ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ชี้เครือข่ายคมนาคมเชื่อมกรุงเทพใต้ ปัจจัยหลักดูดกำลังซื้อ พร้อมดันราคาอสังหาฯ ในย่านดังกล่าวให้ขยับสูงขึ้น
เกริก บุณยโยธิน
04 February, 2025 at 10.40 am
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เชื่อโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนาดใหญ่ จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ตอนใต้ โดยทำเลตามแนวทางหลวงพิเศษและจุดขึ้น-ลงมอเตอร์เวย์จะกลายเป็นพื้นที่ศักยภาพสูง ส่งผลให้ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ดึงดูดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรองรับผู้ที่ต้องการบ้านในราคาคุ้มค่าแต่ยังเดินทางสะดวกสู่เมือง
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี’ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการก่อสร้างของโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน – ปากท่อ หนึ่งโครงการภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง และการเปิดใช้สะพานทศมราชัน หรือสะพานพระราม 10 ที่มีความกว้างที่สุดในประเทศไทย โดยมีช่องจราจรถึง 8 เลน ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนใต้ในหลายด้าน อาทิ เป็นปัจจัยหนุนให้มูลค่าที่ดินปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวทางหลวงพิเศษ และบริเวณจุดขึ้น-ลงของมอเตอร์เวย์จะกลายเป็นทำเลที่มีศักยภาพ จะเกิดการพัฒนาโครงการที่ใหม่ๆ ทั้งโครงการหมู่บ้านจัดสรร โครงการคอนโดมิเนียม และโครงการเชิงพาณิชย์ รองรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้เส้นทางคมนาคมหลัก พื้นที่ชานเมือง เช่น บางบอน สมุทรสาคร นครปฐม ราชบุรี จะกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ทำงานในกรุงเทพฯ แต่ต้องการบ้านที่มีพื้นที่ใหญ่ขึ้นในราคาที่คุ้มค่ากว่า และเมื่อกำลังซื้อขยายตัวก็ส่งผลให้เกิดการพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์และศูนย์กลางธุรกิจใหม่ การเดินทางสะดวกขึ้นส่งผลให้เกิด ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และแหล่งค้าส่ง-ค้าปลีก ตามแนวเส้นทาง พื้นที่ที่เคยเป็นเขตอุตสาหกรรมหรือเกษตรกรรมอาจถูกพัฒนาเป็นศูนย์โลจิสติกส์หรือคลังสินค้า เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าระหว่างกรุงเทพฯ และภาคใต้ โดยมอเตอร์เวย์สายนี้จะช่วยลดเวลาการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และภาคใต้ ทำให้ธุรกิจขนส่ง-โลจิสติกส์ มีต้นทุนที่ต่ำลงและประสิทธิภาพดีขึ้น เมื่อเกิดการขยายตัวของพื้นที่เศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ตอนใต้ ก็จะสามารถกระจายความหนาแน่นของประชากรไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เช่น สมุทรสาคร นครปฐม และราชบุรีได้ด้วย
“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มีโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่ในส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนใต้ ทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์โฮม และบ้านแนวคิดใหม่ ตั้งแต่ 2-10 ล้านบาท ทั้งโซนประชาอุทิศ พระราม 2 เอกชัย บางบอน ที่สามารถเชื่อมต่อใจกลางธุรกิจ CBD ได้ครอบคลุมทุกระดับความต้องการ เรามั่นใจว่าการคมนาคมที่สะดวกยิ่งขึ้น จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางทั้งจากฝั่งพระราม 3 กับ พระราม 2 ดาวคะนอง ที่สำคัญระบบเครือข่ายคมนาคมที่เกิดขึ้นมีส่วนช่วยในการระบายการจราจรได้ดีขึ้น เพราะปัจจุบันปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้สะพานพระราม 9 รองรับได้ไม่เพียงพอ การพัฒนาโครงการสะพานพระราม 10 ที่ได้เปิดใช้ล่าสุด จะ ช่วยรองรับรถยนต์ได้มากถึง 150,000 คันต่อวัน ส่งผลให้การเดินทางย่านธุรกิจสู่โซนที่อยู่อาศัยในทำเลกรุงเทพฯ ตอนใต้ สะดวกยิ่งขึ้น” นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวถึงประโยชน์ของการพัฒนาเครือข่ายคมนาคมที่ส่งผลบวกต่อการเดินทางจากใจกลางเมืองสู่แหล่งที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ ใต้
ทั้งนี้ โซนที่อยู่อาศัยย่านกรุงเทพฯ ตอนใต้ ปัจจุบันมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นพื้นที่ๆ ติดกับย่านธุรกิจ CBD ซึ่งการจะหาที่อยู่อาศัยในพื้นที่ CBD ในปัจจุบันก็เป็นเรื่องที่ยากขึ้นเพราะราคาที่ขยับสูงขึ้นนั่นเอง “ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มองว่าพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนใต้ เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยอย่างยิ่ง โดยพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มกำลังซื้อจะเป็นทำเลย่านประชาอุทิศ เลียบถนนวงแหวนฯ รอบนอก และย่านสมุทรสาครที่ติดกับกรุงเทพฯ เช่น แสมดำและพันท้ายนรสิงห์ ที่ยังสามารถนำมาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยในราคาที่สามารถจับต้องได้อยู่ สำหรับกลุ่มลูกค้าในโซนกรุงเทพฯ ตอนใต้ มีค่อนข้างหลากหลาย ทั้งพนักงานบริษัทจนถึงเจ้าของกิจการ สังเกตได้จากระดับราคาของที่อยู่อาศัยเริ่มตั้งแต่ คอนโดมินียมราคา 1-2 ล้านบาท, ทาวน์โฮมราคา 2-4 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวราคา 5-20 ล้านบาท รวมถึงสาธารณูปโภคในพื้นที่นี้ก็พัฒนาไปอย่างมาก ทำให้กำลังซื้อของลูกค้าที่มองหาบ้านโซนกรุงเทพฯ ตอนใต้ยังมีต่อเนื่อง ส่งผลให้ย่านธุรกิจหลักๆ ธุรกิจอุตสาหกรรม และการพัฒนาที่อยู่อาศัยในย่านนี้เกิดการขยายตัวควบคู่กันไป” นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวเสริม
