ตึกแลนด์มาร์คแห่งใหม่ใน Monaco ที่เกิดจากการถมทะเล เป็นครั้งแรก!
ภาพจาก: designboom
Mareterra: แลนด์มาร์คแห่งใหม่ใน Monaco ที่เกิดจากการถมทะเล โครงการ Mareterra ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ในโมนาโก ออกแบบโดยสถาปนิก Valode et Pistre กับ Renzo Piano และภูมิสถาปนิก Michel Desvigne โครงการนี้เป็นตัวอย่างของการขยายตัวของเมืองอย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการนี้ได้เปิดตัวสู่สาธารณะอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2024 นี้
โดยจะเป็นโครงการ การปรับปรุงแนวชายฝั่งของโมนาโก ด้วยการเพิ่มพื้นที่กว่า 6 เฮกตาร์ (60,000 ตารางเมตร) หรือประมาณ 3% ของพื้นที่ทั้งหมด
Mareterra ตั้งอยู่ในภูมิประเทศของโมนาโก ประเทศเล็กๆที่มีพื้นที่ดินอยู่อย่างจำกัด ถูกสร้างขึ้นบนที่ดินถมทะเล ซึ่งนอกจากตัวอาคาร Mareterra ยังมีพื้นที่ครึ่งหนึ่งเตรียมไว้สำหรับการใช้งานสาธารณะ ทั้งสวนสาธารณะ, ทางเดินริมทะเล, ท่าจอดเรือ พื้นที่เชิงพาณิชย์ และโซนที่พักอาศัย Le Renzo เข้าด้วยกัน และเพื่อให้มั่นใจว่าผู้พักอาศัยและผู้มาเยือนได้รับประโยชน์จากพื้นที่สีเขียวและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่สามารถเข้าถึงได้ จึงมีแนวทางในการออกแบบชุมชนเมืองนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาพื้นที่ใหม่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ภาพจาก: designboom, Hufton + Crow Photography
An Urban Solution to Growth Challenges: ทางออกในการพัฒนาเมือง ตั้งแต่เริ่มต้น Mareterra ได้รับการทดสอบการก่อสร้างที่เป็นนวัตกรรมใหม่และการปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งนักชีววิทยาทางทะเล นักดำน้ำ และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ร่วมมือกันเพื่อปกป้องสัตว์ทะเล เช่น โพซิโดเนีย และมุกขนาดใหญ่ โดยมีการขุดลอกอย่างระมัดระวังในระหว่างการก่อสร้าง
Mareterra เป็นตัวอย่างในหลักการออกแบบเชิงนิเวศน์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของโมนาโกในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 ซึ่งคุณลักษณะด้านความยั่งยืน จะมีทั้งวงจรระบบความร้อน, ระบบกักเก็บน้ำฝน และการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ที่จะสำรองพลังงานกว่า 40% ของความต้องการพลังงานในพื้นที่ นอกจากนั้นก็ยังมีหลังคาสีเขียว ป่าสนขนาด 1 เฮกตาร์ และการปลูกต้นไม้ใหญ่กว่า 1,000 ต้น ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและความสมดุลของระบบนิเวศอีกด้วย
ภาพจาก: designboom
A Global Model for Coastal Development: ตัวอย่างของการพัฒนาชายฝั่ง การออกแบบของ Mareterra แสดงถึงผลงานจากสถาปนิกชื่อดังระดับโลก Valode et Pistre ซึ่งเป็นผู้กำหนดผังเมืองโดยรวมและการออกแบบเขต Jardins d’Eau และ Colline ซึ่งยังรวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะและพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ นอกจากนั้น Renzo Piano ยังมีส่วนช่วยในการออกแบบย่านท่าเรือและอาคารที่พักอาศัย Le Renzo และในขณะที่ Michel Desvigne เป็นผู้ออกแบบภูมิทัศน์ผสมผสานองค์ประกอบในเมืองและธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนั้นก็ยังมีทั้ง Foster + Partners, Stefano Boeri Architetti และ Tadao Ando ที่มีส่วนร่วมในการออกแบบด้วย
Mareterra ได้ขยายโครงสร้างพื้นฐานของโมนาโกด้วยพื้นที่เพิ่มเติม 10,000 ตารางเมตรสำหรับ Grimaldi Forum รวมถึง 6,000 ตารางเมตรสำหรับการจัดนิทรรศการโดยเฉพาะ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ เช่น พื้นที่ทำสมาธิ พื้นที่ชมวิว และทางเดินเท้า ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าย่านนี้จะช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนและเสริมสร้างวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง
ซึ่งความสำเร็จของ Mareterra ถือเป็นแบบอย่างสำหรับโครงการถมทะเลอย่างยั่งยืน เพราะโครงการนี้ได้รับการออกแบบโดยมีมาตรฐานป้องกันแผ่นดินไหวเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น รวมไปถึงเป็นโซลูชั่นสำหรับการขยายตัวของเมืองในภูมิภาคชายฝั่งทะเล ด้วยการใช้นวัตกรรมขั้นสูงด้านสิ่งแวดล้อม ที่มอบคุณค่าสำหรับการพัฒนาในอนาคต
ภาพจาก: designboom / โครงการนี้รองงรับการเติบโตของเมืองและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น