เพลินจิต ถือเป็นทำเล Inner CBD ที่มีศักยภาพสูงมาก และยังแวดล้อมไปด้วยเพื่อนบ้านคุณภาพคับคั่ง  เพราะนอกจากมีรถไฟฟ้าสายแรกที่ให้บริการพาดผ่านสถานีเพลินจิตแล้ว ยังมาพร้อมกับ sky walk เชื่อมสถานีรถไฟฟ้า กับอาคาร ห้างสรรพสินค้าที่รายล้อมย่าน ทั้ง Central Embassy ศูนย์รวม Flagship Store ของสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำทั่วโลก

Park Hyatt Bangkok และ Rosewood Hotel Ploenchit โรงแรมระดับ 5 ดาว, Park Venture อาคาร Mix use ทั้งพื้นที่สำนักงานและร้านค้า ที่ได้รับรางวัลอาคารประหยัดพลังงาน LEED ระดับ GOLD แห่งแรกๆของเมืองไทย นอกจากนี้ยังมีอาคารต้นสนทาวเวอร์, Wave place building อาคารสำนักงานใจกลางย่าน CBD

ธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ปรับปรุงให้มีดีไซน์ที่ทันสมัยเหมาะกับย่านธุรกิจชั้นนำ

ช่วงเพลินจิตตัดกับถนนวิทยุยังเป็นย่านที่สร้างความฮือฮาอย่างต่อเนื่องในแง่ของ การพุ่งขึ้นของราคาซื้อขายที่ดิน เพื่อพัฒนาโครงการระดับแม่เหล็กใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น BDMS Wellness Center หรือล่าสุดกับพื้นที่เดิมของสถานฑูตอังกฤษที่ถูกกลุ่มเซ็นทรัล ร่วมกับฮ่องกง แลนด์ และ Jardine Matheson คว้าไปครอง เพื่อพัฒนาโครงการ Mixed Use ที่น่าจะเป็น Landmark ที่ใหญ่ที่สุดในย่านเพลินจิต ด้วยเม็ดเงินเฉพาะค่าที่ดินถึง 18,900 ล้านบาท

และล่าสุดกับกลุ่มปาร์คนายเลิศ ที่อัดฉีด งบลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท วางแผนพัฒนาโรงแรมและที่พักอาศัย “นายเลิศ ปาร์ค โฮเทลแอนด์เรสซิเดนซ์  กรุงเทพ” เป็นอาคารสูง  30 ชั้น บนที่ดินส่วนที่เหลืออยู่ราว  20 ไร่ เป็น ลักชัวรี บูติก โฮเทล ขนาด 60 ห้อง และที่พักอาศัยรูปแบบคอนโดมิเนียม 100 ห้อง เปิดขายแบบ Lease Hold ระยะเวลา 30 ปี ขายในราคาไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาทต่อตร.ม.

การที่กลุ่มหน่วยงานเอกชนเหล่านี้ร่วมผนึกกำลังกันพัฒนาโครงการของตัวเอง ก็ล้วนแต่มีจุดมุ่งหมายให้ย่านเพลินจิตแห่งนี้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม City Within City ที่อัดแน่นไปด้วย World Class Facilities ซึ่งพร้อมจะดึงดูดทุกสายตาของคนทั้งโลกเข้าไว้ด้วยกัน

ในขณะที่ย่านใกล้เคียงกันอย่างชิดลม-หลังสวน ก็ล้วนแต่เป็นย่านที่พักอาศัย และโรงแรมหรู ที่มีชื่อเสียงในระดับโลก อาทิ Hotel Muse Bangkok โรงแรมบูติคระดับ 5 ดาวบนถนนหลังสวน ที่เป็น destination ในฝันของนักเดินทางสายโรแมนติก ที่ได้รับรางวัลการันตีสาขาโรงแรมที่โรแมนติกที่สุดในเอเชีย Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel โรงแรมระดับ 5 ดาวที่ ตั้งอยู่บนถนนเพลินจิต ใกล้แยกราชประสงค์

