ไม่ว่าจะทำประชามติ Brexit หรือไม่ การลงทุนในลอนดอนก็ยังคงแข็งแกร่งและเป็นแหล่งลงทุนในฝันเฉกเช่นที่เคยเป็น

ลอนดอนยังคงเป็นเมืองที่น่าสนใจและตื่นเต้น แม้ว่าจะเต็มไปด้วยสภาวะปัญหาอันเดอร์ซัพพลาย (Under Supply) และราคาค่าครองชีพที่สูงในพื้นที่ศูนย์กลาง แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ทำให้นักลงทุนทั่วโลกท้อใจในการเดินทางมาร่วมทำธุรกิจที่เมืองนี้

ลอนดอนยังคงรักษาแรงบันดาลใจบนจอเรดาร์สำหรับบรรดาเหล่านักลงทุนมานานหลายทศวรรษ ในการ เป็นศูนย์กลางของการทำธุรกิจ การศึกษาและวัฒนธรรม สถานที่ที่ชาวยุโรปและประชากรทั่วโลกหลายล้าน คนมุ่งเป้าหมายอยากไปใช้ชีวิต

สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลกสำหรับผลการลงประชามติเบร็กซิท (เพราะลอนดอนเองก็ลงคะแนนเสียงอย่างล้นหลามที่จะอยู่ในสหภาพยุโรป) ทุกอย่างจะเป็นไปตามสถานการณ์ปกติ ตอนนี้สหราชอาณาจักรก็ยังคงเป็นสหราชอาณาจักรเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และเรายังคงเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป  ความจริง ธุรกิจเติบโตดีเกินคาด ขอบคุณเงินสเตอร์ลิงที่อ่อนตัวลงทำให้นักลงทุนมีกำลังซื้อมากขึ้น ซึ่งไม่มีสัญญาณของความตกต่ำ การวางแผนด้านอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยเริ่มต่ำลง จากปัญหาอุปทานอย่างรุนแรง  ซึ่งทำให้การเติบโตของราคาแข็งแกร่ง

“เราเคยเห็นคลื่นเงินทุนจากต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามาและได้รับประโยชน์จากสกุลเงินที่อ่อนตัว และไม่ใช่แค่เพียงจากนักลงทุนระหว่างประเทศ แต่รวมถึงตัวบุคคล ทั้งหมดกำลังมองหาที่จะได้รับประโยชน์จากกำไร 30%” กล่าวโดย Peter Gibney ผู้อำนวยการด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยฝั่งกลางและตะวันออกในกรุงลอนดอน ผู้เชี่ยวชาญบริการด้านอสังหาริมทรัพย์

ยอมรับว่านักลงทุนบางคนอาจดำเนินการในระดับที่ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น “กรีนแลนด์กล้าหาญที่จะก้าวต่อไปพร้อมกับโครงการยักษ์ใหญ่ และแน่นอนว่าจะได้รับผลกำไร จะเป็นการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเวลานี้” เขากล่าว

แม้จะมีการแสดงความมั่นใจของกรีนแลนด์และความตื่นเต้นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับ King’s Cross และโครงการเกิดใหม่อื่นๆ ทว่าก็ยังมีเสียงบ่นงึมงำว่าบางโครงการและบางเขตพื้นที่ – ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ Nine Elms/Battersea – ไม่ได้รับผลประกอบการตามที่คาดไว้

Luke Mills ผู้อำนวยการบริหารด้านที่อยู่อาศัยในกรุงลอนดอนประจำ CBRE กล่าวถึงวิกฤตอุปทานของเมืองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่า “ทุกคนรับรู้ว่าพื้นที่เหล่านั้นกำลังต่อสู้ดิ้นรนกับสภาวะลำบาก แต่ถ้าคุณมองภาพรวมของ Nine Elms จะพบว่าเราประสบความสำเร็จอย่างมาก สถานทูตสหรัฐย้ายเข้ามาอยู่และนั่นเป็นการประกาศว่าแอปเปิ้ลกำลังมีการเคลื่อนไหว”

