ใครว่า Social Distancing ขายประสบการณ์ไม่ได้! ไขรหัสความสำเร็จของ “เมษานี้ ไม่มีเหงา” แคมเปญที่พร้อมเสิร์ฟ ทุกจังหวะความสุขผ่านระเบียงห้องจากแสนสิริ
“มีคอนโดหรือยัง ผมจะเล่าให้ฟังสักครู่ มีโครงการนี้ที่พร้อมอยู่ 12 โครงการอู้หูว์ ต้องสนใจ จะมีใครหน้าไหนให้มากกว่าโครงการนี้ กว่าแสนสิริก็คงไม่มีวันอีกแล้ว หากอยู่บ้านกันอยู่ มี Multichannel ซื้อกันได้แล้ว ไม่ต้องออกจากบ้านเพื่อมาหา ได้แต่ฝากโปรโมชั่นนี้เอาไว้ ฝากเอาไว้แสนสิริแคร์ 24 เดือนแรกผ่อนให้ฟรีได้แน่ๆ ได้ทั้งต้นทั้งดอกกิ่งก้านใบ จองไปเลยให้ไว รีบเถอะแก หากคุณสัมผัสปัญหาช่วงนี้แค่ไหน ขอให้ยื่นมือบอกมา แสนสิริบอกไว้ ผ่อนให้เลยจบปัญหา มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า แสนสิริรักคุณ”…เชื่อแน่ว่าใครหลายๆคนที่มีโอกาสได้รับชม Live Concert ภายใต้แคมเปญ “เมษานี้ ไม่มีเหงา” จนจบทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา ก็ล้วนแต่ได้รับภาพจำ และซึบซับเอาบรรยากาศอันแสนน่าอยู่ของโครงการคอนโดทั้ง 3 แห่งของแสนสิริ ได้อย่างง่ายๆแต่ลึกซึ้ง ผ่านท่วงทำนองและเสียงร้องอันคุ้นเคย ของศิลปินทั้ง 6 ได้เป็นอย่างดีครับ สำหรับผมถึงแม้ว่าจะเคยไปเยี่ยมเยือนถึงสถานที่จริงมาแล้วทั้ง 3 โครงการ ไม่ว่าจะเป็น The LINE Wongsawang, The LINE Sukhumvit 101 และ The BASE Sukhumvit 50 แต่ก็ต้องบอกว่าความรู้สึกอินกับบรรยากาศโครงการ ยังไม่มากเท่ากับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะที่รับชม Live ในครั้งนี้เลยครับ…ทำไมผมถึงคิดเช่นนี้ ไปหาคำตอบพร้อมกันได้กับบทความนี้ครับ
อย่างที่เรารู้ๆกันครับว่า #StayHome และ #SocialDistancing คือหนึ่งใน Keywords รณรงค์หลักที่หลายองค์กรนำมาใช้ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย และบรรเทาลงอย่างเร็วที่สุด แต่การที่เราต้องหยุดอยู่กับบ้าน นั่นหมายถึงการหยุดกิจกรรมอะไรหลายๆอย่างที่เราคุ้นเคย เช่นเดียวกับการทำกิจกรรมพบปะร่วมกันกับเพื่อนฝูง หรือกับญาติมิตรที่เราคุ้นเคย ก็ทำได้ยาก ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพกายและใจโดยรวมของหลายๆคน ความเหงา และความเครียดคือสิ่งที่ใครหลายๆคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะคนที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวในคอนโด ที่ในช่วงนี้พื้นที่ส่วนกลางก็งดใช้งาน หลายๆคนจึงเลือกที่จะเสพย์สื่อออนไลน์ หรือ Content แนว Entertainment มากขึ้นเป็นพิเศษ บางคนก็เฟ้นหากิจกรรมใหม่ๆ มาทำในช่วงที่ต้อง WFH หรือว่างเว้นจากการทำงาน เช่น เต้น Tiktok, ทำอาหาร, Virtual Fitness, ไลฟ์ขายของ ฯลฯ แสนสิริมองประเด็นเหล่านี้อย่างเข้าใจครับ โดยในฐานะที่ภาพลักษณ์ของแบรนด์แสนสิริเองก็มี Role ของความเป็น Companion อยู่ในตัวอยู่แล้ว จึงเกิดเป็น Big Idea ขึ้นมาว่าอยากจะเอาใจลูกบ้านในช่วงเมษาที่เหงาที่สุด ด้วยการจัดคอนเสิร์ตแบบ Social Distancing ครั้งแรกในไทย โดยกิจกรรม “เมษานี้ ไม่มีเหงา” นี้จะอยู่ภายใต้แคมเปญ #SansiriStayHome ที่จะมีการนำคอนเทนต์ดีๆ มาเสิร์ฟให้ทุกคนในช่วงของการอยู่บ้านนี้ ซึ่ง Highlight ของแคมเปญนี้ก็คือ LIVE Concert จาก 6 ศิลปินที่มาร่วมร้องเพลงให้ทุกคนฟังเพื่อคลายเหงาในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
