ครบครันคุ้มค่าในทุกมิติของการอยู่อาศัยที่ 89 Residence Ratchada – Rama9 บ้านแนวคิดใหม่ หนึ่งเดียวใจกลางรัชดา – พระราม 9
อยากได้บ้านใจกลางเมืองแต่ราคาสูงเกินไป เราจะปรับตัวยังไงกันดี
บ้านจัดสรรในพื้นที่ Prime Area ใจกลางเมือง และย่านธุรกิจ CBD ของกรุงเทพฯ กำลังลดจำนวนลงเนื่องจากราคาที่ดินสูงขึ้นมาก ทำให้ Developer ทั่วไปเลือกพัฒนาโครงการเป็นรูปแบบคอนโดมิเนียม Freehold แทนบ้านเดี่ยวแนวราบ เพราะคำนวณตัวเลขแล้วคุ้มค่าในการลงทุนมากกว่านั่นเอง ทำให้ปัจจุบันเราเห็นคอนโดมิเนียมผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่อยากอยู่คอนโดมิเนียม เพราะมีกลุ่มคนที่ยังอยากได้บ้าน แต่ปัญหาอยู่ที่ราคาบ้านมักสูงเกินไป
ในปัจจุบันเมื่อราคาที่ดินใจกลางเมืองกรุงเทพฯสูงขึ้นมาก ดังนั้นราคาบ้านใจกลางเมืองกรุงเทพในปัจจุบันจึงไต่ขึ้นไปแตะระดับสูงมาก ทะลุกรอบงบประมาณของใครหลายๆ คนที่อยากอยู่บ้านใจกลางเมืองไปอย่างน่าเสียดาย แต่ว่าปัจจุบันตลาดผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็เริ่มมีการปรับตัวแล้ว โดยเริ่มพัฒนาโครงการรูปแบบบ้าน Leasehold ขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนความฝันของใครหลายคนให้กลายเป็นจริง เพราะบ้าน Leasehold อยู่ได้จริง ตั้งราคาที่ซื้อง่ายขายคล่องได้จริง แถมบ้าน Leasehold ก็ใช้ประโยชน์ได้ทุกโหมดทั้งโหมดการลงทุนปล่อยเช่าได้ rental yield ดีและโหมดอยู่อาศัยเอง ถือว่าครบครัน คุ้มค่า
แล้วเราในฐานะคนหาบ้านอยู่อาศัยควรจะปรับตัวหรือเปลี่ยนตรรกะแนวคิดอย่างไรบ้าง
เมื่อสภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนไป เราอาจจะต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนตรรกะในการจ่ายเงินเพื่ออยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันมีอยู่ 3 แนวคิดหลักๆ ได้แก่
1. แนวคิด Renter คือ คนที่ไม่ยอมจ่ายเงินจำนวนมากๆ ไม่ยอมจ่ายก้อนใหญ่เพื่อแลกกับการได้อยู่อาศัย Renter อาจเป็นคนที่มีงบจำกัด หรืออาจเป็นคนที่คิดว่าไม่ได้จะอยู่ทำเลนั้นยั่งยืนระยะยาวเพราะเดี๋ยวก็มีแผนจะย้ายถิ่นที่อยู่ในอนาคต ถ้าจะเรียกคนชอบเช่า (Renter) อาจมองว่าเป็นคนที่มองเกมระยะสั้นที่สุด เพราะยอมจ่ายเงินทิ้งไปเลยโดยตัวเองไม่ได้สิทธิ์ถือครองใดๆ แต่ก็ได้ประโยชน์ตรงที่ renter มีอิสระ ไม่ต้องมีพันธะผูกมัดระยะยาว ไร้ภาระรับผิดชอบใดๆ ในทรัพย์สิน แค่จ่ายเงินเพื่อใช้งานในช่วงเวลาชั่วคราว แค่นั้นจบ ถือว่าคนประเภท Renter ให้คุณค่ากับชีวิตที่สามารถยืดหยุ่นได้ (Sense of Flexibility)
