ค้นพบความสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิต กับ Luxury Urban Home ที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางย่านอโศก – พระรามเก้า ที่ AQ Welle
ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหน การได้มีบ้านขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเป็นของตัวเองล้วนแต่เป็นความปรารถนาอันสูงสุดของใครหลายๆคน เพราะนอกจากจะช่วยให้การอยู่อาศัยมีความสะดวกสบายมากขึ้นแล้ว ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับทั้งผู้เป็นเจ้าของและครอบครัว แล้วก็ยังถือว่าเป็นทรัพย์สินของตัวเองที่ทวีมูลค่าเพิ่มเมื่อเวลาผ่านพ้นไปด้วยเช่นกัน ต่างจากการเช่าอยู่อาศัยที่เราไม่สามารถจะควบคุมปัจจัยหลายๆ อย่างได้ ทั้งข้อจำกัดในเรื่องของราคาค่าเช่าที่ไม่แน่นอน ค่าที่เสียเปล่าไปในแต่ละเดือน และสิทธิในการใช้งานอะไรหลายๆอย่างที่ถูกจำกัด ยิ่งหากวันนึงที่เรามีครอบครัว สมาชิกในครอบครัวทุกคนก็ย่อมล้วนแต่อยากได้พื้นที่ไว้สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ภายในครอบครัว ตัวเลือกยอดนิยมอย่างคอนโดมิเนียมแม้จะมีความได้เปรียบตรงทำเลที่ตั้งที่ส่วนใหญ่ ติดถนนเส้นหลัก เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า แต่ด้วยราคาปัจจุบันที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ขนาดพื้นที่ใช้สอยมีน้อยลง เพื่อให้ราคาขายไม่ออกมาสูงจนเกินไป คอนโดขนาด 2-3 นอน ปัจจุบันมีพื้นที่เพียงแค่ไม่เกิน 70 ตร.ม. ก็ถือว่าใหญ่แล้ว หากใครที่อยากได้พื้นที่ใช้สอยสัก 400 – 500 ตร.ม. คงจะเป็นสิ่งที่หาได้ยากสำหรับคอนโดใหม่ในยุคปัจจุบัน เพราะ Developer ก็คงไม่อยากทำห้องขนาดนี้ออกมาจำนวนมาก และในราคาที่แพงสุดๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่คงไม่สามารถที่จะครอบครองเป็นเจ้าของได้
ด้วยสถานการณ์แบบนี้จึงเกิดเป็นช่องว่างทางการตลาดสำหรับกลุ่มตลาด Luxury Urban Home โครงการบ้านที่อยู่บนทำเลใจกลางเมือง ไม่ต้องมีพื้นที่โครงการเยอะและหลายๆ โครงการ มีจำนวนไม่เกิน 30 หลัง แต่เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เล็งเห็นศักยภาพของทำเลนั้น และความคุ้มค่าในการใช้งาน คือสร้างเกือบเต็มพื้นที่บนทำเลคอนโดและใช้งานกันได้หลาย Generations
ในปัจจุบันที่อยู่อาศัยแนว Luxury Urban Home ก็กำลังเป็นที่นิยม และสามารถเจาะตลาดของกลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังทรัพย์ที่สามารถซื้อบ้านในราคา 30 ล้านบาทขึ้นได้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยากอยู่อาศัยจริงๆ ไม่ได้ซื้อไว้เพื่อลงทุนเก็งกำไร เนื่องจากคนในกลุ่มนี้มีหลาย Generation อาศัยอยู่ร่วมกัน มีทั้งผู้สูงอายุและเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งการเลือกซื้อบ้านก็เลือกบ้านที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของทุกคนได้ และพื้นที่ใช้สอยเพียงพอต่อการทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว เพราะบ้านในกลุ่ม Luxury Urban Home นี้ส่วนใหญ่จะมีความสูงมากกว่า 2 ชั้นขึ้นไป เพียงพอสำหรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ ในเรื่องของส่วนกลางในโครงการนั้นเพียงสวนเล็กๆ ให้ได้เดินผ่อนคลายรอบโครงการ หรือพาสัตว์เลี้ยงไปเดินได้สะดวก ก็คงจะดีกว่าการซื้อคอนโดมิเนียมในรูปแบบห้อง Penthouse ที่ถึงแม้จะมีพื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. ขึ้นไป และเพียบพร้อมไปด้วย Facilities หลายอย่างที่โครงการมีให้ แต่ก็เหมือนกับบ้านลอยฟ้าที่ไม่ติดพื้นดินเลย มีการใช้งานที่ค่อนข้างจำกัด ไม่สะดวกสบายเหมือนกับอยู่บ้านเดี่ยว
โดยปกติแล้ว Luxury Urban Home ก็มักจะอยู่ในย่านที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ใกล้กับเส้นรถไฟฟ้าที่ผู้อาศัยสามารถใช้ทั้งรถยนต์ส่วนตัวหรือรถสาธารณะได้ ทางด่วนที่เชื่อมไปสู่ย่านอื่นได้อย่างรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้คนในกลุ่มนี้เลือกซื้อบ้านในย่านนั้นๆ
ถ้าจะพูดถึงทำเลยอดนิยมของกลุ่ม Luxury Urban Home ที่พร้อมไปด้วยความสะดวกสบายทั้งในเรื่องการเดินทางและการใช้ชีวิตต่างๆ ก็จะมีอยู่ 3 โซนหลักๆ คือ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ (เหนือ), พระรามเก้า-พัฒนาการ-กรุงเทพกรีฑา-ศรีนครินทร์ (กลาง), สุขุมวิท-บางนา (ใต้) ซึ่ง 3 โซนนี้ตามที่เห็นกันทั่วไปก็จะมีคอนโดเกิดขึ้นใหม่อยู่เรื่อยๆ เพราะเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยออฟฟิศใหญ่ๆ แถมยังใกล้กับแนวรถไฟฟ้าทั้ง MRT, BTS และ ARL มากที่สุด ไม่เท่านั้นยังมีรถไฟฟ้าอีกหลายเส้นทางใหม่ที่รอเปิดใช้บริการอยู่ ในอนาคตสามารถเชื่อมต่อไปยังย่านอื่นได้ในเวลาที่รวดเร็ว ในขณะที่เรามักจะไม่ค่อยเห็นโครงการแนวรายขนาดใหญ่เกิน 50 ไร่มากนักในย่านเหล่านี้ เนื่องจากราคาที่ดินค่อนข้างสูง หากซื้อที่ดินได้ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในซอยที่ต้องซอกแซกเข้าไปกว่าจะหาทางเข้าโครงการเจอ หรือถ้ามีโครงการบ้านในย่านนี้ก็มักจะเป็นในรูปแบบ Luxury Urban Home ที่มีราคาเกินกว่า 30 ล้านบาทขึ้นไป
สำหรับทำเลในการพัฒนาโครงการในรูปแบบ Luxury Urban Home ที่อยู่ใจกลางเมืองมากๆ และยังใกล้ย่าน CBD ก็คงหนีไม่พ้นโครงการที่อยู่ในย่านพระรามเก้า ที่มีความได้เปรียบทั้งในเรื่องของการเดินทางที่สะดวกสบายใกล้กับโครงการรถไฟฟ้าและทางด่วนที่สามารถเชื่อมต่อไปยังย่านอื่นได้อย่างรวดเร็ว ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และอาคารสำนักงาน มีคอนโดเปิดใหม่อยู่เต็มพื้นที่ ไม่ว่าเป็นวัยเรียน หรือวัยทำงานต่างก็อยากอยู่ในย่านนี้กันทั้งนั้น