ถึงแม้ว่าตลอดช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาฯในกรุงเทพฯนั้นดูเหมือนว่า ดีเวลลอปเปอร์แบรนด์ดังแต่ละเจ้า จะสงวนท่าทีกันอยู่ ไม่ค่อยจะเปิดโครงการในระดับ talk of the town กันมากนัก แต่ช่วงเวลานับจากนี้ไป ก็เป็นที่แน่นอนว่าทุกเจ้าต้องทยอยปล่อยหมัดเด็ด คอนโดแบรนด์แฟลกชิพ ลงชิงชัยในสมรภูมิคอนโดกลางเมือง ก่อนที่ตลาดจะเริ่มวายก่อนช่วงสิ้นปีอย่างแน่นอน

สำหรับเหล่านักลงทุนทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ รวมถึงบรรดาแฟนคลับขาประจำในวงการจองคอนโดระดับ A- List ก็น่าจะเบื่อมากในช่วงเวลาเทศกาลที่จะต้องไปตบตีแย่งชิงกัน เพื่อเข้าคิวจองคอนโดยูนิตที่ตัวเองหมายตาเอาไว้ มีไม่น้อยที่ต้องเสียเงินหลักหมื่นในการซื้อคิว จองห้องพักค้างคืนในโรงแรมที่ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานขาย จนอาชีพรับต่อคิวจองคอนโดกลายเป็นอาชีพที่ทำเงินมหาศาลภายในช่วงเวลาข้ามคืน ให้กับบรรดาวินมอเตอร์ไซค์ในละแวกนั้น ที่หนักไปกว่านั้นก็คือมีหลายรายที่เสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าจองคิว และก็ดันไม่ได้ห้องที่ตัวเองต้องการ กลายเป็นว่าต้องไปเสียเงินซื้อห้องรีเซลต่อจากคนข้างหน้าในหลักหลายหมื่นบาทก็มี…นี่มันคิวเดียวเปลี่ยนชีวิตชัดๆ

คงจะดีไม่น้อยที่ช่องทางการขายสินค้าที่มีราคาแพงมหาศาล อย่างคอนโดติดรถไฟฟ้าจะมีมากไปกว่าการไปยืนต่อคิวข้ามคืนที่หน้าโครงการในวันพรีเซล โดยที่ไม่มีหลักประกันว่าเราจะได้ยูนิตที่ตัวเองต้องการหรือไม่…หันไปดูในหมวดธุรกิจอื่นๆ ช่องทางการขายสินค้านั้นมีอยู่หลากหลาย ตั้งแต่หน้าร้าน ตัวแทนจำหน่าย ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงการขายตรง ซึ่งแต่ละช่องทางก็ถูกสร้างมาเพื่อให้ครอบคลุมพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่ม ที่สำคัญคือ ช่องทางการขายออนไลน์ก็ดูจะเป็นธรรมเนียมปฎิบัติโดยปกติของบรรดาสินค้า FMCG และ IT Gadget กันหมดแล้ว…แล้วทำไมคอนโดถึงไม่ค่อยมีใครเปิดจองยูนิตพรีเซลในแบบออนไลน์กันบ้างล่ะ?

หากเราย้อนมองดูในตลาดจะเห็นว่าในเมืองไทยมีดีเวลลอปเปอร์เพียงแค่ 3-4 รายเท่านั้น ที่นำช่องทางออนไลน์มาใช้ในการจองคอนโดเปิดใหม่อย่างจริงจัง ส่วนเจ้าอื่นๆที่เห็นมีการโปรโมตว่าจองออนไลน์ได้ ก็มักจะเป็นการจองห้องที่ไม่ได้เป็นโครงการเปิดใหม่ และห้องที่ถูกคัดมาเพื่อจองออนไลน์ก็ไม่ได้เป็นห้องที่ฮอตแต่อย่างใด ที่สำคัญคือยังไม่เคยมีโครงการคอนโดเปิดใหม่ ในระดับ A-List ที่สามารถสร้างกระแส talk of the town ในหมู่นักลงทุนได้ เปิดจองในแบบออนไลน์มาก่อนเลย!…และถ้าผมบอกว่านับจากนี้ โครงการคอนโดใหม่ ของเจ้าพ่อคอนโดติดรถไฟฟ้าดีไซน์สวย อย่างอนันดา ดีเวลลอปเมนท์ฯ จะเปิดให้จองในแบบออนไลน์บ้างล่ะ คุณจะตื่นเต้นแค่ไหน?

หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ในการจองคอนโดพรีเซลของค่ายอนันดาฯมาว่า ในหลายโครงการอย่างเช่น Ashton Asoke, Ideo Q Chula Samyarn, Ideo Q Ratchathevi และ Ideo Mobi Phayathai นั้นต่อให้มีเงินพร้อม แต่ถ้าไม่มีวาสนาพอก็ไม่สามารถที่จะจองห้องได้ เนื่องจากรอบการจองนั้นมีหลายรอบ แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลายกลุ่ม จนห้องดีๆมีไม่เหลือพอที่จะตกถึงมือกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ…ด้วยเทรนด์การใช้สื่อออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆอุตสาหกรรม บริษัทอนันดาฯ ในฐานะที่เป็นผู้นำในด้านคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า และการพัฒนานวัตกรรมที่ต่อยอดแนวคิด Urban Living Solutions โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็น Gen C เล็งเห็นถึงความต้องการของกลุ่มตลาดเป้าหมาย ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ศึกษาข้อมูลโครงการคอนโดเปิดใหม่บนโลกออนไลน์ และคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับการทำธุรกรรมออนไลน์ในชีวิตประจำวัน จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Ananda Online Booking ขึ้นมาเป็นครั้งแรก ภายใต้แคมเปญ  “Ananda Click Now” จองง่าย ได้เลย” เพื่อตอกย้ำให้ตลาดได้เห็นว่าแพลตฟอร์มการจองออนไลน์ของอนันดาฯนั้น เป็นการจองคอนโดพรีเซลที่เป็นโครงการชั้นนำจริงๆ ยูนิตทุกยูนิตที่ถูกนำมาขายออนไลน์เป็นยูนิตที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี จองก่อนช่องทางอื่นๆ ด้วยส่วนลดพิเศษที่มากกว่า และยังปลอดภัยต่อการทำธุรกรรมออนไลน์ด้วยระบบ e-payment gateway ที่เชื่อถือได้จากธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศไทย”

โดยแคมเปญ “Ananda Click Now จองง่าย ได้เลย” เป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่นำเสนอยูนิตพร้อมจองออนไลน์โดยเป็นห้องที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมส่วนลดพิเศษที่มากกว่าช่องทางการจองแบบปกติ โดยที่ผู้สนใจซื้อโครงการสามารถทำการจองออนไลน์ได้สะดวกผ่านทุก devices ได้ทุกที่ ภายในช่วงเวลาที่กำหนด ดีเดย์จองครั้งแรกพร้อมกันกับ 2 โครงการใหม่ Ideo Mobi Asoke และ Venio Sukhumvit 10 วันที่ 22 กันยายน 2559 เวลา 3 ทุ่ม – เที่ยงคืน

ภายใต้แคมเปญนี้ จะประกอบด้วยโครงการคอนโดที่เข้าร่วมได้แก่ Ideo Mobi Asoke และ Venio Sukhumvit 10 โดยโครงการ Ideo Mobi Asoke เป็นโครงการภายใต้แบรนด์ Mobi ที่ถูกนำมาพัฒนาต่อยอดขึ้นในรูปโฉมใหม่ “The New Era” ด้วยรูปแบบดีไซน์ที่ไม่เหมือนเดิม มาพร้อมกับแนวคิด Smart Building บนทำเลแหล่งธุรกิจใจกลางเมือง ราคาเริ่มต้น 4.19 ล้านบาท และโครงการ Venio Sukhumvit 10 แบรนด์ใหม่ล่าสุดภายใต้การพัฒนาโครงการโดย Helix (บริษัทในเครือของ อนันดาฯ) ซึ่งเป็นโครงการระดับ Premium บนทำเลใจกลางสุขุมวิท ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท

มีชั้นไหนให้เลือกบนหน้าจอ และห้องไหนบ้างที่อยู่ใน Wish List ของผม

เพื่อช่วยให้คุณผู้อ่านเตรียมพร้อมในการจองคอนโดออนไลน์ทั้งสองโครงการ ได้ดียิ่งขึ้นผมจึงขออนุญาต พูดถึงจำนวนชั้น และยูนิตที่น่าสนใจที่มีให้ขายในช่องทางออนไลน์ในวันที่ 22 กย. นี้ครับ เผื่อว่าถึงเวลาปุ้ปก็พุ่งตรงไปที่ยูนิตนั้นเลย ไม่ต้องมานั่งเสียเวลามาดูข้อมูลทีละชั้นครับ ไม่ทันชาวบ้านหรอกคุณผู้อ่าน!!