เครดิตภาพ: http://hotelmusebangkok.com

รวมถึงโครงการพัฒนาย่านหลังสวน อย่าง Sindhorn Village โครงการ Leasehold ขนาดใหญ่ ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย และร้านค้า ที่มีจุดขายอยู่ที่พื้นที่เชื่อมต่อกับสวนลุมพินี และคุณภาพชีวิตใจกลางเมืองที่มีคุณภาพ

เครดิตภาพ http://sindhornvillage.com/th/about-us/sindhorn-village-th/

ย่านเพลินจิต-ชิดลม นี้นี่ยังถือว่าเป็นย่านที่รวมเอาโครงการคอนโดระดับ Luxury – Super Luxury ที่น่าจะเยอะที่สุดในประเทศ จึงน่าจะเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ย่านนี้ทำสถิติที่ดินราคาแพงที่สุดตลอดมาหลายต่อหลายปี กับพื้นที่ศักยภาพใจกลางเมือง ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาต่อไปอีกในอนาคต จนใครๆก็อยากเป็นเจ้าของ

และแน่นอนว่า ที่เรากล่าวกันมา โครงการส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็น Mixed use อาคารสำนักงาน โรงแรม หรือห้างร้าน เพราะน่าจะเป็นการพัฒนาที่ลงทุนคุ้มค่าที่สุดบนทำเลนี้มากกว่าการทำที่พักอาศัย ที่มีส่วนน้อยในพื้นที่ และส่วนใหญ่เป็น residential ที่พัฒนาเป็น Low rise ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในซอยร่วมฤดี ซอยนายเลิศ หรือไม่ก็เป็น High rise ราคาแพง อย่าง 98 Wireless ที่หลายคนคงได้เห็นข่าวมาไม่น้อย

หรือไม่ก็เป็นโครงการพักอาศัยบนถนนเพชรบุรี อย่าง Life One Wireless ที่ล้วนแต่มีราคาเกือบ 2 แสนบาทต่อตารางเมตร

นอกจากปัจจัยเรื่องราคาที่ดินที่อาจมีผลต่อการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยแล้ว ปัจจัยด้านการเดินทางอาจเป็นอีกเหตุผลที่ต้องพิจารณา เพราะหลายคนคงทราบดี ถึงการจราจรหนาแน่นและทิศทางการเดินรถที่จะหาทางกลับรถเพื่อไปอีกทางหนึ่ง อาจต้องนั่งคิดแล้วคิดอีก…และสำหรับผู้ที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นพาหนะหลักในการเดินทาง ก็คงจะดีไม่น้อยหากเราสามารถเดินออกจากรถไฟฟ้า และก้าวเข้าสู่คอนโดของเราได้เลยทาง Skywalk โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาและพลังงานในการเดินลงมาบนพื้นถนน ผ่านฟุตบาทที่เต็มไปด้วยแผงรถเข็นขายของ และมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งกันวุ่นวาย ดูไม่ปลอดภัย แถมมีบางครั้งที่ต้องผจญแดดและฝนกว่าจะวิ่งเข้าถึงโครงการได้ บางครั้งต้องรอฝนหยุดตกที่สถานีรถไฟฟ้าเป็นชั่วโมง

แต่การจะหาที่พักเพื่อตอบสนองวิถีคนเมือง ย่านเพลินจิต ที่มีทั้งคุณภาพชีวิตที่ดี และการเดินทางที่สะดวกสบาย ที่ Noble Ploenchit (โนเบิล เพลินจิต) อาจเป็นทางเลือกที่ดี ที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตบนย่านหรูหรามีสไตล์แห่งนี้ กับคอนโดไฮเอนด์ที่ตั้งอยู่บนย่านเพลินจิต บนทำเลที่ดีที่สุด ติดรถไฟฟ้า แถมยังมี sky walk เชื่อมเข้าสู่พื้นที่โครงการอย่างสะดวกสบาย

หรือหากจะเดินทางด้วยรถยนต์ ก็มาทางเข้าออกถึง 3 ทาง ทั้งถนนเพลินจิต ด้านหน้าโครงการ มี Retail Space & office ของ Noble ตั้งอยู่

