RE2023 ตลาดฟื้นตัวในแบบยั่งยืน พร้อมจับตาประเด็นที่น่าสนใจในปีนี้
สวัสดีปีใหม่ 2023 ครับคุณผู้อ่านที่แสนดีทุกท่าน และเป็นการสวัสดีปีใหม่ครั้งที่ 9 ของพร็อพฮอลิค… มีบางคนเคยบอกเอาไว้ว่าชีวิตของคนเราก็เหมือนกับหนังสือที่ทยอยเขียนเป็นตอนๆไปตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงฉากจบ โดยมีวันสิ้นปีเป็นจุดสิ้นสุดของแต่ละตอน และมีวันขึ้นปีใหม่เป็นฉากเริ่มต้นของบทต่อไป แม้วันปีใหม่ในความคิดของใครหลายคนก็จะเป็นเพียงแค่อีกหนึ่งวันที่ผ่านพ้นไป ไม่ได้มีผลอะไรต่อชีวิตประจำวัน แต่ในเชิงจิตวิทยาและความรู้สึกนึกคิด วันสิ้นปีคือวันที่กระตุ้นให้สมองของเราได้คิดทบทวนความทรงจำในอดีตที่ผ่านพ้นมา ทั้งเรื่องดีที่ทำให้เราย้อนนึกถึงด้วยรอยยิ้มและเรื่องร้ายที่เราย้อนนึกถึงด้วยน้ำตา เพื่อที่จะย้ำเตือนให้เห็นถึงปัจจุบันและอนาคตในวันขึ้นปีใหม่ว่านี่คือช่วงเวลาของการ Restart ร่างกายและจิตใจ ให้นำเราไปสู่สิ่งที่ดีๆที่เราเคยพบมาแล้วและยังคงหวนคิดถึงมัน รวมไปถึงการสานต่อเรื่องอื่นๆที่เราคิดจะทำแต่ยังทำไม่สำเร็จในปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่ว่าหน้าสุดท้ายของปีนี้จะจบอย่างไร จะมีกี่เรื่องดีและกี่เรื่องร้ายโผล่มาตอนช่วงไหน อย่างน้อยถ้าเราเริ่มต้นปีได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็เป็นหลักประกันได้ว่าเรื่องราวดีๆได้เกิดขึ้นมาแล้วในช่วงเริ่มต้นของตอนนั้นเองครับ
สำหรับคนทำงานอย่างเราๆ สิ่งแรกที่เราต้องเขียนลงไปในแผนธุรกิจประจำปีก็คือในเรื่องของการตั้งเป้าหมายครับ ในฐานะที่ผมเองก็เคยร่วมงานกับองค์กรมหาชนขนาดใหญ่ ไปจนถึงองค์กรขนาดเล็กมากๆ สิ่งที่มักจะเป็นปัญหาสำคัญในการทำงานก็คือการกำหนดเป้าหมายของชีวิต ของแผนธุรกิจ หรือแผนการตลาดในแบบลอยๆ หลวมๆ และก็ไม่ได้มีการวางแผนงาน และแผน Operation ให้ Align กับเป้าหมายที่วางเอาไว้เลย ซึ่งในช่วงต้นปีบังเอิญผมไปเจอโพสของ ศูนย์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี โดย SME Bank ที่ได้แชร์ Template ในการกำหนดเป้าหมายในแบบ Smart Goal ซึ่งเน้นไปการตั้งเป้าหมายทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ วัดผลได้ง่าย สอดคล้องกับความเป็นจริงและระยะเวลา ผ่านดัชนีวัดผลทั้ง 5 มิติอันประกอบด้วย S – Specific หมายถึง เป็นสิ่งที่ชี้เฉพาะ และมีขอบเขตที่แน่ชัด/ M – Measurable หมายถึง สามารถวัดได้ มีหลักฐาน หรือการอ้างอิงได้/ A – Achievable หมายถึง เป็นไปได้ สมเหตุสมผล ภายใต้ระยะเวลาและทรัพยากร/ R – Relevant หมายถึง สอดคล้องกับเป้าหมายหรือผลลัพธ์ที่ต้องการในระยะยาว/ T – Time-based หมายถึง มีระยะเวลาที่จำกัด (บางสำนักก็มีปรับคีย์เวิร์ดจาก Realistic เป็น Relevant แต่ความหมายในเชิงบริบทคือเหมือนกันครับ ยกตัวอย่างของ urbinner) ผมเห็นว่ามันดูเข้าใจง่ายดีก็เลยขออนุญาตนำมาแบ่งปันให้ลองนำไปปรับใช้ดูตามสถานการณ์ของแต่ละคนครับ
ผมจะลองยกตัวอย่างให้เข้ากับสายงานอสังหาฯดูบ้างนะครับ สนุกดี
Specific: ผมจะทำกำไรจากการซื้อ-ขายคอนโดระยะกลาง
Measurable: ทำกำไรให้ได้ 2 ล้านบาท
Achievable: กำไร 2 ล้านบาทแบ่งออกเป็น 1. ซื้อขายใบจองคอนโดจำนวน 500,000 บาท 2. ซื้อขายคอนโดก่อนโอนจำนวน 1,500,000 บาท โดยในส่วนของใบจองจะขายเองผ่าน Web Listing, Social Media และซื้อโฆษณาออนไลน์ ส่วนของการขายก่อนโอนจะมีทั้งขายเอง และฝากนายหน้า ทำ Online Content เพื่อสร้าง Awareness รวมทั้งเพิ่มเงิน Tips ให้กับเซลล์โครงการอีกห้องละ 20,000 บาท
Realistic: กำไร 500,000 บาทมาจากการขายใบจองจำนวน 50 ยูนิต และกำไร 1,500,000 บาทมาจากการขายคอนโดก่อนโอนจำนวน 5 ยูนิต
Time-Bound: กำไร 500,000 บาท ต้องทำให้ได้ภายใน 1 เดือนนับจากซื้อห้องมา และกำไร 1.5 ล้านบาทต้องทำให้ได้ภายใน 2 ปีนับจากซื้อห้องมา
ก่อนที่จะออกนอกเรื่องไปไกลกว่านี้…555 ผมขอเกริ่นสั้นๆเกี่ยวกับภาพรวมของตลาดในปีที่แล้ว พร้อมกับบอกเล่าเหตุผลว่าทำไมผมถึงเรียกปีนี้ว่าเป็นปีที่ตลาดฟื้นตัวในแบบยั่งยืนกันครับ
คลิกอ่าน 2 บทความนี้เลย หากคุณอยากรู้ว่าปีที่ผ่านมามีประเด็นเด็ด และโครงการที่เป็นที่สุดอะไรบ้าง