Ideo Mobi Asoke จะเปิดให้จอง 3 ชั้นคือชั้น 10,22 และ 32 ครับ ซึ่งรายละเอียดการจ่ายเงินก็คือห้องแบบสตูดิโอ และ 1 ห้องนอน ต้องรูดจ่ายค่าจอง 50,000 บาท ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนและ Duplex ต้องจ่าย 1 แสนบาทครับ สำหรับส่วนลดที่ได้นั้นรับรองว่าสูงกว่าส่วนลดที่ได้จากการจองช่องทางปกติมากครับ นั้นคือ ลดไปเลย 100,000 บาทสำหรับห้องสตูดิโอ และ 1 ห้องนอน และ 200,000 บาทสำหรับห้อง 2 ห้องนอน และ Duplex

Venio Sukhumvit 10 จะเปิดให้จอง 2 ชั้น คือชั้น 2 และชั้น 4 ซึ่งโครงการนี้ขอบอกว่าค่าจองถูกมาก โดยห้องแบบสตูดิโอ และ 1 ห้องนอนจะจ่ายเพียงแค่ 30,000 และ 40,000 บาทตามลำดับ โดยที่ห้องสองห้องนอนจะจ่าย 50,000 บาท สำหรับส่วนลดก็คือลดให้ 20,000 บาท เท่ากันทุกห้องครับ

เริ่มจาก Ideo Mobi Asoke กันแลยดีกว่า

หลังจากที่ผมและคุณคอนโดแมนเคยเขียนบทความเกี่ยวกับโครงการนี้มาแล้วถึง 2 บทความ The all new “IDEO MOBI ASOKE” The Revolutionary Smart Condominium และ เจาะลึกแปลน และฟังก์ชั่นสุดล้ำ Ideo Mobi Asoke โดยคอนโดแมน มาวันนี้ผมจะขอพุ่งตรงไปที่ยูนิตที่ผมสนใจที่จะเปิดให้จองออนไลน์ไปเลยครับ (อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะ สุดแล้วแต่ว่าจะมีใครชอบตามผมหรือเปล่าครับ)

ห้องชั้นเตี้ยสุดที่เปิดจองก็คือชั้น 10 ครับ คือส่วนตัวแล้วบอกไว้ก่อนว่าผมเองเป็นคนที่ชอบอยู่คอนโดชั้นเตี้ยๆ มากกว่าชั้นสูงครับ เหตุผลหลักก็คือมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าชั้นบนๆ โดยที่บางยูนิตก็มีจุดขายที่ชัดเจนในเรื่องของวิว Landscape สวยๆบริเวณชั้นล่างๆของโครงการด้วย แถมบางครั้งถ้าลิฟท์เสียเราก็ยังเดินขึ้นมาไหวครับ ฮา…

ชั้นอยู่อาศัยของโครงการจะเริ่มที่ชั้น 7 ซึ่งเป็นชั้นที่มีสวนส่วนกลาง Retreat Garden กระจายตัวอยู่รอบด้านแถมเป็นจุดสูงสุดของ Urban Trail Running ด้วยแหน่ะ ดังนั้นแน่นอนเลยว่าจุดขายของชั้น 10 นี้คงจะเป็นวิวที่ใกล้ชิดกับ Retreat Graden ทั้งทิศตะวันออกและทิศใต้ โดยที่ทิศใต้ดูจะได้เปรียบชัดเจนในเรื่องของการได้เห็นวิวถึงสองสวน โดยมี Dynamic Garden สวนเลียบคลองแสนแสบ ให้เรามองลงมาอย่างผ่อนคลายจากระเบียงห้องด้วยครับ ในขณะที่ทิศตะวันออกดูจะมีจุดเด่นในเรื่องของราคาที่เค้าว่ากันว่าเริ่มต้นแค่ตรม.ละแสนห้าเองอ่ะคุณผู้อ่าน!!!

