ขายคอนโดรอบ Online Booking มีไว้แค่เกาะกระแส หรือตอบโจทย์พฤติกรรมคนซื้อจริงๆ
ในยุคที่ใครต่อใครต่างก็เทงบประมาณการตลาดมาไว้ที่สื่อดิจิทัล เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์การบริโภคสื่อที่คนส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาเกินครึ่งของวันไปกับการท่องโลกอินเทอร์เนตผ่านหน้าจอ smart device ในการทำสารพัดกิจกรรมออนไลน์ ตั้งแต่ ดูข่าว แชท ดูหนัง ฟังเพลง ตอบอีเมล เล่นโซเชียลมีเดีย เล่นเกมส์ ทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ ไปจนถึงการช้อปปิ้งข้ามประเทศ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือการขยายตัวของสื่อดิจิทัลประเภทต่างๆที่เข้ามาแย่งแชร์ในตลาดมากขึ้น สวนทางไปกับการด่ำดิ่งลงสู่ห้วงเหวลึกของสื่อประเภท Traditional Media ที่ยังไม่ได้มีการ Transform ให้ตอบเทรนด์ดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม โดยเมื่อช่วงปลายเดือนสค.ที่ผ่านมาในงาน DAAT Day 2018 ได้ชี้ให้เห็นว่า เฉพาะแค่ในช่วงครึ่งปีแรก Media Spending ในส่วนของสื่อดิจิทัล (รวมดิจิทัลทีวี) พุ่งสูงถึง 6,684 ล้านบาท และคาดการณ์กันว่าจะมีการอัดเงินมาขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังถึง 8,289 ล้านบาท จนทำให้ในปี 2018 นี้มูลค่าของ Digital Media Spending จะสูงถึง 14,973 ล้านบาท มากกว่าปี 2017 ถึง 21% หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของมูลค่าสื่อโฆษณาทั้งหมดในประเทศไทย (ข้อมูลจาก บริษัทนีลเส็น (ประเทศไทย) ระบุว่างบซื้อสื่อโฆษณา ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 ผ่านสื่อประเภทต่างๆพบว่า มีมูลค่าการซื้อสื่อรวม 51,725 ล้านบาท)
ทั้งนี้ธุรกิจอสังหาฯนับว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการเติบโตในเรื่องของการใช้เงินในสื่อดิจิทัล ด้วยตัวเลขที่สูงถึง 124% ถ้าเทียบกับเมื่อปีที่ผ่านมา จัดว่าเป็นมีการเติบโตเป็นลำดับที่สองรองจากธุรกิจมอเตอร์ไซค์และจักรยาน และมีแค่เพียง 4 หมวดธุรกิจเท่านั้นที่มีตัวเลขการเติบโตที่เกิน 100% (อีก 2 หมวดธุรกิจคือ Office Equipment 118% และ Clothing 106%) ซึ่งถ้าพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงของ Customer Journey ในยุคปัจจุบันที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ก็ต้องบอกว่าตัวเลขการใช้สื่อดิจิทัลในธุรกิจอสังหาฯจะต้องเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ โดยไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การซื้อสื่อออนไลน์ใน Search engine, Social Media, Banner Ad และ Native Ad ตาม Channel ต่างๆอย่างแน่นอน เพราะจริงอยู่ที่การใช้สื่อดิจิทัลสามารถวัดผลในเชิงตัวเลขยอด View และ Engagement ได้อย่างแม่นยำ แต่ในเชิง Conversion ที่นำไปสู่ยอดขาย กลับยากที่จะบ่งชี้ว่าแท้จริงแล้วผู้บริโภคตัดสินใจซื้อเพราะว่าได้รับอิทธิพลจากสื่อตัวไหนมากกว่ากัน เนื่องจากพฤติกรรมการเสพสื่อดิจิทัลนั้นไม่ได้เป็นเส้นตรง และมี Pattern ที่วนลูปชัดเจนเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา