The Parklane Sukhumvit – Bearing ทาวน์โฮมพื้นที่เยอะ พร้อมสวนและดาดฟ้ากว้าง ใจกลางย่าน รร.นานาชาติ ใกล้ รฟฟ. 2 สาย

สำหรับใครที่คุ้นเคยกับการมองหาโครงการทาวน์โฮมในย่านถนนสุขุมวิทใกล้สถานีรถไฟฟ้า ก็ต้องบอกว่าส่วนใหญ่มักจะเป็นโครงการขนาดที่ค่อนข้างเล็กไม่ถึง 10 ยูนิต และไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง โดยมีราคาขายอยู่ในเกินสิบล้านปลายขึ้นไปทั้งนั้น แต่สำหรับโครงการที่ผมอยู่วันนี้คือโครงการ ที่มีเพียงแค่ 20 ยูนิต ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ให้พื้นที่ใช้สอยมากถึง 334 ม. ไม่นับรวมที่จอดรถและชั้นดาดฟ้า และยังจัดพื้นที่ส่วนกลางเป็นอาคารคลับเฮ้าส์มาให้ครบครันแบบนี้เลยครับ มีทั้ง Co-working Space, สระว่ายน้ำ, Fitness และพื้นที่ทำกิจกรรมบนชั้นดาดฟ้า ไว้รองรับลูกบ้านมาใช้บริการ แตกต่างจากทาวน์โฮมทั่วไปที่สร้างอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าที่มักเป็นโครงการขนาดเล็กไม่มีพื้นที่ส่วนกลางครับ และที่นี่ก็คือโครงการ The Parklane Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน สุขุมวิท-แบริ่ง) ทาวน์โฮมขนาด 4.5 ชั้น ดีไซน์ทันสมัย พร้อมชั้นดาดฟ้า เป็นความลงตัวของทาวน์โฮมที่คิดครบทั้ง Space & Style ในทำเลศักยภาพลาซาล-แบริ่ง

ย่านลาซาล – แบริ่ง เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีประชากรอยู่ค่อนข้างหนาแน่นมาได้หลาย 10 ปีแล้ว และยังอยู่ในช่วงสุขุมวิทตอนปลายส่วนต่อขยาย ที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีเขียวและสายสีเหลืองที่จะเปิดให้บริการในอนาคต โดยบริเวณสถานีแบริ่งของสายสีเขียวนับว่าเป็นสถานีสุดท้ายที่อยู่ในเขต กทม. ถัดออกไปก็เป็นสมุทรปราการแล้ว

The Parklane Sukhumvit – Bearing ตั้งอยู่ใกล้กับทางด่วนถึง 2 เส้นทาง คือ ทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) สามารถเข้า-ออก โครงการได้ 2 เส้นทางทาง ทั้งจากซอยสุขุมวิท 105 และเลี้ยวเข้าซอยลาซาล 24 หรือเข้าทางซอยแบริ่ง สุขุมวิท 107 และเลี้ยวเข้าในซอยแบริ่ง 13 ประมาณ 400 ม. ก็ถึงโครงการแล้วครับ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับ BTS แบริ่งประมาณ 2 กม. หรือหากวิ่งตรงไปทางถนนศรีนครินทร์ ที่กำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ก็จะใกล้กับสถานีศรีลาซาลและสถานีศรีแบริ่ง ในระยะทางเพียงแค่ประมาณ 4 กม. เท่านั้นครับ

ที่นี่เป็นทำเลที่เรียกได้ว่าเป็น Gateway สู่เมืองอุตสาหกรรมภาคตะวันออก มีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่งพร้อมทั้งแหล่งช้อปปิ้งมากมาย ทั้ง  Bangkok Mall ในอนาคต, Bitec บางนา เซ็นทรัลบางนา เมกะบางนา และอีเกีย Community Mall เก๋ๆ อย่าง ดาดฟ้า ลาซาล และซัมเมอร์ ลาซาล อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งได้แก่ St. Andrew, Bangkok Pattana, Berkerley, Verso, Concordian, โรงเรียนนานาชาติ ไทย สิงค์โปร์และ ICS จึงทำให้ย่านนี้มี Traffic ผู้คนหมุนเวียนเข้ามามากมายในแต่ละวัน เป็นอีกหนึ่งทำเลอยู่อาศัยที่มีศักยภาพท่ามกลางแหล่งงานขนาดใหญ่ล่ะครับ

เมกะ บางนา

ดาดฟ้า ลาซาล

Bangkok Pattana

The Parklane Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน สุขุมวิท-แบริ่ง)  เป็นโครงการทาวน์โฮมหรู ขนาด 4.5 ชั้น พร้อมชั้นดาดฟ้าที่ใช้งานได้จริง บนพื้นที่โครงการ 2-1-35.6 ไร่ มาพร้อมกับความเป็นส่วนตัวที่มีเพียง 20 ยูนิตเท่านั้น โดยบ้านทั้ง 20 ยูนิต นั้นจะมีพื้นที่ใช้สอยในบ้านเท่ากันคือ 334 ตร.ม. ฟังก์ชั่นภายในบ้านจะแบ่งเป็น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ หน้ากว้าง 6 ม. จอดรถได้ 3 คัน แต่จะแตกต่างกันตรงที่ดินของบ้านแต่ละหลัง ขนาดที่ดินเริ่มต้น 30.5 – 51.20 ตร.วา และยังเป็นทาวน์โฮมที่มีอาคารคลับเฮ้าส์ภายในโครงการด้วย โดยโครงการถูกพัฒนขึ้นโดย AVIA Property (อาเวีย พร็อพเพอร์ตี้) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก ทำเลที่เลือกส่วนใหญ่จะอยู่ในสุขุมวิทตอนปลายไปถึงสมุทรปราการ โดยโครงการภายใต้แบรนด์ The Parklane จะเป็นแบรนด์ทาวน์โฮมหรูที่อยู่ในเมือง ซึ่งที่นี่ก็เป็นโครงการที่ 3 แล้วต่อจากที่เอกมัย 12 และ 22

Master Plan

Floor Plan

ชั้น 1

ชั้น M

ชั้น 2

ชั้น 3

ชั้นดาดฟ้า

บริเวณหน้าบ้านตัวอย่างของโครงการ The Parklane Sukhumvit – Bearing แล้ว ทาวน์โฮมขนาด 4.5 ชั้น พร้อมชั้นดาดฟ้า ที่เรียกได้ว่าสูงมาก เพราะส่วนมากจะเจอทาวน์โฮมที่มีความสูง 3 – 4.5 ชั้น และบ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นหลังมุม ติดกับประตูโครงการ มีที่ดินใหญ่ที่สุด คือ 51.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 334 ตร.ม. ไม่รวมพื้นที่จอดรถ, ชั้นดาดฟ้า และมีสวนข้างบ้านพร้อมสระน้ำส่วนตัวอีกด้วย

สังเกตที่ Façade ด้านบน ทางโครงการทำความสูงให้สูงพ้นตัวบ้านขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านบนชั้นดาดฟ้าสุดๆ  และหลังคาหน้าบ้านตรงจุดนี้ที่ติดกับรั้ว ทางโครงการมีการลงเสาเข็มให้ เจ้าของบ้านสามารถต่อเติมให้ยาวเข้าไปถึงบริเวณที่จอดได้ เพื่อป้องกันแดดและเวลาฝนตกแล้วกลัวว่าหน้าบ้านหรือรถจะเปียกได้

เข้ามาดูพื้นที่จอดรถกัน หน้าบ้านจอดรถได้ทั้งหมด 3 คัน โดยการจอดด้านหน้าชั้นเก็บของ 1 คัน และหน้าประตูเข้าบ้านซ้อนกัน 2 คัน ทางโครงการให้ตู้เก็บรองเท้าตรงนี้ด้วยครับ เปิดออกมาสามารถเก็บของได้เยอะ

ติดระแนงไม้บังแดดให้แบบนี้

ตู้เก็บรองเท้าหน้าบ้าน

บริเวณหน้าบ้านติดกล้องวงจรปิดให้ 1 ตัว ดูแบบ Real Time ได้ ภายในบ้านให้เป็นระบบ Home Automation มี Sensor ติดไว้ให้ตรงประตูหน้าบ้าน, บันได เปิด-ปิด ไฟได้แบบอัตโนมัติ สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและไอแพดเพื่อใช้งานระบบสั่งการอื่นๆ ในบ้านได้

Sensor บริเวณบันได

ซึ่งประตูเข้าบ้านมีด้วยกัน 2 จุด คือ ประตูบานหลักที่เปิดเข้าไปแล้วเจอห้องโถงภายในบ้านเลย และประตูอีก 1 จุด ที่อยู่ข้างๆ ชั้นเก็บของหน้าบ้าน เปิดเข้าไปเจอกับครัวและห้องนอนแม่บ้านนั่นเอง

บริเวณประตูหน้าบ้านใช้เป็น Digital Door Lock แบบนี้ครับ เดินเข้ามาก็จะเจอกับ Powder Room ที่อยู่ใต้บันได ใช้สุขภัณฑ์ยี่ห้อ Kohler เมื่อมีแขกมาบ้านสามารถใช้ห้องน้ำตรงนี้ ส่วนมุมหน้าห้องน้ำสามารถตกแต่งให้เป็นพื้นที่เก็บของ หรือวางตู้โชว์ได้

