ไม่หยุดแค่ความเป็นหนึ่ง! กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเอพีครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุด เตรียมมูฟออนต่อด้วย 18 โครงการคุณภาพ พร้อมปั้นแบรนด์ “MODEN” บุกตลาด 3-5 ล้าน
สำหรับปีที่ผ่านมาและปีนี้ต้องบอกว่า เอพี ไทยแลนด์ มีทั้งสินค้าและโครงการที่เป็น Super Stars เชิดหน้าชูตาบริษัทหลายประเภทมาก เราได้รับรู้ถึงความเป็นอันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่องของธุรกิจทาวน์โฮม ที่แบรนด์บ้านกลางเมืองครองส่วนแบ่งการตลาดของทาวน์โฮม 3 ชั้นมากที่สุดจากมูลค่าตลาดรวมย้อนหลัง 4 ปี และการประกาศศักดาในการรุกตลาดพัฒนาโครงการคอนโด Mass Segment ที่ดีที่สุดอย่างแบรนด์แอสปาย มาในวันนี้ก็ถึงคราวของอีกหนึ่ง Super Star ของค่ายนั่นก็คือกลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยว ที่ต้องบอกว่ามีอัตราการเติบโตในแบบคู่ขนานไปกับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของโครงการแนวราบโดยรวมทั้งหมดของเอพีอันประกอบไปด้วย ทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ที่มียอดพรีเซลโดยรวมเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยครึ่งปีแรกของปี 2022 นี้สามารถทำยอดเติบโตได้มากกว่าครึ่งปีแรกของปี 2021 ถึง 25.2% หากคิดเป็น % จากยอดของเป้าที่ตั้งไว้ในปีนี้ก็จะพบว่า Achieve ยอดไปถึง 54% แล้ว ด้วยมูลค่ารวมถึง 20,572 ล้านบาท จาก 38,000 ล้านบาท
ด้วยทิศทางการเติบโตดังกล่าวแน่นอนว่ากลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวของ เอพี ไทยแลนด์ ปีนี้น่าจะมียอดขายพรีเซลถึงตามเป้าแน่นอน โดยที่ยังคงมีข่าวดี และโจทย์ทางธุรกิจเพิ่มขึ้นมาก็คือ วันนี้บ้านเดี่ยวเอพี ยังถือครองส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดของตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล ประจำรอบปี 2015 – 2021 จากผลสำรวจโดย AREA
ควบคู่กับการเติบโตที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งในมิติจำนวนและมูลค่าการพัฒนาโครงการใหม่ โดยปี 2022 ถือเป็นปีที่บ้านเดี่ยวเปิดตัวโครงการมากสุดถึง 23 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 32,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ถ้าเทียบจากปีก่อนหน้า รวมถึงสัดส่วนการกระจายโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่ที่มากขึ้น ซึ่งคาดว่าปีนี้ บ้านเดี่ยวเอพีจะมีโครงการปูพรมในทุกพื้นที่มากกว่า 50 โครงการ ซึ่งเป็นจำนวนตัวเลือกที่มากพอที่จะให้ลูกค้าสามารถมีชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้
จากโจทย์ทางธุรกิจดังกล่าว นับว่ามีความท้าทายในหลายๆเรื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการรักษาสถานะของความเป็นผู้นำที่ไม่ยึดติดอยู่กับกลุ่มตลาดในปัจจุบัน แต่จำเป็นต้องมูฟออนต่อไปยังกลุ่มตลาดใหม่ๆ ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาสินค้ารูปแบบใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับดีมานด์ และกำลังซื้อที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลันในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งทางคุณรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว หนึ่งในคีย์แมนคนสำคัญของ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ ได้มีมุมมองต่อโจทย์ดังกล่าวว่า
“ในทุกๆธุรกิจความสำเร็จต้องผ่านการทำงาน ปรับเปลี่ยนมาอย่างหนัก ซึ่งทุกๆย่างก้าวของการเติบโตจะมีการ Set Skill ใหม่ๆ จากการเข้าไป Explore ตลาดใหม่ๆ ซึ่งคีย์ไดรฟ์ที่ผลักดันให้บ้านเดี่ยวเอพีเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง มาจากทิศทางการพัฒนาสินค้าที่ชัดเจนในการสร้างความต่างในเรื่องของ Product Offering และ Price Package เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาตัวบ้าน จะต้องตอบได้ในเรื่องความคุ้มค่าทั้งในมิติด้านพื้นที่ใช้สอยไม่ว่าจะเป็นงานสถาปัตยกรรมภายนอกที่ต้องส่งผลต่อพื้นที่ภายใน ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บ้านเดี่ยวเอพีจะต้องส่งมอบความรู้สึกที่มากกว่า ควบคู่ไปกับแพ็กเกจราคาขายที่ลูกค้ารับได้ เมื่อเทียบกับซัพพลายที่เสนอขายอยู่ในทำเลเดียวกัน ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลที่ชำนาญ ทั้งทดแทนโครงการเก่าที่ปิดการขายลง หรือการขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่ความท้าทายใหม่ของปีนี้คือการนำบ้านเดี่ยวเอพีบุกเข้าไปยังตลาดใหม่ๆ ในกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์ Market Penetration เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้ง”
มุ่งสู่ความเป็นเจ้าตลาดบ้านเดี่ยวราคา 3 – 5 ล้านบาท ด้วยแบรนด์ใหม่ “MODEN”
ในอดีตที่ผ่านมาหากนึกถึงโครงการแนวราบที่มีราคาขายประมาณ 3-5 ล้านบาท ความคิดของคนส่วนใหญ่ก็คงนึกถึงสินค้า 2 ประเภท นั่นก็คือทาวน์โฮม หรือไม่ก็บ้านเดี่ยวขนาดเล็กในทำเลชานเมือง เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องของราคาที่ดิน และความต้องการที่เฉพาะตัวของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ รวมไปถึงความคุ้มค่าในการลงทุนของดีเวลลอปเปอร์ ที่หากใครที่มองในเรื่องของผลกำไรเป็นหลักก็มักจะเลือกพัฒนาเป็นโครงการคอนโดที่มีจำนวนยูนิตเยอะๆเพื่อตอบโจทย์กำลังซื้อในระดับราคานี้ แต่ต้องยอมรับว่าบริบท และเหตุผลในการซื้อที่อยู่อาศัยของเรียลดีมานด์ในปัจจุบันโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z นั้นมีความแตกต่างไปจากเดิม บ้านเดี่ยวกลายเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยลำดับแรกๆที่คนเหล่านั้นมองหา ด้วยเหตุผลในเรื่องของพื้นที่รอบบ้านที่มากกว่า ให้ความเป็นส่วนตัวที่ดีกว่า จอดรถได้สะดวกกว่า ให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างเต็มที่ตามสไตล์ Staycation ฯลฯ ซึ่งแนวคิดของการที่บ้านสามารถเป็นทุกอย่างให้กับเราได้นั้นได้จุดประกายให้เอพีในการที่จะบุกเข้าไปยังตลาดใหม่ๆ ในกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท ที่ยังไม่มีใครยึดครองความเป็นเจ้าตลาดได้อย่างจริงจัง ภายใต้กลยุทธ์ Market Penetration เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้ง โดยการบุกตลาดใหม่ครั้งนี้จะเป็นการเข้าไปในทำเลใหม่ๆ ที่ยังไม่มีสินค้าในพอร์ตเอพี ด้วยแบรนด์สินค้าที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า MODEN (โมเดน) ภายใต้มาตรฐานที่ไม่ต่างจากบ้านเดี่ยวเอพีในแบรนด์อื่นๆ
“อะไรที่เราถนัดก็ทำต่อ แต่เราจำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Port Folio ของบ้านเดี่ยวในระดับราคา 3-5 ลบ. ตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ถือเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ ด้วยจำนวนซัพพลายที่เกิดขึ้นจากดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ยังมีไม่มาก เราจึงอยากใช้ความชำนาญและความเชี่ยวชาญที่เรามีสร้างโอกาสในการเติบโต และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับพอร์ตสินค้าบ้านเดี่ยวเอพีเรา ควบคู่ไปกับการส่งมอบตัวเลือกใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกชีวีตดีๆ ที่ต้องการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายในมุมมองของเอพีที่ถนัดทำบ้านราคาแพง เพราะเอพีมองว่ามาตรฐานในการสร้างบ้านไม่ว่าจะถูกหรือแพงก็จำเป็นที่จะต้องเหมือนกัน แต่จะทำอย่างไรเพื่อพัฒนาโปรดักส์ให้สมเหตุสมผลกับราคาที่ได้บ้าง คำตอบก็อยู่ที่การมองหาทำเลใหม่ๆที่มีต้นทุนที่ดินไม่สูงมาก โดยที่กลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อและความต้องการในรูปแบบการอยู่อาศัยสไตล์บ้านเดี่ยวที่ชัดเจน บนทำเลสมุทรปราการ อย่างศรีนครินทร์ เทพารักษ์ และพระราม 2 – สมุทรสาคร ซึ่งเราเชื่อว่าการเปิดตัวแบรนด์ MODEN ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ไม่ต่างจากแบรนด์บ้านเดี่ยวอื่นๆ ของเราที่ประสบความสำเร็จ” คุณรัชต์ชยุตม์ กล่าวเสริม