สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย จัดหลักสูตรปรับกลยุทธ์ธุรกิจฝ่าวิกฤตโควิด ผนึกกำลัง 13 สมาคมอสังหาฯ ทั่วภูมิภาค เปิดตลาดอสังหาฯ ออนไลน์ “อสังหาฯ มาร์เก็ต เพลส”
สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย (TREA) จับมือ 13 สมาคมอสังหาฯ ส่วนภูมิภาค จัดหลักสูตรพัฒนา ผู้ประกอบการอสังหาฯ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจฝ่าวิกฤตโควิด-19 ทั้งคอร์สระยะสั้นและระยะยาว พร้อมเปิดตัวช่องทางขายออนไลน์ “อสังหาฯ มาร์เก็ต เพลส” เพิ่มโอกาสผู้ซื้อทั่วประเทศเข้าถึงสินค้าคุณภาพจากสมาชิกเครือข่ายสมาคม
ทั่วประเทศ
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า “ภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤต อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่และประชาชนหลายล้านชีวิตได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก และกำลังเป็นปัญหาที่ขยายเป็นวงกว้าง เช่น ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปัญหารายได้ หนี้สิน และวิถีชีวิตที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งทุกฝ่ายได้มีการคาดการณ์กันไปต่างๆ นานา ล้วนเป็นไปในทิศทางลบ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากเช่นกัน แม้ว่าจะไม่รุนแรงเท่าธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน และธุรกิจส่งออกบางประเภท คาดว่ากว่าจะฟื้นตัวคงต้องใช้เวลานาน และเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งมาในรูปของหนี้สินที่ต้องใช้ในการฟื้นธุรกิจให้กลับมา ส่วนผลกระทบด้านอสังหาฯ ประเภทเช่า เช่น ห้างสรรพสินค้า และพื้นที่เชิงพาณิชย์ต่างๆ เกิดปัญหาด้านอัตราค่าเช่า ซึ่งเดิมทีถึงแม้จะมีการปรับลดลงบ้างแล้ว แต่เทียบกันยังดูสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับจำนวนลูกค้าและรายได้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวระยะหนึ่ง ส่วนด้านอสังหาฯ เพื่อการขาย เช่น บ้านและคอนโดฯ ก็ประสบปัญหายอดขายที่ลดลงอย่างมาก ทำให้มียอดคงเหลือขายจำนวนมาก นอกจากนี้ยังประสบปัญหาการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดหมุนเวียนในธุรกิจอย่างมาก”
“ความช่วยเหลือจากภาครัฐฯ จึงมีความจำเป็นอย่างมากต่อการรักษาธุรกิจให้อยู่รอด ขณะเดียวกันผู้ประกอบการต้องมีการปรับทิศทางและกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อให้สอดรับกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ท่ามกลางวิกฤต สมาคมฯ ได้ตระหนักถึงผลกระทบรอบด้าน จึงได้ปรับทิศทางในการจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลความรู้ ความเข้าใจให้แก่สมาชิก โดยเรียนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิทุกวงการมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอสังหาฯ ผู้บริโภค และประชาชนโดยทั่วไป”
“อีกทั้งยังได้ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายสมาคมอสังหาฯ ส่วนภูมิภาค ทั้ง 13 สมาคม ประกอบด้วย 1) สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนนทบุรี 2) สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสมุทรสาคร 3) สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรี 4) สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดระยอง 5) สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดฉะเชิงเทรา 6) สมาคมอสังหาริมทรัพย์นครราชสีมา 7) สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดขอนแก่น 8) สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดอุดรธานี 9) สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่ 10) สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดพิษณุโลก 11) สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา 12) สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต และ13) สมาคมอสังหาริมทรัพย์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ร่วมกันระดมความ
คิดเห็นและนำเสนอข้อปัญหาต่างๆ ให้นายกรัฐมนตรีรับทราบและเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่
ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯ ต่อไป อีกทั้งได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและช่วยเหลือสมาชิกทั่วประเทศ”
นายพรนริศ กล่าว