ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ONYX Hospitality Group) บริษัทชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้านการบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ และที่พักอาศัยระดับหรู ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการเป็น The best medium-sized hospitality management company in Southeast Asia ผ่านการส่งมอบประสบการณ์การเข้าพักที่เหนือระดับแก่ผู้มาเยือน ด้วยแผนยกระดับภาพลักษณ์และการปรับโฉมโรงแรมแบรนด์ “อมารี” ครั้งสำคัญหลายทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยว ทั้งอมารี ดอนเมือง, อมารี บุรีรัมย์ และอมารี ภูเก็ต สะท้อนถึงความมุ่งมั่นสู่ความเป็นผู้นำที่สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ONYX Hospitality Group) บริษัทบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และเรสซิเดนซ์ โดยมีแบรนด์ใต้การกำกับดูแล ได้แก่ อมารี (Amari), โอโซ่ (OZO), ชามา (Shama) และโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ (Oriental Residence) กล่าวว่า “ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” เชื่อมั่นว่าการรักษามาตรฐานและการพัฒนาแบรนด์โรงแรมอย่างต่อเนื่อง คือ หัวใจสำคัญของการเติบโต เราจึงมุ่งยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์อมารี (Amari) อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการแข่งขันในตลาด และก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและที่พักที่ดีที่สุดในอาเซียน ทั้งยังตอบตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของนักเดินทางในปัจจุบันได้อย่างดีเยี่ยม ประกอบด้วย

โรงแรมอมารี ดอนเมือง กับการยกระดับครั้งสำคัญ ด้วยการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่ครอบคลุมทั้งโครงสร้างอาคาร ห้องพัก ล็อบบี้ ห้องฟิตเนส และห้องอาหาร ภายใต้ความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การเข้าพักที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นให้กับผู้เข้าพัก พร้อมเปิดตัว ‘เปรโก้ ดอนเมือง’ ร้านอาหารอิตาเลียนคุณภาพ ภายใต้แบรนด์ ‘เปรโก้’ (Prego) ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี โรงแรม อมารี บุรีรัมย์ กับการปรับโฉมใหม่ทั้งโรงแรม รวมถึงเปิด “เปรโก้ บุรีรัมย์ ซึ่งทั้งสองโครงการมีกำหนดปรับปรุงตั้งแต่กลางปี 2568 ถึงกลางปี 2569 และโรงแรมอมารี ภูเก็ต เตรียมปรับโฉมใหม่เพื่อยกระดับประสบการณ์การเข้าพักในบรรยากาศรีสอร์ตเหนือระดับบนหาดป่าตอง พร้อมดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันงดงามของทะเลอันดามัน โดยเน้นการออกแบบห้องพักใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายหลักซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ปรารถนาพื้นที่พักผ่อนที่กว้างขวาง สะดวกสบาย และครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มอบความรู้สึกของการพักผ่อนอย่างแท้จริง รวมทั้งบรรยากาศโดยรอบยังเงียบสงบแต่ยังคงมีกิจกรรมครบครันทั้งการดำน้ำ ร้านอาหาร และคาเฟ่มากมาย มีกำหนดเริ่มดำเนินการปี 2570 ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการออกแบบห้องพักเพื่อเตรียมพร้อมในการก่อสร้างในขั้นต่อไป

ทั้งนี้ การปรับโฉมโรงแรมทั้ง 3 แห่ง มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ของแบรนด์อมารีให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น พร้อมสื่อถึงความมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานแบรนด์ให้สามารถแข่งขันได้ และพร้อมตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายได้อย่างรอบด้าน โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลุ่มโรงแรมภายใต้แบรนด์อมารีได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอภายใต้แผนการบำรุงรักษาที่วางไว้อย่างเป็นระบบ ตลอดจนมีการปรับปรุงใหญ่โดยเฉลี่ยทุก 10 – 15 ปี โดยมีโรงแรมที่ได้รับการปรับโฉมภาพลักษณ์ไปแล้ว เช่น โรงแรมอมารี เกาะสมุย, อมารี กรุงเทพ, อมารี พัทยา และล่าสุดการปรับปรุงและรีแบรนด์โรงแรมอมารี บางแสน ที่ปรับโฉมห้องพักใหม่ทั้งหมดพร้อมอัปเกรดสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าพัก และรักษาความเป็นเลิศในตลาด สะท้อนถึงความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ในการยกระดับคุณภาพโรงแรมอย่างต่อเนื่อง

นายยุทธชัย กล่าวต่อว่า ด้วยศักยภาพทำเลที่ตั้งของทั้ง 3 โครงการล้วนมีศักยภาพสูง โดยอมารี ดอนเมือง ตั้งอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติ ดอนเมือง ซึ่งนักเดินทางสามารถเดินทางจากโรงแรมเชื่อมต่อไปยังสนามบินได้โดยตรง สะดวกสบายทั้งสำหรับผู้ที่รอเปลี่ยนเครื่อง, กลุ่มประชุมสัมมนาทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ, และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางต่อไปยังจุดหมายอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งในการปรับโฉมครั้งใหญ่นี้จะเป็นการมอบประสบการณ์ของแบรนด์ที่สร้างความประทับใจและตอบสนองความต้องการให้บริการกลุ่มนักเดินทางเพื่อธุรกิจและท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายได้อย่างแท้จริง รวมถึงเพื่อให้สอดรับกับแผนการขยายตัวของสนามบินนานาชาติ ดอนเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ขณะที่อมารี บุรีรัมย์ อยู่ในทำเลที่โดดเด่นด้านกีฬา และการท่องเที่ยวอีสานใต้ที่มีชื่อเสียง และอมารี ภูเก็ต เป็นรีสอร์ตชั้นนำบนหาดป่าตองซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับโลก การลงทุนปรับปรุงในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มเสน่ห์และมูลค่าของแต่ละโรงแรม ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าเป้าหมายได้หลากหลายยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละตลาดได้อย่างลงตัว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน

“ปัจจุบันโรงแรมภายใต้แบรนด์อมารีถือเป็นเรือธงของ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป โดยปัจจุบันมีโรงแรมอมารีเปิดให้บริการแล้ว 16 แห่ง และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วทั้งพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด แสดงถึงความเชื่อมั่นที่นักเดินทางมีต่อแบรนด์ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการผลักดันแผนการลงทุนเพื่อยกระดับประสบการณ์การเข้าพักให้ดียิ่งขึ้น การลงทุนในโครงการปรับปรุงโรงแรมอมารีครั้งใหญ่นี้ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ที่มุ่งมั่นจะเป็นบริษัทบริหารจัดการโรงแรมและที่พักที่ดีที่สุดในภูมิภาค เราไม่เพียงแต่สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้เข้าพัก แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ พร้อมรักษามาตรฐานการบริการที่เหนือระดับในทุกมิติ” นายยุทธชัย กล่าว