2. แนวคิด Leaseholder คือ คนที่มองประโยชน์การใช้สอยในปัจจุบันเป็นหลัก เป็นคนที่ไม่ยินดีที่จะจ่ายเงินส่วนเกินจำนวนมากเพื่อแลกกับการถือครองสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของแบบชั่วชีวิต อาจเรียก Leaseholder ว่าเป็นคนที่มองเกมระยะกลาง มองโอกาสในปัจจุบันไปถึงอีกสิบๆ ปีข้างหน้า ถือว่าคนนิยม Leasehold เป็นคนที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง Freeholder กับ Renter เพราะ Leaseholder เป็นคนที่โฟกัสความสุขที่ได้ใช้สอยจากทรัพย์ในกรอบเวลาที่ตนเองถือสิทธิ์อยู่ในเวลานั้นๆ เป็นหลัก อาจกล่าวได้ว่า Leaseholder เป็นคนที่ให้คุณค่ากับความสำราญใจ (Sense of Enjoyment) ขอให้ฉันได้ enjoy benefit โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ตนเองมีชีวิตอยู่ ฉันอยากอยู่สบายในทำเลที่ดีๆ และฉันไม่ค่อยกังวลว่าจะต้องดูแลลูกหลานในอนาคต หรือฉันอาจจะเป็นคนที่ถือทรัพย์สิน Freeholder มามากเพียงพอจนไม่มีอะไรจะห่วงแล้วก็เป็นไปได้
3. แนวคิด Freeholder คือคนที่มองเผื่อลูกเผื่อหลาน เป็นคนที่คิดว่าการลงทุนซื้อทรัพย์แบบ Freehold เพื่อให้ตนเองมีสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของชั่วชีวิตและแม้ร่างกายตนสลายไปแล้วยังมีทรัพย์สมบัติมอบเป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานได้ด้วย เป็นคนมองเกมระยะยาวมากที่สุด ยอมอดทนวันนี้ เพื่อลูกหลานอิ่มวันหน้าด้วย Freeholder จะมองว่าจ่ายเงินเยอะกว่า มีต้นทุนและเสียดอกเบี้ยเยอะกว่าก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าเป็นการซื้อความรู้สึกความเป็นเจ้าของ (Sense of Belonging) ซึ่งเป็นคุณค่าทางจิตใจที่กลุ่ม freeholder สนใจ
การซื้ออสังหาริมทรัพย์ หากเราไม่ยึดติดกับความภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ การเลือกซื้ออสังหาฯ ในแบบ Leasehold ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับกลุ่มคนซื้อที่มี Mindset ว่า ถ้าจ่ายน้อยกว่าก็เอาเงินส่วนต่างไป invest ลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่มีผลตอบแทนสูงกว่า ได้ผลตอบแทนดีกว่าการเอาเงินของเราผ่อนให้กับธนาคาร และเมื่อผ่อนหมดก็อาจจะพบว่าเราจ่ายค่าอสังหาฯ แพงกว่าความเป็นจริงหลายเท่าตัวเพราะเสียเงินไปกับดอกเบี้ย ซึ่งถ้าคำนวณตัวเลขที่แท้จริงแล้วอาจพบว่าเงินที่ได้จากการลงทุนสินทรัพย์อื่นก็สามารถเอาไปซื้อบ้านหลังที่ใหญ่กว่าเป็นเงินสดได้เลย
อีกแนวคิดที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาคือพฤติกรรมการซื้อบ้านในสมัยใหม่นี้ก็มีแนวโน้มที่จะไม่ได้อาศัยอยู่ไปตลอดชั่วชีวิตอีกต่อไป แต่คนเรามักจะมีการขยับขยายเปลี่ยนสถานที่ใหม่ไปเรื่อย ๆ โดยบางคนกู้ธนาคารสัญญาระยะยาว 30 ปีก็จริง แต่พอเอาเข้าจริงก็ผ่อนจริงๆ แค่ 5-10 ก็ขายไปซื้อที่ใหม่แล้ว ดังนั้น Sense of Belonging หรือความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของก็อาจไม่ได้เป็นคุณค่าที่เราให้คุณค่าอยู่จริง แต่เป็นกลไกทางจิตวิทยาที่ก็กลับมามาเป็นการตั้งคำถามกับตัวเองและยังน่าสงสัย น่าค้นหาความจริงว่าแท้จริงแล้วเราซื้ออสังหาฯ ด้วย mindset แบบไหนกันแน่ แท้จริงตัวเราเองเหมาะกับแนวคิดแบบใด