ด้านวิทยุ ติดทางเข้าอาคาร wave place หรือทางซอยนายเลิศ ที่เป็นทาง service แต่ลูกบ้านก็สามารถใช้งานได้

โครงการ Noble Ploenchit จะว่าเป็นโครงการ Mix use ของย่านเพลินจิตอีกแห่งหนึ่งก็ได้ แต่เป็น Mix use ในเชิงการใช้พื้นที่ที่ผสมผสานระหว่างอาคารสำนักงานของ Noble และอาคารพักอาศัยที่มีสัดส่วนมากกว่า บนพื้นที่กว่า 9-0-92.4 ไร่ ติดรถไฟฟ้าเพลินจิตเลย

ตัวโครงการมีทั้งหมด 4 อาคาร รวมกว่า 1,444 ยูนิต แบ่งเป็น อาคารพักอาศัย : อาคาร A สูง 14 ชั้น อยู่ด้านในสุดของแปลงที่ดิน อาคารพักอาศัย : อาคาร B สูง 51 ชั้น อยู่ตรงกลางติดพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสวนและคอร์ทของพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง อาคารพักอาศัย : อาคาร C สูง 45 ชั้น อยู่ติดอาคาร B มีโถงลอบบี้ที่สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ และใกล้อาคาร D ที่เป็นอาคารสำนักงาน สูง 4 ชั้น ติดถนนเพลินจิต และเป็นทางเชื่อมของทางเข้าออก skywalk ที่เชื่อมกับรถไฟฟ้า

มีการออกแบบตัวอาคาร D ที่เป็นอาคารสำนักงานที่ดูทันสมัย โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับการเป็นอาคารที่อยู่ในย่านธุรกิจชั้นนำของ Ploenchit City

แต่แตกต่างจากการออกแบบพื้นที่โครงการที่พักอาศัยอีก 3 อาคารด้านใน ที่ถึงแม้จะอยู่ในกลางย่านเพลินจิตย่านธุรกิจที่แข่งขันเร่งรีบ แต่พลิกความเร่งรีบ สู่ความสงบกับบรรยาการโครงการที่เป็นอาคารล้อมคอร์ท

ตัวอาคารออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Minimalism น้อย…แต่…มาก กับการออกแบบตัวอาคารที่มีความเรียบง่าย ด้วยการใช้ภาษาการออกแบบเดียวกัน  ใช้สัดส่วนที่ลงตัวไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เป็นสัดส่วน Human scale  ที่ใช้กับ facade อาคารที่โอบล้อมพื้นที่ที่รับรู้ได้ทั้งจากภายนอกและภายในอาคาร

เลือกใช้วัสดุคอนกรีต เหล็ก กระจก เพื่อผสานและกลมกลืนกับบริบทอาคารโดยรอบ สร้างบรรยากาศและความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวของพื้นที่

มีการคำนึงถึงรายละเอียดของแสงและเงาที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกของอาคาร ทำให้ผู้ใช้งานได้รับรู้ถึงแสงและเงาที่ตกกระทบลงบนพื้นทางเดิน แต่ก็มีการออกแบบให้มีฟังก์ชั่นที่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศเมืองไทย ที่ยังสามารถกันฝน และกันแดดได้ในบางส่วนของพื้นที่ แบบนี้เรียกว่าสวยทั้งดีไซน์และฟังก์ชั่น

ถึงภายนอกอาคารจะใช้ความ minimal เพื่อเบรกความเร่งรีบ และสร้างพื้นที่สงบใจกลางย่านเพลินจิต

แต่ภายในได้เลือกใช้วัสดุและการตกแต่งที่มีลูกเล่น แต่เลือกใช้โทนสีขาว ดำ เทา เช่น ลายพื้นเป็นแพทเทิร์นหินอ่อนจากอิตาลี ลายตาราง ทำให้บรรยากาศตัวลอบบี้ที่มีความสูงโปร่ง กลับรู้สึกมีความ cozy อบอุ่น กับสัดส่วนและองค์ประกอบของงานออกแบบที่มีขนาดพอดีกับการใช้งานจริง