Digital Door Lock ที่ทางโครงการให้

ตู้โชว์หน้า Powder Room

Powder Room ใช้สุขภัณฑ์ยี่ห้อ Kohler

ถัดมาเป็นห้องโถงชั้นล่าง ที่บ้านตัวอย่างจัดโต๊ะทานอาหารไว้ตรงนี้ เพราะมีครัวอยู่ในชั้นนี้ พื้นที่กว้างสามารถจัดโต๊ะแบบ 6 – 8 ที่นั่งได้สบาย ใช้รองรับแขกได้ด้วย ชั้นนี้ปูพื้นด้วยแกรนิตโต้

มองขึ้นไปด้านบนก็จะเห็นได้ว่ามีเพดานสูงมาก ทำให้บริเวณชั้นนี้ดูโปร่งและโล่ง ด้วยเพดานแบบ Double Space สูงถึง 6.5 เมตร ภายในบ้านรองรับระบบแอร์แบบฝังฝ้า

และห้องครัวอยู่ตรงส่วนนี้ บ้านจริงจะเป็นพื้นที่โล่ง โครงการไม่ได้ให้ครัวมาด้วย เจ้าของบ้านตกแต่งได้ตามใจชอบ ข้างกันมี Powder Room และห้องนอนแม่บ้าน ซึ่งห้องตรงนี้สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องผู้สูงอายุได้ จะได้ไม่ลำบากต้องเดินขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ อาจมีการขยายห้องน้ำให้มีพื้นที่อาบน้ำเพิ่มขึ้น และย้ายครัวไปไว้ในส่วนของหลังบ้านแทน เพราะโครงการก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบาที่สามารถทุบหรือเจาะผนังได้

บริเวณห้องข้างล่างใช้เป็นห้องแม่บ้าน หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องผู้สูงอายุได้

ไปดูหลังบ้านกัน ใช้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปยังด้านนอก โดยรั้วหลังบ้านสูง 4 ม. รวมระแนงไม้ พื้นที่หลังบ้านเป็นพื้นที่โล่ง ทางโครงการได้ลงเสาเข็มไว้ให้ เจ้าของบ้านสามารถดัดแปลงเป็นลานซักล้างหรือย้ายห้องครัวออกมาอยู่หลังบ้านตรงจุดนี้ ภายในบ้านมีจุดวางแทงค์น้ำให้ด้วยกัน 2 จุด คือ บริเวณหลังบ้านและชั้นดาดฟ้า

ด้วยความสูงของบ้านขนาด 3.5 ชั้น ถ้ามีสมาชิกเป็นผู้สูงอายุแล้วกลัวว่าจะขึ้น-ลง บันไดลำบาก สามารถติดตั้งลิฟต์ไว้บริเวณนี้ได้

คานเหล็กสำหรับติดตั้งลิฟท์

ไฮไลท์ของยูนิตนี้ก็จะเป็นสระว่ายน้ำที่อยู่ข้างบ้าน มีเพียงหลังเดียวในโครงการเท่านั้น เป็นสระระบบเกลือ ขนาด 3.15×11.8 ม. ความลึก 1.2 ม.

วนขึ้นไปที่ชั้น M กันครับ หรือที่เรียกกันว่าชั้นลอย บริเวณบันไดเป็นกระจกนิรภัยพร้อมราวจับแบบสเตนเลส ขึ้นมาด้านบนจะเป็นในส่วนของ Living Room ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนต เพดานสูง 3.5 ม. ดรอปฝ้าพร้อมติดไฟ LED ให้ ชั้นนี้มีพื้นที่กว้างมากเหมาะกับการทำกิจกรรมภายในครอบครัว หรือใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับแขกได้เช่นกัน วัสดุ Standard ที่ทางโครงการให้ ก็จะเป็น พื้น ไม้ และบันได เหมือนกับบ้านตัวอย่าง

บันไดเป็นกระจกนิรภัยพร้อมราวจับแบบสเตนเลส

Living Room ชั้นลอย เพดานสูง 3.5 ม.