การเลือกซื้อโครงการอสังหาฯ ในแบบ Leasehold บนทำเล Prime Area เพื่อลงทุนก็ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการขายต่อให้คนต่างชาติได้ เพราะคนต่างชาติมีสิทธิ์ถือครองกรรมสิทธิ์ทรัพย์ Leasehold ได้มากกว่าแบบ Freehold เพราะไม่มีข้อกำหนดในการซื้อสำหรับคนต่างชาติ อีกทั้งคนต่างชาติที่มองหาที่อยู่อาศัยใน Prime Area ก็มีวนเวียนใหม่เข้าออกมาเรื่อยๆ จึงมีโอกาสทั้งการขายและปล่อยเช่ากลุ่ม Expat ในย่านนี้ เพราะทรัพย์ Leasehold มีความยืดหยุ่น Flexible ในเรื่องของการถือครองและราคาที่ Competitive กว่าอสังหา Freehold ในย่านเดียวกัน
และปัจจุบันราคาบ้านเดี่ยวใจกลางเมืองถีบตัวสูงขึ้นมากจนอาจทำให้เงินที่มีอยู่ไม่พอจ่าย ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้คือการปรับเปลี่ยนตรรกะแนวคิดจาก Freeholder มาเป็น Leaseholder แทนเพราะมีข้อดีหลายอย่าง ทรัพย์ Leasehold ถ้าอยู่เองก็ซื้อถูกกว่าทรัพย์ freehold เยอะ… แต่ถ้าไม่อยู่เองแล้วก็ปล่อยเช่าได้ rental yield ดีกว่าด้วย เพราะลงทุนถูกกว่าแต่ปล่อยเช่าได้ค่าเช่าเท่ากับทรัพย์ freehold…แถมยังได้สิทธิ์ถือครองระยะยาวติดมือมาด้วยอย่างน้อยก็ 30 ปี…และไม่ได้ดำรงฐานะไร้สิทธิ์แบบ Renter เพราะอย่างน้อย leaseholder ก็มีระยะเวลาที่ได้ take ผลประโยชน์จากทรัพย์นั้นได้อีกด้วย
ราคาบ้านหรู Luxury ในปัจจุบันไปถึงขั้นไหนกันแล้ว
ต้องบอกว่าช่วงเวลาปี 2024 นี้เป็นยุคสมัยที่หันไปมองทางไหนก็เจอแต่บ้านราคาแพงในระดับ Luxury – Ultra Luxury ผุดขึ้นไปเยอะเเยะไปหมด โดยเฉพาะในย่าน urban extension หรือส่วนต่อขยายของเมือง รวมไปถึงเมืองท่องเที่ยวต่างจังหวัดชั้นนำ มีบ้านระดับราคาเกินกว่า 15 ล้านบาทไปจนถึงระดับเกิน 100 ล้านบาทขายจำนวนมาก ถือว่ากลายเป็น Supply ที่ดูจะหาได้ง่ายกว่าบ้านราคาปานกลางในหลายๆ ทำเล
แต่หากว่าให้เราจินตนาการถึงการมีบ้านเดี่ยวบน Prime Area สุดๆ ในกรุงเทพอย่างย่านรัชดา – พระราม 9 ว่าจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ในการซื้อบ้านทำเลแบบนี้…แน่นอนว่าคำตอบของคนส่วนใหญ่ที่เคยไป Survey ในย่านนี้ และย่านใกล้เคียงมาแล้วก็คงจะอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาทขึ้นไปจนถึง 100 ล้านบาท
จากข้อมูลเมื่อปี 2024 พบว่าบ้านหรูแบบ freehold โครงการ Parc Priva ราคาขายประมาณ 60-80 ล้านบาท, Artale Asoke-Rama 9 ราคาประมาณ 38-64 ล้านบาท, Noble Terra Rama 9- Ekkamai ราคา 48-100 ล้านบาท, BuGaan Rama 9 – Mengjai ราคา 100-180 ล้านบาท
แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถซื้อบ้าน Prime Area ย่านรัชดา – พระราม 9 ด้วยราคาเปิดตัวอยู่ที่เพียง 19 ล้านบาทต่อหลังอย่างโครงการ 89 Residence Ratchada – Rama 9 ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2024 นี้ ถือว่าเป็นโครงการที่ออกแบบมาสำหรับคนที่ชอบตรรกะแนวคิดแบบ Leaseholder บ้านแบบ Leasehold กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะแนวโน้มราคาขายของบ้านจัดสรรในกรุงเทพฯ ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในย่าน Prime Area ที่มีรถไฟฟ้าผ่านราคาที่ดินทะลุฟ้าแบบนี้ เป็นทำเลยอดนิยมของกลุ่มคน Generation X และ Y ที่ต้องการที่พักอาศัยในสไตล์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมือง ดังนั้นโครงการในรูปแบบ Leasehold จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากในการควบคุมราคาขายให้ถูกลงและยังเพิ่มมูลค่าไปถึงผู้เช่าหรือผู้ซื้อกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติได้อีกด้วย
เมื่อมาพิจารณา 89 Residence Ratchada-Rama9 พบว่าราคาอยู่ที่ 19-34 ล้านบาท ถือว่ามีราคาที่ถูกกว่าค่าเฉลี่ยบ้านราคาต่ำสุดของโครงการอื่นๆ อยู่ประมาณ 30% เลยทีเดียว ราคาคือจุดเด่นสำคัญของทรัพย์แบบ leasehold นั่นเอง
89 Residence Ratchada – Rama 9 บ้านเน้นดีไซน์ที่ตรงกับความต้องการของคนรุ่นใหม่
โครงการ 89 Residence Ratchada – Rama 9 จาก Better Living Development ออกแบบมาอย่างตั้งใจให้ตรงกับความต้องการด้าน Space เพื่อทำกิจกรรมในแบบอเนกประสงค์ภายในพื้นที่บ้านที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่าเดิม โดยองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบ รวมถึง design concept ในการพัฒนาโครงการก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้ซื้อบ้านหรูโดยเฉพาะกลุ่มคน Generation ใหม่ที่ต้องการบ้านใจกลางเมืองเดินทางสะดวก พร้อมพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของสมาชิกครอบครัวแต่ละช่วงวัย และยังตอบโจทย์ด้านสุนทรียภาพด้วยดีไซน์ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของตัวเองได้อย่างชัดเจนที่สุด
ภาพตัวอย่างการดีไซน์ของทางเข้าโครงการ 89 Residence Ratchada – Rama 9 ผสมผสานระหว่างความ Modern Luxury & Green Landscape
ยินดีต้อนรับเข้าสู่โครงการ 89 Residence Ratchada – Rama 9
ดีไซน์ของอาคารพื้นที่ส่วนกลางให้ลูกบ้านมาใช้งานได้
ภาพดีไซน์ของบ้านที่จะได้
ภาพตัวอย่างดีไซน์บ้านหลังที่มีสระว่ายน้ำในตัวบ้าน
ภาพมุมสูง
พื้นที่บริเวณสระว่ายน้ำ
ดีไซน์ด้านหน้าบ้านแต่ละหลัง ได้แรงบันดาลใจจากเลข 89