หลังจากที่ออริจิ้น เทคโอเวอร์โครงการ Park 24 มาจากกลุ่มพราวด์ (ครอบครัวลิปตพัลลภ + คุณธงชัย บุศราพันธ์)
พี่โด่งออริจิ้น คุณพีระพงศ์ จรูญเอก ก็ตั้งใจจะต่อยอดทำแบรนด์ Park ลุยตลาดพรีเมียมใจกลางเมือง โดยคงคอนเซปท์ต้นไม้เยอะๆแถมจัดเต็มกว่าของแบรนด์ Park เดิมซะอีก เพื่อตอบรับกับเทรนด์การพัฒนาอสังหายุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ซุ่มพัฒนาโครงการอยู่นานในที่สุด วันนี้แบรนด์ PARK ORIGIN ก็ได้เผยโฉมให้พวกเราได้รับรู้คอนเซปท์ของแพลตฟอร์มการอยู่อาศัยรูปแบบใหม่
ตั้งอยู่บนที่ดินแปลง Arena 10 ที่เคยเป็นของคุณตัน อิชิตัน ซึ่งเคยเป็น community mall ชื่อดังของทองหล่อตอนกลาง
ขนาดที่ดินรวมประมาณเกือบ 6 ไร่ พัฒนาเป็น โครงการคอนโดมิเนียมและพื้นที่รีเทล (โดยในส่วนพื้นที่รีเทล จะพัฒนาในชื่อ ONE Thonglor)
โครงการ ONE THONGLOR บริเวณโครงการ PARK Origin THONGLOR
NICHE STYLE COMMUNITY มาในแนวคิด MEETING POINT ที่แตกต่างจาก Community Mall ทั่วไป เป็นเสมือนอีกหนึ่งจุดนัดพบใหม่ใจกลางทองหล่อ ซึ่งเป็นแหล่ง HI CLASS Lifestyle ที่นอกจากจะประกอบไปด้วย SUPER PREMIUM SHOP & RESTAURANT แล้ว จุดเด่นหลักอีกอย่างหนึ่งของ ONE THONGLOR ที่อยู่ใจกลาง ‘ทองหล่อ’ ในพื้นที่เดิมของ ARENA 10 นั้น คือ การใช้พื้นที่ส่วนกลางของ Community Mall เป็น Lifestyle Area ที่สามารถรองรับการใช้ชีวิตได้อย่างมีระดับ
จุดเด่นที่ 3 คือระบบ HOME AUTOMATION และเทคโนโลยีต่างๆภายในห้องพัก ให้ทุกวันของการใช้ชีวิตสะดวกสบายด้วยปลายนิ้วสัมผัส
PARK ORIGIN THONGLOR มี 3 อาคารสูง Sculpture, Lake, Treeตั้งบนพื้นที่สวนขนาดใหญ่ซึ่งเชื่อมต่อกับสวนของ One Thonglor เป็นเนื้อเดียวกัน สร้างความร่มรื่นน่าอยู่แบบหาที่อื่นในทองหล่อแทบไม่ได้
อาคาร A (Sculpture) สูง 39 ชั้น 375 ยูนิต อาคาร B (Lake) 53 ชั้น 478 ยูนิต อาคาร C (Tree) 59 ชั้น 329 ยูนิต รวมๆแล้วคือ 1,182 ยูนิต ที่จอดรถอัตโนมัติประมาณ 54% ขนาดที่ดินรวม 5-3-90.9 ไร่
แต่ละอาคารมี facility หลากหลายมากมาย และมี concept การออกแบบที่แตกต่างกันไป ผมชอบ ห้อง Aqua ที่ตึก C มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ภาพสระตึก A
ภาพ Sculpture Lounge ตึก A
ภาพ Theater ตึก B
ภาพสระตึก B ที่ได้แรงบันดาลใจการออกแบบจากการหลุดร่อนของเปลือกไม้
AQUA Lounge ตึก C สุดยอดดดดดดดด
โดยอาคาร C จะเป็นตึกที่สูงที่สุดในย่านทองหล่อเมื่อสร้างเสร็จด้วยความสูงประมาณ 220-230 เมตร ซึ่งเป็นอาคารที่เปิดขายให้คนไทยก่อนและเป็นอาคารที่มีห้อง duo space เพดานสูงด้วยครับ
ห้องพักเริ่มตั้งแต่ 1 bed 30-36 ตรม. , 2 bed duo space เพดานสูง 32.5-46. ตรม. , 2 bed 40.5 – 51.5 ตรม. 2 bed Plus duo space เพดานสูง 47.5 – 51.5 ตรม. , 2 bed penthouse 55.00-66.50 ตรม., และที่พรีเมียมที่สุดคือ 3 bed Penthouse 97.0 ตรม.
