ของดีราคาไม่แรงมาแล้ว! ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ ยูนิตน้อยกว่า ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า ตรงข้ามห้าง ปล่อยเช่าสบาย เพราะขายเริ่มแค่ 1.89 ลบ.*
ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ (Supalai Loft Phasi Charoen Station) นับว่าเป็นโครงการคอนโดที่ 2 ของศุภาลัย ที่เปิดตัวในปีนี้ครับ และตามแผนการเดิมของศุภาลัยก็คือ ปีนี้จะเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่เพียงแค่ 2 โครงการเท่านั้น ซึ่งก็เปิดไปแล้วในช่วงไตรมาสแรก 1 โครงการคือ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง เนื่องจากในปีนี้บริษัทมีคอนโดที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่และกำลังรอโอนตามแผนอยู่ถึง 7 โครงการ ดังนั้นด้วยการที่เป็นคอนโดใหม่โครงการสุดท้ายของปีนี้แล้ว เราจึงได้เห็นทีมพัฒนาโครงการจัดเต็มด้วยการใส่อะไรที่น่าสนใจมาหลายๆอย่างให้กับโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ โดยหมายมั่นปั้นมือว่าโครงการนี้จะเป็นโครงการภายใต้แบรนด์ LOFT ที่พัฒนาทุกองค์ประกอบมาเพื่อให้โดนใจกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ Gen Y มากกว่าโครงการ LOFT แห่งอื่นๆ ที่ปัจจุบันกลายเป็นแบรนด์ที่มีโครงการอยู่ใน Port Folio เยอะสุดถึง 8 โครงการเข้าไปแล้ว…การมาครั้งนี้ของ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ที่นอกเหนือไปจากทำเล และราคาที่สุดเร้าใจคือเริ่มแค่ 1.89 ลบ.* เราไปติดตามกันเลยครับ
สถานีภาษีเจริญ ย่านที่ถูกยกระดับให้เป็น Upscale Vertical Living ที่ดีที่สุดของถนนเพชรเกษม
เป็นเวลานานหลายปีมากแล้วครับ ที่คนที่กำลังตัดสินใจซื้อโครงการคอนโดในย่านฝั่งธนฯต้องคิดวนไปเวียนมากับคำถามที่ว่าจะเลือกซื้อบนถนนจรัญสนิทวงศ์ หรือบนถนนเพชรเกษมดีล่ะ? เนื่องจากแนวเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินแล่นผ่านพื้นที่ส่วนใหญ่ของถนนหลักทั้งสองเส้นที่สำคัญในฝั่งธนฯ อย่างจรัญสนิทวงศ์ และเพชรเกษม โดยมีสถานีท่าพระเป็นสถานีที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเปลี่ยนถ่ายการเดินทางไปสู่ทั้ง 2 ย่านดังกล่าว โดยที่เอาเข้าจริงๆแล้วไม่ว่าจะอยู่ที่สถานีใดของฝั่งธนฯก็เดินทางเมืองไปทำงานหรือเรียนหนังสือในย่านกลางเมืองอย่างสีลม สามย่าน อโศก ได้สะดวกไม่แพ้กัน…แต่ถ้าถามผมผู้ที่บังเอิญใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับฝั่งธนฯมาตลอดทั้งชีวิต มีบ้านอยู่ทั้งบนถนนจริญสนิทวงศ์ และเพิ่งซื้อบ้านไปที่ย่านบางแค ก็ต้องบอกเลยว่า ผมค่อนข้างจะชอบใจในไลฟ์สไตล์ของถนนเพชรเกษม มากกว่าจริญสนิทวงศ์ประมาณหนึ่งเลยครับ พูดง่ายๆว่าถ้าต้องการชีวิตที่อยู่สบายในแบบไม่ต้องขับรถ แต่ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก เดินออกจากบ้านหาของกินได้เยอะมาก ไม่เปลี่ยว มีห้างใหญ่ให้เดินเล่น ก็ต้องเป็นเพชรเกษมจะดีกว่า แต่ถ้าเกิดคุณเป็นคนที่ขับรถยนต์เป็นหลักไม่ Mind ในเรื่องของการหาของกินแถวบ้าน ไม่จำเป็นต้องมีห้างไว้เดินแฮงค์เอ้าท์ทุกสุดสัปดาห์ ฝั่งถนนจริญสนิทวงศ์ดูจะมีแต้มต่อมากกว่า เพราะว่าตัวถนนเองมีเส้นทางที่เชื่อมต่อกับสะพานข้ามแม่น้ำไปฝั่งพระนครที่ใกล้ๆหลายแห่งมาก ทั้งสะพานพุทธ สะพานพระปกเกล้า สะพานพระรามแปด สะพานพระปิ่นเกล้า แม้กระทั่งสะพานตากสินที่ข้ามไปยังย่านสาทร ก็ยังอยู่ใกล้ถนนจรัญสนิทวงศ์มากกว่า
