https://www.domusweb.it/en/news/gallery/2022/02/17/the-passive-tower-lilly-could-change-the-future-of-our-city.html

Lilly Tower NYC คือแนวคิดของงานออกแบบตึกสูงที่ปกคลุมไปด้วยดอกลิลลี่หลากหลายสีสันที่ Bryant Park กลางเมืองแมนฮัตตันในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นผลงานที่พัฒนาขึ้นโดย Studio Vural บริษัทสัญชาติอเมริกา ที่ได้แรงบันดาลใจในการสร้างตึกด้วยเทคโนโลยีความร้อนใต้พิภพ การระบายอากาศตามธรรมชาติ และการดูดซับคาร์บอน ด้วยความหวังที่ต้องการเปลี่ยนอนาคตของเมือง โดยเทคโนโลยีความร้อนใต้พิภพ การระบายอากาศตามธรรมชาติ พร้อมทั้งฝนในธรรมชาติ จะช่วยทำให้ต้นลิลลี่เติบโตและช่วยดูดซับคาร์บอนได้

แรงบันดาลใจในการงานออกแบบ Lilly Tower NYC

โปรเจกต์นี้ประกอบไปด้วยอพาร์ทเมนต์ 18 ชั้น พื้นที่สำหรับสำนักงาน 23 แห่ง โดยไอเดียของบ้านและสำนักงานในที่เดียวกัน เกิดจากการทำงานแบบทางไกลในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่เกิดการระบาดของโคโรนาไปทั่วโลก ทั้งหมดนี้ในพื้นที่ 265,000 ตารางฟุต พื้นที่ที่กำลังพอดีที่สามารถสร้างความยั่งยืนได้ พร้อมกับต้นทุนด้านพลังงานที่ต่ำ และงานออกแบบของตึกที่ปกคลุมไปด้วยดอกลิลลี่ก็เพื่อเป็นการโปรโมงงานดีไซน์ที่ใช้พลังงานต่ำได้เป็นอย่างดี โดยตัวตึกตั้งอยู่ใกล้กับ American Radiator Building ตึกสไตล์กอธิคเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1923

“รูปแบบการเรียงตัวของดอกลิลลี่บนตึกได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาข้าวในเอเชีย เป็นภาพของแหล่งดินอุดมสมบูรณ์ทุกตารางนิ้วที่มีความสำคัญ” Selim Vural ผู้ก่อตั้ง Studio Vural ในเมืองบรู๊คลินกล่าว โดยตึกลิลลี่นี้จะเป็นตึกกระจก 3 ชั้นที่ปกคลุมด้วยพืชพรรณบางส่วนในการทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนตามธรรมชาติให้กับตัวอาคาร

Studio Vural เลือกใช้ต้นลิลลี่เอเชียเพราะว่าเป็นพรรณไม้ที่ไม่ต้องการความดูแลมากนัก ต้นไม้สีเขียวขจี และจะบานเปล่งสีสันในทุกช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี ไม่ว่าจะเป็นสีแดง เหลือง และส้ม เปรียบเสมือนทุ่งดอกไม้ ซึ่งเป็นภาพอันทรงพลังที่จะสามารถเล่าเรื่องราวของงานดีไซน์ที่มีสุนทรียศาสตร์และเทคโนโลยีพลังสะอาดได้ดี ทำให้อาคารหลังนี้เป็นมากกว่าแค่ตึกธรรมดา แต่เป็นงานสถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ฟังก์ชันการทำงานของตัวอาคาร

ระบบการปลูกพรรณไม้มีน้ำหนักเบา โดยทำมาจากเตียงคอนกรีตที่รองรับด้วยโครงเหล็ก น้ำที่ใช้รดต้นไม้จะมาจากทั้งน้ำฝน น้ำทิ้ง แล้วค่อยใช้น้ำประปาของทางเมืองร่วมด้วยเมื่อจำเป็น โดยงานนี้จะเป็นหน้าที่ของทั้งผู้ดูแลสวนและใช้โดรนเข้ามาช่วยในการทำงานเพิ่มเติมด้วย โดยงานนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่จินตนาการที่เกิดขึ้นมาลอย ๆ เท่านั้น 

แต่ Studio Vural เชื่อว่าตึกจะสามารถทำงานได้อย่างดี จากคำแนะนำของสถาปนิกด้านภูมิภาพ และประสบการณ์ส่วนตัวของเขาในการดูแลฟาร์มบนหลังคาขนาด 1,000 ตารางฟุตในบรู๊คลินเอง เขาทั้งปลูกผัก ดอกไม้ และทำปุ๋ยหมักเอง ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา และพบว่าดอกลิลลี่และไลแลค เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่ทั้งหนาวเย็นและมีลมแรง

ทางสตูดิโอยังกล่าวอีกว่าอาคารหลังนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของอาคาร passive house ซึ่งเป็นอาคารที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงตามมาตรฐานของการใช้ซองกันอากาศ การจัดการการเพิ่มความร้อนจากแสงอาทิตย์อย่างระมัดระวัง และการรวมระบบกู้คืนความร้อนตามสถาบัน passive house ของอเมริกาด้วย 

อีกหนึ่งแรงบันดาลใจของการสร้างตึก passive house ก็เกิดจากจำนวนของ passive house ที่ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนขึ้นในเบอร์ลิน เนื่องจากผู้คนสนใจที่จะสร้างบ้านโดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์มาเป็นเวลาถึง 10 ปีแล้ว แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบ แต่โปรเจกต์นี้จะทำให้แนวคิดนี้แพร่หลายและมีคนเห็นมากขึ้น ด้วยงานสถาปัตยกรรมที่ได้ส่งเสียงให้ทุกคนได้กลับมานึกถึงความยั่งยืนในการดำรงชีวิตอีกครั้ง เพียงแค่มีต้นลิลลี่เพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยต้น แมนฮัตตันก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเคยแล้ว

Source: https://www.dezeen.com/2022/02/14/lilly-skyscraper-studio-vural-manhattan-colourful-flowers/

https://www.domusweb.it/en/news/gallery/2022/02/17/the-passive-tower-lilly-could-change-the-future-of-our-city.html