Dynamic Garden เลียบคลอง

Retreat Garden ชั้น 7

เมื่อเป็นเช่นนี้ผมจึงเทใจไปที่ห้องทางทิศใต้ของชั้น 10 เต็มๆเลยครับ (ได้ข่าวว่าราคาจะเริ่มต้นประมาณตรม.ละ 170K) ถ้าถามความเห็นผมก็ยังจะเชื่อว่าห้องสตูดิโอ 24 ตรม. เบอร์ 05 น่าจะขายดีเพราะมีราคาต่อยูนิตน่าลงทุนที่สุดครับ ส่วนห้อง 1 ห้องนอน เลย์เอ้าท์หน้ากว้าง 7 เมตรกว่าๆ มี Double access สำหรับห้องน้ำ ซึ่งเป็นแบบใหม่ของอนันดา ก็น่าจะเป็นของหายากเช่นกัน เพราะดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่แล้วมักจะเอาห้องมุมเป็นห้องสำหรับห้องแบบสองห้องนอน และทำเลแถวนี้หาห้องที่มีขนาดประมาณนี้ไม่ค่อยได้เลยครับ ที่มีอยู่ก็ขายหมดแล้ว ดูอย่าง Life Asoke สิ

ชั้น 22 เป็นชั้นกลางๆที่ผมมองว่าน่าเลือกมุมทางทิศตะวันตก เพราะถึงเลือกทางทิศใต้ก็จะมองไม่เห็นระยะ Landscape แล้ว สู้เลือกด้านนี้ เพื่อไปดูวิวส่วนกลางของอาคารข้างเคียงจะดีกว่าครับ สำหรับคนชอบห้อง 1 นอนก็คงจะเป็นห้องเบอร์ 07 และคนที่อยากได้ห้อง 2 นอนที่มีขนาดใหญ่สุดของโครงการ (61 ตรม.) โดยมีไฮไลท์คือกระจกเข้ามุมสามเหลี่ยมโค้งในห้องนอน และมีหน้ากว้างรวมกว่า 11 เมตร ไว้ส่องวิวซุปเปอร์ ทาวเวอร์ ห้องเบอร์ 12A นี้ก็จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะว่ามันน่าจะมีราคาถูกกว่าชั้น 32 พอสมควรนะครับ

ส่วนตัวเลือกที่รองลงมาคือห้องเบอร์ 11 และ 12 ได้วิวโปร่ง และเห็นไปถึงมักกะสันด้วย แถมห้อง 12 ยังเป็น one bed ห้องเดียวที่ได้วิวใบหยกและมักกะสัน รวมถึงวิว Singha Complex ในอนาคตด้วย

มาถึงชั้น 32 เป็นชั้นที่มีห้องแบบ Duplex 1 ห้องนอน 45 ตรม. เข้ามาผสมด้วย แถมยังมีสวนส่วนกลางเพิ่มเข้ามาบริเวณทิศเหนือ ก็เลยกลายเป็นว่าสร้าง Value ที่สำคัญ ให้กับห้องในชั้นนี้ครับ โดยห้องแรกที่ผมว่าโอเคก็คือห้องเบอร์ 12 ซึ่งเป็นห้องมุมที่อยู่ติดกับสวนส่วนกลาง (เสียดายเล็กน้อยที่ไม่ใช่ห้องหน้ากว้าง) และห้อง Duplex เบอร์ 17 ที่มีความพิเศษกว่า Duplex เบอร์ 15 ตรงที่อาจจะมองเบี่ยงมุมหลบคอนโด My Resort ได้ และได้ความกว้างของห้องมากกว่าเบอร์ 15 หน่อยนึง (แต่เบอร์ 15 ก็ติดสวนนะครับ)

สำหรับโครงการ Venio Sukhumvit 10 ที่มียูนิตให้เลือกมากมายถึง 2 ชั้น คือชั้น 2 และ 4 นั้น (เหมือนชั้นสี่จะมีให้ไม่ครบ floor อีก) จากที่คุณคอนโดแมนได้เล่าเบื้องต้นเกี่ยวกับภาพรวมของทำเลไปแล้วใน Venio Sukhumvit 10 (เวนิโอ สุขุมวิท 10) คอนโดติดสวนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า