อีกทั้งจากที่ผมสังเกตดูก็จะพบว่าภาพวิถีชีวิตของคนที่เลือกซื้อคอนโดบนถนนเพชรเกษม (นับตั้งแต่สถานีบางหว้าเป็นต้นไปนะครับ) ก็มักจะเป็นคนที่มีบ้านหลังแรกที่อยู่กับครอบครัวใหญ่ ในย่านชานเมืองอย่างตลิ่งชัน บางแค หนองแขม พุทธมณฑล บรมราชชนนี อยู่แล้ว แต่เลือกที่จะมาซื้อคอนโดหลังที่สองเอาไว้บนถนนเพชรเกษมช่วงติดสถานีรถไฟฟ้า MRT เพื่อให้เดินทางไปไหนต่อไหนได้ง่ายขึ้น เพราะย่านด้านบนดังกล่าวจัดว่ายังเดินทางเข้าเมืองได้ลำบากอยู่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเพียงย่างเดียวเท่านั้น และก็มีคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยทีเดียวที่มาเลือกซื้อคอนโดเพราะต้องการความเป็นอิสระที่มากขึ้น ในราคาที่ไม่แรงหากเทียบกับการไปซื้อคอนโดบนเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในย่าน Inner CBD และก็ยังได้ Sense ของการอยู่ใกล้บ้าน ในถิ่นที่ตัวเองคุ้นเคยมาตั้งแต่ยังเด็ก ไปมาหาสู่กับพ่อแม่ที่ยังคงอยู่ที่บ้านเดิมได้
ในมุมมองของผมอาจสรุปได้สั้นๆถึงจุดขายที่แตกต่างกันไปของทั้ง 2 ทำเลคือ จรัญฯขายความใกล้ศิริราช ใกล้เมืองฝั่งพระนคร ส่วนเพชรเกษมขายไลฟ์สไตล์ ความคึกคัก ใกล้ห้าง ใกล้ตลาดนัด โดยที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกเหมือนกันครับ
โดยทำเลที่ตั้งของสถานีภาษีเจริญนั้นนับว่าเป็นทำเลที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของคนเพชรเกษมได้ดีมากที่สุดครับ เดิมทีย่านนี้เป็นย่านที่มีคนอยู่อาศัยเป็นชุมชนขนาดใหญ่มานานแล้ว มีสำนักงานเขตภาษีเจริญ และปัจจุบันมีอาคารสำนักงานใหญ่ธนาคาร UOB มาเปิดใช้งานเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับการมีตลาดนัดขนาดใหญ่ และโรงพยาบาลขนาดกลางที่อยู่โดยรอบ ที่สำคัญบริเวณสถานีภาษีเจริญเป็นย่านที่มีครบทุกความต้องการของคนคอนโดที่ต้องการความสะดวกสบายขั้นสูงสุดนั่นคือ ใกล้ห้างสรรพสินค้า ห้างนั้นก็คือ ซีคอน บางแค ครับ ซึ่งห้างซีคอน บางแค นั้นนับว่าเป็นห้างคู่บุญที่เป็น Landmark ของคนเพชรเกษมมานานเคียงคู่กับห้างเดอะมอลล์ บางแค ที่อยู่ถัดออกไปเพียงแค่ 2 สถานี
แน่นอนว่าด้วยการที่เป็นสถานีที่ติดห้าง ติดตลาดนัด จึงทำให้เกิดการพัฒนาโครงการคอนโดสูงขนาดใหญ่บริเวณสถานีภาษีเจริญมากมายเลยครับ และหากเปรียบเทียบกับสถานีบนถนนเพชรเกษมอื่นๆก็ต้องบอกว่านี่คือสถานีที่มีทุกอย่างครบ แต่ได้ความใกล้เมืองมากกว่าครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มีห้างใหญ่อยู่ทำให้เราเห็นภาพของกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่มีอายุน้อยลง เทรนด์ในการพัฒนาคอนโดจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนไปของกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการออกแบบดีไซน์อาคาร การใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง รวมไปถึงการออกแบบเลย์เอ้าท์ห้องที่จะอยู่เองก็อยู่ได้สบายจริง หรือจะปล่อยเช่าก็ทำได้ง่ายๆ เพราะคนเช่าก็จะรู้สึกเหมือนมีห้างเป็นหนึ่งใน Facility นั่นเองครับ