“เราได้รับข่าวดีเกือบทุกเดือน เป็นพื้นที่ที่ง่ายต่อการกระตุ้นเพราะมีพลังอุปทานสูง ทุกโครงการจะประสบความสำเร็จและแบตเตอร์ซีจะเป็นเขตพื้นที่ถัดไป และถ้าคุณมองภาพรวมทั้งหมด แม้จะมีอุปทานมาก ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ในอัตราการขายที่รวดเร็วที่สุดในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา”

ที่จริงแล้วตัวเลขผลกำไรทั่วลอนดอนเป็นที่ประทับใจ ขณะนี้ ประมาณ 60% ของอสังหาริมทรัพย์ที่ยังอยู่ในช่วงการก่อสร้างถูกขายไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่ดีขึ้นกว่าวิฤตสินเชื่อตึงตัว (Credit crunch) ประมาณ 40% และ Mills กล่าวว่ามีเพียง 3% ของโครงการที่ทำเสร็จแล้วแต่ยังขายไม่ได้

ขณะที่การกระเด้งตัวของค่าสกุลเงินเป็นผลโบนัสที่เพิ่มขึ้นสำหรับนักลงทุน “โดยพื้นฐานน่าจะใช้เวลาในการปรับตัวประมาณ 20 ปี ตลาดจะอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ”

ธนาคารกำลังคิดทบทวน

จุดพิสูจน์การทำธุรกิจทางใต้ของแม่น้ำได้รับผลที่ดี อสังหาริมทรัพย์ Braeburn (กลุ่ม Canary Wharf และ หุ้นส่วนบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Qatari Diar) ได้เปิดตัว Southbank Place เนื้อที่กว่า 5.7-เอเคอร์ เป็นโครงการยักษ์โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2019 พูดได้ว่า มีพื้นที่กว่า 500,000 ตารางฟุตของพื้นที่ใหม่ในเชิงพาณิชย์และการค้าปลีก ลานสาธารณะใหม่ สวนภูมิทัศน์จูบิลีและที่อยู่อาศัยใหม่กว่า 877 ยูนิต

เรามองจากมุมมองของความเป็นจริง โครงการอาคารชุดแบบผสม (Mixed-Use) ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงตึกที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นในส่วนหนึ่งของกรุงลอนดอน กล่าวโดย Brian De’ath หัวหน้าฝ่ายขายที่อยู่อาศัยประจำ Canary Wharf Group

“แท้จริงแล้วเรากำลังทำการพัฒนาพื้นที่ทั้งหมดขึ้นใหม่และจัดให้มีระดับที่แตกต่างกันของการใช้งาน”

หัวใจสำคัญของการพัฒนา คือ การปรับปรุงและฟื้นฟู Shell Centre อย่างจริงจัง ตึกสูงในยุค 1950s จะถูกเชื่อมต่อกับอาคารพาณิชย์ใหม่โดยสะพาน แต่ De’ath มั่นใจว่าตำแหน่ง Waterloo จะช่วยทุ่นแรงสำหรับโครงการนี้

“เซาธ์ แบงก์ (South Bank) เขตพื้นที่ริมแม่น้ำเทมส์ของลอนดอน เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรม ในกรุงลอนดอน มันถูกมองเป็นศูนย์กลางทางศิลปะ มีพระราชวัง Royal Albert Hall โรงละคร Old Vic หอศิลป์จำนวนมาก หอแสดงคอนเสิร์ต และอื่นๆอีกมากมาย”

“สถานีวอเตอร์ลูน่าจะเป็นศูนย์กลางการขนส่งในกรุงลอนดอน เรากำลังปรับปรุงทางเข้าสถานีใหม่จาก Southbank Place ผู้คนชอบการบริการที่ทั่วถึง”