หากคนทั่วไปมองเผินๆแล้ว ก็คงจะคิดว่านี่ก็คือการทำ Event ย่อยประจำไซต์ แนว CRM อย่างหนึ่งที่เรามักจะเห็นได้เรื่อยๆในสถานการณ์ปกติ ที่มีการเชิญศิลปินมาแสดงคอนเสิร์ตให้ลูกบ้านดู พร้อมกิจกรรมย่อยๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีให้กับลูกค้า กับสร้างบรรยากาศที่ดีในการปิดการขายลูกค้า Walk-in เพียงแต่ว่าครั้งนี้แปลกหน่อยตรงที่ไม่สามารถทำกิจกรรมที่มีคนรวมตัวกันในพื้นที่ปิดเป็นหมู่มากได้ ก็เลยมาทำเป็น Live Concert บนหน้า Facebook ซะเลย ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกใหม่ จะปิดการขายได้เลยก็คงยากเพราะว่าซื้อบ้าน ซื้อคอนโดก็ต้องเน้นขายประสบการณ์ทั้งนั้น ต้องมีลูกค้ามาชมที่ไซต์ จะขายผ่านจอเฉยๆไม่ได้…แต่ผมกลับไม่คิดว่านี่คือ Live Concert ธรรมดาครับ แต่นี่คือ Concert ที่ซื้อใจได้ทั้งลูกบ้านและคนดูที่เป็นกลุ่ม Real Demand หน้าใหม่ทุกคน แถมยังแฝงกิมมิคการขายน่ารักๆ ในแบบเข้าใจได้ง่ายๆตลอดทั้งรายการ
“เมษานี้ ไม่มีเหงา” คือ Brand Entertainment แคมเปญ ที่ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็น Marketing Tools ในการ Support แคมเปญหลักอย่าง “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” เท่านั้น แต่ในมุมมองผมนี่คือสุดยอดแคมเปญที่ตอบโจทย์ภาพของแบรนด์แสนสิริในแบบองค์รวม ที่มีการนำเอา Key Message + Promotion ของแคมเปญหลัก, Unique Selling Proposition ของทั้ง 3 โครงการ และการนำเสนอ Services อย่าง Line OA, 24 Hours Booking กับ Sansiri Care มาถ่ายทอด ไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ โดยการสร้าง Brand Collaboration กับศิลปิน ที่มาเป็น Brand Endorser หลักในแต่ละโครงการครับ
หากเป็นการจัด Concert ตามไซต์ทั่วไป แน่นอนว่าผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกลุ่มลูกบ้านที่ซื้อและโอนเข้าอยู่เรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งในช่วงเวลา Social Distancing แบบนี้แน่นอนว่ากิจกรรมแบบนี้ก็คงจะ Draw ลูกค้า Walk-in ได้ยากอยู่ดี แต่แสนสิรินั้นกลับมองว่านี่เป็นโอกาสที่จะ Draw กลุ่มลูกค้า Real Demand ใหม่ๆที่เป็นฐานแฟนคลับของศิลปินทั้ง 6 คนอย่าง ลิปตา, แสตมป์, เบน, ตู่, โอ๊ต และป๊อป ให้ได้เข้ามารับชม Live Concert ได้ในปริมาณมหาศาล (มาจาก Insight ที่ว่าผู้คนจำนวนมากมีพฤติกรรมเสพย์สื่อบันเทิงออนไลน์ที่สูงมากในช่วง WFH) โดยที่เปิดโอกาสให้ศิลปินนั้นๆบอกเล่าความรู้สึก ความประทับใจที่มีต่อโครงการคอนโดทั้ง 3 แห่งของแสนสิริ ผ่านทางท่วงทำนองเพลงที่แต่งขึ้นมาในแบบ Exclusive เพื่อให้คนดูจดจำทุก Key Benefits ได้อย่างแม่นยำ มอบส่วนลดเพิ่มเติมให้เมื่อ Cap และแชร์ จนกระตุ้นให้คนดูเกิดความอยากที่จะแวะเข้ามาชมโครงการ ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นอาจจะไม่เคยรู้จักโครงการมาก่อน หรือไม่เคยคิดที่จะซื้อคอนโดเลยก็ตามที โดยภาพที่ลูกบ้านยืนมองคอนเสิร์ตจากระเบียงห้องตัวเอง และภาพศิลปินที่ต้องชะเง้อมองขึ้นไปหาคนดูบนตึกนั้น ก็กลายเป็นภาพที่ช่วยสร้างกระแส PR ได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน
ที่ The LINE Wongsawang มีการถ่ายทอดให้คนดูทางบ้านได้รับรู้ถึง Key Benefit ในเรื่องของสระว่ายน้ำยาว 50 เมตร ผ่านทางการเล่าเรื่องด้วยเสียงเพลงจาก ลิปตา x แสตมป์ >> ลองคลิกดูย้อนหลังกันอีกทีที่นี่ครับ Click Here