ต้องขอบอกว่าผมค่อนข้างชอบการทำห้องขนาดเล็กเริ่มต้นที่ 23.20 ตรม. ของที่นี่เป็นพิเศษครับ แหม่ถ้าให้ปล่อยเช่าระยะสั้นได้ก็คงจะดีมากสำหรับคนซื้อลงทุน จะว่าไปแล้วโครงการนี้ถ้าได้ชั้น 5-8 ขึ้นไปก็น่าจะได้เห็นวิวที่สวยงามจากสวนขนาดใหญ่ทางด้านทิศใต้และทิศตะวันตก (บางห้อง) นะครับ แต่อย่างไรก็ตาม ชั้น 2 ก็ถือว่าเป็นชั้นที่ได้ประโยชน์จากการใกล้ชิดพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ และบางห้องในชั้นนี้อย่างห้อง 21 และ 22 ก็ยังนับว่ามีวิวที่โล่งกว่าทิศอื่นๆครับ แถมชั้นนี้ยังมีระยะที่ค่อนข้างโล่งกว่าในด้านทิศตะวันตกเพราะว่าไม่มีห้อง 1 นอน 2 ห้องมาเกะกะสายตาอยู่ในฝั่งนี้…คนที่ชอบห้องเล็กยังไงก็ต้องเบอร์ 21 ครับ

สำหรับชั้น 4 ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยสูงเท่าไหร่ แต่ห้องมุมทางด้านทิศเหนือก็ยังสามารถมองเห็นสวนชูวิทย์ที่อยู่ทางฝั่งถนนสุขุมวิทได้เหมือนกัน อ้อจะว่าไปโครงการนี้ ห้องมุมชั้นล่างๆก็เป็นห้องขนาดเล็กทั้งนั้นเลย โดยทิศเหนือชั้นนี้จะเป็นห้องแบบเดียวกันล้วนๆยกเว้นเบอร์ 9 และ 12 ที่มีขนาดใหญ่กว่าหน่อย เพราะฉะนั้นห้องเบอร์ 18 ก็เลยมีความได้เปรียบในเชิงกายภาพดีที่สุดไปโดยปริยาย

และสำหรับคนที่สนใจห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องเบอร์ 21 ขนาด 53 ตรม. คือโอกาสเดียวของคุณครับ!! ห้องสองห้องนอน Type นี้ ถึงแม้ว่าจะมีกระจกน้อยไปหน่อย แตกต่างจากห้องขนาด 71.30 ตรม. บนชั้น 7 แต่ก็ถือว่าได้พื้นที่ห้อง master bedroom ที่ใหญ่มาก โดยที่ผนังอีกด้านก็ไม่ชนห้องไหน ทำเลนี้หาห้องสองห้องนอนที่มีราคาประมาณนี้ยากครับ ถึงมีแค่ตัวเลือกเดียวก็ควรที่จะคว้าไว้ก่อน ผมไม่แน่ใจว่าจะบล็อคกับอาคารใกล้เคียงทางด้านทิศใต้ที่มีความสูงราวๆ 3-4 ชั้นแค่ไหน แต่ก็เชื่อว่ามันมีระยะห่างพอสมควรครับ มุมไม่บีบมากนัก สามารถมองเลยแนวหลังคาขึ้นไปได้

คลิกอ่านเพิ่มเติม: เปิดโพย ห้องเด็ด ที่มีให้เลือกซื้อใน Ananda Online Booking โดยคอนโดแมน

ใครสนใจสองโครงการนี้ และอยากจองห้องก่อนใคร พร้อมรับส่วนลดพิเศษสุดๆ ก็เตรียมตัวกดจองได้วันที่ 22 กันยายน 2559 เวลา 3 ทุ่ม – เที่ยงคืน เท่านั้นนะครับ

อ้อ ก่อนจะทำการจองอย่าลืมทำตามคำแนะนำตามด้านล่างนี้ก่อนนะครับ…

ร่วมสัมผัสประสบการณ์ครั้งแรกกับ “Ananda Click Now จองง่าย ได้เลย” จองผ่านออนไลน์เท่านั้น ลดเพิ่มสูงสุด 200,000 บาท

คลิกลงทะเบียนรับสิทธิ์จองก่อนใคร วันนี้ -22 ก.ย. จองพร้อมกันวันเดียว 22 กันยายน 2559 เวลา 3 ทุ่ม – เที่ยงคืน

www.ananda.co.th/onlinebooking

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-316-2222