และระเบียงด้านนอกของชั้นลอย ทางโครงการทำกระบะปลูกต้นไม้ไว้ตรงจุดนี้ พร้อมให้ต้นไม้ใหญ่อย่างต้นหมากเม่า และไทรเกาหลีแบบบ้านตัวอย่างด้วยครับ เจ้าของบ้านสามารถต่อสายยางจากก็อกตรงนี้ที่โครงการติดไว้ให้เพื่อรดน้ำต้นไม้ได้เลย

ส่วนพื้นที่ตรงระเบียงนั้นกว้างมาก สามารถนำชุดโซฟามาตั้งไว้บริเวณนี้ไว้ใช้ทำงาน อ่านหนังสือ หรือปูเสื่อเล่นโยคะยังได้เลย

ขึ้นไปที่ชั้น 2 กันครับ สังเกตตรงจุดพักเท้าที่บันได จะมีช่องแสงตรงนี้ช่วยทำให้บ้านสว่างอยู่ตลอดเวลา

ชั้นนี้ทั้งชั้นจะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom แบ่งห้องเป็นสัดส่วนเพื่อสะดวกในการใช้งาน เพดานสูง 2.95 ม. ดรอปฝ้าให้ทุกหลังเหมือนบ้านตัวอย่าง ผนังด้านนอกติดเป็นกระจกแบบเต็มความสูงให้ พร้อมประตูบานเลื่อนที่เปิดออกไปที่ระเบียงด้านนอกได้

ส่วนระเบียงสามารถวางโซฟาพร้อมโต๊ะได้แบบนี้ ไว้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์และนั่งจิบกาแฟยามเช้า

Walk-in Closet ใน  Master Bedroom กว้างมาก สามารถแบ่งโซนชาย-หญิงไว้คนละฝั่งได้ พร้อมวางโต๊ะเครื่องแป้ง และ Island สำหรับเก็บกระเป๋า เครื่องประดับ ไว้กลางห้องได้ ซึ่งบ้านจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ เจ้าของบ้านตกแต่งได้ตามใจชอบ

ประตูบานสไลด์เปิดไปยัง Walk-in Closet

ห้องน้ำ Master Bedroom มีอ่างอาบน้ำของ i-spa ให้ มีอ่างล้างหน้าแบบ His & Her แยกส่วนแห้งและแป้งออกจากกัน ให้ Hand Shower และ Rain Shower พร้อมติดตั้งระบบน้ำร้อน-เย็นให้ สุขภัณฑ์ยี่ห้อ Kohler

ชั้น 4 มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เพดานสูง 2.95 ม. ดรอปฝ้าให้ทุกห้อง ซึ่งห้องนอน 2 อยู่ติดส่วนหลังบ้าน มีพื้นที่กว้าง สามารถตกแต่ง Walk-in Closet  ภายในห้องได้และมีห้องน้ำส่วนตัว ในห้องน้ำกั้นส่วนเปียกและแห้งให้เรียบร้อย สังเกตด้านบนจะมีช่อง Skylight แบบพีระมิด เพื่อให้แสงลอดเข้ามาทำให้ห้องน้ำสว่างตลอดเวลา

ช่อง Skylight แบบพีระมิด

ส่วนห้องนอน 3 – 4 อยู่ติดกับฝั่งหน้าบ้าน เปิดหน้าต่างออกไปจะเห็น Façade ด้านบ้านพอดี และใช้ห้องน้ำร่วมกัน แยกพื้นที่แห้งและเปียกให้ และช่อง Skylight ด้านบน แต่ห้องนอน 3 ประตูห้องน้ำแยกสามารถเข้าได้จากในห้องเลย ซึ่งห้องนอนบนชั้น 3 ทุกห้องมีพื้นที่กว้าง สามารถวางเตียงใหญ่ขนาด 6 ฟุต พร้อมโต๊ะทำงาน โต๊ะวางทีวี ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้

เปิดหน้าต่างออกไปจะเห็น Façade ด้านบ้าน

ขึ้นไปดูดาดฟ้าชั้นสูงสุดของตัวบ้านกัน ชั้นนี้เป็นพื้นที่ Outdoor ขนาดใหญ่ มี Façade สูงขึ้นไปพ้นตัวบ้าน กำแพงด้านข้างที่ติดกับหลังอื่นสูงประมาณ 3 ม. ส่วนช่องขาวๆ ตรงนี้คือ ช่องแสงช่อง Skylight  ของห้องน้ำชั้น 4 และจุดวางแทงค์น้ำจะอยู่มุมนี้อีก 1 จุด โดยเจ้าของบ้านสามารถจัดเป็นสวนลอยฟ้าเหมือนบ้านตัวอย่างได้ หรือเวลามีเพื่อนหรือญาติๆ มาบ้าน ก็ขึ้นมาจัดปาร์ตี้บนชั้นนี้ได้เลย