พื้นที่หลักส่วนใหญ่ตกแต่งด้วยผลงานศิลปะ หรือการเลือกใช้โคมไฟ หรืออุปกรณ์ประกอบการใช้งานต่างๆที่มีดีไซน์ นำมาออกแบบและจัดวางให้เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของการจัดการสเปซ  การใช้งานส่วนต่างๆ เช่นศิลปะบนเพดานที่กำหนดพื้นที่ใช้งานโซน information แยกจากพื้นที่โถงทางเดิน และโซนพื้นที่พักผ่อน

พื้นลายตารางที่ออกแบบให้แยกส่วนจากพื้นทางเดิน เป็นตำแหน่งตั้งชุดโซฟาสำหรับมุมพักผ่อน พักคอยของลูกบ้าน มีโคมไฟเพดาน กำหนดและสร้างบรรยากาศการใช้งานเฉพาะโซนขึ้นมา

นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมรวงข้าวสีทอง ที่เป็นตัวแทนของเมล็ดพันธุ์ชั้นดี ตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ของผู้อยู่อาศัย ตกแต่งอยู่ในหลายๆมุมของโครงการฯ อีกด้วย เรียกได้ว่า เมื่อคุณเข้ามาในโครงการเสมือนคุณกำลังเดินเข้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีผลงานของนักออกแบบชั้นนำจัดแสดงอยู่ กับบรรยากาศที่เงียบสงบ ตัดขาดจากความวุ่นวายภายนอกอย่างสิ้นเชิง

ทั้งผลงานศิลปะ วัสดุที่ใช้ ที่นอกจากแสดงถึงความใส่ในใจรายละเอียดของการออกแบบสู่ผู้ใช้งานแล้ว ยังเป็นองค์ประกอบของอาคารที่ช่วยสร้างจังหวะที่สอดคล้องกันระหว่างสเปซและสถาปัตยกรรมภายใน และสถาปัตยกรรมภายนอกที่เป็นอาคารล้อมคอร์ทพื้นที่สีเขียวที่มีกว่า 4 ไร่ใจกลางเพลินจิต เป็นเสมือนโอเอซิสใจกลางเมือง ที่รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ ให้คุณได้สูดอากาศอย่างเต็มปอด เหมาะกับการพักชาร์จพลัง และที่สำคัญการออกแบบเป็นการตัดขาดความวุ่นวายจากภายนอกได้อย่างดี เสมือนด้านนอกไม่มีการเคลื่อนไหวใดใด เพราะสเปซและพื้นที่สีเขียวที่โอบล้อมทำให้ชวิตคุณเดินช้าลงจริงๆ

ภายในแบ่งเป็น 2 คอร์ท คอร์ทแรกเป็นเสมือนคอร์ทต้อนรับและ buffer court กั้นพื้นที่โซนอาคารสำนักงาน Noble กับพื้นที่โครงการที่พักอาศัยด้านใน รวมทั้งยังเป็นพื้นที่เว้นระยะจากหน้าถนนที่ค่อนข้างลึก ลึกพอที่จะช่วยให้บรรยากาศภายในโครงการเงียบสงบพอสำหรับการพักผ่อน

มีการใส่ใจในรายละเอียดของต้นไม้ในพื้นที่ ด้วยการเลือกใช้ต้นไม้ในประเทศอย่างต้นขานาง ที่มีลักษณะต้นสูง ช่วยลดทอนความสูงของอาคาร B และอาคาร C ที่สูงกว่า 51 และ 45 ชั้น ที่ล้อมรอบคอร์ทนี้อยู่ รวมทั้งสร้างภูมิทัศน์ บรรยากาศให้สเปซคอร์ทดูโอบล้อม เหมาะแก่การเป็น Welcome Court ของผู้ใช้งาน

มีน้ำเป็นองค์ประกอบหนึ่งของสเปซ ตั้งแต่บ่อน้ำพุใจกลางคอร์ท

หรือบ่อเลี้ยงปลาคาร์ฟ ที่ทอดยาว ขนาดตัวอาคารและเชื่อมทางเข้าลอบบี้

ให้บรรยากาศเย็นๆกับพื้นที่คอร์ทที่รับลม กับต้นไม้และไอน้ำที่ส่งเสริมกัน

ซึ่งแตกต่างกับคอร์ทที่สองที่อยู่ด้านใน ถูกล้อมรอบด้วยอาคาร A และ B เป็นคอร์ทที่เล่น Step ของสวน

เพื่อให้มีมุมและพื้นที่พักผ่อนที่หลากหลาย

ทั้งพื้นที่ใต้ชายคาอาคาร

ยังใช้น้ำเป็นองค์ประกอบของสวน ด้วยสระน้ำและ พื้นที่สวนหลิว ที่ปลูกแซมกับต้นฉนวนเงิน ลำต้นต้นไม้เตี้ย ทรงพุ่ม ที่ให้ความรู้สึกเสมือนสวนในบ้าน ดูอบอุ่น เหมาะกับเป็นพื้นที่สำหรับทุกๆคนในครอบครัว

เพราะเชื่อมต่อกับพื้นที่สระว่ายน้ำระบบเกลือ ที่ยาวขนานอาคาร กว่า 45 เมตร

แบ่งพื้นที่สระเด็ก ที่มาพร้อมเครื่องเล่น

และมุมพักผ่อนตลอดริมสระว่ายน้ำ

เหนือสระว่ายน้ำเป็นห้องฟิตเนสที่เป็น panorama วิวสวน และวิวสระว่ายน้ำ

ที่มีเครื่องเล่นครบครัน และทันสมัยไว้ให้ได้ออกกำลังกายกัน

แถมยังคงคอนเซปผลงานศิลปะ ด้วยการนำเอาภาพแผนที่ของเมืองต่างๆมาตกแต่งเป็นลวดลายของเพดานอีกด้วย

ทั่วทั้งโครงการมีพื้นที่นั่งเล่น นั่งพักผ่อนกึ่ง out door ไว้ให้บริการทั่วทั้งโครงการ ไม่ว่าจะที่ชั้นล่างติดลอบบี้ หรือที่ชั้น 2 ติดฟิตเนส ที่เป็นโถงทางเดินที่ได้บรรยากาศของทิวยอดต้นไม้ของพื้นที่สีเขียวใจกลางโครงการ

เชื่อมกับพื้นที่ห้องประชุมที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายกับโต๊ะเก้าอี้ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก

นอกจากพื้นที่ออกกำลังกายที่ห้องฟิตเนสที่อยู่ที่อาคาร A แล้ว ยังมีสนามบาส

และสนามเด็กเล่น ไว้ให้บริการที่ด้านล่างติดอาคาร A สำหรับใครที่ชอบออกกำลังกายกลางแจ้ง ก็มีพื้นที่อีกมุมไว้ให้ได้ใช้งานกัน

แต่ถ้าใครไม่ใช่สายออกกำลัง แต่เป็นคนชอบอ่านหนังสือ หรือชอบหามุมทำงานที่สร้างแรงบันดาลใจ ในพื้นที่สงบๆ ต้องไปที่นี่ เพลินจิตคลับ พื้นที่ห้องขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้มีมุมใช้งานหลากหลายเป็นส่วนตัว

ทั้งชุดโฟซายาว ไว้เอนหลัง นั่งพัก หรือนอนอ่านหนังสือ

พื้นที่นั่งทำงาน พูดคุย

หรือมุมกิจกรรม play zone ที่อยู่ด้านในสุดของห้อง

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ roof top ของแต่ละอาคารที่มี function การใช้งานที่แตกต่างกัน อย่างที่อาคาร A ด้านบนแบ่งเป็น2ส่วนคือพื้นที่เด็กเล่นที่มีบ่อทราย เครื่องเล่นเด็ก และมีพื้นที่มุมนั่งพักผ่อนที่ปลายสุดอีกด้าน ให้ทุกคนในครอบครัวมาใช้งานพื้นที่ร่วมกันได้

