ผลสำรวจน่าสนใจในประเด็น กัญชากับอสังหาริมทรัพย์
สำหรับเรื่องกัญชาในประเทศไทยก็กำลังเป็นประเด็นที่มีคำถามและทุกคนกำลังรอความชัดเจนจากภาครัฐ แต่อย่างไรก็ตามก็มีความเคลื่อนไหวและพัฒนาการอยู่อย่างต่อเนื่อง ประชาชนไทยทั้งในภาคเกษตรและภาคสาธารณสุขก็มีความตื่นตัวเรื่องกัญชานับจากที่ พ.ร.บ. ยาเสพติด ฉบับที่ 7 พ.ศ. 2562 ได้มีผลบังคับใช้ เมื่อต้นปีกุมภาพันธ์ 2562 เพื่อเปิดทางให้มีการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และอย่างข่าวล่าสุดที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้มีกิจกรรมร่วมปลูกกัญชาทางการแพทย์สายพันธุ์ไทย เพื่อใช้ในงานรักษาและวิจัย โดยเชิญนักมวยชื่อดังอย่างบัวขาว บัญชาเมฆมาร่วมกิจกรรม กัญชาเป็นเรื่องที่น่าจับตามองกันต่อไป
ภาพจาก: https://unsplash.com/photos/HUaKYCZ2AjE
สำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ไปไกลกว่าไทยแล้ว และในภาคอสังหาริมทรัพย์ก็มีความเกี่ยวข้องกับกับประเด็นกัญชากับเขาไปด้วย เมื่อปีที่แล้ว National Association of Realtors (NAR) สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดได้จัดทำการสำรวจของกัญชาที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์ขึ้นในเดือนกันยายนปี 2018 ผ่านการส่งแบบสำรวจผ่านทางอีเมลไปยังสมาชิกที่มีอสังหาฯ สำหรับอยู่อาศัย 75,000 คน และเชิงพาณิชย์ 62,000 คน ได้รับการตอบกลับจากสมาชิกแบบที่อยู่อาศัย 6,987 คน และเชิงพาณิชย์ 949 คน ได้ผลการสำรวจที่น่าสนใจดังนี้
กัญชากับอสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัย
ถึงแม้ว่ากัญชาในตลาดอสังหาฯ กำลังอยู่ในช่วงเติบโต แต่ปัจจุบันมีผู้คนเพียง 1-2% เท่านั้นที่ตระหนักว่าอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับกัญชาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในระบบข้อมูลส่วนกลางเพื่อการซื้อขายบ้านที่นายหน้าอสังหาฯ ภายในประเทศนิยมใช้กัน หรือ Multiple Listing System (MLS) แล้ว และเมื่อสำรวจดูว่าราคาอสังหาฯ ในบริเวณแถบร้านขายยามีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าไปมากน้อยแค่ไหนพบว่า 76-78% ของสมาชิกทั้งในรัฐที่ใช้กัญชาทางการแพทย์และสมาชิกในรัฐที่อนุญาติให้ใช้กัญชาทางการแพทย์บวกกับกัญชาเพื่อสันทนาการไม่เห็นว่ามูลค่าอสังหาฯ ในพื้นที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไป (ดูภาพ Residential Property Values Near Dispensaries ที่ด้านล่าง)