R11 อาคารเก่ายุค 80 ในเมือง Munich กับการเปลี่ยนวัสดุจากคอนกรีตเป็นไม้เพื่อสร้างส่วนต่อขยาย
เมืองมิวนิค (Munich) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศเยอรมนี แม้จะไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศอย่างกรุงเบอร์ลิน แต่ก็เป็นเมืองที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเมืองหลวงของประเทศเลยก็ว่าได้ เป็นทั้งจุดเริ่มต้นและจุดศูนย์กลางในการเดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ ในยุโรป เมืองที่มีมนต์เสน่ห์ของของศิลปะ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมสไตล์บาร็อค และเรอเนสซองส์ โดยความโดดเด่นต่าง ๆ ยังคงปรากฏจวบจนทุกวันนี้
โครงการ R11 เป็นส่วนต่อขยายหลังคาของอาคารสี่ชั้นในเมือง Munich ใกล้กับ central station โดยฐานรากของอาคารยุค 80 ในปัจจุบันนั้นมีขีดความสามารถในการรองรับที่ค่อนข้างจำกัด และไม่ได้รับอนุญาตให้มีการต่อเติมขยายเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีการทำลายโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กเดิมบนชั้นสี่ก่อนที่จะขยายขึ้นไปด้วยกระบวนการก่อสร้างที่ใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบามากขึ้น
Pool Leber Architekten สถาปนิกชื่อดัง ได้เลือกใช้ไม้แปรรูป Cross-Laminated Timber (CLT) ซึ่งได้จากการนำไม้หลาย ๆ ชิ้น มาเชื่อมอัดเข้าด้วยกาวต่อกันเป็นชั้นเลเยอร์ ในลักษณะ cross แนวขวางสลับกันไปมาในแต่ละชั้น นั่นจึงทำให้มวลของไม้ CLT มีความหนาแน่น และมีความแข็งแรงในการรับน้ำหนักได้มากกว่าไม้ทั่ว ๆ ไป และเพิ่มการตกแต่งสไตล์ Loft ใหม่ที่เรียบง่ายสวยงามและดูกว้างขวางให้กับอาคารที่พักอาศัยยุค 80 ใน Munich แห่งนี้ไปในตัว
โครงสร้างใหม่นี้ทำจากไม้แปรรูป Cross-Laminated Timber (CLT)
ซึ่งเป็นไม้ที่ทางวิศวกรรมสามารถให้ความแข็งแรงเท่ากับ
เหล็กหรือคอนกรีตนั่นเอง
ภาพจาก : http://www.greenspec.co.uk/building-design/cross-laminated-timber-manufacturing-process/
บริเวณสองชั้นที่มีการดัดแปลงต่อเติมใหม่ได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น โดยแบ่งการใช้งานออกเป็น 3 ห้อง ประกอบไปด้วย ห้องพักมาตรฐาน 2 ห้องนอน และส่วนของห้องชุดอพาร์ทเมนท์ที่อยู่ติดกัน ทั้งสองห้องสามารถเข้าถึงพื้นที่ห้องใต้หลังคาที่เป็นเอกลักษณ์สุด ๆ ในชั้นบน
นอกจากนี้ยังสามารถที่จะแยกห้องชุดที่อยู่ติดกันสองแห่งให้เป็นยูนิตแยกต่างหากได้ เป็นความง่ายอย่างหนึ่งที่จะเปลี่ยนชั้นบนให้เป็นบ้านอีกหลังได้ ซึ่งจะทำให้จำนวนยูนิตรวมมีมากถึงสี่ยูนิต
พื้นที่ทุกส่วนภายในได้รับการออกแบบให้รวบรวมฟังก์ชันทั้งหมดไว้ด้วยกัน ตั้งแต่พื้นที่ภายในและภายนอกที่มีการเชื่อมต่อกัน ในส่วนของชั้นบนเชื่อมต่อกันด้วย gallery แนวตะวันออก-ตะวันตก โดยใช้ประโยชน์จากดีไซน์ความลาดชันของหลังคา บวกกับการวิเคราะห์ทุกมิติอย่างละเอียดเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในแง่ของการกระจายธรรมชาติแสงทั่วทุกพื้นที่ได้อย่างไร้ขีดจำกัดของโครงสร้าง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้พื้นที่ที่สว่างสม่ำเสมอ และเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติทุกองศา
ภายนอกโครงสร้างไม้ สะท้องพลังแห่งความลึกลับน่าค้นหา ซ่อนอยู่หลังโครงสร้างเหล็กที่ตรงกับผนังในชั้นล่างตามเดิม แต่ภายในไม้ที่เป็นวัสดุตกแต่งโดดเด่นครอบคลุมผนังเพดานและพื้น
ไม้ยังนำมาใช้ในการสร้างสรรค์ในการตกแต่งองค์ประกอบภายในต่าง ๆ อย่างเฟรมประตูหน้าต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชั้นบนที่เน้นการออกแบบตกแต่ง สร้างสรรค์ไม้เป็นที่นั่งริมหน้าต่าง ทั้งชุดตู้เก็บของต่าง ๆ เคาท์เตอร์ครัวที่ทำการดีไซน์ให้ slope มุมเพื่อเป็นตู้เก็บจานชามในส่วนภายในห้องครัว เป็นการผสมผสานดีไซน์ที่สวยงามเข้ากับประโยชน์ใช้สอยอย่างแท้จริง
บันไดดีไซน์สวยงามน่าหลงไหลถูกสร้างขึ้นเป็นรูปแบบบันไดลอย ฝังผนังทรงเหลี่ยมสไตล์โมเดิร์น โทนสีอบอุ่นของไม้ตัดกับผนังคอนกรีตได้อย่างลงตัว จะมองมุมไหนก็เต็มไปด้วยความสวยงาม ทันสมัยอย่างมีระดับสุด ๆ