Canary Wharf เป็นย่านธุรกิจแบบคลาสสิกเช่นเดียวกับ Wall Street พื้นที่ดังกล่าวถูกพัฒนาครั้งแรกในปี 1980 หลังจากการปิดท่าเรือ มันเป็นพื้นที่ทางการค้าอย่างแท้จริง เพราะทุกอย่างจะเงียบไปหมดในตอนกลางคืน “ถ้าคุณพูดถึง ‘Canary Wharf’ ทุกคนจะนึกถึง Barclays, Citibank, JP Morgan” เริ่มต้นที่ Brian De’ath, ผู้อำนวยการฝ่ายขายที่พักอาศัยในเครือ Canary Wharf Group “ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทางหน่วยงาน TMT ได้รับแรงผลักดันที่สำคัญและมีการผลักดันการกระจายการลงทุนขนาดใหญ่ของการผสมผสานระหว่างผู้เช่า ในขณะนี้ ธนาคารและการประกันภัยให้ใช้ประมาณ 40% ของตารางฟุตในการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์” นั่นทำให้ Canary Wharf ได้รับมุมมองใหม่ๆ และลอนดอนคือปลายทางที่อยู่อาศัยที่แห่งใหม่ล่าสุด

เป็นมากกว่าธนาคาร

ตามแบบฟอร์ม TMT-เทคโนโลยี, สื่อ โทรคมนาคม  และอุตสาหกรรมได้ให้ชีวิตใหม่กับพื้นที่โดยมีการนำรูปแบบใหม่ของแรงงานที่ชอบการขนส่งสาธารณะและสามารถเดินไปทำงานได้ กับ 53 บริษัทเทคโนโลยีที่ในตอนนี้ได้ครอบครองพื้นที่ดังกล่าว ตัวตนใหม่ๆจึงมีการกำเนิดขึ้น “มันเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่จะกระจายผลงานของคุณ เมื่อมองไปที่หน่วย TMT การพิจารณาและศักยภาพของอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัยก็ให้ความรู้สึกที่สมบูรณ์แบบ”

De’ath กล่าว “และจริงๆแล้ว ที่อยู่อาศัยเป็น Davy Crockett ของโลก (ที่พัฒนาแล้ว) พวกเขาเป็นผู้บุกเบิก และมีโอกาสมากมาย มันเป็นสิ่งที่ไม่ปกติมากนักที่จะพบพื้นที่สักแห่งที่มีขนาดถึง 17 ล้านตารางฟุตสำหรับเอาไว้ใช้ในเชิงพาณิชย์ 1 ล้านของการค้าปลีกและไม่มีที่สำหรับพักอาศัย”

ตรงกันข้ามกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น การกระจายความเสี่ยงของ Canary Wharf ที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแข่งขันกับโครงการอื่นๆ – King’s Cross, Battersea, Old Street- ที่มีศักยภาพที่จะไล่ผู้เช่าของ TMT เช่นเดียวกับ MNC ที่ใช้พื้นที่ร่วมกันซึ่งนำไปสู่การได้เพื่อนบ้านที่เจ๋งจริงๆ “ความเจ๋งอยู่ในสายตาของผู้มอง เราไม่ได้อยู่เพื่อที่จะเป็น Shoreditch, King’s Cross ก็คือ King’s Cross แต่เราเป็น Canary Wharf” De’ath แสดงความคิดเห็นไว้ “แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักในระดับสากลมาหลายปี และทางหน่วย TMTได้เริ่มต้นที่จะเข้ามามีส่วนร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานของปรากฎการณ์ อาคารที่ใช้การได้และอสังหาริมทรัพย์ที่มีการจัดการด้วยมาตรฐานที่ดี”

แม้จะมีการขาดแคลนที่อยู่อาศัย แต่ก็ยังเป็นพื้นที่สำหรับการช้อปปิ้ง มีนักช้อป 46.9 ล้านคนต่อปี และ De’ath มีความภาคภูมิใจมากที่จะชี้ให้เห็นกลุ่มที่เป็นเจ้าของคอลเลคชั่นศิลปะกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในกรุงลอนดอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาคารที่อยู่อาศัยสองที่แรกบน Canary Wharf – 10 Park Drive และเพิ่งที่เปิดตัว One Park Drive – เป็นจุดเริ่มต้นของความมุ่งมั่นขนาดใหญ่กับชีวิตการอยู่อาศัยบนพื้นที่ Canary Wharf ที่ที่เรียกว่า New District (เดิมชื่อ Wood Wharf) ที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2023 จะครอบคลุมพื้นที่ 21 เอเคอร์และ 5 ล้านตารางฟุตของการใช้พื้นที่แบบผสมผสาน ประกอบด้วยบ้าน 3,300 หลัง 1.9 ล้านตารางฟุตของพื้นที่สำนักงาน และ 380,000 ตารางฟุตของการค้าปลีก เช่นเดียวกับโรงแรม  9 เอเคอร์สำหรับพื้นที่สีเขียว สิ่งอำนวยความสะดวกในเรื่องสุขภาพ และโรงเรียนที่พร้อมไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ในบรรดาสถาปนิกที่สนับสนุนแผนการทำงานได้แก่ Grid Architects, Darling Associates, KPF และ Stanton Williams ความสําคัญของโครงการที่ประสบความสำเร็จคือการเชื่อมต่อ โดยที่ Canary Wharf ก็ไม่เป็นสองรองใคร : สถานีรถไฟ 4 แห่ง (รวมทั้งสถานีใหม่ Crossrail ) ให้บริการในพื้นที่: สนามบินที่สามารถเข้าถึงได้ถายใน 20 นาที และ Heathrow ภายใน 40 นาที

“Canary Wharf เป็นพื้นที่ที่มีการเชื่อมต่อที่ดี มีผู้คนเดินทางมาทำงานมากถึง 120,000 คนต่อวัน ฉะนั้นคงไม่ต้องพูดถึงจำนวนคนมากกว่าล้านต่อสัปดาห์ ที่ได้มาเยือนที่นี้ การขนส่งสาธรณะที่จะสนับสนุนความนิยมในการมาเยือนที่นี้ก็มีการเตรียมการไว้เป็นอย่างดี Crossrail.. จะทำการให้บริการในการขนส่งเข้าและออกจากเมือง และจะมีการเพิ่มขึ้นของความจุจำนวนคนอย่างรวดเร็วใน Canary Wharf.”

สถานที่ที่เรียกว่าบ้าน

สถานะของ Canary Wharf ที่เป็นเพียงย่านธุรกิจได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากความหลากหลายของกลุ่ม ตอนนี้ “Canary Wharf คือสถานที่ที่ย่านธุรกิจมาเจอกันย่านที่พักอาศัย” Mandy Wong หัวหน้าฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศจาก JLL กล่าว “[มัน] ได้รับการฟื้นฟูอย่างกว้างขวางในทศวรรษที่ผ่านมาและได้กลายเป็นพื้นที่ที่น่าอยู่มาก มีความหลากหลายทั้งในเรื่องวัฒนธรรมและความบันเทิงที่เหมาะกับรสนิยมที่หลากหลาย” De’ath มีการรวบรัดมากขึ้น: “มีการเพิ่มข้อเสนอแบบผสมผสานใหม่ๆแก่ที่พักอาศัย” เขากล่าว “นอกจากนี้ยังเป็นการลดความกดดันที่ผู้คนจะมีต่อ Canary Wharf”

สถาปนิกที่มีชื่อเสียง Herzog & de meuron (Beijing’s Birds Nest Olympic Stadium) ได้ทำการเปิดตัวที่พักอาศัยของพวกเขาในสหราชอาณาจักรด้วยโครงการ One Park Drive ตึกที่สะดุดตาที่มีถึง 58 ชั้นรอบหอคอย “ตึกที่อยู่อาศัยสูงๆโดยทั่วไปจะมีลักษณะคุณภาพในเชิงลบเนื่องจากความเหมือนและซ้ำซ้อนที่มากเกินไป” Jacques Herzog ได้กล่าวไว้ในรายงาน “One Park Drive ถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนที่มีการนำเสนอที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนเพื่อแสดงความรู้สึกของบุคคลในการพัฒนาขนาดใหญ่”

ทั้ง 3 โซนจะถูกกำหนดให้มีการจำแนกประเภทที่แตกต่างกัน แต่ De’ath มั่นใจว่าผู้ซื้อ 483 ยูนิตจะได้เห็นสัดส่วนที่แน่นอนภายในโครงการ “คุณลองและพยายามตกแต่งรอบๆอาคาร แต่นั่นมันคือฝันร้าย”

แฟลตไตล์ลอฟท์ (ชั้น 2 ถึง 9) จัดเป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด (ห้องสตูดิโอเริ่มต้นที่ 436 ตารางฟุต) พร้อมด้วยเพดานที่สูง ระเบียงโดยรอบและมีการเชื่อมต่อใกล้ชิดกับธรรมชาติสีเขียวและแม่น้ำ อพาร์ทเมนท์แบบคลัสเตอร์เริ่มต้นที่ชั้นที่ 10 ทั้งชั้นมีการติดกระจิกสะท้อนแสงและสามารถหมุนได้เพื่อเพิ่มมุมมองและบรรยากาศที่โปร่งโล่งสบาย จากชั้น 33 ถึง 57 เป็นอพาร์ทเมนท์ที่อยู่ฝั่งอ่าว ที่นี่ มีการเชื่อมต่อมุมฉากและการโค้งของอาคารในแบบรูปเรขาคณิต ส่งผลให้มีความสูงมากขึ้น ระเบียงสำหรับพักผ่อน แสงจากธรรมชาติและวิวของตัวเมือง สิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร ห้องครัวแบบผสมผสาน เครื่องทำความร้อนใต้พื้น วัสดุหินและไม้จากธรรมชาติ ตู้แช่ไวน์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจากซีเมนส์

ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ หากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวได้รับการลงทุนที่แข็งแกร่งเนื่องจากค่าเงินสกุลสเตอร์ลิงค่อนข้างอ่อนตัว และอัตราผลตอบแทนมีการคาดการณ์ไว้ที่ 4% ในขั้นต้น “เนื่องจากมีการขาดแคลนที่พักอาศัยที่มีคุณสมบัติเดียวกันในกลางกรุงลอนดอน One Park Drive  จึงให้คำมั่นว่านี่จะเป็นการลงทุนที่จะให้ความคุ้มค่าเมื่อเวลาผ่านไปอย่างแน่นอน” Wong จาก JLL กล่าวในตอนจบ ราคาเริ่มต้นของ One Park Drive อยู่ที่ £575,000 (5.8 ล้านเหรียญดอลล่าร์ฮ่องกง)

ที่มา : https://www.squarefoot.com.hk/home-blog/article/3146/canary-wharfs-second-residential-project