“พฤกษา” ปักหมุดผู้นำ “เวลเนส เรสซิเดนซ์” เปิดตัวบ้านหรู “เดอะ ปาล์ม แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ 2” สัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยระดับพรีเมียม ท่ามกลางธรรมชาติใจกลางเมือง เพียง 91 ยูนิต
เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านเวลเนส เรสซิเดนซ์ สมบูรณ์แบบ ! “พฤกษา” เปิดตัวบ้านหรู “เดอะ ปาล์ม แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ 2” ยกระดับการอยู่อาศัยที่ครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและคุณภาพชีวิต มาพร้อมนวัตกรรมระบบกรองอากาศ ERV ลดฝุ่น PM 2.5 และบริการด้านสุขภาพจากเครือโรงพยาบาลวิมุตที่ช่วยดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัยเสมือนมีแพทย์ประจำครอบครัว พร้อมมอบการอยู่อาศัยท่ามกลางธรรมชาติ บนสังคมคุณภาพและเป็นส่วนตัวเพียง 91 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท
นายธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “พฤกษามุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านเวลเนส เรสซิเดนซ์ โดยพัฒนาโครงการ‘เดอะ ปาล์ม แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ 2’ ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและคุณภาพชีวิต โดยนำระบบกรองอากาศ ERV (Energy Recovery System) มาใช้เพื่อลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ภายในบ้าน และยังเสริมด้วยระบบ Active Air Flow ที่ช่วยระบายอากาศและความร้อนสะสม ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยกรองอากาศสะอาดเข้าบ้านด้วยอุปกรณ์ Supply Air Ventilator และดันอากาศเสียออกนอกบ้านด้วยชุดกรองคุณภาพสูง ทำให้สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 99% และกรองเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส รวมทั้งไวรัสโคโรน่าซึ่งเป็นสาเหตุของโควิด-19 ได้ถึง 99% นอกจากนี้ ระบบ Active Air Quality ยังช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับโดยสามารถลด CO2 ได้ 70% ภายใน 1 ชั่วโมง และกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ อาทิ กลิ่นจากสารอินทรีย์ภายนอกบ้าน และยังช่วยให้อุณหภูมิในบ้านเย็นลงถึง 2-5 องศาเซลเซียส ทำให้การไหลเวียนอากาศดีขึ้น และประหยัดพลังงาน”
“เดอะ ปาล์ม แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ 2 เป็นโครงการใหม่ล่าสุดจากพฤกษาที่ออกแบบขึ้น โดยเราได้ต่อยอดความสำเร็จจากเดอะ ปาล์ม แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ 1 สู่แนวคิด Wellness Retreat Series ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทั้งในแง่นวัตกรรมการอยู่อาศัยและบริการด้านสุขภาพ เรายังผนึกกำลังกับกลุ่มวิมุต ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือพฤกษา เพื่อมอบบริการด้านสุขภาพระดับพรีเมียมให้กับลูกบ้าน เสมือนมีแพทย์ประจำครอบครัว” นายธีระ กล่าว
นายแพทย์สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้น โดยในปี 2566 ไทยถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีมลพิษมากเป็นอันดับที่ 36 ของโลก มีค่ามลพิษสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายปีที่องค์การอนามัยโลกกำหนดเกือบ 5 เท่า ขณะเดียวกัน ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ก็มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หลายคนได้รับผลกระทบโดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะอนุภาคของฝุ่นขนาดเล็กสามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและกระแสเลือด ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ หอบหืด โรคหัวใจ และโรคเรื้อรังอื่น ๆ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบ และโรคผิวหนังกำเริบ