“แล้วก็ยังมี อาคารรัฐสภา หอนาฬิกาบิกเบน และลอนดอนอาย (London Eye) เราคิดว่าเราควรทำการทดลองในด้านการตลาด แต่เมื่อเรามองไปที่องค์ประกอบรอบๆตัว และใช้เป็นสิ่งดึงดูดความสนใจของโครงการ แน่นอนว่ามันตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมของลอนดอน”

สิ่งอำนวยความสะดวกย่านที่พักอาศัยของ Southbank Place ประกอบด้วย พื้นที่ทำสปาเท้า 17,000 ตารางฟุต ห้องออกกำลังกาย ห้องรับรอง และ พื้นที่รับประทานอาหารแบบเป็นส่วนตัวและโรงแรมระดับห้าดาวคอยให้บริการ

พื้นที่ส่วนของอาคารที่เปิดตัวแล้ว ได้แก่ สวน Belvedere ที่ออกแบบโดยสถาปนิก GRID พร้อมการตกแต่ง ภายในโดย Goddard Littlefair และ Casson Square  30 ที่ออกแบบโดย Squire และหุ้นส่วนและดีไซน์ความร่วมสมัยโดย Johnson Naylor 

เครดิตภาพ: http://www.southbank-place.com/gallery/image-gallery

ราคาขายของตึก Belvedere  เริ่มต้นที่ประมาณ £1.2  ล้าน (HK$12 ล้าน) สำหรับแฟลตเริ่มต้นตั้งแต่ 590 – 2004 ตารางฟุต และ 30 Casson Square  ที่ราคาตั้งแต่ £695,000 (HK$6.7 ล้าน) ห้องสตูดิโอราคา £3.6 million (HK$35 ล้าน) อพาร์ทเมนต์สามห้องนอน  (394 – 2304 ตารางฟุต)  

CBRE และ Savills (สำนักงานขายฮ่องกง) คาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทนเมื่อเทียบกับเขตพื้นที่อื่นๆในลอนดอนอยู่ที่ประมาณ 2.5% ถึง 3.5%

ตอนนี้ De’ath  สังเกตเห็นอัตราที่ดีของผู้ใช้และนักลงทุนที่แสดงถึงความสนใจโครงการ Southbank Place  จากเจ้าหน้าที่รัฐสภาจนถึงคนที่ต้องการให้ลดขนาดจาก Victoria  และ Chelsea  ผู้ที่ไม่ต้องการทำงานเพื่อใช้หนี้สำหรับบ้านนานเกินไป

ตึกถูกล้อมรอบด้วยสถานที่สำคัญๆของเมือง มุมมองแม่น้ำและภูเขา ตัวเลือกในการเชื่อมต่อ และ F&B ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ กำหนดให้ Southbank Place  แตกต่างจากการให้คะแนนของอสังหาริมทรัพย์อื่นๆที่มีลักษณะคล้ายกัน

“เพื่อความเป็นธรรม ขณะนี้เรากำลังสร้างบ้านที่ดีที่สุดในลอนดอน” Mills กล่าว

“แต่หากคุณเป็นนักลงทุน โครงการนี้จะเป็นความสมบูรณ์แบบสำหรับคุณ”

ความสูงใหม่

บรรยากาศรอบแม่น้ำสำหรับห้องพักที่ดีที่สุดในไอล์ออฟด็อกส์ (The Isle of Dogs) เป็นโลเคชั่นของ The Spire มันตั้งอยู่ในแหล่งศูนย์กลางธุรกิจ ด้วยความสูงจำนวน 67 ชั้น ตึกนี้จะกลายเป็นตึกสำหรับอาศัยที่สูงที่สุด (ในตอนนี้) และจะเสร็จสิ้นในปี 2021