** ห้องพักปกติสูง 3.0 m / ห้องพัก duo space สูง 4.25 เมตร(พื้นที่ในโฉนดไม่รวมชั้นลอย) / ห้องพัก Penthouse เพดานสูง 3.5 เมตร ในราคาเริ่มต้น 6.9 ล้าน
พูดถึงแปลน Tower C (Tree) ที่สูงที่สุด
อาคารนี้ที่พักจะเริ่มที่ชั้น 16 เป็นแบบ simplex ไปถึงชั้น 26 // พอชั้น 27 ขึ้นไปจะกลายเป็น duo space // ด้านบนของอาคารเป็น penthouse ตัวอาคารอยู่ในสุดวางตัวเหลื่อมกับอาคาร B เล็กน้อย แต่ตำแหน่งห้องที่ชนกันเป็นห้องมุมหน้าต่าง 2 ทิศ จึงไม่ถือว่าเป็นประเด็นอะไรมากมาย
ห้องแบบ Duo Space
ออกแบบวางห้องรายรอบลิฟท์คอร์ทำให้เป็นกึ่งๆ single corridor ไม่มีห้องที่อยู่ตรงข้ามกัน ฝั่งตะวันตกเป็น 1 bed typical มีห้อง 08 เป็นห้องมุมที่ได้หน้าต่าง 2 ด้าน ที่ชอบคือแม้จะเป็นห้องเล็ก 1 bed ขนาด 32.00 ตารางเมตร แต่ก็มีอ่างอาบน้ำแบบ see thoughใส่มาให้ด้วย ถูกใจคนญี่ปุ่นที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มผู้เช่าหลัก แถมทางเข้าห้องน้ำยังเป็นแบบ walk in closet อีกต่างหากลงตัวสุดๆ //ห้อง 02 ที่หันทิศตะวันออกก็สวย ได้หน้าห้องที่กว้างกว่าในขนาดตารางเมตรเท่ากัน // ห้อง 2 bed เริ่มที่ 45.50 – 51.50 ตารางเมตร อยู่ที่มุมทั้ง 3 ของอาคาร
วิวในแต่ละทิศ
ทิศตะวันตกที่เป็นทิศที่มีห้องมากที่สุดหันไปหาเส้นทองหล่อ มีข้อดีคือมุมมองใกล้ๆวิวจะโล่งตลอดไปเพราะพื้นที่ติดกันคือบ้านกลางเมืองที่เป็นหมู่บ้านจัดสรรสุดพรีเมียม ตึกสูงวิวนี้ก็สวยมากๆทั้ง Tela ทั้ง Khun by YOO
ทิศตะวันออก หันเข้าหาที่ดินตัวเองที่จะขึ้น เป็น Future Development จาก ONE Origin แต่น่าจะหลบตึกกันได้ มองไกลๆเป็นวิวเอกมัย
ทิศใต้ที่เป็นทิศของห้อง 2 BED 2 ห้อง ได้วิวทองหล่อช่วงต้นถนนสุขุมวิทยาวไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยาในชั้นสูงๆ