แลนดี้ โฮม จับกระแสเทรนด์โลก ทุ่มทุนเสริมทัพลุยเปิด 3 ธุรกิจใหม่ Solar Leasing-Interior-Precast Center สู่ผู้นำด้านที่อยู่อาศัยครบวงจร ตั้งเป้าดันยอดขายสร้างบ้านเติบโต 2,700 ล้านบาท
แลนดี้ โฮม ศูนย์รับสร้างบ้านอันดับ 1 มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ได้อยู่อาศัยใน “บ้าน” คุณภาพดี ในราคาคุ้มค่า ลุยพลิกโฉมวงการธุรกิจรับสร้างบ้าน ด้วยการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยผลักดันธุรกิจเติบโต พร้อมเดินหน้า 3 ธุรกิจใหม่ Solar Leasing-Interior-Precast Center เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ตั้งเป้าดันยอดขายรับสร้างบ้านเติบโต 2,700 ล้านบาท ในปี 2567
นางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาธุรกิจ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ทิศทางของธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2567 ยังมีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจไทย ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 3.4% ต่อปี* ในช่วงปี 2567-2569 โดยเฉพาะการฟื้นตัวต่อเนื่องของธุรกิจการท่องเที่ยวพร้อมนโยบายของรัฐบาลที่มีมาตรการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่นการลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน แลนดี้ โฮม มียอดขายรวม 2,450 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนผลประกอบการตามยอดขาย ของทั้ง 3 แบรนด์ในเครือ รายละเอียดดังต่อไปนี้
บ้านหรูขนาดใหญ่ แลนดี้ แกรนด์ สร้างบ้าน ราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป มีสัดส่วนยอดขาย 20 %
บ้านขนาดกลาง แลนดี้ โฮม สร้างบ้าน ราคา 8-20 ล้านบาท มีสัดส่วนยอดขาย 50 %
และบ้านขนาดเล็ก เทรนดี้ โฮม สร้างบ้าน ราคา 3-8 ล้านบาท มีสัดส่วนยอดขาย 30%
ส่วนหนึ่งของความสำเร็จของยอดขายในปีที่ผ่านมาคือได้มีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาประมวลผลผ่านระบบ CRM ระดับโลก เพื่อช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า มาใช้เป็นข้อมูลประกอบเพื่อพัฒนาการตลาด , สินค้าและบริการ ไปยังกลุ่มเป้าหมายแต่ละ Segment ที่มีความต้องการแตกต่างกัน ทั้งงบประมาณ,สไตล์แบบบ้าน,ฟังก์ชัน ตลอดจนสถานที่ปลูกสร้างได้ตรงตามความต้องการอย่างแม่นยำและได้มีการนำ AI มาใช้ทำตลาดแบบ Personalization
โดยบ้านที่ได้รับความสนใจปลูกสร้างมากที่สุดยังคงเป็นแบรนด์แลนดี้ โฮม (Landy Home) บ้านขนาดกลาง ราคา 8-20 ล้านบาท ที่เน้นกลยุทธ์ Product Positioning “ดีไซน์สวย ฟังก์ชันครบ ราคาคุ้มค่า” ชูจุดเด่นด้านความมั่นคง ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาทสูงสุดในกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ Collaboration ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจชั้นนำ ขยายฐานลูกค้าที่หลากหลาย เน้นดีไซน์แบบบ้านตอบสนองทุกความต้องการ ทั้ง สไตล์ Minimal Luxury,English Cottage,Modern Classic พร้อมนวัตกรรมการอยู่อาศัย “บ้านสุขภาพดี” อาทิติดตั้ง CAP+ ระบบอากาศบริสุทธิ์ ปลอดฝุ่น PM 2.5 และอำนวยความสะดวกการใช้ชีวิตภายในบ้านผ่านเทคโนโลยี Smart Home สุดล้ำ