หรือที่ตึก B ด้านบนก็เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน ที่ใช้ step เปลี่ยนระดับระหว่างพื้นที่ทางเดิน และมุมพักผ่อน

ที่มีทั้งมุมโต๊ะเก้าอี้ ใต้ชายคาที่ถูกโอบล้อมด้วยสวนหย่อม ให้นั่งพูดคุย ชมวิวมหานครโดยรอบ

หรือมุมนั่งพักที่ออกแบบให้เป็น step ขนาดเล็ก หันไปทางทิศตะวันตก

ไว้นั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่เป็นฉากหลังของตึกสูงใจกลางย่านเพลินจิต

นอกจากนี้ยังมี pocket space เล็กๆตามแต่ละชั้นให้ลูกบ้านได้เลือกใช้งาน

ทั้งมุมโซฟากึ่ง outdoor

หรือpocket garden ที่สามารถออกมาใช้งาน

ไม่ว่าจะนั่งรับลม สูดอากาศยามเย็น

หรือชมวิวทิวทัศน์ของใจกลางเมือง

ที่มองเห็นถึงโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นปลายสุดของสายตา

เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่พักอาศัยที่เงียบสงบใจกลางเมือง ที่มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า 4 ไร่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พักอาศัย และนอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใครหลายคนคงใฝ่ฝันกับลิฟท์ส่วนตัว ที่มีโถงลิฟท์แยกเฉพาะของแต่ละยูนิตอีกด้วย

ถึงแม้ Noble Ploenchit จะขายไปกว่า 70-80% และมีลูกบ้านเริ่ม Move in แล้ว แต่ก็ยังพอมีห้องเหลือให้ได้จับจองเป็นเจ้าของ กับราคาเริ่มต้นที่ 235,000 บาท ต่อตารางเมตร ถ้าใครสนใจลงทุนปล่อยเช่า ตอนนี้เริ่มมีห้องปล่อยเช่าอยู่ที่ 50,000 บาท (ขึ้นอยู่กับยูนิต) ซึ่งน่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอยู่ไม่น้อย สำหรับคนที่อยากใช้ชีวิตใจกลางเมือง แต่ก็ยังได้พักผ่อนชาร์จพลังอย่างเต็มที่

เพราะถ้าเทียบกับศักยภาพทำเล เพลินจิต ที่ยังมีการพัฒนาอีกไกลในอนาคต และจากประวิติศาสตร์ของการซื้อขายที่ดิน ย่านเพลินจิตแห่งนี้ก็เป็นย่านที่ทำสถิติการซื้อขายในราคาสูงสุดมาตลอดหลายครั้งหลายครา….ข้อเท็จจริงสำคัญที่ปฎิเสธไม่ได้ก็คือ Noble Ploenchit อยู่บนทำเลที่ดีที่สุดของเพลินจิต ถ้าเทียบกับโครงการอื่นๆที่กำลังพัฒนาหรือจะพัฒนาในอนาคต รวมทั้งโครงการใหม่ของ Noble ตรงข้ามปาร์คนายเลิศเอง ก็ไม่ได้อยู่บนสุดยอดทำเลนี้ Noble Ploenchit จึงถือว่าเป็น Rare Item in Super Prime location อันสมบูรณ์แบบและมาพร้อมกับวิถีชีวิต Vertical Living ระดับไฮเอนด์ที่ครบทุกมิติ ที่รอคุณไปสัมผัสและเป็นเจ้าของ ในแบบที่คาดเดาไม่ได้เลยว่าราคาในอนาคตจะพุ่งขึ้นสูงมากกว่านี้จนไปจบที่เท่าไหร่

พบกับยูนิตราคาพิเศษของ Noble Ploenchit ในราคาเริ่มต้นตรม.ละ 235,000 บาท* ได้ในงาน EXCLUSIVE EVENT วันที่ 3-4 มีนาคม นี้ ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษและเข้าร่วมงานได้ที่

https://goo.gl/QBZDsU