ตลาดเสนีย์ รวมของอร่อย และของจำเป็นในชีวิตประจำวันครบถ้วน ก็อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าภาษีเจริญ
เปิดข้อมูลเบื้องต้นของ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ
ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ เป็นโครงการคอนโดสูง 25 ชั้น (ไม่รวมดาดฟ้า) จำนวน 1 อาคาร อยู่ติดถนนใหญ่เพชรเกษม เยื้องห้างซีคอนบางแค เชื่อมต่อกับถนนหลายสาย โดยจากถนนเพชรเกษม สามารถเชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนกัลปพฤกษ์ ถนนพุทธมณฑลสาย1 และถนนบรมราชชนนี ได้อย่างง่ายดาย ใกล้ MRT สถานีภาษีเจริญ เพียง 220 เมตร โดยหากเราต้องการที่จะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆในเมือง หรือข้ามจังหวัดก็สามารถเลือกใช้บริการของรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ ที่สถานีบางหว้า ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ BTS สถานีบางหว้า ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 2 สถานี
ตำแหน่งที่ตั้งโครงการจะอยู่บริเวณด้านข้างโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ ที่สร้างเสร็จเรียบร้อยและขายใกล้จะหมดแล้วครับ โดยตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2-0-90 ไร่ พื้นที่ก่อสร้าง ประมาณ 3,560 ตร.ม. มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 378 ยูนิต (ห้องพักอาศัย 376 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต) ที่จอดรถประมาณ 193 คัน หรือคิดเป็น 51.06%
เดินลงมาจากสถานีรถไฟฟ้าภาษีเจริญประมาณ 220 เมตร ก็จะเจอโครงการแล้วครับ อยู่ติดกับศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญเลย
อย่างที่บอกไปแล้วว่านี่คือโครงการภายใต้แบรนด์ LOFT ที่มีการคิดดีไซน์ใหม่เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y ที่ใส่ใจในคุณภาพชีวิตตัวเอง ชอบหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ใช้ชีวิตแบบ Work Life Balance โดยมี Social Media เป็นเพื่อนคู่ใจ ดังนั้นโครงการจึงมีการสร้างอัตลักษณ์ในงานดีไซน์ทั้งตัวอาคาร และพื้นที่ใช้งานส่วนกลางให้แตกต่างจากแบรนด์ LOFT ที่อื่นๆ ตามคอนเซปท์ “แตกต่างในแบบที่เป็นคุณ”
โดยได้นำแนวคิด ART GALLERY มาเป็นแนวทางในการออกแบบ เพื่อสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น และเป็นสถานที่ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ และถอดรหัสออกมาเป็นงานออกแบบสถาปัตยกรรม สไตล์ Minimal Loft นิ่งสงบ เน้นรูปทรง องค์ประกอบศิลปะ ให้อาคารเหมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่ง โดยมีการตีความหมายของคีย์เวิร์ด Minimal Loft ให้ออกมาเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เห็นได้ง่ายด้วยสายตา คือ Minimal – ความนิยมของกลุ่มคนในปัจจุบันที่ชอบความเรียบง่าย ลดทอนรายละเอียด และ Loft – แสดงออกในรูปแบบของ spec ที่ว่าง ความโปร่งสูง อารมณ์ของการเข้าถึงพื้นที่นั้นๆ