การเดินทางมายัง The Spire โดยการนั่งรถไฟฟ้าจากสถานี Canary Wharf Tube และสถานี Crossrail ที่กำลังจะสร้างในอนาคต และจะมีห้องพักใหม่จำนวน 765 ยูนิต ดีไซน์รูปทรงอาคารด้วยเส้นโค้งที่ประสานกันอย่างลงตัวด้านหน้า เป็นกลีบดอกไม้สามกลีบที่ด้านหน้าตัวตึก

The Spire เป็นโครงการที่สองของกรีนแลนด์ในกรุงลอนดอน แต่เป็นโครงการแรกที่ท้าทายอย่างมาก Larry Malcic รองประธานอาวุโสและผู้มีตำแหน่งสูงสุดในด้านการออกแบบที่ The Spire อธิบายว่า ตำแหน่งของตึกนี้อยู่ตรงส่วนโค้งของแม่น้ำ ดังนั้นคุณจะมองเห็นวิวแม่น้ำไปจนถึงเมืองลอนดอน รวมถึง Westminster  และ อาคารรัฐสภา

“ท่าสำหรับเทียบเรือทางฝั่งตะวันตกของอินเดีย และมีทะเลอยู่ทั้งด้านตะวันตกและตะวันออก ดังนั้นมันจึงกลายเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมอย่างมากสำหรับการขนส่ง” เช่นเดียวกับโครงการนี้ เพราะ Canary Wharf สามารถดึงดูดคนได้จากทั่วยุโรปและทั่วโลกเพื่อให้เป็นศูนย์กลางทางการเงิน

เครดิตภาพ: http://spirelondon.com

นอกจากนี้ ตึกที่อยู่ใกล้ท่าเทียบเรือมีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง (ใช้อลูมิเนียมบรอนซ์ (Aluminum Bronze)เป็นโครงให้เข้ากับธีมของโครงการ) ซึ่งมีทั้งหมดสามชั้น รับประกันได้ว่าไม่มีอะไรมาบดบังทัศนียภาพในอนาคต)

โดยทั่วไปผู้คนรับรู้ว่า Canary Wharf เป็นเขตธุรกิจเดียวที่แปลงเป็นเมืองแห่งความเงียบงันหลัง 6 โมงเย็น “ฉันคิดว่าตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของ Canary Wharf เป็นที่พักในวันจันทร์ถึงศุกร์ ” Gibney กล่าว

“มันเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่มีห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดและให้ความรู้สึกของชุมชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าเทียบเรือที่มีชีวิตชีวาที่แท้จริงในช่วงเย็น เราเริ่มมองเห็นผู้คนเลือก Canary Wharf เป็นที่อยู่อาศัย แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำงานที่นั่นก็ตาม”

ห้องพักของ The Spire ประกอบด้วยห้องนอน 1-3 ห้อง บวกชั้นดาดฟ้าที่มีขนาดตั้งแต่  569 ถึง 1,959 ตารางฟุต ในราคาเริ่มต้นที่ £685,000 (HK$6.7 ล้าน) ครบครันด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ และศูนย์การค้าอำนวยความสะดวกสบาย ที่ชั้นล่างของตัวอาคาร

การตกแต่งภายในโดย Argent ที่ออกแบบให้มีเพดานสูง หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน และระบบการทำความร้อนจากใต้พื้น บางทีสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ คลับเฮาส์ที่ชั้น 35 – พร้อมสระว่ายน้ำ ศูนย์ออกกำลังกาย และโรงภาพยนตร์ส่วนตัว

Gibney กล่าวปิดท้ายว่า “ความน่าสนใจหรือความรื่นรมย์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญ ชั้น 35 เป็นชั้นที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นจึงเป็นความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงของเราในการส่งมอบงานที่มีคุณภาพสูงของความรื่นรมย์ และประสบการณ์ที่ผู้พักอาศัยกำลังจะได้สัมผัส”

Source: http://www.squarefoot.com.hk/home-blog/article/2692/london-investment-remains-robust-after-brexit