“เรดิสัน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช” (Radisson Phuket Mai Khao Beach) เผยยอดจองโต มั่นใจตลาดท่องเที่ยว-อสังหาฯ ภูเก็ตยังรุ่ง แนะเทรนด์การลงทุนโครงการแบบ “Hotel Managed Residence” คือทางออกปี 2020 ของนักลงทุน เตรียมเผยโฉม “เรดิสัน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช เซลล์ แกลเลอรี” สุดพรี่เมี่ยม 9 ธันวาคมนี้

นายมาร์ซีเอโน เบิร์จโมฮาน กรรมการผู้จัดการดีเอ็มอาร์ดี เอเชีย ผู้ดำเนินการตลาดและการขายโครงการ “เรดิสัน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช” เปิดเผยว่า หลังจากโครงการเรดิสัน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช โปรเจกต์ที่พักอาศัยและโรงแรมเกรดพรีเมี่ยมได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดจองสูงขึ้น กลุ่มผู้สนใจโครงการฯ​ มีทั้งชาวไทย (กรุงเทพฯ) และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ “ชาวจีน” ที่ยังสนใจลงทุนในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะน้อยลง โดยคาดว่า หลังจากเริ่มดำเนินการก่อสร้างและเปิด Sale Gallery ในวันที่ 9 ธันวาคม 2562 นี้ จะได้ทำงานยอดจองเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน

“เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ภูเก็ตยังคงเป็นเกาะที่มีศักยภาพสูงและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านธรรมชาติที่สวยงาม สถานที่ท่องเที่ยว ศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงเสน่ห์ของท้องถิ่น ที่ถูกรวมเอาไว้บนเกาะภูเก็ตอย่างลงตัว” นายมาร์ซีเอโนกล่าว

ด้าน นายดาร์เรน จัดจส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอแพลน พร็อบเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งหลังจากได้ทราบข่าวดีที่โครงการเรดิสัน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช ได้รับการอนุมัติรายงาน EIA ซึ่งหลังจากนี้ เราจะลุยงานก่อสร้างอย่างเต็มกำลัง โดยจะดึงผู้รับเหมาก่อสร้าง สถาปนิก และอินทีเรียดีไซน์ชั้นนำมาร่วมออกแบบโครงการ เพื่อพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ มุ่งตอบโจทย์นักเดินทางและสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่นักลงทุน”

นอกจากนั้น ยังให้ข้อมูลว่า เนื่องจาก “คอนโดเทล” (Condotel) หรือโครงการที่อยู่อาศัยที่บริหารงานแบบโรงแรม (Hotel Managed Residence) เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการพัฒนาที่ได้รับความนิยมมากขึ้นใน “ภูเก็ต” แหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ที่จะตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการให้เช่าคอนโดมิเนียมทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นผลต่อการเติบโตและความสำเร็จของโครงการเรดิสัน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช

“คอนโดเทลไม่ใช่รูปแบบใหม่ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามจำนวนคอนโดเทลที่มีอยู่ในประเทศไทยยังคงมีจำกัดเมื่อเทียบกับทรัพย์สินประเภทอื่น จากข้อมูลของ DMRD คอนโดเทลกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นและคาดว่าจะขยายตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ในขณะที่เป็นสัญญาณการเติบโตที่สำคัญในภูเก็ต ในตอนท้ายของ 2021 จะเห็นโครงการคอนโดเทลเพิ่มมากขึ้นมากกว่า 3,000 ยูนิต อย่างแน่นอน” นายมาร์ซีเอโนกล่าวเสริม

สำหรับ โครงการเรดิสัน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช เป็นการพัฒนาบนความร่วมมือระหว่าง ไทย-ไชนีส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้ง (Thai Chinese Property Holdings) และ เอแพลน พร็อบเพอร์ตี้ (Aplan Properties) มูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท ตั้งอยู่บนริมหาดไม้ขาว ชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดภูเก็ต บนเนื้อที่กว่า 4.3 ไร่ (7,000 ตารางเมตร) ซึ่งเป็นทำเลที่เงียบ สงบ และยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอยู่มาก ใกล้สนามบินนานาชาติภูเก็ตเพียง 10 นาที โครงการเป็นลักษณะอาคารโลว์ไรส์ จำนวน 8 อาคาร ประกอบด้วยห้องพักและห้อง สวีทจำนวนทั้งสิ้น 222 ยูนิต (110 ห้องสำหรับเจ้าของร่วม) พร้อมกรรมสิทธิ์ถือครองแบบสมบูรณ์ (Freehold) สำหรับชาวต่างชาติ และได้รับใบอนุญาตเป็นคอนโดมิเนียมเชิงพาณิชย์ (Commercial Condominium)

บริหารงานในรูปแบบ “Hotel Managed Residence” โดยกลุ่มโรงแรมเรดิสัน (Radisson Hotel Group) ผู้นำด้านการบริการทที่มีชื่อเสียงระดับโลก และดำเนินการตลาดและการขายโดย ดีเอ็มอาร์ดี เอเชีย (DMRD Asia) เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการโครงการคุณภาพสูง และสามารถมอบผลตอบแทนให้กับนักลงทุนอย่างคุ้มค่า ด้วยโปรแกรมบังคับเช่า (Mandatory Rental Program) และเป็นแหล่งพักผ่อนที่ครบวงจรสำหรับนักท่องเที่ยว

โครงการเรดิสัน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช ราคาเริ่มต้น 7.2 ล้านบาท กรรมสิทธิ์ถือครองแบบสมบูรณ์ (Freehold) อัตราผลตอบแทน 6% ในช่วง 3 ปี ในปีที่ 4 เป็นต้นไปเราจัดการรูปแบบส่วนแบ่งรายได้สำหรับผู้ซื้อของเรา – คาดการณ์อัตราผลตอบแทนสุทธิ 6% ต่อปี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2565 (2022) โดยจะเปิดตัวแกลเลอรีให้เข้าชมภายในสิ้นปี 2562 นี้

พิเศษสุดช่วงเปิดตัวกับโปรโมชั่นฟรีแพ็คเกจเฟอร์นิเจอร์ครบเซ็ต พร้อมรับแพ็คเกจที่พัก 2 คืน และตั๋วเครื่องบินไป-กลับภูเก็ตมูลค่า 700,000 บาท นอกจากนั้น ผู้ซื้อจะได้เป็นสมาชิกแพลตตินัมรีวอร์ด Platinum Reward Members ทันทีรับผลประโยชน์ระดับโลกที่เรดิสันในเครือทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อีเมล์ marciano@dmrd.asia หรือโทรศัพท์ +66(0)63 680 8090