พักกายและพักใจไปกับบูติคโฮเทลสไตล์โมเดิร์นวินเทจที่ JOSH hotel ARI

Sudaporn 31 May, 2018 at 23.17 pm

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


หากเปรียบ ‘JOSH hotel ARI’ เป็นใครสักคนบนโลก โรงแรมแห่งนี้คงไม่ต่างไปจากหนุ่มใหญ่ที่หลุดออกมาจากยุค 70’s ทั้งมาดเนี๊ยบ เท่ สุขุม กับชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน ทว่าผู้ชายคนนี้ยังคงพราวเสน่ห์ สนุกสนาน และเป็นนักเดินทางตัวยง

ยิหวา ภูสีห์รัตน์ Brand Manager ของโรงแรมสีเขียวสไตล์วินเทจในซอยอารีย์ 4 หลังนี้ เล่าถึงที่มาของชื่อ ‘JOSH’ ว่าเกิดขึ้นจากการนำอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกของชื่อผู้ร่วมก่อตั้งหลักทั้ง 3 ท่าน นั่นคือ J, O, S และ H ที่ย่อมาจาก Hotel มาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน และยังเป็นคอนเซ็ปต์ของโรงแรมอย่าง ‘Journey of Someone Hotel’ ที่เน้นจับกลุ่มนักเดินทางเป็นหลักด้วย

 

แต่เดิม ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของ พีรดา โฮสเทล (Peerada Hostel) มาก่อน โดยเมื่อมีการเปลี่ยนมือและรีโนเวทขนกลายเป็น JOSH hotel ARI แบบในปัจจุบัน ตัวโครงสร้างและการจัดผังโดยรวมก็ยังถูกคงไว้ให้ใกล้เคียงเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดปลีกย่อยในบางสเปซเพื่อให้สามารถตอบโจทย์กับวิถีชีวิตแบบร่วมสมัยและให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของโรงแรมมากขึ้น

บริเวณชั้น 1 ของโรงแรมขนาด 4 ชั้น หลังนี้ ถูกจัดแบ่งให้เป็นพื้นที่ส่วนต้อนรับ กับความพิเศษอย่างการนำตู้แขวนกุญแจแบบโบราณมาใช้ พร้อมกับมุมโซฟาสบายๆ ด้านหน้า ส่วนเค้าน์เตอร์เชคอินนั้นยังมีการนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาสร้างสีสัน อาทิ กระเป๋า tote bag ไปจนถึงแผ่นเสียงสำหรับนักสะสม

 

ในส่วนของห้องพัก ได้มีการปรับการวางเลย์เอ้าท์ของเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องขึ้นใหม่ ด้วยการยุบพื้นที่ห้องพักบางห้องเพื่อขยายเป็นห้องที่พิเศษและมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้จำนวนห้องพักลดจาก 73 ห้อง เป็น 71 ห้อง 4 รูปแบบ ได้แก่ ห้อง ‘Superior Room’ ขนาด 22 ตารางเมตร พร้อมเตียงแบบทวิน ที่สามารถแยกเตียงได้ ห้อง ‘Deluxe Room’ กับพื้นที่รวม 26 ตางรางเมตร สำหรับแขกที่มาเป็นคู่ด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ 1 หลัง ห้อง ‘Family Room’ ขนาด 26 ตารางเมตร ที่รองรับผู้เข้าพักได้ 4 ท่าน กับเตียงขนาดควีนไซส์และ bunk bed อย่างละ 1 หลัง ภายในตกแต่งให้มีความด้วยเฟอร์นิเจอร์และไลท์ติ้งในโทนน้ำตาล ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบายคล้ายบรรยากาศของบ้านพัก ปิดท้ายด้วย JOSH Room ที่เกิดขึ้นจากการตีขยายห้องพักจำนวน 2 ห้อง ซึ่งความพิเศษนอกเหนือไปจากขนาดพื้นที่ที่ใหญ่กว่าห้องพักปกติถึง 2 เท่าหรือ 50 ตารางเมตร แล้ว ยังมีจุดเด่นในเชิงการออกแบบ การคัดสรรเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในโทนอุ่นและคงความย้อนยุค โดยภายในบรรจุเอาอ่างอาบน้ำในตัว และมุมนั่งเล่น

หากไม่นับรวมการนำตัวการ์ตูนนักเดินทางต่างสาขาอาชีพมาเป็นดีเทลในการประดับประดาห้องพักแต่ละห้องเพื่อถ่ายทอดเมสเสจซึ่งเชื่อมโยงไปกับนักเดินทาง อันเป็นแนวคิดของการทำโรงแรมแห่งนี้แล้ว แนวทางการออกแบบและสีสันที่นำมาใช้ในแต่ละพื้นที่นั้นเรียกได้ว่าคุณจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังของผู้กำกับชาวอเมริกันอย่าง Wes Anderson เลยทีเดียว เช่น การใช้ palatte สี ที่สะท้อนถึงความ feminine หรือความจัดจ้านของการใช้แม่สี ซึ่งเป็นการจับคู่สีได้อย่างมีจังหวะจะโคน สามารถสร้างความประหลาดใจ สนุก ทว่าผ่อนคลายและเป็นมิตรไปพร้อมๆ กัน

 

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของ ‘JOSH hotel ARI’ คือโซนห้องอาหารที่มีทั้งคาเฟ่และโซนสำหรับทานอาหารเช้า ร้านอาหารอย่าง Marigold ที่แปลว่า ดอกดาวเรือง หนึ่งในดอกไม้อันเป็นสัญลักษณ์แทนในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่จะเสิร์ฟอาหารใต้พื้นเมืองจากเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี pool bar รอต้อนรับบรรดานักดื่มอีกด้วย

 

ที่ขาดไม่ได้เลย คงจะเป็นแบรนด์เสื้อผ้าอย่าง Sunbath and Pool Only กับไลน์ beach wear ร้านไอศกรีม Hello Summer ที่เพิ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รวมทั้งร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีแพลนจะเปิดในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

 

จุดเด่นของ JOSH hotel ARI ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะภายในยังมีสเปซอื่นๆ ที่ถูกดีไซน์เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับผู้มาเยือน ทั้งแขกภายในโรงแรมและขาจรด้วยเช่นกัน ตั้งแต่ Mini Theatre Room ที่จะทางโรงแรมจะทำงานร่วมกับ The Documentary Club (www.facebook.com/DocumentaryClubTH) ในการคัดเลือกหนังน่าสนใจมาจัดฉาย รวมทั้งห้อง Mini Workshop Space ที่ได้ทีมจาก Bits and Pieces BKK (www.facebook.com/bitsandpieces.bkk) เข้ามาช่วย curate เวิร์กช็อปต่างๆ ทุกสุดสัปดาห์ ตั้งแต่การทำสวนขวด งาน Home Brew Coffee งานสีน้ำ ไปจนถึงการทำขนมสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Wagashi

 

เมื่อเปรียบเทียบกับโรงแรมในรูปแบบใกล้เคียงกัน ข้อแตกต่างของ JOSH hotel ARI ที่เห็นได้ชัดเจน คงจะเป็นการให้ความสำคัญกับรายละเอียดด้านไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าพักและผู้ใช้บริการอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกำหนดฟังก์ชั่นให้แต่ละสเปซมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการเก็บเกี่ยว ‘ประสบการณ์’ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในยุคนี้แสวงหา การออกแบบและปรับปรุงให้โครงการมีความโดดเด่น แต่ยังกลมกลืนและเชื่อมโยงไปกับบรรยากาศความเป็นชุมชนที่เป็นย่านบ้านพักอาศัย ไปจนถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แม้แต่การคัดเลือก playlist ของเสียงเพลงที่เล่นอยู่ภายในโรงแรมก็ยังสอดคล้องไปกับรูปแบบการตกแต่ง

 

JOSH hotel ARI นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายของคนรักงานออกแบบ ที่สามารถเข้ามาเอนกับบรรยากาศสบายๆ ภายในอาคารแบบ Modern Vintage และยังสามารถเอนจอยไปกับความสนุกจากพื้นที่และกิจกรรมที่เวียนมาสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ได้แบบพร้อมๆ กันด้วย

 

JOSH hotel ARI

Architect and Interior Designer: BEGRAY Co.,Ltd.

Photos courtesy of JOSH hotel ARI

Location: 19/2 Phaholyothin Road, Soi Ari 4 (Nua), Samsennai, Phayathai, Bangkok, Thailand

Contact Information: www.joshhotel.com

Sudaporn

Sudaporn

อิ๋งมีความสนใจด้านงานออกแบบ ศิลปะ และวัฒนธรรม จนมีโอกาสได้ทำงานเป็นกองบรรณาธิการให้นิตยสาร art4d ระหว่างปี 2004-2016 ปัจจุบันอิ๋งยังคงทำงานเขียนอย่างต่อเนื่องให้กับนิตยสาร องค์กร และแพลนฟอร์มออนไลน์ โดยโฟกัสไปที่งานดีไซน์ โครงการขับเคลื่อนสังคม อาหาร ท่องเที่ยว และสุขภาพ

เว็บไซต์

เนอวานา แอทเวิร์ค กรุงเทพกรีฑา

นิว เมกา พลัส บางนา

นิว เรน แจ้งวัฒนะ

Nue REN Chaengwattana (นิว เรน แจ้งวัฒนะ) คือโครงการ...

10 October, 2025

ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน - วงเวียนใหญ่

ย่านฝั่งธนฯ นับว่าเป็นย่านชุมชนเก่าแก่ที่เปี่ยมไปด้ว...

29 September, 2025

โค้บบ์ ลาดพร้าว-สุทธิสาร

เอสซี แอสเสท ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงและนวั...

22 September, 2025

ศุภาลัย เอลีท สุขุมวิท 39

"คอนโด High Rise ใหม่แบบ 2 ห้องนอนในย่านพร้อมพงษ์ ยั...

7 August, 2025

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง