นการเปิดโครงการเพื่อการทดแทนโครงการเดิมที่จะทยอยปิดโครงการไป ทั้งนี้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 4 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนโครงการที่เหลือขอประเมินว่าโควิด-19 จะไม่แพร่กระจาย
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)
ไตรมาสแรกของปี 2563 บริษัทฯ และบริษัทย่อยสามารถทำรายได้รวมจากการขายและบริการได้ 640.92 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายอยู่ที่ 496.93 ล้านบาท โดยมียอดขายเพื่อยื่นขออนุมัติเครดิตเบื้องต้น รวมกับยอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ สูงกว่าสิ้นปี 2562 กว่า 40% เป็นผลมาจากแผนการปรับเปลี่ยนแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการมีรายได้เติบโตขึ้นเป็นจำนวนถึง 143.99 ล้านบาท เติบโตเพิ่ม 23% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
แม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤต แต่บริษัทฯ ก็ยังสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจเช่าและบริการ ถึง 143.99 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 23% โดยรายได้หลักมาจากโครงการ บางกอก ฟรีเทรด โซน ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จำนวน 92.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 29.31 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นถึง 46.12%