ปล่องของช่อง Skylight

ใครกำลังมองหาที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของการเดินทางและการใช้ชีวิตที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองและคนในครอบครัว โดยเป็นคนที่อาศัยในย่านบางนา สมุทรปราการ อยู่แล้ว แต่อยากขยับเข้ามาให้ใกล้ย่านที่สะดวกสบายมากขึ้น โครงการ The Parklane Sukhumvit – Bearing ก็ตรงกับความต้องการในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่สะดวก ใกล้โครงการรถไฟฟ้า ยังแวดล้อมไปด้วยโรงเรียนนานาชาติ และแหล่งช้อปปิ้งชื่อนำหลายแห่ง อีกทั้งฟังก์ชั่นบ้านยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของผู้อยู่อาศัย และอยู่รวมกันได้หลาย Generation แบบสบาย เป็นส่วนตัวเพียงแค่ 20 ยูนิต ในราคาเริ่มต้นที่ 13.9 ล้านบาท เฉลี่ยตารางเมตรละประมาณ 40,000 บาท ครับ

ซึ่ง The Parklane Sukhumvit – Bearing พกพาจุดเด่นมาหลายอย่างเลย อันดับแรกคือเรื่องของงานดีไซน์ Facade ที่ดูทันสมัย ด้วยเส้น Facade แนวตั้งทำเข้ามุมสามเหลี่ยมที่เป็นอลูฯ คอมโพสิทลายไม้ แต่ก็ยังมีความเป็นธรรมชาติแทรกขึ้นมาบนระเบียงใหญ่ชั้นลอยด้วยต้นหมากเม่า และไทรเกาหลี อย่างที่สองคือทำเลที่ใกล้ รฟฟ.ทั้งสถานีแบริ่ง และสายสีเหลืองสถานีศรีลาซาล อย่างที่สามคือรายล้อมไปด้วย รร.นานาชาติชั้นนำ โดยที่แถวนี้ไม่ค่อยจะมีทาวน์โฮมมาสร้างเท่าไหร่เลย เพราะเป็นทำเลของคอนโดไปหมดแล้ว อย่างที่สี่คือแม้จะมีแค่ 20 ยูนิต แต่ก็มี Club House มาให้ด้วย อย่างที่ห้าคือจอดรถได้มากถึง 3 คัน และอย่างสุดท้ายคือมีพื้นที่ดาดฟ้าที่ใหญ่พร้อมผนังสูง ในแบบที่สามารถปรับการใช้งานไปทำอะไรก็ได้ตามใจเรา

ส่วนตัวแล้วมองว่านี่คือทาวน์โฮมในระยะรถไฟฟ้าสถานีสุดท้ายของกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจมากๆ นะ เพราะได้พื้นที่ใช้สอย พื้นที่จอดรถ กับวัสดุที่ค่อนข้างโอเคเหมาะกับคนที่มองหาทาวน์โฮมในระดับราคานี้เลย (เอาจริงๆ นะตั้งแต่สถานีบางจากลงมาเห็นมีราคาเกิน 20 ลบ. กันหมดเลยอ่ะ จะมีก็แค่ตรงอุดมสุข กับปลายอ่อนนุชที่ 6 ล้านกว่าบาท แต่ Design & Function ก็อาจไม่ถูกใจใครหลายๆ คนมากเท่าไหร่) สำหรับข้อจำกัดในมุมมองของผมก็มีอยู่ 2 เรื่องด้วยกันคือเค้าน่าจะวางแนวบันไดไว้ในด้านเดียวกันทั้งหลัง หรือไม่ก็ร่นสเต็ปขั้นบันไดบริเวณชั้นล่างมาที่ชั้นลอยให้เข้าไปมากกว่านี้ เพื่อที่จะทำให้ส่วนโถง Living ดูกว้าง สามารถใช้ประโยชน์จากผนังสูงแบบ Double Volume ได้เต็มที่กว่านี้ และอีกส่วนหนึ่งคือทางเข้าซอยย่อยที่อาจจะแคบเพราะมีรถใหญ่วิ่งสวนไปมาค่อนข้างเยอะ ถ้าใครที่ไม่เคยมาทำเลนี้ก็อาจจะรู้สึกไม่ค่อยประทับใจกับทางเข้ามากเท่าไหร่ แนะนำว่าให้เข้าทางลาซาลจะมีห้าง ร้านค้า Community Mall ใหม่ๆ ที่ให้ความรู้สึกดีกว่าด้านแบริ่ง

ตอนนี้สามารถเข้าชมบ้านตัวอย่าง The Parklane Sukhumvit – Bearing ได้แล้ว หากใครสนใจหรืออยากเข้ามาชมบ้านตัวอย่างสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ตามด้านล่างนี้ครับ 089-692-5111, 089-692-5222